อาการไอจะเป็นไอแห้ง ไอมีเสมหะ ไอเรื้อรัง สร้างความรำคาญให้ได้ตลอดทั้งวัน เกิดจาการที่มีสิ่งกระตุ้น หรือสารที่ทำให้ระคายเคืองระบบทางเดินหายใจส่วนบน และส่วนล่าง จะเป็นฝุ่น ควันบุหรี่ ขนสัตว์ สภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง แบคทีเรีย หรือแม้แต่น้ำหอม หรือกลิ่นของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ส่งกลิ่นฉุนแรง สามารถทำให้เกิดอากาศไอได้ทั้งหมด
โดยทั่วไปแล้วการไอจะหายเองได้ภายใน 3 สัปดาห์ โดยไม่ต้องรับประทานยา หรือไปหาหมอ แต่ภายในเวลา 3 สัปดาห์นี้ต้องเป็นอาการไอแบบเฉียบพลัน แต่อาการไอชนิดเรื้อรังนั้น จะหายไอได้ต้องใช้เวลาประมาณ 3-8 สัปดาห์ เพราะสาเหตุอาจจะเกิดจาก โรคประจำตัว ยารักษาโรค โรคหอบหืด หรือโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ จมูก ลำคอ อาการไอเรื้อรังของแต่ละบุคคลจะมีสาเหตุที่แตกต่างกัน จึงควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาอาการ และสาเหตุที่ชัดเจน จะได้ทำการรักษาอย่างถูกวิธี
8 เคล็ดลับแก้ไอ
วิธีที่ดีที่สุดในการรักษาอาการไอที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสคือปล่อยให้ระบบภูมิคุ้มกันจัดการกับมัน โดยทั่วไปอาการไอดังกล่าวจะหายไปเอง หรือจะทำตามวิธีด้านล่างเพื่อทำให้อาการดดีขึ้นโดยเร็ว
1. หลีกเลี่ยงมลพิษ ฝุ่นละออง
การทำงาน ทำกิจกรรม พบปะผู้คน สังสรรค์ ออกนอกบ้านทำให้เจอฝุ่น ควัน มลพิษทางอากาศ กระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดอากาศไอ เพราะได้รับพิษทางอากาศ เมื่อมีความจำเป็นที่จะออกนอกบ้านควรสวมหน้ากากอนามัย และเช็ครถยนต์ที่ใช้เป็นประจำไม้ให้มีควันดำที่เป็นมลพิษอันตราย ป้องกันตัวเองและผู้อื่นได้ งดออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ นอกบ้าน ช่วยให้อาการไอหายเร็วขึ้น และร่างกายไม่ต้องรับฝุ่นละออง มลพิษทางอากาศ เข้าสู่ร่างกายเพิ่มขึ้น
2. พักผ่อนให้เพียงพอ
หากพักผ่อนเพียงพอในแต่ละวัน ก็สามารถช่วยให้อาการไอลดลงได้ แต่ก็เป็นการปฎิบัติที่ยากเช่นเดียวกัน เพราะทุกคนมักจะสะดุ้งตื่นไอกลางดึก ทำให้นอนไม่หลับ บางคนนอนไม่หลับถึงเช้า แต่ในทางปฎิบัติที่ดีเราอาจจะลองเปลี่ยนท่านอน ทำร่างกายให้อุ่น ๆ ห่มผ้าหนา ๆ ให้ความอบอุ่นกับร่างกายมาก หรือจะทานยาลดน้ำมูก ยาแก้ไอ และล้างจมูกด้วยน้ำเกลือก่อนนอน ก็ช่วยให้การนอนพักผ่อนหลับง่ายมากขึ้น
3. ทานยาแก้ไอ
การรับประทานยาแก้ไอเป็นสิ่งแรกที่คนทั่วไปนึกถึง หากมีอาการไอเพียงเล็กน้อยก็จะจิบยาแก้ไอ เพื่อช่วยลดอาการไอให้น้อยลง ในปัจจุบัน ยาแก้ไอ มีหลากหลายชนิดใหเได้เลือกบริโภค มีทั้งยาที่ใช่สมุนไพร และยาที่มีส่วนผสมของสารเคมี ซึ่งยาที่มีส่วนผสมของสารเคมีนั้น จะมีประสิทธิภาพยับยั้งอาการไอ แต่สารเคมีนั้นก็มีผลเสียตามมา เพราะยาทีมีส่วนผสมของสารเคมี จะออกฤทธิ์ทำให้เกิดอาการง่วงนอน ยาจะบังคับให้ร่างกายพักผ่อน จึงเป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่ในสารสกัดที่ได้จากสมุนไพรนั้น ก็ทำให้ลดอาการไอ และหายได้ สมุนไพรแก้ไอจะทำให้ชุ่มคอ ช่วยระคายเคืองได้ดีเหมือนกัน ไม่มีสารเคมี และปลอดภัย 100%
4. ดื่มน้ำอุ่น
การดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ จิบบ่อย ๆ จะเป็นน้ำอุ่น หรือน้ำไม่เย็นในอุณหภูมิปกติของห้อง ทำให้คอชุ่มชื่น ลดอาการอักแสบของเยื้อบุได้ดี ช่วยละลายเสมหะให้ลดลง หรือบางคนอาจจะจิบน้ำอุ่นผสมกับมะนาว หรือน้ำผึ้ง ก็ได้ จะยิ่งทำให้ชุ่มคอและลดการระคายเคียงได้มาก
5. งดสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงควันบุหรี่
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการไอ ก็การสูบบุหรี่หรือ ได้รับควันบุหรี่เข้าสู่ร่างกาย การสูบบุหรี่นั้นจะทำให้ระคายเคืองบริเวณลำคอ มีเสมหะมาก ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่ที่สูบบุหรี่จะมีอาการไอ และมีเสมหะตลอด ทำให้อาการไอไม่หาย แถมยังก่อเกิดโรคอื่น ๆ ตามมาอีกมายมาย ควันของบุหรี่ยังทำลายคนข้าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ลูก ภรรยา ที่ได้รับควันบุหรี่ ก็ทำให้เกิดอาการไอ เพราะได้รับควันบ่อย ๆ เป็นผลกระทบที่ตามมา ก่อให้เกิดโรคตามมาอีกเช่นกัน
6. อมยาแก้ไอ
ยาอมต่าง ๆ หรือยาอมแก้ไอ ที่ช่วยให้ชุ่มคอ ช่วยให้ไม่ระคายเคียงในลำคอ แต่ยาอมแก้ไอ หรือยาอมที่มีสารสกัดจากสมุนไพร ลดอาการไอ ขับเสมหะ นั้น จะมีประสิทธิภาพไม่เท่ายาแก้ไอ แต่จะช่วยบรรเทาให้อาการไอลดน้อยลงเพียงเท่านั้น
7. ใช้เครื่องทำความชื้นในอากาศ
สภาพอากาศในห้องตอนกลางคืนจะแห้ง ทำให้น้ำมูกแห้ง หายใจลำบาก เพราะอาการในประเทสไทยร้อนอยุ่แล้ว จะยิ่งทำให้เกิดผลกระทบมาก ทำให้เกิดอาการไอหนักมากในช่วงกลางคืน และยังมีอาการคัดจมูกมากด้วย การใช้เครื่องทำความชื้นภายในห้องนอน รักษาระดับความชื้นในห้อง จะช่วยให้ระบบทางเดินหายใจทำงานได้ดี ไม่เกิดการระคายเคียง และต้องรักษาระดับความชื้นให้เหมาะสมกับห้อง เพื่อให้การพักผ่อน และอาการไอไม่กวนเวลากลางดึก
8. พบแพทย์
ปัญหาการไอกวนใจทุกช่วงเวลาในการใช้ชีวิตประจำวัน บางคนทานยาแก้ไอ ไม่ว่าจะเป็นยาที่สกัดจากสมุนไพร หรือยาที่มีส่วนผสมของสารเคมี ก็ยังไม่หาย บางคนไอเล็กน้อย หรือบางคนไอเป็นเวลานานหลายวัน เกิดการหงุดหงิด การเลือกไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาอาการที่ตรงจุด และรักษาอย่างถูกต้อง ก็อาจจะช่วยได้มากกว่าที่จะรับประทานยาเอง อมยาอมแก้ไอให้ชุ่มคอ ฉีดสเปรย์แก้ไอที่ตรงจุด เพราะบางคนอยากหายเร็ว เพื่ออยากทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี หากพบแพทย์ได้รับคำแนะนำ ได้รับยามารับทาน หรืออาจจะได้ฉีดยา ก็ช่วยให้หายได้เร็ววัน แต่ในทางที่ดีการพบแพทย์ก็เป็นการแก้ปัญหาได้ดี เพราะผู้เชี่ยวชาญจะให้คำปรึกษา และให้ยารักษามาทานที่ถูกต้อง
ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปใช้ดูนะคะ รับรองว่าอาการไอของคุณจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน และอย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ และหลีกเลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดอาการไอ เช่น ฝุ่นควัน หรือกลิ่นฉุน ๆ เพียงเท่านี้คุณก็จะห่างไกลจากปัญหาไอเรื้อรังได้แล้ว