การเติมลมยางรถยนต์ถือเป็นเรื่องสำคัญที่หลายคนอาจมองข้าม แต่ความจริงแล้วลมยางที่เหมาะสมช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยมากขึ้น และยังยืดอายุการใช้งานของยางด้วย การเติมลมยางในปั๊มปัจจุบันก็สะดวกมาก เพราะมีจุดเติมลมฟรีตามปั๊มน้ำมันที่เรามักเห็นอยู่ประจำ ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจถึงขั้นตอนการเติมลมอย่างถูกต้อง และเคล็ดลับการใช้งานที่คุณสามารถทำเองได้ง่ายๆ
หลายคนอาจเคยเห็นปุ่มหลายปุ่มบนแท่นเติมลมในปั๊มแล้วไม่แน่ใจว่าปุ่มไหนใช้ทำอะไร ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะแต่ละปุ่มนั้นใช้งานง่ายมาก และบทความนี้จะช่วยให้คุณเติมลมได้เองอย่างมั่นใจ เพียงทำตามขั้นตอนง่ายๆ ด้านล่าง
การใช้งานปุ่มต่างๆ บนแท่นเติมลม
เพื่อการเติมลมที่มีประสิทธิภาพ เรามารู้จักปุ่มต่างๆ บนแท่นเติมลมก่อนนะคะ:
- ปุ่มลดแรงดันลม: ใช้กดเพื่อลดแรงดันลมในยางลงตามที่ต้องการ
- ปุ่มเพิ่มแรงดันลม: กดเพื่อเพิ่มระดับแรงดันลมในยาง
- ปุ่มเลือกหน่วยวัด: โดยปกติจะตั้งเป็น PSI แต่สามารถเปลี่ยนเป็น Bar ได้
- ปุ่มสำหรับยางแบน: กรณียางแบนมาก ให้กดปุ่มนี้ เครื่องจะปล่อยลมเพื่อให้ยางพองตัว
ตรวจสอบค่าแรงดันลมที่เหมาะสมกับรถ
รถแต่ละรุ่นต้องการแรงดันลมยางที่แตกต่างกัน โดยปกติแล้วข้อมูลค่าแรงดันจะอยู่ที่กรอบประตูด้านข้างคนขับหรือในคู่มือรถ ซึ่งค่าแรงดันนี้มักจะแตกต่างตามจำนวนผู้โดยสารและน้ำหนักบรรทุก ตัวอย่างเช่น รถ Mazda 2 ควรตั้งแรงดันล้อหน้า 36 PSI และล้อหลัง 33 PSI แต่ถ้าบรรทุกหนักอาจเพิ่มเป็นล้อหน้า 39 PSI และล้อหลัง 46 PSI
ขั้นตอนการเติมลมยางในปั๊ม
เมื่อได้ค่าความดันที่ต้องการแล้ว เรามาลงมือเติมลมกันค่ะ:
- ตั้งค่าแรงดันลมยาง: หากต้องการล้อหน้า 36 PSI ให้ตั้งค่าแรงดันนี้บนหน้าจอ
- เชื่อมต่อหัวเติมลมกับจุกยาง: เมื่อเชื่อมต่อเรียบร้อย เครื่องจะเริ่มเติมลมอัตโนมัติ
- รอจนได้ยินเสียง “ปิ๊ปๆ”: แสดงว่าเติมเสร็จแล้วค่ะ จากนั้นย้ายไปเติมล้อถัดไป
เคล็ดลับในกรณียางแบน
หากพบว่ายางมีลมน้อยจนเครื่องไม่ตอบสนอง กดปุ่ม “ยางแบน” เพื่อให้เครื่องปล่อยลมเติมก่อน เมื่อยางเริ่มมีลมแล้ว สามารถกลับมาตั้งค่าแรงดันตามที่ต้องการได้ เพียงเท่านี้ก็สามารถเติมลมยางได้เองง่ายๆ พร้อมขับขี่อย่างปลอดภัยค่ะ
สรุป
การเติมลมยางในปั๊มไม่ใช่เรื่องยาก และยังเป็นการดูแลยางที่ช่วยให้ขับขี่ปลอดภัยมากขึ้น การเติมลมให้เหมาะสมจะช่วยให้รถเกาะถนนดี ลดการสึกหรอของยางและเพิ่มความปลอดภัยในทุกการเดินทาง