เคล็ดลับเสริมดวง

คาถาบูชาเทพทันใจ (นัตโบโบยี) ณ พม่า ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก

บทสวดขอพรเทพทันใจ เสริมดวงให้ร่ำรวย

เทพทันใจ (นัตโบโบยี) เป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภและความสมปรารถนา เชื่อว่าหากผู้ใดได้บูชาและบนบานขอพรด้วยคาถาบูชาเทพทันใจ (นัตโบยี) อย่างถูกต้อง ก็จะสมปรารถนาในสิ่งที่ขอได้อย่างรวดเร็วทันใจ

Advertisement

ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำคาถาบูชาเทพทันใจ (นัตโบยี) พร้อมวิธีการบูชาและถวายเครื่องสักการะอย่างถูกต้อง เพื่อให้ท่านได้มีโอกาสขอพรจากเทพทันใจ (นัตโบยี) และสมปรารถนาในสิ่งที่หวังไว้

วิธีขอพรเทพทันใจ
ภาพโดย travelbirdmyanmar.com

วิธีขอพรเทพทันใจ

เทพทันใจ (นัตโบโบยี) ณ เจดีย์โบตาทาวน์ ที่ พม่า เชื่อกันว่าจะทำให้สมปรารถนารวดเร็วทันใจ ค้าขายดี กระซิบขออะไรแล้วจะสมหวัง เป็นหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวพม่าให้การสักการะอย่างมาก

สิ่งที่ต้องเตรียมมีดังนี้

Advertisement

  • เครื่องบูชา ประกอบด้วย ดอกไม้ ผลไม้ เช่น กล้วยนากสีแดง และมะพร้าวน้ำหอม ท่านไม่ทานเนื้อสัตว์
  • ธนบัตร 2 ใบ
  • ผ้าคล้องคอและร่มฉัตรกระดาษ

เมื่อเตรียมสิ่งของครบแล้วปฏิบัติดังนี้

  1. ให้นำสิ่งของที่ถวายใส่พาน แล้วนำไปวางที่โต๊ะ จากนั้นนำธนบัตรที่เหมือนกัน 2 ใบ ม้วนเป็นรูปกรวยซ้อนกัน แล้วนำใส่ในอุ้งมือของท่าน
  2. นำหน้าผากของคุณไปแตะที่นิ้วเทพทันใจ แล้วตั้งจิตอธิษฐานบอกชื่อ-นามสกุล พร้อมด้วยขอพรสิ่งที่ตนปรารถนาเพียง 1 ข้อเท่านั้น ห้ามเปลี่ยนใจ!
  3. นำเงินธนบัตรที่ถวายออกมาเก็บเอาไว้เองเป็นขวัญถุง 1 ใบ เพื่อความเป็นสิริมงคลและต่อโชคลาภให้ตนเอง

บางครั้งผู้ดูแลศาลยังอาจจะให้เรานำกล้วยสุกที่คนมาถวายไว้ก่อนหน้านั้น เอาไปกินเพื่อเป็นมงคล นัยว่าเครื่องเซ่นถวาย นัตโบโบจีนี้ แม่ค้าไม่สามารถเอาไปเวียนเทียนขายใหม่ได้ เพราะเมื่อคนถวายแล้วก็จะเก็บไว้ให้คนต่อต่อไปได้นำเอาไปรับประทาน

การบูชานัต อะมาดอว์เมียะนั้น นอกจากบูชาด้วยมะพร้าว กล้วยนากที่เขาจัดไว้เป็นชุดแล้ว ยังนิยมบูชาด้วยน้ำนม และข้าวตอก รวมทั้งดอกไม้ ซึ่งมักจะเป็นดอกมหาหงส์ ที่คนพม่านิยมใช้บูชาพระกันทั่วไป สอดคล้องกับตำนานที่ว่า นางนาครักษาศีลกินมังสวิรัติ ยอมฝืนธรรมชาติของนาคที่กินปลากบเขียดและสัตว์เป็น ๆ จนกระทั่งนางสิ้นชีวิต กลายเป็นนัตในที่สุด

คาถาบูชาเทพทันใจบทจริง (นัตโบโบยี)

คาถาบูชาเทพทันใจบทจริง

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
(3 จบ)

โอม สิทธิการิยะ ข้าแต่ท้าวเทพทันใจ
โสโสมะมา จิตตะภะวัง มหาลาภัง อิติพุทธัสสะ
สุวรรณนังวา ราชาตังวา มณีวา ธะนังวา ภิชังวา
อัตถังวา ปัตตังวาเงินทองหลั่งไหลมา มหาลาภา
เอหิ เอหิ อาคัจฉายะอิติ ปรารถนาอันใด พึ่งสำเร็จมา
นะมามีมา มหาลาโภ เทวะราชะกะนัง เชยยะ เชยยะ ภะวันตุ

ประวัติเทพทันใจ
เทพทันใจ ภาพโดย travelbirdmyanmar.com

ประวัติเทพทันใจ

เทพทันใจ หรือ เทพกระซิบ (ภาษาอังกฤษ : Bo Bo Gyi) พม่า หรือ เมียนมาร์ ถึงแม้เป็นดินแดนที่ผู้คนมีความศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างเหนียวแน่น แต่ความเชื่อเกี่ยวกับการบูชาเทวาอารักษ์ ก็ยังควบคู่อยู่ในวิถีชีวิตของชาวพุทธส่วนใหญ่อย่างแยกไม่ออก

“นัต” หรือ เทวาอารักษ์ ,เทพผู้คุ้มครอง ยังเป็นที่เคารพนับถืออันสืบเนื่องมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งแต่ก่อนพุทธศาสนาจะเข้ามาเสียอีก โดยเทพที่จะถูกจัดว่าเป็น “นัต” นั้น มักจะเป็นคนที่เคยสร้างความดี หรือมีวีรกรรมน่าประทับใจ และมาตายลงด้วยสาเหตุรุนแรง อย่างที่เรียกว่า ตายโหง ทำให้วิญญาณยังมีความห่วงใยในภาระหน้าที่บ้านเมือง และผู้คนเบื้องหลังให้ไม่อาจไปเกิดได้ จึงเป็นนัตที่จะคอยคุ้มครองรักษาบ้านเมือง หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เช่นพระเจดีย์องค์สำคัญ

ในสมัยพระเจ้าอนิรุธมหาราช หรือ พม่าเรียกว่า พระเจ้าอโนรธา แห่งอาณาจักรพุกาม เมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 11 พระองค์รับพระพุทธศาสนานิกายลังกาวงศ์เข้ามาในดินแดนนี้ แทนที่พุทธศาสนานิกายอารี ของเดิมที่ย่อหย่อนในพระวินัย ผสมปะปนเรื่องราวไสยศาสตร์ ภูตผีปีศาจท้องถิ่นมากมาย และเพื่อปฏิรูปศาสนา และความเชื่อเรื่องนัตของไพร่ฟ้าประชาชนเสียใหม่ให้สอดคล้องและให้ความสำคัญกับพุทธศาสนามากขึ้น พระเจ้าอนิรุธจึงทรงรวบรวม นัต ที่มีผู้คนนับถือมาก รวม 36 องค์ จัดให้เป็นมหาคีรีนัต เทพประจำอาณาจักร โดยให้มีนัต องค์ที่ 37 คือ ตัจจาเมงนัต หรือท้าวสักกะ พระอินทร์ผู้เป็นราชาแห่งทวยเทพและเป็นผู้คุ้มครองพระพุทธศาสนาให้เป็นผู้กำกับดูแลอีกต่อหนึ่ง นับเป็นการจัดระเบียบสังคมเทพและศาสนา โดยมนุษย์ผู้เป็นราชา เมื่อกว่า 900 ปีมาแล้ว

นายฉัตรตริน เพียรธรรม แห่งบริษัทเอ็นซีทัวร์ ผู้จัดทัวร์ในประเทศดินแดนพุทธศาสนา ซึ่งทำทัวร์ในพม่ามากว่า 20 ปี บอกว่า นัตในเมืองพม่าทั้งหลาย คงไม่มีองค์ใดเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับคนไทย เท่ากับ นัตโบโบจี แห่งวัดโบตะทาว หรือที่คนโยเดีย (คนไทย) ทั้งหลายเรียกขานกันว่า “เทพทันใจ” ด้วยกล่าวกันว่า ท่านสามารถดลบันดาลให้แก่ผู้ทุกข์ร้อน ที่เข้าไปอธิษฐานขอพรจากท่านได้ผลชะงัดรวดเร็วทันใจยิ่งนัก

ที่จริงแล้วคำว่า โบโบจี นั้นไม่ใช่ชื่อเฉพาะของนัตองค์ใด แต่เป็นคำกลางเรียก นัตผู้ชายที่เป็นที่เคารพนับถือ คล้ายกับคำว่า เจ้าพ่อ หรือเจ้าปู่ ที่คนไทยใช้เรียกอารักษ์แบบไทย ๆ นั่นเอง

คนพม่าจะต้องมีชื่อสถานที่ที่นัตองค์นั้นคอยคุ้มครองอยู่ ประกอบด้วยเสมอ เช่น ชเวดากองโบโบจี หรือโบตะทาวโบโบจี เป็นต้น ฝั่งตรงข้ามหน้าวัดโบตะทาว มีศาลนัตอีกองค์หนึ่งซึ่งชาวพม่าเรียกว่า “อะมาดอว์เมียะ” หรือตอนนี้คนไทยรู้จักกันทั่วในนามว่า “เทพกระซิบ”

ตามตำนานกล่าวว่า นางเป็นธิดาของพญานาค ที่เกิดศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า รักษาศีล ไม่ยอมกินเนื้อสัตว์จนเมื่อสิ้นชีวิตไปกลายเป็นนัต ซึ่งชาวพม่าเคารพกราบไหว้กันมานานแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีใครมากระซิบอธิษฐานกับท่านเลย แม้แต่คนเดียว จนกระทั่งนักท่องเที่ยวชาวไทยนั่นเอง เป็นคนเริ่มต้น โดยมีหัวหน้าทัวร์ไทยนำคณะมาไหว้เทพทันใจที่วัดนี้ ได้เห็นผู้คนมุงกันหนาแน่นหน้าศาลของนัตองค์นี้ และเห็นป้ายภาษาพม่าเขียนบอกอะไรสักอย่าง จึงถามไกด์ว่า ป้ายเขียนไว้ว่าอย่างไร ซึ่งไกด์ก็อ่านให้ฟังว่า ป้ายบอกว่า “ห้ามพูดส่งเสียงดัง”

“เนื่องเพราะบริเวณนั้น ชอบมีแม่ค้ามาร้องเสนอขายชุดเครื่องเซ่นไหว้องค์เทพ ส่งเสียงเอะอะ ทั้งที่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ วัดจึงปิดป้ายเตือนไว้ แต่กลับเป็นว่า หัวหน้าทัวร์ท่านนั้นเข้าใจว่า ถ้าจะไปอธิษฐานขอเทพองค์นี้ ห้ามพูดเสียงดัง จึงอธิบายให้คณะคนไทยฟังว่า ถ้าจะอธิษฐานขออะไรกับเทพองค์นี้ต้องกระซิบ แล้วก็เล่าลือกันต่อ ๆ ไป จนกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ที่ถึงตอนนี้ มีคนได้รับผลอธิษฐานสมปรารถนากลับมาแก้บน และบอกต่อกัน จนรายการไหว้เทพกระซิบถูกบรรจุเข้าไปในรายการทัวร์ไทยทุกบริษัท จนชาวพม่าเห็นคนไทยทำแล้วดี ก็เริ่มเอาอย่างทำตามบ้างแล้ว” นายฉัตรตริน กล่าว

อย่างไรก็ตาม หากคนไทยตั้งใจจะไปไหว้เทพทันใจ หรือเทพกระซิบก็ดีอยู่ แต่อย่าลืมไปกราบพระพุทธเจ้า ไหว้พระเกศาธาตุที่ประดิษฐานในพระเจดีย์โบตะทาวด้วย เพราะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหนือองค์เทพใด ๆ และเป็นแห่งเดียวที่เราสามารถเห็นพระเกศาธาตุได้ด้วยตาเราเอง ด้วยสถานที่แห่งนี้ เป็นที่อัญเชิญพระเกศาธาตุที่พี่น้อง ตปุสสะและภัลลิกะสองมานพชาวมอญได้อัญเชิญมาจากชมพูทวีป ตั้งแต่ครั้งพุทธกาล ก่อนที่จะสร้างพระเจดีย์ชเวดากอง ประดิษฐานมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้

เทพทันใจอยู่ที่ไหน
พระธาตุอินแขวน ภาพโดย Peter Anta จาก Pixabay

เทพทันใจอยู่ที่ไหน

หลายคนมักคิดว่า ถ้าจะไหว้เทพทันใจ ต้องไหว้ที่ เจดีย์โบตาทาวน์ เท่านั้นจริง ๆ แล้ว เทพทันใจของทางพม่ามีถึง 5 องค์ด้วยกัน

  • องค์ที่ 1 อยู่ที่ : พระธาตุอินแขวน ตั้งอยู่ที่เมืองไจ้ก์โถ่ อำเภอสะเทิม เขตรัฐมอญของประเทศพม่า บนยอดเขา Paung Laung
  • องค์ที่ 2 อยู่ที่ : เจดีย์สุเหล่ ใจกลางกรุงย่างกุ้ง
  • องค์ที่ 3 อยู่ที่ : เจดีย์กลางน้ำเยเลพญา เมืองสิเรียม ซึ่งเป็นเมืองเล็ก ๆ ตั้งอยู่ตรงจุดบรรจบของแม่น้ำหงสาและแม่น้ำย่างกุ้ง
  • องค์ที่ 4 อยู่ที่ : เจดีย์ชเวดากอง ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาเชียงกุตระ เมืองย่างกุ้ง
  • องค์ที่ 5 อยู่ที่ : เจดีย์โบตาทาวน์ วัดนี้อยู่ริมแม่น้ำย่างกุ้ง ชื่อ ท่าน นัต โบโบยี

โดยสามารถไหว้เทพทันใจได้ทุกองค์ และถ้าจะให้ขลังและได้สมความปรารถนา ต้องขอพรได้ที่ละ 1 ข้อเท่านั้น และพรแต่ละข้อต้องไม่ซ้ำกัน

สรุป

บทสวดบูชาเทพทันใจ (นัตโบยี) เป็นบทสวดมนต์ที่ศักดิ์สิทธิ์และทรงพลัง เชื่อกันว่าหากท่องคาถานี้ด้วยความตั้งใจและศรัทธา เทพทันใจจะประทานพรอันประเสริฐให้สมปรารถนาทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโชคลาภ เงินทอง ความรัก การงาน หรือความสำเร็จในชีวิต

สำหรับผู้ที่สนใจบูชาเทพทันใจ สามารถศึกษาบทสวดมนต์และวิธีการบูชาเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์หรือแหล่งข้อมูลต่างๆ นอกจากนี้ ยังสามารถหาซื้อเครื่องรางรูปเทพทันใจมาบูชาไว้ที่บ้านหรือที่ทำงานก็ได้เช่นกัน

หากคุณกำลังประสบปัญหาหรืออุปสรรคในชีวิต ต้องการขอพรให้สมหวัง หรือต้องการเสริมดวงชะตา บทสวดบูชาเทพทันใจ (นัตโบยี) เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพียงท่องคาถานี้ด้วยความตั้งใจและศรัทธา เทพทันใจจะประทานพรอันประเสริฐให้สมปรารถนาทุกประการ

Advertisement

Advertisement

Eve S.

เป็นนักเขียนอิสระที่สนใจเรื่องทำนายฝัน เคล็ดลับเสริมดวง และเสริมโชคลาภ ฉันมีความสนใจในเรื่องเหล่านี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ และชอบที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับความหมายของฝัน วิธีการเสริมดวง และเคล็ดลับในการดึงดูดโชคลาภมาสู่ตัวเอง เชื่อว่าเคล็ดลับเสริมดวงสามารถช่วยให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้น และเคล็ดลับในการดึงดูดโชคลาภสามารถช่วยให้เราประสบความสำเร็จในชีวิตได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button