สมาร์ทวอทช์ (Smart Watch) ที่มี SpO2 มีมานานหลายปีแล้ว แต่ตอนนี้กำลังได้รับความสนใจจากทุกคน เนื่องจากการติดเชื้อ COVID-19 ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจซึ่งส่งผลให้ระดับออกซิเจนในเลือดลดลงผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้ใช้เครื่องวัดความอิ่มตัวของออกซิเจน ส่งผลให้ผู้ผลิตสมาร์ทวอทช์หลายรายเริ่มใช้เซ็นเซอร์ SpO2 ในผลิตภัณฑ์ของตน แต่ตัววัดค่าออกซิเจนในเลือด (SpO2) บนสมาร์ทวอทช์การวัดระดับออกซิเจนในเลือดไม่ตรงตามมาตรฐาน แต่ก็สามารถช่วยวัดได้ว่าร่างกายของคุณดูดซึมออกซิเจนอย่างไรและแจ้งเตือนคุณถ้ามีค่าต่ำเกินไป
สมาร์ทวอทช์ (Smart Watch)
สมาร์ทวอทช์ คือ นาฬิกาข้อมือที่เป็นมากกว่าที่บอกเวลา มาพร้อมฟังก์ชั่นอื่น ๆ ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย เช่น การสนทนาโทรศัพท์ผ่านตัวนาฬิกาได้ แสดงแผนที่และนําทาง, เป็นรีโมทคุมเพลงบนสมาร์ทโฟน, แสดงปฎิทิน และเก็บข้อมูลการเดิน วัดการ เต้นของหัวใจ วัดกิจกรรมการออกกาลังกายต่าง ๆ ได้ เพื่อเป็นการช่วยดูแลสุขภาพของคุณ
โดยส่วนมากแล้วต้องทํางานร่วมกับสมาร์ทโฟน ควบคู่กันไปผ่านการเชื่อมต่อบลูทูธ แต่มีบางฟังก์ชั่น เช่น การเก็บข้อมูลเบื้องต้นสามารถใช้งานแยกกับสมาร์ทโฟน แล้วค่อยกลับมาส่งข้อมูลกลับไปเก็บบนสมาร์ทโฟนภายหลังได้ สามารถติดตั้งแอปพลิเคชันเพื่อเสริมฟังก์ชั่นเพิ่มเติมจากสมาร์ทโฟนได้
ออกซิเจนในเลือดคืออะไร
ระดับออกซิเจนในเลือดของคุณแสดงถึงเปอร์เซ็นต์ของออกซิเจนที่เซลล์เม็ดเลือดแดงสามารถนำออกจากปอดไปสู่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ การทราบว่าเลือดของคุณสามารถทำหน้าที่ที่สำคัญนี้ได้ดีเพียงใดจะช่วยให้คุณเข้าใจถึงสุขภาพโดยรวมของคุณเองได้
คนส่วนใหญ่จะมีระดับออกซิเจนในเลือดอยู่ที่ 95 – 100% อย่างไรก็ตาม ยังมีคนบางกลุ่มที่สามารถดำเนินชีวิตตามปกติได้โดยมีระดับออกซิเจนในเลือดต่ำกว่า 95% ค่าที่ต่ำกว่าปกติเล็กน้อยซึ่งวัดได้ขณะนอนหลับถือเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้ ผู้ใช้บางรายอาจวัดค่าได้ต่ำกว่า 95% ด้วย
1. Apple Watch Series 6
ระดับออกซิเจนในเลือดเป็นค่าสำคัญที่บ่งบอกความแข็งแรงสมบูรณ์โดยรวมของคุณ อีกทั้งยังช่วยให้เข้าใจว่าร่างกายของคุณดูดซึมออกซิเจนได้ดีแค่ไหน รวมถึงปริมาณออกซิเจนที่ร่างกายของคุณได้รับ ซึ่ง Apple Watch Series 6 ก็มาพร้อมเซ็นเซอร์และแอปอันน่าทึ่งที่ให้คุณอ่านค่าออกซิเจนในเลือดของคุณได้ทุกเมื่อที่ต้องการ และยังทำการวัดค่าในเบื้องหลังทั้งกลางวันและกลางคืนอีกด้วย
เซ็นเซอร์สุดล้ำ ทรงพลังลงลึก เซ็นเซอร์วัดออกซิเจนในเลือดประกอบขึ้นจากกลุ่มไฟ LED จำนวน 4 ดวง และโฟโต้ไดโอด 4 ตัว และถูกรวมเข้าไว้ในฝาหลังคริสตัลที่ออกแบบมาใหม่หมด โดยเซ็นเซอร์นี้จะทำงานร่วมกับแอปออกซิเจนในเลือดเพื่อวัดค่าระดับออกซิเจนในเลือดของคุณ
ส่องแสงอย่างล้ำลึก LED สีเขียว สีแดงและอินฟราเรดจะส่องแสงลงบนเส้นเลือดในข้อมือคุณ โดยมีโฟโต้ไดโอดทำหน้าที่
วัดปริมาณแสงที่สะท้อนกลับมา จากนั้นอัลกอริทึมอันล้ำสมัยก็จะคำนวณสีของเลือด ซึ่งบ่งบอกปริมาณออกซิเจนที่มีอยู่
2. Fitbit Sense
หากคุณมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับหรือโรคหอบหืด นาฬิกา Fitbit มันสามารถช่วยให้คุณตรวจสอบระดับความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดของคุณในขณะที่คุณนอนหลับ มันแสดงให้คุณเห็นการอ่านที่รวบรวมในตอนกลางคืนของวันถัดไปและช่วยให้คุณวิเคราะห์เปอร์เซ็นต์ออกซิเจนในเลือดของคุณ
มีคุณสมบัติการติดตามสุขภาพอื่น ๆ อีกมากมายที่ทำให้สมาร์ทวอทช์รุ่นนี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่กังวลเกี่ยวกับสุขภาพและการออกกำลังกาย
3. Garmin Vivoactive 4
สมาร์ทวอทช์ (Smart Watch) เหล่านี้มาพร้อมกับการติดตามสุขภาพขั้นพื้นฐานคุณสมบัติเช่นการตรวจสอบอัตราการเต้นหัวใจ, การติดตามการนอนหลับ ฯลฯ
ใน Vivoactive 4 คุณจะได้รับเซ็นเซอร์ Pulse Ox ที่จะช่วยตรวจวัดค่าออกซิเจนในเลือดของคุณ คุณสามารถตั้งค่าให้ติดตามออกซิเจนตลอดเวลาหรือจะตั้งค่าให้ติดตามระดับออกซิเจนเมื่อคุณนอนหลับก็ได้ สิ่งนี้มีประโยชน์ในการติดตามการใช้ออกซิเจนของคุณในระหว่างการนอนหลับและหากคุณมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับการติดตามระดับออกซิเจนในตอนกลางคืนสำคัญอย่างยิ่ง
4. Samsung Galaxy Watch 3
หากคุณกำลังมองหาสมาร์ทวอทช์ระดับพรีเมี่ยมที่สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์ Android ได้ดี Samsung Watch 3 คือตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณ นอกจากนี้ยังสามารถวัดความดันโลหิตทั้ง Systolic/Diastolic, การวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) และ ออกซิเจนในกระแสเลือด (SpO2) ได้ด้วยตัวเอง
รวมถึงฟังก์ชั่นตรวจวัดสุขภาพมาตรฐานไม่ว่าจะเป็น อัตราการเต้นหัวใจ, ความเครียด, คุณภาพในการนอนหลับ, ติดตามรอบเดือน และ ตรวจจับการล้ม อีกทั้งยังมีระบบวิเคราะห์การออกกำลังกายด้วย Exercise Analysis รวมไปถึง Fitness Program ที่ช่วยให้ผู้สวมใส่ออกกำลังกายได้ง่ายขึ้น
5. Huawei Honor Band 5
Honor Band 5 มาพร้อมกับคุณสมบัติการตรวจวัดคลื่นหัวใจ มีเซนเซอร์ SpO2 สำหรับวัดออกซิเจนในเลือดที่เป็นประโยชน์เวลาผจญภัย โดยเฉพาะการปีนเขาสูง พร้อมกับการได้รับมาตรฐานการป้องกันน้ำลึกถึง 50 เมตร มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ระบบติดตามการนอนหลับและมีฟีเจอร์ติดตามการเล่นกีฬาถึง 10 ชนิด เช่น การวิ่งในที่ร่ม การวิ่งกลางแจ้ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ ฯลฯ
อย่างไรก็ตามไม่ควรใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์เนื่องจากไม่ถูกต้อง 100% ทางที่ดีควรใช้เครื่องวัดค่าออกซิเจนในเลือด (SpO2) ที่ได้รับการรับรองทางการแพทย์