งานกฐินเป็นเทศกาลทางศาสนาที่สำคัญของชาวพุทธไทย จัดขึ้นในทุกปีในช่วงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ตามปฏิทินจันทรคติไทย ซึ่งมักจะตรงกับเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายน ตามปฏิทินสากล งานกฐินเป็นช่วงเวลาที่พุทธศาสนิกชนจะได้มาทำบุญร่วมกันและถวายผ้าไตรจีวรแก่พระภิกษุสงฆ์ ซึ่งนับเป็นการทำบุญที่ได้อานิสงส์มากที่สุดในพุทธศาสนา
งานกฐินเป็นงานที่มีความสำคัญมากต่อพระพุทธศาสนาในประเทศไทย เพราะเป็นช่วงเวลาที่พุทธศาสนิกชนจะได้มาทำบุญร่วมกันและถวายผ้าไตรจีวรแก่พระภิกษุสงฆ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติธรรมของพระภิกษุสงฆ์ นอกจากนี้ งานกฐินยังเป็นช่วงเวลาที่พุทธศาสนิกชนจะได้มาพบปะสังสรรค์กันและสานสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอีกด้วย
งานกฐินเป็นงานที่มีสีสันและความคึกคักมาก มีการแห่ผ้ากฐินไปตามถนนหนทาง มีดนตรีและการละเล่นต่างๆ มีอาหารและเครื่องดื่มมากมายให้ได้เลือกชิม นอกจากนี้ งานกฐินยังเป็นโอกาสที่ดีในการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและศาสนาพุทธของไทยอีกด้วย
กฐิน หมายถึง
กฐิน หมายถึง เป็นศัพท์บาลี แปลตามศัพท์ว่าไม้สะดึง คือ “กรอบไม้” หรือ “ไม้แบบ” สำหรับขึงผ้าที่จะเย็บเป็นจีวรในสมัยโบราณ ซึ่งผ้าที่เย็บสำเร็จจากกฐินหรือไม้สะดึงแบบนี้เรียกว่า ผ้ากฐิน (ผ้าเย็บจากไม้แบบ)
ประเพณีการทอดกฐินของพุทธศาสนิกชนไทยมีมาช้านาน โดยมีทั้งพิธีหลวงและพิธีราษฎร์ โดยการถวายผ้าพระกฐินของพระมหากษัตริย์จัดเป็นพระราชพิธีที่สำคัญประจำปี ในปัจจุบันถวายผ้ากฐินในแง่การสนับสนุนผ้าไตรจีวรเพื่อใช้ในสังฆกรรมสำคัญของคณะสงฆ์ได้ถูกลดความสำคัญลงไป แต่กลับให้ความสำคัญกับบริวารของกฐินทานแทน เช่น เงิน หรือวัตถุสิ่งของ เพื่อนำสิ่งเหล่านี้มาพัฒนาถาวรวัตถุและทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ซึ่งจัดเป็นสังฆทานอย่างหนึ่งเช่นเดียวกัน
กฐินมีกำหนดระยะเวลาถวาย จะถวายตลอดไปเหมือนผ้าชนิดอื่นมิได้ ระยะเวลานั้นมีเพียง 1 เดือน คือตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 (วันเพ็ญเดือน 12) ระยะเวลานี้เรียกว่า กฐินกาล คือระยะเวลา ทอดกฐิน หรือ เทศกาลทอดกฐิน
ประวัติความเป็นมาของงานกฐิน
ภิกษุชาวเมืองปาไฐยรัฐ 30 รูป ได้เดินทางเพื่อมาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ณ วัดเชตวันมหาวิหาร เมืองสาวัตถี แต่ยังไม่ทันถึงเมืองสาวัตถี ก็ถึงวันเข้าพรรษาเสียก่อน พระสงฆ์ทั้ง 30 รูป จึงต้องจำพรรษา ณ เมืองสาเกตุในระหว่างทาง พอออกพรรษาแล้ว ภิกษุเหล่านั้นจึงได้ออกเดินทางมาเข้าเฝ้าพระศาสดาด้วยความยากลำบากเพราะฝนยังตกชุกอยู่ เมื่อเดินทางถึงวัดพระเชตวัน พระพทธเจ้าได้ตรัสถามถึงความเป็นอยู่และการเดินทาง เมื่อทราบความลำบากนั้นจึงทรงอนุญาตให้ภิกษุผู้จำพรรษาครบถ้วนไตรมาสสามารถรับผ้ากฐินได้ และภิกษุผู้ได้กรานกฐินได้อานิสงส์ 5 ประการ ภายในเวลาอานิสงส์กฐิน (นับจากวันที่รับกฐินจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 4) คือ
- ไปไหนไม่ต้องบอกลา
- ไม่ต้องถือไตรจีวรไปครบสำรับสามผืน
- ฉันคณโภชนะได้ (รับนิมนต์ที่เขานิมนต์โดยออกชื่อโภชนะฉันได้)
- เก็บอดิเรกจีวรไว้ได้โดยที่ยังมิได้วิกัปป์ และอธิษฐาน โดยไม่ต้องอาบัติ
- จีวรลาภอันเกิดขึ้น จักได้แก่ภิกษุผู้ได้กรานกฐินแล้ว
วัตถุประสงค์ของงานกฐิน
กฐินมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อถวายผ้าไตรจีวรและเครื่องใช้ต่างๆ แก่พระภิกษุสงฆ์ที่จำพรรษาครบถ้วนไตรมาส นอกจากนี้ กฐินยังมีวัตถุประสงค์อื่นๆ ดังนี้
- เพื่อสร้างความสามัคคีในหมู่คณะสงฆ์
- เพื่อสนับสนุนการเผยแพร่พระพุทธศาสนา
- เพื่ออนุรักษ์และสืบสานประเพณีอันดีงามของไทย
- เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้มีโอกาสทำบุญใหญ่
ประเภทของกฐิน
การทำบุญทอดกฐินในประเทศไทยเราได้แบ่งกฐินออกเป็น 3 ประเภท คือ กฐินหลวง กฐินพระราชทาน และกฐินราษฎร์
กฐินหลวง
กฐินหลวง ได้แก่ กฐินที่ทำพิธีทอดถวายแด่พระสงฆ์ที่อยู่จำพรรษา ณ พระอารามหลวงแห่งใดแห่งหนึ่งซึ่งมีอยู่ 3 ประเภท คือ
- กฐินเสด็จพระราชดำเนิน เป็นกฐินหลวงที่พระแผ่นดินเสด็จไปพระราชทานถวายด้วยพระองค์เอง หรือทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้แทนพระองค์ไปทอดถวายแทน
- กฐินต้น เป็นกฐินส่วนพระองค์ที่พระเจ้าแผ่นดินเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระราชทานแก่วัดใด วัดหนึ่งซึ่งอาจเป็นวัดหลวงหรือวัดราษฎร์ก็ได้
- กฐินพระราชทาน เป็นกฐินหลวงที่โปรดพระราชทานให้แก่หน่วยงานข้าราชการ คฤหบดี พ่อค้า และประชาชนผู้กราบบังคมทูลขอพระราชทานผ้ากฐินนำไปทอดถวาย ณ พระอารามหลวง แห่งใดแห่งหนึ่ง
กฐินราษฎร์
กฐินราษฎร์ คือ กฐินที่ราษฏรหรือประชาชนทั่วไปที่มีจิตศรัทธาจัดถวายผ้ากฐิน และเครื่องกฐินไปถวายยังวัดราษฎร์ต่าง ๆ โดยอาจแบ่งออกเป็นจุลกฐิน และมหากฐิน (กฐินสามัคคี) ในปัจจุบันกฐินราษฎร์ หรือเรียกกันโดยทั่วไปว่า “กฐินสามัคคี” ผู้เป็นประธานหรือเจ้าภาพในการทอดกฐินจะให้ความสำคัญกับการรวบรวม (เรี่ยไร) เงินและสิ่งของเพื่อเข้าประกอบเป็นบริวารกฐินมากกว่า เพราะวัดสามารถนำสิ่งเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาได้ และเนื่องจากการถวายผ้ากฐินเป็นกาลทาน จึงทำให้ประเพณีการทอดกฐินเป็นงานสำคัญประจำปีของวัดต่าง ๆ โดยทั่วไปในประเทศไทย
กฐินราษฎร์ ได้แก่ กฐินที่ราษฎรผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลายจัดนำไปทอดถวาย ณ วัดราษฎร์ทั่วไป กฐินราษฎร์นี้นิยมแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
- มหากฐิน (กฐินสามัคคี) เป็นกฐินที่นิยมจัดเครื่องบริวารกฐินต่าง ๆ มากมาย
- จุลกฐิน เป็นกฐินน้อยหรือกฐินรีบด่วนเพราะมีเวลาจัดเตรียมการน้อย มีกฐินพิเศษอีกชนิดหนึ่ง เรียกว่าจุลกฐินเป็นงานที่มีพิธีมาก ถือกันว่ามาแต่โบราณว่า มีอานิสงส์มากยิ่งนัก วิธีทำนั้น คือเก็บฝ้ายมากรอเป็นด้าย และทอให้แล้วเสร็จเป็นผืนผ้าในวันเดียวกัน และนำไปทอดในวันนั้น กฐินชนิดนี้ ต้องทำแข่งกับเวลา มีผู้ทำหลายคน แบ่งกันเป็นหน้าที่ ๆ ไป ในปัจจุบันนี้ไม่ค่อยนิยมทำกันแล้ว
กฐินพระราชทาน
กฐินพระราชทาน เป็นผ้าพระกฐินพระราชทานที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพระกฐิน และเครื่องกฐินแก่พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชบริพาร ส่วนราชการ หน่วยงาน สมาคม หรือเอกชน ให้ไปทอดยังพระอารามหลวงต่าง ๆ ทั่วราชอาณาจักร (ในปัจจุบันกรมการศาสนารับผิดชอบจัดผ้าพระกฐินและเครื่องกฐินถวาย)
“กฐินพระราชทานกองทัพเรือ” กองทัพเรือถือเป็นนโยบายที่จะขอรับพระราชทานผ้าพระกฐินไปถวาย ณ พระอารามหลวงที่ตั้งอยู่ใกล้กองทัพเรือทุกปี และได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2500 เป็นต้นมา
อานิสงส์กฐิน
อานิสงส์ของการร่วมทำบุญทอดกฐินยังมีมากมาย ดังนี้
- ทำให้เป็นผู้มั่งคั่งมีทรัพย์สินมาก และประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้โดยง่าย
- ทำให้เป็นผู้มีจิตใจแช่มชื่น บริสุทธิ์และผ่องใสอยู่เสมอ
- ทำให้เป็นผู้มีจิตใจตั้งมั่น เป็นสมาธิและเข้าถึงธรรมได้โดยง่าย
- ได้ชื่อว่าเป็นผู้สามารถใช้ทรัพย์สมบัติให้เกิดเป็นบุญกุศลติดตัวไปในภพเบื้องหน้าได้อย่างเต็มที่
- ทำให้เป็นคนรูปงาม ผิวพรรณงาม เป็นที่รักของคนทั่วไป
- ทำให้เป็นผู้มีชื่อเสียง เกียรติคุณ น่ายกย่องสรรเสริญ เป็นที่ตั้งแห่งศรัทธาน่าเคารพนับถือ
เครื่องกฐินประกอบด้วย
ผ้าไตรครอง (กฐิน) ,บาตร พร้อมอัฐบริขาร ,ตาลปัตร ,ย่าม ,สัปทน ,ที่นอน ,หมอน ,เสื่อ ,มุ้ง ,ผ้าห่ม ,ผ้าเช็ดตัว ,ร่ม ,ปิ่นโต ,รองเท้า ,กาต้มน้ำ ,กระโถน ,กานวม-ถ้วยชา ,จานข้าวช้อนส้อม ,พานแว่นฟ้า ,ครอบไตร ,ธงมัจฉาจระเข้ ,ไม้กราด ,เทียนปาฏิโมกข์ ,ชุดถังผ้าป่า ,สบง ,ชะนี ,อาสนะ ,ชุดเครื่องโยธา ,กระติกน้ำ ,หม้อหุงข้าว ,เตา ,กระทะ ,ช้อนส้อม ,เหยือกน้ำ
คำกล่าวถวายผ้ากฐิน
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (3 จบ)
อิมัง มะยัง ภันเต สะปะริวารัง กะฐินะ จีวะระทุสสัง
สังฆัสสะ โอโณชะยามะ สาธุ โน ภันเต สังโฆ อิมัง
สะปะริวารัง กะฐินะจีวะระทุสสัง ปะฏิคคันหาตุ ปะฏิคคะ
เหตตะวา จะ อิมินา ทุสเสนะ กะฐินัง อัตถะรัตตุ อัมหากัง
ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ นิพพานายะจะฯ
คำกล่าวถวายผ้ากฐิน (ไทย)
ข้าแต่พระภิกษุสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้า-ทั้งหลาย
ขอน้อมถวาย ผ้าจีวรกฐิน พร้อมด้วยบริวารทั้งหลายเหล่านี้ แด่พระภิกษุสงฆ์
ขอพระภิกษุสงฆ์ จงรับ ผ้าจีวรกฐิน พร้อมด้วยบริวารทั้งหลายเหล่านี้
ครั้นรับแล้ว จงกรานกฐิน ด้วยผ้าผืนนี้ เพื่อ-ประโยชน์
เพื่อความสุข เพื่อมรรคผล นิพพาน แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ตลอดกาลนาน-เทอญฯ
ความหมายของธงกฐิน
ธงจระเข้ (ความโลภ)
เปรียบถึงความโลภเนื่องจากจระเข้เป็นสัตว์ที่มีปากกว้างใหญ่กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม ตามตำนานได้มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่า เมื่อครั้งหนึ่งมีเศรษฐีขี้เหนียวไม่เคยก่อบุญสร้างกุศล ได้นำสมบัติที่ตนเองหวงแหนฝังไว้ที่ท่าน้ำหน้าบ้าน พอเศรษฐีตายไปด้วยผลกรรมที่มีจึงได้เกิดเป็นจระเข้เฝ้าสมบัติที่ท่าน้ำหน้าบ้านตนเองด้วยความอยากหลุดพ้นจึงเข้าฝันภรรยาตนและบอกให้ขุดสมบัติขึ้นมาทำบุญ ภรรยาของเศรษฐีจึงได้จัดการทอดกฐินขึ้น ฝ่ายจระเข้เศรษฐีเกิดความดีใจเลยว่ายน้ำตามขบวนแห่กฐินแต่ไม่ทันถึงวัดก็ขาดใจตายไปเสียก่อนภรรยาของเศรษฐีจึงได้วาดธงจระเข้แทนสามีที่เสียชีวิตไป ในปัจจุบันนี้จะเห็นธงจระเข้ติดอยู่ตามร้านค้าต่าง ๆ เพราะเป็นตัวแทนของการกินเท่าไหรก็ไม่อิ่มซึ่งถือเป็นการดึงดูดเงินทางให้เข้ามา
ธงตะขาบ (โกรธ)
ธงตะขาบเป็นเครื่องหมายแสดงว่าวัดนั้นมีผู้จองเป็นเจ้าภาพกองกฐินแล้ว หากผู้จะมาปวารณาเป็นเจ้าภาพให้ไปวัดอื่นได้เลย
ธงมัจฉา (หลง)
ธงมัจฉา เป็นตัวแทนของหญิงสาวตามความเชื่ออานิสงส์จากการถวายผ้าแด่พระภิกษุสงฆ์จะส่งผลให้มีรูปโฉมที่งดงาม ส่งเสริมด้านเมตตามหานิยม หากเป็นพ่อค้าแม่ขายจะทำมาค้าคล่อง
ธงเต่า (สติปัญญา)
ธงเต่า ใช้ประดับเพื่อแจ้งว่าวัดนี้ได้ทอดกฐินเรียบร้อยแล้ว และธงเต่านี้จะถูกปลดลงในวันเพ็ญเดือน 12 ซึ่งเป็นช่วงหมดฤดูกาลทอดกฐินนั่นเองตามความเชื่อเต่ามีความหมายถึง อายุที่ยืน สุขภาพแข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ
ทิ้งท้าย
งานกฐินเป็นประเพณีทางพุทธศาสนาที่สำคัญที่สุดประเพณีหนึ่ง เป็นประเพณีที่พุทธศาสนิกชนร่วมมือร่วมใจกันทอดผ้ากฐินไปถวายพระภิกษุสงฆ์ที่จำพรรษาอยู่ตามวัดวาอารามต่าง ๆ เพื่อให้พระสงฆ์ได้ใช้สอยในกิจวัตรประจำวันและการเผยแผ่พระพุทธศาสนา งานกฐินจัดขึ้นในช่วงหลังออกพรรษา คือตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ซึ่งเป็นช่วงที่พระสงฆ์ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดตลอด 3 เดือน และเป็นช่วงที่พุทธศาสนิกชนได้มีโอกาสทำบุญถวายผ้ากฐินเพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษและครูบาอาจารย์ที่ล่วงลับไปแล้ว
กฐินเป็นประเพณีที่สำคัญมาก เพราะเป็นประเพณีที่แสดงถึงความสามัคคีและความร่วมมือร่วมใจของพุทธศาสนิกชนในการทำบุญกุศลเพื่อพระพุทธศาสนา กฐินยังเป็นโอกาสที่พุทธศาสนิกชนจะได้ได้บุญกุศลอย่างยิ่งใหญ่ เพราะการถวายผ้ากฐินนั้นเป็นการถวายสังฆทาน ซึ่งเป็นการถวายของที่จำเป็นต่อพระสงฆ์ทั้งคณะ การถวายผ้ากฐินนั้นจึงเป็นการทำบุญที่ได้อานิสงส์มาก
หากท่านต้องการทำบุญถวายผ้ากฐิน ท่านสามารถติดต่อวัดหรือสำนักสงฆ์ที่ท่านต้องการทำบุญได้โดยตรง หรือท่านสามารถร่วมทำบุญถวายผ้ากฐินผ่านโครงการต่าง ๆ ได้ เช่น โครงการกฐินสามัคคีธรรม โดยมูลนิธิพุทธธรรมประทีปไสย หรือโครงการกฐินพระราชทาน โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
การทำบุญถวายผ้ากฐินเป็นการทำบุญที่ได้อานิสงส์มากมาย เป็นการทำบุญที่แสดงถึงความสามัคคีและความร่วมมือร่วมใจของพุทธศาสนิกชนในการทำบุญกุศลเพื่อพระพุทธศาสนา และเป็นการทำบุญที่ได้อุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษและครูบาอาจารย์ที่ล่วงลับไปแล้ว หากท่านมีโอกาส ขอเชิญท่านร่วมทำบุญถวายผ้ากฐินเพื่อเป็นการอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาและเพื่อเป็นการได้บุญกุศลอย่างยิ่งใหญ่
ข้อมูลอ้างอิง:
- http://lp.mcu.ac.th/userfiles/file/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B9%8C/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%81/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2/MCU600102014.pdf
- https://e-thesis.mcu.ac.th/storage/ECHfFNlVhMbd2IDIsap1wv9rkup8iAyMbOlsApn8.pdf
- https://so02.tci-thaijo.org/index.php/DRURDI/article/view/252126