ตารางแสดงแคลอรี่อาหาร อาหารญี่ปุ่น แคลอรี่ต่ํา แคลอรี่สูง สำหรับคนรักสุขภาพ หรือ ผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักหรือลดความอ้วน มีหลายหลายเมนู อัพเดทตลอด
แคลอรี่ (Calorie) คือ หน่วยที่ใช้ในการวัดค่าพลังงานที่เราสามารถพบเห็นได้ตามฉลาก หรือตามข้างบรรจุภัณฑ์อาหารประเภทต่าง ๆ มีประโยชน์เพื่อใช้บอกค่าพลังงานที่เรารับเข้าไปจากการรับประทานอาหารชนิดนั้น ๆ
โดยใน 1 แคลอรี่ก็คือปริมาณที่ทำให้น้ำ 1 กรัม มีอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 1 องศาเซลเซียส ส่วนพลังงานที่ใช้ในร่างกาย หรือพลังงานที่เราได้รับจากอาหารจะเรียกแทนหน่วยเป็น กิโลแคลรี่ (kcal) เพื่อบอกว่า อาหารที่เรานำเข้าสู่ร่างกายนั้นมีจำนวนพลังงานเท่าไหร่ และเราควรจะเลือกบริโภคอาหารชนิดใดเพื่อให้มีพลังงานที่เพียงพอต่อการใช้งานใน 1 วัน
ตารางแคลอรี่อาหารประเภทข้าว
ชื่อเมนู | ปริมาณ/หน่วย | แคลอรี่ (kcal) |
ข้าวสตูว์ไก่ | 1 จาน | 465 |
ข้าวกุ้งทอดกระเทียมพริกไทย | 1 จาน | 495 |
ข้าวไก่อบ | 1 จาน | 490 |
ข้าวขาหมู | 1 จาน | 690 |
ข้าวไข่เจียว | 1 จาน | 445 |
ข้าวคลุกกะปิ | 1 จาน | 410 |
ข้าวแช่ | 1 ชุด | 350 |
ข้าวผัดกระเพรากุ้ง | 1 จาน | 540 |
ข้าวผัดกระเพราไก่ไข่ดาว | 1 จาน | 630 |
ข้าวผัดกระเพราหมู | 1 จาน | 580 |
ข้าวผัดหมู | 1 จาน | 561 |
ข้าวผัดกุ้งใส่ไข่ | 1 จาน | 595 |
ข้าวผัดกุนเชียง | 1 จาน | 590 |
ข้าวผัดแกงเขียวหวานไก่ | 1 จาน | 630 |
ข้าวผัดคะน้าหมูกรอบ | 1 จาน | 670 |
ข้าวผัดต้มยำทะเลแห้ง | 1 จาน | 400 |
ข้าวผัดน้ำพริกกุ้งสด | 1 จาน | 460 |
ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ | 1 จาน | 605 |
ข้าวผัดปลาเค็ม | 1 จาน | 405 |
ข้าวผัดปลาหมึกน้ำพริกเผา | 1 จาน | 535 |
ข้าวผัดปูใส่ไข่ | 1 จาน | 610 |
ข้าวผัดผักกระเฉดหมูกรอบ | 1 จาน | 600 |
ข้าวผัดมันกุ้งใส่ไข่ | 1 จาน | 575 |
ข้าวผัดสับปะรด | 1 จาน | 335 |
ข้าวผัดไส้กรอก | 1 จาน | 520 |
ข้าวผัดหนำเลียบ-หมู-ไข่ | 1 จาน | 370 |
ข้าวผัดหมูน้ำพริกเผา | 1 จาน | 665 |
ข้าวผัดหมูใส่ไข่ | 1 จาน | 660 |
ข้าวผัดแหนม | 1 จาน | 610 |
ข้าวผัดอเมริกัน | 1 จาน | 790 |
ข้าวราดผัดเผ็ดปลาดุก | 1 จาน | 544 |
ข้าวมันไก่ | 1 จาน | 585 |
ข้าวมันไก่ทอด | 1 จาน | 695 |
ข้าวมันส้มตำ เนื้อผัดหวาน | 1 จาน | 590 |
ข้าวยำปักษ์ใต้ | 1 จาน | 180 |
ข้าวแกงเขียวหวานลูกชิ้น | 1 จาน | 503 |
ข้าวแกงไตปลา+หมูทอด | 1 จาน | 380 |
ข้าวแกงมัสมั่นเนื้อ | 1 จาน | 477 |
ข้าวราดหน้าไก่ | 1 จาน | 400 |
ข้าวหน้ากุ้งผัดพริดสด | 1 จาน | 540 |
ข้าวหน้าเป็ด | 1 จาน | 495 |
ข้าวหมกไก่ | 1 จาน | 540 |
ข้าวหมูกระเทียม | 1 จาน | 525 |
ข้าวหมูแดง | 1 จาน | 560 |
ข้าวเหนียวหมูทอด | 1 จาน | 440 |
ข้าวเหนียวหมูสวรรค์ | 1 ชุด | 480 |
ข้าวอบเผือก | 1 จาน | 385 |
ครีมซุปไก่ | 1 ถ้วย | 160 |
โจ๊กหมู | 1 ถ้วย | 160 |
โจ๊กหมู ตับ ไข่ลวก | 1 ถ้วย | 230 |
ข้าวเหนียวหมูปิ้ง | 1 ชุด | 586 |
ข้าวไรซ์เบอรี่ | 1 จาน | 225 |
ตารางแคลอรี่อาหารประเภทเส้น
ชื่อเมนู | ปริมาณ/หน่วย | แคลอรี่ (kcal) |
กระเพาะปลา | 1 ถ้วย | 150 |
ก๋วยจั๊บ | 1 ชาม | 240 |
ก๋วยจั๊บญวณ | 1 ถ้วย | 235 |
ก๋วยเตี๋ยวแขก | 1 ถ้วย | 380 |
ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ | 1 จาน | 435 |
ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง | 1 ถ้วย | 320 |
ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเรียง | 1 ถ้วย | 370 |
ก๋วยเตี๋ยวเนื้อสับ | 1 จาน | 370 |
ก๋วยเตี๋ยวผัดกระเพราไก่ | 1 จาน | 440 |
ก๋วยเตี๋ยวผัดไทยกุ้งสดใส่ไข่ | 1 จาน | 545 |
ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าปลากระพง | 1 จาน | 435 |
ก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตกน้ำ | 1 ถ้วย | 180 |
ก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตกแห้ง | 1 ถ้วย | 225 |
ก๋วยเตี๋ยวเส้นปลา | 1 ชาม | 375 |
ก๋วยเตี๋ยวเส้นปลาแห้ง | 1 ชาม | 420 |
ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กต้มยำหมู | 1 ชาม | 335 |
ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กหมูแห้ง | 1 ชาม | 330 |
ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ผัดซีอิ๊วใส่ไข่ | 1 จาน | 520 |
ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ราดหน้าหมู | 1 จาน | 405 |
ก๋วยเตี๋ยวหลอด | 1 จาน | 225 |
เกาเหลาลูกชิ้นน้ำใส | 1 ถ้วย | 225 |
เกี๊ยวกรอบราดหน้ากุ้ง | 1 จาน | 635 |
เกี๊ยวน้ำกุ้ง | 1 ชาม | 275 |
เกี๊ยวปลาน้ำ | 1 ถ้วย | 165 |
โกยซีหมี่ | 1 จาน | 550 |
ขนมจีนซาวน้ำ | 1 จาน | 320 |
ขนมจีนน้ำเงี้ยว | 1 ถ้วย | 305 |
ขนมจีนน้ำพริก | 1 จาน | 450 |
ขนมจีนน้ำยา | 1 จาน | 375 |
ขนมหัวผักกาดผัด | 1 จาน | 560 |
ขนมหัวผักกาดผัดใส่ไข่ | 1 จาน | 630 |
ข้าวซอยไก่, หมู | 1 ถ้วย | 395 |
ข้าวปุ้น (ส้มตำ – ขนมจีน) | 1 จาน | 180 |
บะหมี่กรอบราดหน้า | 1 จาน | 515 |
บะหมี่กรอบราดหน้า ไก่ หน่อไม้ | 1 จาน | 660 |
บะหมี่กรอบราดหน้ารวมมิตร | 1 จาน | 690 |
มาม่าผัดกระเพราหมู | 1 จาน | 540 |
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปผัดขี้เมา | 1 จาน | 530 |
บะหมี่เกี๊ยวเป็ดย่าง | 1 ถ้วย | 415 |
บะหมี่เกี๊ยวหมูแดง-น้ำ | 1 ชาม | 305 |
บะหมี่น่องไก่-น้ำ | 1 ชาม | 375 |
บะหมี่น้ำต้มยำหมู | 1 ถ้วย | 300 |
บะหมี่เป็ดน้ำ | 1 ถ้วย | 370 |
บะหมี่แห้งหมูแดง | 1 จาน | 345 |
ผัดไทยไข่ห่อ | 1 จาน | 565 |
ผัดไทยไร้เส้น | 1 จาน | 350 |
เฝอ | 1 ถ้วย | 240 |
มักกะโรนีขี้เมาไก่ | 1 จาน | 520 |
มักกะโรนีผัดกุ้ง | 1 จาน | 420 |
ยากิโซบะ | 1 จาน | 400 |
ยำขนมจีน | 1 จาน | 220 |
เย็นตาโฟน้ำ | 1 ชาม | 290 |
วุ้นเส้นผัดไทยกุ้งสด | 1 จาน | 520 |
สปาเกตตี้กระเพรากุ้ง | 1 จาน | 485 |
สปาเก็ตตี้ไก่อบ | 1 จาน | 430 |
สุกี้กี้ไก่น้ำ | 1 ชาม | 345 |
สุกีกี้แห้งทะเล | 1 ถ้วย | 280 |
เส้นจันท์ผัดปู | 1 จาน | 575 |
เส้นหมี่ลูกชิ้นน้ำใส | 1 ชาม | 225 |
เส้นหมี่ลูกชิ้นหมูแห้ง | 1 ถ้วย | 430 |
หมี่กรอบราดหน้าหมู | 1 จาน | 690 |
หมี่กะทิ | 1 จาน | 405 |
หมี่ซั่วผัด | 1 จาน | 395 |
ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ราดหน้าหมู,ไก่ | 1 ชาม | 397 |
เส้นหมี่ลูกชิ้นเนื้อวัวน้ำ | 1 ชาม | 226 |
เส้นใหญ่ผัดซีอิ๊วหมูใส่ไข่ | 1 จาน | 679 |
ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ราดหน้ากุ้ง | 1 ชาม | 292 |
ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่เย็นตาโฟน้ำ | 1 ชาม | 352 |
ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ราดหน้าไก่ | 1 ชาม | 385 |
ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ราดหน้าหมู | 1 ชาม | 397 |
ก๋วยเตี๋ยวเนื้อสับ | 1 ชาม | 417 |
ก๋วยเตี๋ยวแกง | 1 ชาม | 454 |
ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กแห้งหมู | 1 ชาม | 530 |
ก๋วยเตี๋ยวผัดไทยไส่ไข่ | 1 ชาม | 577 |
ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ผัดซีอิ๊วหมูใส่ไข่ | 1 จาน | 679 |
ก๋วยเตี๋ยวหลอด | 1 จาน | 266 |
ก๋วยจั๊บน้ำใส | 1 ชาม | 259 |
ก๋วยจั๊บน้ำข้น | 1 ชาม | 279 |
เส้นหมี่ลูกชิ้นเนื้อวัว | 1 ชาม | 226 |
เส้นหมี่ลูกชิ้นน้ำ | 1 ชาม | 256 |
เส้นหมี่เนื้อสดน้ำ | 1 ชาม | 256 |
เส้นหมี่เนื้อเปื่อยน้ำ | 1 ชาม | 298 |
เส้นหมี่เนื้อสด เนื้อเปื่อยน้ำ | 1 ชาม | 289 |
เส้นใหญ่หมูน้ำ | 1 ชาม | 278 |
เส้นเล็กหมูแห้ง | 1 ชาม | 488 |
เส้นหมี่ลูกชิ้นน้ำใส | 1 ชาม | 225 |
เส้นหมี่ลูกชิ้นหมูแห้ง | 1 ถ้วย | 430 |
หมี่กรอบราดหน้าหมู | 1 จาน | 690 |
หมี่กะทิ | 1 จาน | 405 |
ตารางแคลอรี่อาหารญี่ปุ่น
ชื่อเมนู | ปริมาณ/หน่วย | แคลอรี่ (kcal) |
ชุดสุกี้ยากี้ | 1 ชาม | 925 |
ข้าวหน้าเทมปุระ | 1 ชาม | 880 |
ข้าวหน้าปลาไหล | 1 ชาม | 794 |
ข้าวหน้าเนื้อ | 1 ชาม | 720 |
ข้าวหน้าไก่โอยาโกะด้ง | 1 ชาม | 690 |
ข้าวหน้าปลามากุโระ | 1 ชาม | 620 |
ข้าวอบ | 1 ชาม | 373 |
ข้าวสวย | 1 ชาม | 252 |
ชุดปลาซาบะต้มมิโซะ | 1 ชาม | 755 |
ชุดปลาอาจิทอด | 1 ชาม | 770 |
ข้าวหน้าหมูทอดคัทซึด้ง | 1 ชาม | 1020 |
ชุดปลาอาจิย่างเกลือ | 1 ชาม | 720 |
มิโซะซุป | 1 ถ้วย | 21 |
ซูชิหน้าแซลมอน | 1 คำ | 53 |
ซูชิหน้าไข่หวานทามาโกะ | 1 คำ | 63 |
ซูชิหน้าปลาไหลอุนาหงิ | 1 คำ | 60 |
ซูชิหน้ากุ้งนิกิริ | 1 คำ | 42 |
ซูชิหน้าไข่ปลาอิคุระ | 1 คำ | 42 |
ซูชิหน้าหอยเชลล์โฮตาเตะ | 1 คำ | 43 |
ซูชิหน้าปูอัดคานิ | 1 คำ | 45 |
ซูชิหน้าปลาฮามาจิ | 1 คำ | 51 |
ซูชิหน้าปลาทูน่า | 1 คำ | 35 |
ซูชิหน้าปลามากุโระ | 1 คำ | 40 |
แคลอรี่ต่อวัน
ปกติแล้วปริมาณของแคลอรี่ที่ควรบริโภคต่อวันสำหรับคนทั่วไปที่ทำงานหนักปานกลาง คือประมาณ 2,000 กิโลแคลอรี่ แต่สำหรับผู้ที่ทำงานหนักหรือต้องใช้พลังงานมาก เช่น กรรมกร หรือนักกีฬา ก็ต้องการพลังงานมากกว่านี้ ส่วนผู้ที่ทำงานเบากว่าคนปกทั่วไปก็ต้องการพลังงานน้อยกว่านี้ และการบริโภคในแต่ละมื้อสำหรับคนทั่วไม่ควรจะเกิน 600 กิโลแคลอรี่ โดยอาหารจานเดียว อย่างเช่น ข้าวผัด ก๋วยเตี๋ยว จะให้พลังงานประมาณ 300-500 กิโลแคลอรี่
ตามคำแนะนำของ Thai Recommended Daily Intakes (Thai RDI) ได้ระบุปริมาณของสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวันสำหรับคนไทยที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป ซึ่งคิดจากความต้องการพลังงานวันละ 2,000 แคลอรี่ โดยปริมาณที่ควรบริโภคต่อวันของคาร์โบไฮเดรตคิดเป็น 60% (1,200 กิโลแคลอรี่) หรือเป็นปริมาณที่ควรบริโภคเท่ากับ 300 กรัมต่อวัน, โปรตีน 10% (200 กิโลแคลอรี่) หรือเป็นปริมาณที่ควรบริโภคเท่ากับ 50 กรัมต่อวัน, และไขมัน 30% (600 กิโลแคลอรี่) หรือเป็นปริมาณที่ควรบริโภคเท่ากับ 66.6 กรัมต่อวัน หากต้องการพลังงานมากหรือน้อยกว่านี้ให้ปรับเพิ่มหรือลดลงตามสัดส่วนจากพลังงานทั้งหมดที่ต้องการต่อวัน ซึ่งร่างกายของเราจะใช้พลังงานเหล่านี้ในการทำให้ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายทำงานและกักเก็บพลังงานส่วนเกินไว้ในรูปของไขมันและแหล่งพลังงานอื่น ๆ ตามอวัยวะในร่างกายไว้ใช้ในอนาคต
คํานวณแคลอรี่
ทั่วไปแล้วคนเราจะต้องการแคลอรี่วันละประมาณ 20-35 แคลอรี่ ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ซึ่งขึ้นอยู่กับว่ามีเราไขมันส่วนเกินอยู่ในร่างกายมากน้อยเพียงใด และมีกิจกรรมต่าง ๆ ในแต่ละวันว่ามากน้อยแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การวิ่ง การออกกำลังกาย การทำงาน ฯลฯ
- แคลอรี่ที่ต้องการใช้ในแต่ละวันสำหรับผู้ชาย = น้ำหนักตัว x 31 (ตัวอย่างเช่น น้ำหนัก 60 ก็จะได้คำนวณได้แคลอรี่ที่ต้องการใช้ต่อวันเท่ากับ 60×31= 1,860 กิโลแคลอรี่) หรือโดยเฉลี่ยประมาณ 2,000 กิโลแคลอรี่
- แคลอรี่ที่ต้องการใช้ในแต่ละวันสำหรับผู้หญิง = น้ำหนักตัว x 27 (ตัวอย่างเช่น น้ำหนัก 50 ก็จะได้คำนวณได้แคลอรี่ที่ต้องการใช้ต่อวันเท่ากับ 50×27= 1,350 กิโลแคลอรี่) หรือโดยเฉลี่ยประมาณ 1,600 กิโลแคลอรี่
จำนวนแคลอรี่ที่แต่ละคนใช้ไปในแต่ละวัน หรือที่เรียกว่า Total Daily Energy Expenditure (TDEE) เพื่อให้เข้าใจง่าย จึงขอแบ่งตามความต้องการแคลอรี่ของคนทั่วไปออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
- ผู้ที่ใช้พลังงานวันละประมาณ 1,200-1,600 แคลอรี่ ได้แก่ ผู้หญิงตัวเล็กที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และผู้หญิงที่มีรูปร่างกายปานกลางที่ไม่ได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่กำลังต้องการลดน้ำหนักอยู่พอดี
- ผู้ที่ใช้พลังงานวันละประมาณ 1,600-2,000 แคลอรี่ ได้แก่ ผู้หญิงที่มีรูปร่างใหญ่ ผู้ชายที่มีรูปร่างเล็กที่ใช้แรงงานมาก ผู้ชายรูปร่างกายปานกลางที่ไม่ได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และผู้ชายที่รูปร่างปานกลางที่ใช้แรงงานมากอยู่แล้วและอยากลดน้ำหนักด้วย
- ผู้ที่ใช้พลังงานวันละประมาณ 2,000-2,400 แคลอรี่ ได้แก่ ผู้หญิงหรือผู้ชายที่มีรูปร่างกายขนาดกลางถึงใหญ่ที่ชอบออกแรงทั้งวัน ผู้ชายรูปร่างใหญ่มากที่ไม่ได้ใช้แรงงานอะไรมากมาย และผู้ชายรูปร่างใหญ่มากและใช้งานมาก อีกทั้งยังต้องการลดน้ำหนักด้วย
จากตัวเลขด้านบนเป็นเพียงตัวเลขโดยประมาณเท่านั้น หากต้องการความแม่นยำ ก็ต้องคำนวณผ่านสูตร และจำเป็นต้องทราบจำนวนแคลอรี่ที่ใช้ต่อวันโดยไม่มีกิจกรรม (basal metabolic rate หรือ BMR) ของตัวเราก่อน ซึ่งจะคำนวณได้จากสูตร Katch-McArdle formula ดังนี้ BMR = 370 + (21.6 x LBM)
โดยค่า LBM (lean body mass) ก็คือน้ำหนักตัวที่หักเอาไขมันออกไปแล้ว ซึ่งโดยปกติเราจะมีค่า LBM ประมาณ 70-75% ของน้ำหนักตัวปกติ แต่ถ้าจะคิดให้ละเอียดก็ต้องใช้สูตรคำนวณดังต่อไปนี้
- LBM ชาย = 0.32810 x (น้ำหนักตัวคิดเป็นกิโลกรัม) + [(0.33929 x (ส่วนสูงเป็นเซนติเมตร)] – 29.5336
- LBM หญิง = 0.29569 x (น้ำหนักตัวคิดเป็นกิโลกรัม) + [(0.42813 x (ส่วนสูงเป็นเซนติเมตร)] – 43.2933
ยกตัวอย่างเช่น นาย ก. มีน้ำหนักตัว 65 กิโลกรัม และมีความสูง 165 เซนติเมตร มีกิจกรรมปานกลาง (ทำงานออฟฟิศ และออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำวันละ 1 ชั่วโมง) เมื่อคำนวณน้ำหนักตัวหลังหักไขมันแล้ว จะได้ค่า LBM เท่ากับ (0.32810 x 65 = 21.3265) + (0.33929 x 165 = 55.98285) – 29.5336 = 44.77575 ดังนั้น ค่า LBM จึงเท่ากับ 47.8 กิโลกรัม
เมื่อได้ค่า LBM มาแล้วก็ไปหาค่า BMR โดยใช้สูตร BMR = 370 + (21.6 x LBM) เมื่อนำมาคำนวณจะได้ BMR = 370 + (21.6 x 47.8) = 1,402.48 ดังนั้นแคลอรี่ใช้ต่อวัน (BMR) คือ 1,402 กิโลแคลอรี่ หรือคิดเป็น 58.4 แคลอรี่ต่อชั่วโมง
เมื่อเราได้ค่า BMR ของเรามาแล้ว จึงเอามาค่านี้มาคูณด้วย “ตัวเลขปัจจัยกิจกรรม” ซึ่งจะมีค่าตั้งแต่ 1.2-1.9 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่ามีกิจกรรมหนักหรือเบา ซึ่งผลคูณที่ได้คือจำนวนแคลอรี่ที่ตัวจะใช้ในแต่ละวัน (TDEE) จากตัวอย่างเราทราบว่านาย ก. มีกิจกรรมปานกลาง ดังนั้น ค่าตัวเลขปัจจัยกิจกรรม ก็น่าจะมีค่าประมาณ 1.5 เมื่อเอามาคูณกับ BMR ก็จะได้จำนวนแคลอรี่ที่ต้องใช้ในแต่ละวัน (TDEE) เท่ากับ 2,103 กิโลแคลอรี่
ที่มา – medthai.com