ซีรีส์

40 ซีรีส์เกาหลีน่าจับตา เตรียมระเบิดความมันส์ 2025

วงการซีรีส์เกาหลีในปี 2025 กำลังจะกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง ด้วยการรวมตัวของนักแสดงระดับแถวหน้าและผู้กำกับมากฝีมือ ที่พร้อมจะส่งมอบผลงานคุณภาพสู่สายตาผู้ชมทั่วโลก ปีนี้เราจะได้พบกับความหลากหลายของเนื้อหาที่น่าสนใจ ตั้งแต่แนวโรแมนติกคอมเมดี้ ไปจนถึงแนวแอคชั่นระทึกขวัญ

ในปี 2025 นี้ ค่ายผู้ผลิตซีรีส์ยักษ์ใหญ่ต่างทุ่มงบประมาณมหาศาลในการสร้างสรรค์ผลงาน โดยมีการนำเทคโนโลยีการถ่ายทำที่ทันสมัยมาใช้ พร้อมทั้งคัดสรรบทประพันธ์ชั้นเยี่ยมมาดัดแปลง นอกจากนี้ยังมีการจับคู่นักแสดงที่ไม่เคยร่วมงานกันมาก่อน สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆ ทั่วเอเชีย

การกลับมาของนักแสดงดังหลายคนที่เพิ่งผ่านการเกณฑ์ทหาร รวมถึงการเปิดตัวนักแสดงหน้าใหม่ที่มากความสามารถ ทำให้ซีรีส์เกาหลีในปี 2025 มีความน่าสนใจเป็นพิเศษ แฟนๆ จะได้เห็นการผสมผสานระหว่างความสดใหม่ของนักแสดงรุ่นใหม่ และประสบการณ์อันเปี่ยมล้นของนักแสดงรุ่นพี่

Love Scout (2025)

Love Scout (2025)

“Love Scout รับจ้างจัดหารัก” (2025) เป็นซีรีส์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ที่เล่าเรื่องราวของ “คังจียุน” ซีอีโอสาวผู้ประสบความสำเร็จในธุรกิจจัดหาบุคลากรระดับสูง แต่กลับล้มเหลวในเรื่องชีวิตส่วนตัว เธอจ้าง “ยูอึนโฮ” คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่มีความสามารถรอบด้านมาเป็นเลขาส่วนตัว แม้ทั้งสองจะมีบุคลิกและมุมมองชีวิตที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่การทำงานร่วมกันกลับสร้างสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาไปตลอดกาล

เรื่องราวดำเนินไปพร้อมกับการเติบโตของตัวละครทั้งสอง คังจียุนเริ่มเรียนรู้ที่จะเปิดใจและปรับสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว ขณะที่ยูอึนโฮช่วยให้เธอเข้าใจถึงคุณค่าของความสัมพันธ์และความสุขในชีวิตประจำวัน ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาค่อยๆ พัฒนาไปสู่ความรักที่อบอุ่น ท่ามกลางความท้าทายจากทั้งงานและชีวิตส่วนตัว

บทความที่เกี่ยวข้อง
Advertisement

ซีรีส์นี้สะท้อนถึงการทำงานในโลกธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง พร้อมแทรกด้วยอารมณ์ขันและความโรแมนติกที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกอบอุ่นหัวใจ เป็นเรื่องราวที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบซีรีส์แนวทำงานผสมผสานกับการค้นหาความหมายของชีวิตและความรัก

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: Love Scout รับจ้างจัดหารัก
  • ประเภท: โรแมนติก, คอมเมดี้, ดราม่า
  • วันที่ออกอากาศ: 3 มกราคม 2025
  • นักแสดงนำ: ฮันจีมิน (Han Ji Min), อีจุนฮยอก (Lee Joon Hyuk)
  • ผู้กำกับ: ฮัมจุนโฮ (Ham Joon-Ho)
  • จำนวนตอน/ความยาว: 12 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb: 8.7/10
  • ช่องทางการดู: Netflix

When the Stars Gossip (2025)

ดาวระยิบกระซิบรัก | When the Stars Gossip (2025)

“ดาวระยิบกระซิบรัก” (When the Stars Gossip) เป็นซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ไซไฟที่เล่าเรื่องราวความรักในบรรยากาศสุดพิเศษบนสถานีอวกาศ กงรยอง (รับบทโดย อีมินโฮ) สูตินรีแพทย์หนุ่มผู้มีความรับผิดชอบสูงและถูกวางตัวเป็นลูกเขยของกลุ่มมหาเศรษฐี เขาตัดสินใจเดินทางไปยังสถานีอวกาศในฐานะนักท่องเที่ยวเพื่อปฏิบัติภารกิจลับบางอย่างที่ไม่มีใครรู้

ในขณะเดียวกัน อีฟ คิม (รับบทโดย กงฮโยจิน) นักบินอวกาศหญิงชาวเกาหลี-อเมริกันที่ทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการสถานีอวกาศ เธอเป็นคนเคร่งครัดและไม่ยอมให้เกิดข้อผิดพลาดใดๆ ภายใต้การดูแลของเธอ การพบกันของทั้งสองคนที่มีบุคลิกต่างขั้วนำไปสู่เรื่องราวความรักที่เริ่มต้นจากความขัดแย้ง แต่กลับพัฒนาเป็นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งท่ามกลางดวงดาว

ซีรีส์นี้ผสมผสานเรื่องราวความรัก ความฝัน และการทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไร้แรงโน้มถ่วง พร้อมด้วยโปรดักชันระดับสูงที่ถ่ายทอดความงดงามของห้วงอวกาศได้อย่างสมจริง เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ไม่ควรพลาดสำหรับแฟนซีรีส์แนวโรแมนติกไซไฟ

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ดาวระยิบกระซิบรัก
  • ประเภท: โรแมนติก, คอมเมดี้, ไซไฟ
  • วันที่ออกอากาศ: 4 มกราคม 2025
  • นักแสดงนำ: อีมินโฮ, กงฮโยจิน
  • ผู้กำกับ: พัคชินอู
  • จำนวนตอน/ความยาว: 16 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb: 7.8/10
  • ช่องทางการดู: Netflix

Motel California (2025)

Motel California (2025) #2

Motel California (2025) เป็นซีรีส์เกาหลีแนวโรแมนติก-ดราม่า ที่เล่าถึงเรื่องราวของ จีคังฮี หญิงสาวที่เติบโตในโมเทลชนบทชื่อ “Motel California” ซึ่งพ่อของเธอเป็นเจ้าของ ด้วยพื้นเพครอบครัวที่ไม่ธรรมดา ทำให้เธอต้องเผชิญกับคำซุบซิบนินทาและความเจ็บปวดในวัยเด็ก เมื่อเธออายุ 20 ปี เธอตัดสินใจทิ้งบ้านเกิดเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ในกรุงโซล

12 ปีต่อมา ในขณะที่เธอกำลังประสบความสำเร็จในฐานะนักออกแบบภายใน เหตุการณ์บางอย่างทำให้เธอต้องกลับมายังบ้านเกิดอีกครั้ง และได้พบกับ ชอนยอนซู รักแรกของเธอที่ยังคงทำงานเป็นสัตวแพทย์ในหมู่บ้าน ทั้งสองต้องเผชิญหน้ากับอดีต ความเข้าใจผิด และความรู้สึกที่ยังคงอยู่ เพื่อค้นหาความหมายของความรักและการเยียวยาชีวิต

ซีรีส์นี้สร้างจากนวนิยายชื่อดัง Home, Bitter Home โดย ชิมยุนซอ ถ่ายทอดเรื่องราวของการกลับไปเผชิญอดีตและการเริ่มต้นใหม่ พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา

  • ประเภท: โรแมนติก, ดราม่า
  • วันที่ออกอากาศ: 10 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2025
  • นักแสดงนำ: อีเซยอง (จีคังฮี), นาอินอู (ชอนยอนซู)
  • ผู้กำกับ: คิมฮยองมิน
  • จำนวนตอน/ความยาว: 12 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb: 7.1/10
  • ช่องทางการดู: MONOMAX

Unmasked (2025)

Unmasked (2025)

ซีรีส์ Unmasked เล่าเรื่องราวของทีมข่าวสืบสวนชื่อ “Trigger” ที่ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ หลังจากที่พวกเขาเผยแพร่รายงานที่สร้างความไม่พอใจให้กับผู้สนับสนุนหลัก ทีมงานต้องทำงานแข่งกับเวลาเพื่อรักษาหน้าที่การงานของตน โดยการไขคดีปริศนาที่เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีก่อน เกี่ยวกับการหายตัวไปอย่างลึกลับของนักแสดงชื่อดัง การสืบสวนครั้งนี้นำพวกเขาไปสู่เครือข่ายความลับและการสมรู้ร่วมคิดที่ซับซ้อน

เรื่องราวเต็มไปด้วยความเข้มข้นและอารมณ์ขัน โดยเน้นถึงความสัมพันธ์ในทีมที่หลากหลายตั้งแต่หัวหน้าทีมผู้เด็ดเดี่ยว Oh So-ryong ไปจนถึงสมาชิกใหม่อย่าง Han Do ที่ยังคงค้นหาตัวตนในทีม และ Kang Gi-ho ผู้มีความทะเยอทะยานสูง การผสมผสานระหว่างความแตกต่างของตัวละครเหล่านี้สร้างความสมดุลและทำให้เรื่องราวน่าติดตาม

ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่สำรวจประเด็นเกี่ยวกับการทำงานในวงการสื่อ แต่ยังพูดถึงจริยธรรมและผลกระทบทางอารมณ์ของการเปิดเผยความจริงในโลกที่เต็มไปด้วยความลวงหลอก Unmasked จึงเป็นซีรีส์ที่สะท้อนถึงความซับซ้อนของชีวิตจริงผ่านเลนส์ของทีมข่าวสืบสวน

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เปิดโปง
  • ประเภท: ออฟฟิศ, คอมเมดี้, แอ็กชัน, ระทึกขวัญ
  • วันที่ออกอากาศ: 15 มกราคม 2025
  • นักแสดงนำ: คิมฮเยซู, จองซองอิล, จูจงฮยอก
  • ผู้กำกับ: ยูซอนดง
  • จำนวนตอน/ความยาว: 12 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb: 8.0/10
  • ช่องทางการดู: Disney+

The Trauma Code: Heroes on Call (2025)

The Trauma Code: Heroes on Call (2025)

“The Trauma Code: Heroes on Call” หรือในชื่อภาษาไทย “ชั่วโมงโกงความตาย” เป็นซีรีส์แนวการแพทย์ที่บอกเล่าเรื่องราวของศัลยแพทย์อัจฉริยะ แพคคังฮยอก ผู้เคยปฏิบัติงานในเขตสงครามทั่วโลก ด้วยความสามารถที่โดดเด่นและบุคลิกที่มั่นใจในตัวเอง เขาได้รับตำแหน่งหัวหน้าทีมศัลยกรรมฉุกเฉินในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งทีมนี้ต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งในด้านการช่วยชีวิตผู้ป่วยและการจัดการทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด

เรื่องราวเน้นไปที่ความพยายามของแพคคังฮยอกในการสร้างทีมศัลยกรรมฉุกเฉินให้เป็นทีมที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แม้ว่าการดำเนินงานจะทำให้โรงพยาบาลต้องเผชิญกับปัญหาทางการเงินก็ตาม เขาและทีมต้องรับมือกับสถานการณ์ที่กดดันและการตัดสินใจที่เสี่ยงชีวิต ขณะเดียวกันยังมีเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในทีมที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและความท้าทายส่วนตัว

ซีรีส์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของการทำงานเป็นทีม ความเสียสละ และจิตวิญญาณของผู้ที่ทำงานในสายงานการแพทย์ พร้อมด้วยฉากผ่าตัดที่เข้มข้นและดราม่าที่ลึกซึ้ง “ชั่วโมงโกงความตาย” จึงเป็นซีรีส์ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวแนวการแพทย์และดราม่าเข้มข้น

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ชั่วโมงโกงความตาย
  • ประเภท: การแพทย์, ดราม่า, ระทึกขวัญ
  • วันที่ออกอากาศ: 24 มกราคม 2025
  • นักแสดงนำ: จูจีฮุน, ชูยองอู, ยุนคยองโฮ, ฮายอง, จองแจกวัง
  • ผู้กำกับ: อีโดยุน
  • จำนวนตอน/ความยาว: 8 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb: 8.0/10
  • ช่องทางการดู: Netflix

Newtopia (2025)

Newtopia (2025)

ในซีรีส์เกาหลี Newtopia (2025) เรื่องราวเริ่มต้นจากการเลิกราของคู่รัก Kang Young-ju และ Lee Jae-yoon ที่ดูเหมือนจะเป็นเพียงจุดจบของความสัมพันธ์ธรรมดาๆ แต่กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด เมื่อเกิดการระบาดของไวรัสซอมบี้ในกรุงโซล Lee Jae-yoon ซึ่งเป็นทหารต้องเผชิญหน้ากับหน้าที่ปกป้องประชาชน ในขณะที่ Kang Young-ju วิศวกรสาวผู้กล้าหาญ พยายามฝ่าฝูงซอมบี้เพื่อกลับไปหาเขา

ซีรีส์นี้เล่าเรื่องราวของความรักและการเสียสละท่ามกลางโลกที่เต็มไปด้วยความโกลาหล ทั้งสองต้องเผชิญหน้ากับความกลัวและความไม่แน่นอนในขณะที่พยายามหาหนทางกลับมาพบกันอีกครั้ง การเดินทางของพวกเขาเต็มไปด้วยอุปสรรค ทั้งจากซอมบี้ที่น่าสะพรึงกลัวและความท้าทายทางอารมณ์ที่ต้องเผชิญ

Newtopia ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องราวของการเอาชีวิตรอด แต่ยังสำรวจถึงความหมายของความสัมพันธ์และการยืนหยัดในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด ด้วยฉากแอ็กชันที่น่าตื่นเต้นและบทที่ลึกซึ้ง ซีรีส์นี้นำเสนอการผสมผสานระหว่างดราม่า โรแมนติก และระทึกขวัญได้อย่างลงตัว

  • ประเภท: แอ็กชัน, ระทึกขวัญ, โรแมนติก, แฟนตาซี
  • วันที่ออกอากาศ: 7 กุมภาพันธ์ 2025
  • นักแสดงนำ: คิม จีซู (Jisoo), พัค จองมิน (Park Jeong-min)
  • ผู้กำกับ: ยุน ซังฮยอน (Yoon Sung-hyun)
  • จำนวนตอน/ความยาว: 8 ตอน
  • ช่องทางการดู: Prime Video

Buried Hearts (2025)

Buried Hearts (2025)

“Buried Hearts” (2025) เป็นซีรีส์เกาหลีแนวดราม่าล้างแค้นที่เล่าเรื่องราวของ Seo Dong-ju ชายผู้ทำงานในตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานเลขานุการของกลุ่มบริษัท Daesan Group เขาเป็นที่รู้จักในฐานะ “Daesan Man” ผู้ภักดีต่อบริษัท แต่ในความจริงแล้วเขามีเป้าหมายลับในการยึดครองบริษัททั้งหมดเพื่อความทะเยอทะยานของตัวเอง เมื่อเขาแฮ็กเข้าไปในบัญชีลับของกองทุนการเมืองที่มีมูลค่ามหาศาลถึง 2 ล้านล้านวอนเพื่อเอาชีวิตรอด เหตุการณ์นี้นำไปสู่การเผชิญหน้ากับ Yeom Jang-sun อดีตผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ ผู้ทรงอิทธิพลในโลกการเมืองและผู้ที่ไม่ยอมปล่อยให้ใครมาท้าทายอำนาจของเขา

เรื่องราวเต็มไปด้วยความซับซ้อนและการต่อสู้ทางจิตวิทยา ระหว่าง Dong-ju ผู้ที่ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดและ Jang-sun ผู้ซึ่งพยายามรักษาอำนาจและควบคุมทุกคนเหมือนหุ่นเชิด ในขณะเดียวกัน Yeo Eun-nam ตัวละครหญิงที่มีบทบาทสำคัญเข้ามาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ ทำให้เรื่องราวยิ่งเข้มข้นและน่าติดตาม

“Buried Hearts” ไม่เพียงแต่เป็นซีรีส์ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและปริศนา แต่ยังสะท้อนถึงความทะเยอทะยาน การแก้แค้น และการเสียสละในโลกที่เต็มไปด้วยการต่อสู้เพื่ออำนาจ เรื่องราวจะพาผู้ชมเข้าสู่โลกที่ไม่มีใครไว้ใจใครได้อย่างแท้จริง

  • ประเภท: ดราม่า, ลึกลับ, ระทึกขวัญ, แก้แค้น
  • วันที่ออกอากาศ: 14 กุมภาพันธ์ 2025
  • นักแสดงนำ: พัคฮยองชิก (Seo Dong-ju), ฮอจุนโฮ (Yeom Jang-sun), ฮงฮวายอน (Yeo Eun-nam)
  • ผู้กำกับ: จินชางกยู
  • จำนวนตอน/ความยาว: 16 ตอน
  • ช่องทางการดู:

My Dearest Nemesis (2025)

My Dearest Nemesis (2025)

My Dearest Nemesis เป็นซีรีส์ที่ดัดแปลงจากเว็บตูนชื่อดัง He is a Black Salt Dragon ถ่ายทอดเรื่องราวของความรักและความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างอดีตและปัจจุบัน แบคซูจอง หญิงสาวผู้มีพรสวรรค์ในการทำงาน ได้พบกับบันจูยอน เจ้านายคนใหม่ของเธอ ซึ่งเขาคือรักแรกที่เธอเคยพบในเกมออนไลน์เมื่อ 16 ปีก่อน การกลับมาพบกันอีกครั้งทำให้ทั้งสองต้องเผชิญหน้ากับความทรงจำในอดีตที่ยังคงฝากร่องรอยไว้ในใจ

เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อแบคซูจองทำงานในทีมวางแผนของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง และพบว่าบันจูยอนคือเจ้านายคนใหม่ของเธอ ทั้งสองเคยมีความสัมพันธ์ในเกมออนไลน์ที่เต็มไปด้วยความทรงจำหลากหลาย แต่ครั้งนั้นจบลงด้วยการปฏิเสธคำสารภาพรักของบันจูยอน การทำงานร่วมกันในปัจจุบันทำให้พวกเขาต้องเรียนรู้ที่จะจัดการกับความรู้สึกที่ยังค้างคา

นอกจากนี้ ซีรีส์ยังนำเสนอเรื่องราวของตัวละครอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ซอฮาจิน เพื่อนสนิทของแบคซูจอง และคิมชินวอน เพื่อนสนิทของบันจูยอน ซึ่งเสริมสร้างมิติให้กับเรื่องราวได้อย่างน่าสนใจ “My Dearest Nemesis” เป็นซีรีส์ที่ผสมผสานความโรแมนติกและคอมเมดี้ได้อย่างลงตัว พร้อมทั้งสะท้อนถึงการเติบโตและการให้อภัยในความสัมพันธ์

  • ประเภท: โรแมนติก, คอมเมดี้, ออฟฟิศ
  • วันที่ออกอากาศ: 17 กุมภาพันธ์ 2025
  • นักแสดงนำ: มุนกายอง, ชเวฮยอนอุค
  • ผู้กำกับ: อีซูฮยอน
  • จำนวนตอน/ความยาว: 16 ตอน
  • ช่องทางการดู: True Visions Now

Hyper Knife (2025)

Hyper Knife (2025)

Hyper Knife (2025) เป็นซีรีส์แนวการแพทย์-อาชญากรรมที่เข้มข้น เล่าเรื่องราวของ ด็อกฮี (รับบทโดย ซอลคยองกู) ศัลยแพทย์ระบบประสาทที่เก่งที่สุดในโลก แต่ต้องเผชิญกับความขัดแย้งเมื่อเขาเริ่มสงสัยในตัว เซอ๊ก (รับบทโดย พัคอึนบิน) ลูกศิษย์ผู้มีพรสวรรค์ หลังจากเกิดเหตุการณ์ในห้องผ่าตัดที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของทั้งคู่ ด็อกฮีตัดสินใจไล่เซอ๊กออกจากวงการแพทย์อย่างถาวร

หลายปีต่อมา เซอ๊ก กลายเป็นแพทย์เถื่อนที่ทำงานในโลกใต้ดิน เธอต้องดิ้นรนเพื่อพิสูจน์ตัวเองและเอาชนะอดีตที่ตามหลอกหลอน ขณะเดียวกัน ด็อกฮีต้องเผชิญกับความรู้สึกผิดและความทรงจำในอดีตที่ยังคงตามหลอกหลอนเขา การกลับมาพบกันอีกครั้งของทั้งสองนำไปสู่การปะทะกันในห้องผ่าตัดและการเปิดเผยความลับที่ซ่อนอยู่

ซีรีส์นี้นำเสนอความซับซ้อนของจิตใจมนุษย์ผ่านเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดและการต่อสู้ทางศีลธรรม พร้อมทั้งสะท้อนถึงผลกระทบของความทะเยอทะยานและความผิดพลาดในชีวิต

  • ประเภท: การแพทย์, อาชญากรรม, ระทึกขวัญ
  • วันที่ออกอากาศ: 19 มีนาคม 2025
  • นักแสดงนำ: ซอลคยองกู, พัคอึนบิน, ยุนชานยอง, พัคบยองอึน
  • ผู้กำกับ: คิมจองฮยอน
  • จำนวนตอน/ความยาว: 8 ตอน
  • ช่องทางการดู: Disney+

When Life Gives You Tangerines (2025)

When Life Gives You Tangerines (2025)

“When Life Gives You Tangerines” เล่าเรื่องราวชีวิตที่เต็มไปด้วยการผจญภัยของ “แอซุน” หญิงสาวหัวรั้นผู้มีความฝันอยากเป็นกวี แม้เธอจะไม่มีโอกาสได้เรียน และ “ควานชิก” ชายหนุ่มผู้เงียบขรึมแต่ขยันขันแข็ง ทั้งสองเติบโตบนเกาะเชจูในปี 1950 ที่เต็มไปด้วยความทรงจำและความเปลี่ยนแปลงจากยุคสมัย

ซีรีส์ถ่ายทอดเรื่องราวผ่าน 4 ฤดูกาล โดยนำเสนอทั้งความรัก ความฝัน และการต่อสู้เพื่ออนาคตของตัวละครหลัก ท่ามกลางบรรยากาศที่งดงามของเกาะเชจู ความสัมพันธ์ระหว่างแอซุนและควานชิกถูกนำเสนออย่างลึกซึ้งผ่านการเดินทางของชีวิตที่ต้องเผชิญกับความท้าทายและบททดสอบต่างๆ

ผู้ชมจะได้สัมผัสถึงความอบอุ่น ความหวัง และแรงบันดาลใจจากเรื่องราวที่สะท้อนถึงความหมายของชีวิตและความรักในยุคที่เต็มไปด้วยข้อจำกัด แต่ยังคงมีแสงสว่างจากความพยายามและหัวใจที่ไม่ยอมแพ้

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เมื่อชีวิตมอบส้มให้คุณ
  • ประเภท: ดราม่า, โรแมนติก
  • วันที่ออกอากาศ: 17 มกราคม 2025
  • นักแสดงนำ: ไอยู (อีจีอึน), พัคโบกอม
  • ผู้กำกับ: คิมวอนซอก
  • จำนวนตอน/ความยาว: 12 ตอน
  • ช่องทางการดู: Netflix

The Haunted Palace (2025)

The Haunted Palace (2025)

“The Haunted Palace” (2025) เป็นซีรีส์แนวแฟนตาซี-ย้อนยุคที่เล่าเรื่องราวในยุคโชซอนเกี่ยวกับโชคชะตาและการต่อสู้กับสิ่งลี้ลับ ยุนกัป เจ้าหน้าที่ในราชสำนักที่มีชื่อเสียง กลับต้องเผชิญกับการถูกครอบงำโดยอีมูกิ (งูยักษ์ในตำนานเกาหลี) ซึ่งทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ขณะเดียวกัน ยอรี ผู้สืบทอดพลังหมอผีที่ปฏิเสธชะตากรรมของตัวเอง ต้องเข้าไปในพระราชวังที่เต็มไปด้วยวิญญาณหญิงผู้มีความแค้น เพื่อช่วยเหลือยุนกัปและคลี่คลายปริศนา

ในพระราชวังแห่งนี้ ยอรีและยุนกัปต้องเผชิญกับเหตุการณ์ประหลาดและวิญญาณที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นต่อราชวงศ์ พร้อมทั้งต้องร่วมมือกับพระเจ้าอีซอง กษัตริย์ผู้มีวิสัยทัศน์ในการปฏิรูปโชซอน การเดินทางครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยเปิดเผยความลับของวิญญาณเหล่านั้น แต่ยังเป็นการค้นหาความหมายของความรักและการเสียสละ

ซีรีส์นี้นำเสนอเรื่องราวที่เข้มข้นและน่าติดตาม ผ่านการผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์ ความแฟนตาซี และความโรแมนติก พร้อมทั้งสะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสิ่งเหนือธรรมชาติในรูปแบบที่น่าประทับใจ

  • ประเภท: แฟนตาซี, ย้อนยุค, โรแมนติก, การเมือง
  • วันที่ออกอากาศ: 11 เมษายน 2025
  • นักแสดงนำ: ยุกซองแจ, โบนา (คิมจียอน), คิมจีฮุน
  • ผู้กำกับ: ยุนซองชิก
  • จำนวนตอน/ความยาว: 16 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb: 8.0/10
  • ช่องทางการดู:

Knock-Off (2025)

Knock Off (2025)

“Knock-Off” (2025) เป็นซีรีส์เกาหลีแนวคอมเมดี้-อาชญากรรมที่เล่าเรื่องราวของ คิมซองจุน ชายหนุ่มธรรมดาที่ชีวิตพลิกผันหลังจากสูญเสียงานในช่วงวิกฤต IMF ปี 1997 เขาเข้าสู่โลกของการค้าสินค้าลอกเลียนแบบอย่างไม่ตั้งใจ และด้วยความฉลาดและความมุ่งมั่น เขาได้กลายเป็นผู้นำในตลาดสินค้าปลอมระดับโลก

ในขณะเดียวกัน ซองฮเยจอง อดีตแฟนสาวของเขา ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจพิเศษที่ทำหน้าที่ปราบปรามสินค้าปลอม ต้องเผชิญหน้ากับคิมซองจุนในเกมแมวจับหนูที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดและอารมณ์ที่ซับซ้อน ทั้งคู่ต้องเผชิญกับความขัดแย้งระหว่างหน้าที่และความรู้สึกส่วนตัว ขณะที่พวกเขาต่อสู้เพื่อเป้าหมายที่แตกต่างกัน

ซีรีส์นี้นำเสนอเรื่องราวที่เข้มข้นเกี่ยวกับศีลธรรม ความทะเยอทะยาน และผลกระทบของการตัดสินใจในโลกที่เต็มไปด้วยการหลอกลวง พร้อมทั้งสะท้อนถึงผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจต่อชีวิตผู้คนในยุคนั้น

  • ประเภท: คอมเมดี้, อาชญากรรม
  • วันที่ออกอากาศ: เมษายน 2025
  • นักแสดงนำ: คิมซูฮยอน, โจโบอา
  • ผู้กำกับ: พัคฮยอนซอก
  • จำนวนตอน/ความยาว: 18 ตอน (แบ่งออกเป็น 2 พาร์ท)
  • ช่องทางการดู: Disney+

Slowly, Intensely (2025)

Slowly, Intensely (2025) เป็นซีรีส์ย้อนยุคที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับจุดเริ่มต้นของวงการบันเทิงเกาหลีใต้ในช่วงหลังสงครามปี 1960+ ผ่านมุมมองของตัวละครที่ทำงานในอุตสาหกรรมบันเทิง ซีรีส์นี้เปิดเผยความจริงเบื้องหลังการสร้างผลงานและความท้าทายของผู้คนในยุคนั้น ทั้งในแง่ของความฝัน ความทะเยอทะยาน และความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน

ตัวละครหลักประกอบไปด้วยโปรดิวเซอร์สาวผู้มีพรสวรรค์ที่ต้องต่อสู้เพื่อสร้างชื่อเสียงในวงการ และนักแสดงหนุ่มที่พยายามหาจุดยืนในโลกบันเทิงที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน เรื่องราวยังสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงของสังคมและวัฒนธรรมในยุคนั้น พร้อมทั้งนำเสนอความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครที่ค่อยๆ พัฒนาอย่างลึกซึ้ง

ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวงการบันเทิง แต่ยังเป็นบทบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่สะท้อนถึงความยากลำบากและความงดงามของการไล่ตามความฝันในยุคที่ทุกอย่างยังไม่มั่นคง ทำให้ผู้ชมได้สัมผัสถึงทั้งความอบอุ่นและแรงบันดาลใจ

  • ประเภท: ย้อนยุคสมัยใหม่, ดราม่า, วงการบันเทิง
  • วันที่ออกอากาศ: ภายในปี 2025 (อาจมีการเปลี่ยนแปลง)
  • นักแสดงนำ: ซงฮเยคโย, กงยู, อีฮานี, คิมซอลฮยอน, คิมจองอู
  • ผู้กำกับ: อียุนจอง
  • จำนวนตอน/ความยาว: 22 ตอน
  • ช่องทางการดู: Netflix

All the Love You Wish For (2025)

“All the Love You Wish For” เป็นซีรีส์แนวแฟนตาซี-โรแมนติก-คอมเมดี้ ที่เล่าเรื่องราวของ “จีนี่” วิญญาณในตะเกียงที่เต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลายและถูกขังมานานนับพันปี กับ “กายอง” หญิงสาวผู้ไร้อารมณ์ที่บังเอิญปลดปล่อยเขาออกมา ทั้งคู่ต้องเผชิญหน้ากับความวุ่นวายและการค้นหาความหมายของพร 3 ประการที่จีนี่สามารถมอบให้ได้

ในขณะที่จีนี่ต้องปรับตัวกับโลกสมัยใหม่และความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน กายองเองก็ต้องเรียนรู้ที่จะเปิดใจและเผชิญหน้ากับความรู้สึกที่เธอเคยหลีกเลี่ยง การเดินทางของทั้งสองเต็มไปด้วยความสนุกสนาน อารมณ์ขัน และช่วงเวลาที่อบอุ่นหัวใจ

ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่พูดถึงความรักและความหวัง แต่ยังเน้นถึงการยอมรับตัวตนของตนเองและผู้อื่น ผ่านเรื่องราวที่แฝงไปด้วยความแฟนตาซีและเสน่ห์เฉพาะตัวจากตัวละครหลัก

  • ประเภท: แฟนตาซี, โรแมนติก, คอมเมดี้
  • วันที่ออกอากาศ: กันยายน 2025 (คาดการณ์)
  • นักแสดงนำ: คิมอูบิน, ซูจี
  • ผู้กำกับ: อีบยองฮอน
  • จำนวนตอน/ความยาว: 12 ตอน
  • ช่องทางการดู: Netflix

My Youth (2025)

“My Youth” (2025) เป็นซีรีส์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของ ซอนอูแฮ และ ซองเจยอน สองหนุ่มสาวที่เคยมีความสัมพันธ์ในวัยเยาว์ แต่ต้องแยกจากกันด้วยเส้นทางชีวิตที่แตกต่างไป เมื่อเวลาผ่านไป 15 ปี พวกเขาได้กลับมาเจอกันอีกครั้งในช่วงชีวิตที่เต็มไปด้วยความท้าทายและการต่อสู้เพื่อความฝันของตัวเอง

ซอนอูแฮ ผู้ที่เคยเป็นเด็กหนุ่มธรรมดา กลับกลายมาเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ แต่ต้องเผชิญกับความว่างเปล่าภายในใจ ส่วนซองเจยอน หญิงสาวผู้มุ่งมั่นในการตามหาความฝันของตัวเอง ต้องเผชิญกับความลำบากและการเสียสละมากมาย การพบกันอีกครั้งทำให้ทั้งสองต้องเผชิญหน้ากับอดีตและค้นหาความหมายของชีวิตในปัจจุบัน

ซีรีส์นี้นำเสนอเรื่องราวของการเติบโต ความรัก และมิตรภาพ พร้อมสะท้อนถึงการตัดสินใจและผลกระทบที่มีต่อชีวิตในระยะยาว เป็นการบอกเล่าที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจสำหรับผู้ชมทุกวัย

  • ประเภท: ดราม่า, โรแมนติก
  • วันที่ออกอากาศ: 15 มีนาคม 2025
  • นักแสดงนำ: ซงจุงกิ, ชอนอูฮี
  • ผู้กำกับ: ยังไม่เปิดเผย
  • จำนวนตอน/ความยาว: 16 ตอน
  • ช่องทางการดู:

Made in Korea (2025)

Made in Korea (2025) เป็นซีรีส์แนวดราม่า-อาชญากรรมที่นำเสนอเรื่องราวในยุค 1970 ของเกาหลีใต้ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม เรื่องราวเริ่มต้นจาก “แบคกีแท” ชายผู้กระหายในอำนาจและเงินตรา ที่พร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อบรรลุเป้าหมายของตนเอง เขาได้สร้างเครือข่ายอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและจัดจำหน่ายยาผิดกฎหมาย โดยใช้ชื่อว่า “Made in Korea” ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ระหว่างเขากับอัยการผู้ยึดมั่นในความยุติธรรม

“จางกอนยอง” อัยการหนุ่มผู้ไม่เกรงกลัวต่ออำนาจมืด ได้รับมอบหมายให้จัดการกับเครือข่ายของแบคกีแท เขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะเปิดโปงความจริงและหยุดยั้งการกระทำผิดกฎหมายนี้ การเผชิญหน้าของทั้งสองฝ่ายนำไปสู่ความขัดแย้งที่ซับซ้อนและเข้มข้น ซึ่งสะท้อนถึงด้านมืดของสังคมในยุคนั้น

ซีรีส์นี้ยังเล่าถึงตัวละครอื่น ๆ ที่มีบทบาทสำคัญ เช่น “ชเวยูจี” ล็อบบี้ยิสต์ผู้มากเสน่ห์ และ “โอเยจิน” นักสืบสาวที่พยายามค้นหาความจริง ทุกตัวละครมีความลึกซึ้งและเชื่อมโยงกันในโครงเรื่องที่เต็มไปด้วยความดราม่าและการหักเหลี่ยมเฉือนคม

  • ประเภท: ดราม่า, อาชญากรรม, ระทึกขวัญ
  • วันที่ออกอากาศ: ภายในปี 2025
  • นักแสดงนำ: ฮยอนบิน, จองอูซอง, วอนจีอัน, ซออึนซู
  • ผู้กำกับ: อูมินโฮ
  • จำนวนตอน/ความยาว: 6 ตอน
  • ช่องทางการดู: Disney+

Divorce Insurance (2025)

Divorce Insurance (2025) เป็นซีรีส์ที่เล่าเรื่องราวของทีมนักคณิตศาสตร์ประกันภัยที่กำลังพัฒนาสินค้าเกี่ยวกับการหย่าร้าง ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ในวงการประกันภัย พวกเขาต้องเผชิญกับความท้าทายในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนถึงความซับซ้อนของความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ ตั้งแต่การตกหลุมรัก การแต่งงาน ไปจนถึงการหย่าร้าง โดยกระบวนการทำงานของพวกเขาทำให้ผู้ชมได้เห็นมุมมองที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับความรักและการใช้ชีวิตคู่

ซีรีส์นี้นำเสนอความสัมพันธ์ที่หลากหลายผ่านตัวละครหลักและลูกค้าของบริษัทประกันภัย ตั้งแต่คู่รักที่กำลังพิจารณาแยกทางไปจนถึงผู้ที่ต้องการหาทางรักษาความสัมพันธ์ของพวกเขาไว้ ในขณะเดียวกัน ตัวละครหลักยังต้องเผชิญกับปัญหาส่วนตัวที่สะท้อนถึงความซับซ้อนของชีวิตจริง

ด้วยเนื้อเรื่องที่ผสมผสานระหว่างดราม่าและอารมณ์ขัน ซีรีส์นี้นำเสนอประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับการจัดการความสัมพันธ์และความเข้าใจในตัวเอง รวมถึงผลกระทบของการตัดสินใจในชีวิตคู่ ทำให้ผู้ชมได้เรียนรู้และตระหนักถึงคุณค่าของความรักและความสัมพันธ์

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ประกันรัก ประกันเลิก
  • ประเภท: ดราม่า, โรแมนติก, คอมเมดี้
  • วันที่ออกอากาศ: 31 มีนาคม – 6 พฤษภาคม 2025
  • นักแสดงนำ: อีดงอุค, อีกวางซู
  • ผู้กำกับ: ผู้กำกับจากภาพยนตร์ Killing Romance
  • จำนวนตอน/ความยาว: 12 ตอน

Wife of a 21st Century Prince (2025)

ในซีรีส์เกาหลี Wife of a 21st Century Prince (2025) เรื่องราวเกิดขึ้นในเกาหลีสมมุติที่ปกครองด้วยระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญในศตวรรษที่ 21 โดยเล่าถึงความรักระหว่าง ซองฮีจู ทายาทสาวแชโบลผู้มีทุกอย่างในชีวิต แต่กลับต้องเผชิญกับอุปสรรคจากสถานะสามัญชน และ อีอัน องค์ชายลำดับที่สองที่มีเพียงยศศักดิ์แต่ไร้ซึ่งอำนาจและทรัพย์สมบัติ

ซองฮีจู (รับบทโดย ไอยู) เป็นลูกสาวคนรองของครอบครัวมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของเกาหลี เธอมีทั้งความงาม ความฉลาด และนิสัยรักการแข่งขัน แต่สถานะสามัญชนกลับกลายเป็นปัญหาใหญ่ในชีวิตที่สมบูรณ์แบบของเธอ เมื่อเธอได้พบกับอีอัน (รับบทโดย บยอนอูซอก) ชีวิตของเธอก็เริ่มเปลี่ยนไป

อีอัน องค์ชายผู้เติบโตมาพร้อมกับการปกปิดตัวตนที่แท้จริงมาตลอดชีวิต ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อได้พบกับซองฮีจู ซีรีส์นี้นำเสนอเรื่องราวความรักที่ต้องก้าวข้ามข้อจำกัดทางสังคม พร้อมทั้งสำรวจการค้นหาตัวตนและการยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น

  • ประเภท: โรแมนติก, ดราม่า
  • วันที่ออกอากาศ: ช่วงครึ่งหลังของปี 2025
  • นักแสดงนำ: ไอยู, บยอนอูซอก
  • ผู้กำกับ: ยังไม่ได้ประกาศ
  • จำนวนตอน/ความยาว: ยังไม่ได้ประกาศ

Seocho-dong (2025)

ซีรีส์ “Seocho-dong” (2025) เป็นเรื่องราวแนวกฎหมายที่ถ่ายทอดชีวิตของเหล่าทนายความในย่านซอโชดง ซึ่งเป็นศูนย์กลางของบริษัทกฎหมายชั้นนำในเกาหลีใต้ ซีรีส์เล่าเรื่องราวของทีมทนาย 5 คนที่ต้องเผชิญกับความท้าทายในการแก้ไขคดีต่างๆ ในชีวิตประจำวัน พร้อมทั้งสะท้อนความสัมพันธ์และการเติบโตในสายอาชีพ ผ่านการทำงานและการใช้ชีวิตร่วมกันในฐานะ “แก๊งอเวนเจอร์แห่งกฎหมายซอโชดง”

ตัวละครหลักอย่าง “อันจูฮยอง” ทนายผู้เคร่งครัดในตรรกะและความจริง ต้องปรับตัวเมื่อเกิดปัญหาภายในบริษัท ขณะที่ “คังฮีจี” ทนายสาวไฟแรงผู้เชื่อมั่นในพลังของการเปลี่ยนแปลงชีวิตคนอื่นๆ ผ่านกฎหมาย ร่วมด้วยตัวละครสีสันอื่นๆ ที่มีมุมมองและเป้าหมายแตกต่างกัน แต่ต้องทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขคดีและสร้างความยุติธรรม

ซีรีส์นี้ไม่ได้เพียงแค่เล่าถึงคดีความซับซ้อน แต่ยังเน้นไปที่มิตรภาพ ความขัดแย้ง และการเติบโตของตัวละครที่ต้องเผชิญกับความกดดันในโลกของกฎหมาย โดยมีช่วงเวลาที่ทั้งจริงจังและอบอุ่น ซึ่งทำให้ผู้ชมสามารถเชื่อมโยงกับตัวละครได้อย่างลึกซึ้ง

  • ประเภท: ดราม่า, กฎหมาย
  • วันที่ออกอากาศ: ครึ่งแรกของปี 2025
  • นักแสดงนำ: อีจงซอก, มุนกายอง, คังยูซอก, รยูฮเยยอง, อิมซังแจ
  • ผู้กำกับ: จองแดยุน (จากผลงาน W: Two Worlds)
  • จำนวนตอน/ความยาว: 12 ตอน

Tempest (2025)

Tempest (2025) เป็นซีรีส์เกาหลีแนวสายลับ-โรแมนซ์ที่นำเสนอเรื่องราวของ มุนจู นักการทูตผู้มากความสามารถและอดีตเอกอัครราชทูตประจำสหรัฐอเมริกา ซึ่งต้องร่วมมือกับ ซานโฮ ทหารรับจ้างไร้สัญชาติที่มีภูมิหลังลึกลับ ทั้งสองต้องร่วมกันสืบสวนคดีลอบสังหารที่เชื่อมโยงกับการสมรู้ร่วมคิดทางการเมืองระดับนานาชาติ

ในขณะที่ตัวละครหลักทั้งสองพยายามค้นหาความจริงเบื้องหลังเหตุการณ์ที่ซับซ้อน พวกเขาเผชิญหน้ากับอันตรายจากทั้งศัตรูที่มองเห็นและซ่อนเร้น รวมถึงความกดดันจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ตึงเครียด ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาค่อยๆ พัฒนาไปท่ามกลางภารกิจที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงและความไม่แน่นอน

ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่เน้นไปที่การสืบสวนและฉากแอ็กชันสุดระทึก แต่ยังถ่ายทอดเรื่องราวของความไว้วางใจและความรักที่ก่อตัวขึ้นระหว่างตัวละครหลัก ท่ามกลางโลกของการหลอกลวงและอันตราย ซีรีส์นี้เป็นการผสมผสานระหว่างการเล่าเรื่องที่เข้มข้นและภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ

  • ประเภท: สายลับ, โรแมนติก, ระทึกขวัญ
  • วันที่ออกอากาศ: ภายในปี 2025
  • นักแสดงนำ: จอนจีฮยอน, คังดงวอน
  • ผู้กำกับ: คิมฮีวอน, ฮอมยองแฮง
  • จำนวนตอน/ความยาว: 8 ตอน
  • ช่องทางการดู: Disney+

The Manipulated (2025)

“The Manipulated” (2025) เป็นซีรีส์เกาหลีแนวแอ็กชัน-ระทึกขวัญที่บอกเล่าเรื่องราวของ พัคแทจุง (รับบทโดย จีชางอุค) ชายธรรมดาที่ชีวิตพลิกผันกลายเป็นฝันร้าย เมื่อเขาถูกใส่ร้ายในคดีอาชญากรรมร้ายแรงและถูกส่งตัวเข้าคุก ระหว่างที่เขาพยายามพิสูจน์ความบริสุทธิ์ เขาได้ค้นพบว่าทุกอย่างเป็นแผนการของ อันโยฮัน (รับบทโดย โดคยองซู) ผู้บงการที่เยือกเย็นและไร้ความปรานี

แทจุงตัดสินใจออกเดินทางเพื่อล้างแค้น โดยได้รับความช่วยเหลือจาก โนอึนบี (รับบทโดย โจยุนซู) และ แบคโดกยอง (รับบทโดย อีกวางซู) ซึ่งทั้งสองมีบทบาทสำคัญในการเปิดเผยความจริง การต่อสู้ของเขาไม่เพียงแต่เป็นการเผชิญหน้ากับศัตรู แต่ยังเป็นการต่อสู้กับความเจ็บปวดและความโกรธที่สะสมอยู่ภายใน

ซีรีส์นี้นำเสนอเนื้อหาเข้มข้นเกี่ยวกับการแก้แค้น ความยุติธรรม และผลกระทบของการถูกบงการในชีวิต โดยมีฉากแอ็กชันที่น่าตื่นเต้นและการแสดงที่ทรงพลังจากนักแสดงนำ พร้อมเนื้อเรื่องที่เต็มไปด้วยปริศนาและการหักมุมที่น่าติดตาม

  • ประเภท: แอ็กชัน, ระทึกขวัญ, ดราม่า
  • วันที่ออกอากาศ: ช่วงครึ่งหลังของปี 2025
  • นักแสดงนำ: จีชางอุค, โดคยองซู, อีกวางซู, โจยุนซู
  • ผู้กำกับ: คิมชางจู, พัคชินอู
  • จำนวนตอน/ความยาว: 10 ตอน
  • ช่องทางการดู: Disney+

I’m Human From Today (2025)

เรื่องราวของ I’m Human From Today (2025) เล่าถึง “อึนโฮ” กูมิโฮสาว (จิ้งจอกเก้าหาง) ที่ใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานในโลกมนุษย์โดยไม่สนใจการทำความดีเพื่อรักษาความเป็นอมตะของเธอ แต่ชีวิตที่ไร้กังวลของเธอต้องเปลี่ยนไปเมื่อเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันกับ “คังชียอล” นักฟุตบอลดาวรุ่งผู้มั่นใจในตัวเองอย่างเต็มที่ เหตุการณ์นี้ทำให้อึนโฮกลายเป็นมนุษย์ธรรมดา และเธอต้องเริ่มต้นเรียนรู้เกี่ยวกับความรู้สึกและความรับผิดชอบในแบบมนุษย์เป็นครั้งแรก

ในขณะที่อึนโฮพยายามปรับตัวเข้ากับชีวิตใหม่ เธอและคังชียอลต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งในเรื่องของการปรับตัวเข้าหากันและการค้นหาความหมายของชีวิตในแบบมนุษย์ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ค่อยๆ พัฒนาไปพร้อมกับการเรียนรู้ที่จะเข้าใจและยอมรับข้อบกพร่องของกันและกัน

ซีรีส์นี้นำเสนอเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและอารมณ์ขัน พร้อมทั้งสะท้อนถึงคุณค่าของการใช้ชีวิต การยอมรับตัวเอง และความรักในรูปแบบที่แตกต่างออกไป นอกจากนี้ยังมีฉากแฟนตาซีที่สร้างความตื่นเต้นและดึงดูดใจผู้ชมอีกด้วย

  • ประเภท: โรแมนติก, คอมเมดี้, แฟนตาซี
  • วันที่ออกอากาศ: สิงหาคม 2025
  • นักแสดงนำ: คิมฮเยยุน, โลมอน
  • ผู้กำกับ: คิมจองควอน
  • จำนวนตอน/ความยาว: 12 ตอน

The Art of Negotiation (2025)

“The Art of Negotiation” (2025) เป็นซีรีส์เกาหลีที่เล่าเรื่องราวในโลกธุรกิจที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและความท้าทาย โดยมีตัวเอกคือ ยุนจูโน (รับบทโดย อีเจฮุน) ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบรวมกิจการที่ได้รับการยอมรับในฐานะนักเจรจาต่อรองระดับตำนาน เขาและทีมงานของเขา รวมถึงทนายโอซุนยอง (รับบทโดย คิมแดมยอง) และชเวจินซู (รับบทโดย ชาคังยุน) ต้องเผชิญกับความซับซ้อนของการเจรจาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับบริษัทใหญ่ ๆ

เรื่องราวเน้นไปที่การทำงานของทีมเจรจาที่ต้องใช้กลยุทธ์และความสามารถในการแก้ไขปัญหาเพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ทั้งในแง่ของธุรกิจและความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ในขณะเดียวกัน ตัวละครก็ต้องต่อสู้กับความขัดแย้งส่วนตัวและแรงกดดันจากภายนอกที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของพวกเขา

ซีรีส์นี้นำเสนอความเข้มข้นของโลกธุรกิจผ่านมุมมองที่สมจริง พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการทำงานเป็นทีมและการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการกำกับที่พิถีพิถันและการแสดงที่ทรงพลังจากทีมนักแสดง นี่เป็นซีรีส์ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวแนวธุรกิจและดราม่าเข้มข้น

  • ประเภท: ดราม่า, ธุรกิจ
  • วันที่ออกอากาศ: 8 มีนาคม 2025
  • นักแสดงนำ: อีเจฮุน, คิมแดมยอง, ซองดงอิล
  • ผู้กำกับ: อันพานซอก
  • จำนวนตอน/ความยาว: 12 ตอน

Good Boy (2025)

Good Boy (2025) เป็นซีรีส์แนวแอ็กชัน-คอมเมดี้ที่เล่าเรื่องราวของกลุ่มอดีตนักกีฬาโอลิมปิกผู้คว้าเหรียญทองในอดีต แต่ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงในชีวิตหลังจากอำลาวงการกีฬา ด้วยปัญหาทางเศรษฐกิจและอาการบาดเจ็บที่ส่งผลต่ออนาคต พวกเขาตัดสินใจผันตัวมาเป็นตำรวจพิเศษ และรวมตัวกันสร้างทีมที่ชื่อว่า “Olympics Avengers” เพื่อใช้ทักษะเฉพาะตัวจากการเป็นนักกีฬามาปราบปรามอาชญากรรม

ยุนดงจู (รับบทโดย พัคโบกอม) อดีตนักมวยเหรียญทองผู้มีพรสวรรค์ด้านการต่อสู้ ต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ในฐานะตำรวจ แม้จะไม่คุ้นเคยกับโลกของกฎหมาย แต่เขาเลือกที่จะต่อสู้เพื่อความยุติธรรม จีฮันนา (รับบทโดย คิมโซฮยอน) อดีตนักแม่นปืนเหรียญทองที่ได้รับการขนานนามว่า “เทพธิดาแห่งการยิงปืน” ก็เข้าร่วมทีมด้วยความตั้งใจที่จะพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในบทบาทใหม่

ซีรีส์นี้นำเสนอเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน การผจญภัย และมิตรภาพของทีมงานที่หลากหลาย ทั้งยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นและการปรับตัวของคนที่ต้องเริ่มต้นใหม่ในชีวิต พร้อมกับฉากแอ็กชันตื่นเต้นและมุขตลกที่สร้างความประทับใจให้ผู้ชม

  • ประเภท: แอ็กชัน, คอมเมดี้, สืบสวน
  • วันที่ออกอากาศ: 25 มกราคม – 16 มีนาคม 2025
  • นักแสดงนำ: พัคโบกอม, คิมโซฮยอน, อีซังอี, ฮอซองแท, โอจองเซ
  • ผู้กำกับ: ชิมนายอน
  • จำนวนตอน/ความยาว: 16 ตอน
  • ช่องทางการดู: Disney+

Squid Game ซีซั่น 3 (2025)

ในซีซันสุดท้ายของ “Squid Game” (2025) เรื่องราวดำเนินต่อจากการล้างแค้นของ Seong Gi-hun หลังจากเหตุการณ์ในซีซัน 2 เขากลับเข้าสู่เกมอีกครั้งเพื่อเผชิญหน้ากับ Front Man และพยายามทำลายเกมที่โหดร้ายนี้ให้สิ้นสุด ซีซันนี้เต็มไปด้วยความเข้มข้นและการต่อสู้ที่ดุเดือดระหว่างสองตัวละครหลัก พร้อมทั้งเปิดเผยความลับเบื้องหลังองค์กรที่ควบคุมเกม

ในขณะที่ Gi-hun พยายามหาวิธีหยุดยั้งเกม เขาได้พบกับผู้เล่นใหม่ที่มีเป้าหมายและแรงจูงใจที่แตกต่างกัน รวมถึงความท้าทายใหม่ในเกมเด็กที่ถูกปรับเปลี่ยนให้โหดร้ายยิ่งขึ้น การแข่งขันครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเอาชีวิตรอด แต่ยังสะท้อนถึงธรรมชาติของมนุษย์และความโลภในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง

ซีซัน 3 ไม่เพียงแต่เป็นบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมด แต่ยังทิ้งคำถามสำคัญเกี่ยวกับศีลธรรมและผลกระทบของระบบทุนในสังคม ด้วยการแสดงที่ทรงพลังและบทที่เข้มข้น ผู้ชมจะได้สัมผัสกับบทสรุปที่น่าจดจำของซีรีส์ยอดฮิตนี้

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: สควิดเกม เล่นลุ้นตาย ซีซัน 3
  • ประเภท: ดราม่า, ระทึกขวัญ, เอาชีวิตรอด
  • วันที่ออกอากาศ: 27 มิถุนายน 2025
  • นักแสดงนำ: Lee Jung-jae, Lee Byung-hun, Wi Ha-joon, Kang Ha-neul
  • ผู้กำกับ: Hwang Dong-hyuk
  • จำนวนตอน/ความยาว: 6 ตอน
  • ช่องทางการดู: Netflix

Two Women (2025)

“Two Women” (2025) เป็นซีรีส์เกาหลีที่เล่าเรื่องราวของมิตรภาพและความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่าง รยูอึนจอง นักเขียนบทละครผู้มีนิสัยเปิดเผย และชอนซังยอน โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จ ทั้งสองเคยเป็นเพื่อนสนิทและคู่แข่งตั้งแต่สมัยเด็ก แต่ด้วยเหตุการณ์ในอดีตทำให้พวกเธอค่อยๆ ห่างกันไป

เมื่อเวลาผ่านไป ทั้งสองกลับมาเจอกันอีกครั้งในวัย 40 ปี ซังยอนได้เปิดเผยว่าเธอป่วยเป็นมะเร็ง และนั่นทำให้อึนจองต้องช่วยเหลือเพื่อนรักของเธอในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด การเดินทางของพวกเธอเต็มไปด้วยการสะท้อนถึงชีวิต มิตรภาพ และผลกระทบที่พวกเธอมีต่อกัน

“Two Women” ถ่ายทอดเรื่องราวที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับความรัก ความขัดแย้ง และการเยียวยาในความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน พร้อมทั้งสะท้อนถึงการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของตัวละครหลัก

  • ประเภท: ดราม่า, ชีวิต, โรแมนติก
  • วันที่ออกอากาศ: ปี 2025
  • นักแสดงนำ: คิมโกอึน, พัคจีฮยอน, คิมกอนอู
  • ผู้กำกับ: โจยองมิน
  • จำนวนตอน/ความยาว: 15 ตอน
  • ช่องทางการดู: Netflix

Can This Love Be Translated? (2025)

“Can This Love Be Translated?” เป็นซีรีส์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ที่เล่าเรื่องราวของ จูโฮจิน ล่ามหนุ่มผู้มีความสามารถพิเศษในการพูดได้หลายภาษา และ ชามูฮี นักแสดงสาวระดับท็อปสตาร์ของเกาหลีใต้ ทั้งสองต้องทำงานร่วมกันในระหว่างการเดินทางไปต่างประเทศ แต่ด้วยมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับ “ภาษารัก” ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและความขัดแย้งอยู่บ่อยครั้ง

ในขณะที่ทั้งคู่พยายามปรับตัวให้เข้ากับวิธีการสื่อสารของกันและกัน พวกเขาเริ่มเรียนรู้ที่จะเข้าใจความหมายที่แท้จริงของความรักและการยอมรับความแตกต่าง เรื่องราวเต็มไปด้วยความสนุกสนานจากสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด รวมถึงช่วงเวลาที่อบอุ่นหัวใจที่แสดงถึงการเติบโตของตัวละครทั้งสอง

ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความโรแมนติก แต่ยังเน้นถึงการสื่อสารในความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและซับซ้อน โดยใช้เสน่ห์ของตัวละครและบทสนทนาที่สร้างเสียงหัวเราะและความประทับใจให้กับผู้ชม

  • ประเภท: โรแมนติก, คอมเมดี้
  • วันที่ออกอากาศ: ภายในปี 2025
  • นักแสดงนำ: คิมซอนโฮ (รับบท จูโฮจิน), โกยุนจอง (รับบท ชามูฮี)
  • ผู้กำกับ: ยูยองอึน
  • จำนวนตอน/ความยาว:
  • ช่องทางการดู: Netflix

Hong Rang (2025)

Hong Rang เป็นซีรีส์เกาหลีพีเรียดที่เล่าเรื่องราวในยุคโชซอนเกี่ยวกับ ฮงรัง (Lee Jae-Wook) ชายหนุ่มจากครอบครัวพ่อค้าผู้มั่งคั่งที่หายตัวไปอย่างลึกลับตอนอายุ 8 ปี และกลับมาอีกครั้งในวัย 20 ปีโดยไม่มีความทรงจำในวัยเด็ก การกลับมาของเขานำพาความสงสัยและความลับที่ซ่อนอยู่ในครอบครัว โดยเฉพาะจาก แจอี (Jo Bo-Ah) พี่สาวต่างมารดาที่ไม่เคยหยุดตามหาเขา

แจอี ผู้มีชีวิตที่ยากลำบากกับแม่เลี้ยงใจร้ายและพ่อที่ละเลย ต้องเผชิญหน้ากับความจริงเมื่อเธอเริ่มสงสัยว่าฮงรังอาจไม่ใช่คนเดิมที่เธอเคยรู้จัก เรื่องราวนี้เต็มไปด้วยการค้นหาความจริง ความรัก และความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างพี่น้อง รวมถึงการเปิดเผยปริศนาในอดีตที่ส่งผลต่อทุกคนในครอบครัว

ซีรีส์นี้ผสมผสานความลึกลับ ความโรแมนติก และดราม่าเข้าด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมสะท้อนถึงความสัมพันธ์ของครอบครัวและการค้นหาตัวตนในโลกที่เต็มไปด้วยความลับและความขัดแย้ง

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ฮงรัง
  • ประเภท: ย้อนยุค, ลึกลับ, โรแมนติก, ดราม่า
  • วันที่ออกอากาศ: 16 มกราคม 2025
  • นักแสดงนำ: อีแจอุค, โจโบอา, จองการัม
  • ผู้กำกับ: คิมฮงซอน
  • จำนวนตอน/ความยาว: 12 ตอน
  • ช่องทางการดู: Netflix

Karma (2025)

เรื่องราวในซีรีส์ Karma (2025) ถ่ายทอดชีวิตของคน 6 คนที่ถูกชะตากรรมอันเลวร้ายพัวพันเข้าด้วยกัน โดยเริ่มจากชายคนหนึ่งที่เป็นพยานในอุบัติเหตุปริศนาและตัดสินใจทำข้อตกลงที่ไม่อาจย้อนกลับได้ นอกจากนี้ยังมีแพทย์หญิงที่ต้องเผชิญกับฝันร้ายจากอดีตและพบกับบุคคลที่เธอไม่อยากเจออีกครั้ง รวมถึงชายอีกคนที่สูญเสียทุกอย่างจากการลงทุนผิดพลาด และชายผู้จมอยู่ในหนี้สินจนต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวรอด

ซีรีส์นี้เล่าถึงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและการดิ้นรนของตัวละครแต่ละคนที่ต้องเผชิญกับความจริงอันโหดร้าย พวกเขาต่างถูกดึงเข้าสู่สถานการณ์ที่ไม่สามารถหลีกหนีได้ และต้องเผชิญหน้ากับผลลัพธ์ของการตัดสินใจในอดีต ขณะเดียวกันก็สะท้อนถึงความโลภ ความรัก และความเสียสละในมุมมองที่แตกต่าง

Karma เป็นผลงานแนวระทึกขวัญที่เต็มไปด้วยความดราม่าและความเข้มข้น โดยเนื้อเรื่องจะค่อยๆ เปิดเผยปมของตัวละครแต่ละคน พร้อมกับสร้างบรรยากาศที่น่าติดตามและกระตุ้นให้ผู้ชมตั้งคำถามเกี่ยวกับผลกระทบของการกระทำในชีวิต

  • ประเภท: อาชญากรรม, ระทึกขวัญ
  • วันที่ออกอากาศ: ครึ่งแรกของปี 2025
  • นักแสดงนำ: พัคแฮซู, ชินมินอา, อีฮีจุน, คิมซองคยุน, อีกวางซู
  • ผู้กำกับ: อีอิลฮยอง
  • จำนวนตอน/ความยาว: 6 ตอน
  • ช่องทางการดู: Netflix

The Price of Confession (2025)

“The Price of Confession” เป็นซีรีส์เกาหลีแนวระทึกขวัญที่เล่าเรื่องราวของ อันยุนซู ครูสอนศิลปะที่ชีวิตต้องพลิกผันเมื่อเธอเข้าไปพัวพันกับคดีฆาตกรรมที่ซับซ้อนและน่ากลัว เธอได้พบกับ โมอึน หญิงสาวลึกลับที่มีอดีตอันมืดมน ทั้งสองเริ่มสร้างความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความไว้วางใจและความสงสัยในขณะที่พยายามค้นหาความจริงเบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด

เรื่องราวดำเนินไปในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดและความลึกลับ อันยุนซูต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่ไม่คาดคิดเกี่ยวกับตัวเองและคนรอบข้าง ขณะเดียวกัน โมอึนเองก็มีบทบาทสำคัญในการเปิดเผยเงื่อนงำของคดีนี้ การเดินทางของทั้งสองคนเต็มไปด้วยการหักมุมและความท้าทายที่ทำให้ผู้ชมต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่เล่าเรื่องราวของการสืบสวนคดีฆาตกรรม แต่ยังสะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ความไว้วางใจ และการเสียสละในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ด้วยการแสดงที่ทรงพลังและบทที่เข้มข้น “The Price of Confession” จึงเป็นซีรีส์ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ชื่นชอบแนวระทึกขวัญและดราม่า

  • ประเภท: ระทึกขวัญ, ดราม่า
  • วันที่ออกอากาศ: 2025
  • นักแสดงนำ: จอนโดยอน, คิมโกอึน, พัคแฮซู, จินซอนกยู
  • ผู้กำกับ: โอชุงฮวาน
  • จำนวนตอน/ความยาว: 12 ตอน
  • ช่องทางการดู: Netflix

Weak Hero Class 2 (2025)

Weak Hero Class 2 (2025) เป็นซีรีส์เกาหลีที่ต่อเนื่องจากซีซั่นแรก โดยยังคงเล่าเรื่องราวของ ยอน ชีอึน นักเรียนตัวอย่างที่ดูเหมือนจะอ่อนแอทางร่างกาย แต่กลับใช้ความฉลาดและจิตวิทยาในการต่อสู้กับความรุนแรงในโรงเรียน หลังจากเหตุการณ์ในซีซั่นแรก ชีอึนต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ทั้งในเรื่องของมิตรภาพ การทรยศ และการค้นหาความยุติธรรมในโลกที่เต็มไปด้วยความโหดร้าย

ในซีซั่นนี้ เรื่องราวจะสำรวจการเติบโตของตัวละครหลักเมื่อพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับผลกระทบจากการกระทำในอดีต รวมถึงการเผชิญหน้ากับศัตรูใหม่ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ซีรีส์ยังคงเน้นถึงผลกระทบทางจิตใจและอารมณ์ที่เกิดจากความรุนแรง พร้อมทั้งสะท้อนถึงปัญหาสังคมที่เกี่ยวข้องกับเยาวชน

ด้วยการเล่าเรื่องที่เข้มข้นและฉากแอ็กชันที่น่าตื่นเต้น Weak Hero Class 2 ยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ไว้ได้อย่างดี และเพิ่มมิติใหม่ให้กับเรื่องราว ทำให้ผู้ชมคาดหวังกับการพัฒนาของตัวละครและบทสรุปของเรื่อง

  • ประเภท: ดราม่า, ระทึกขวัญ, แอ็กชัน
  • วันที่ออกอากาศ: ยังไม่ระบุแน่ชัดในปี 2025
  • นักแสดงนำ: พัค จีฮุน, ชเว ฮยอนอุค, ฮง คยอง
  • ผู้กำกับ: ยู ซูมิน
  • จำนวนตอน/ความยาว:
  • ช่องทางการดู: Netflix

Nine Puzzles (2025)

“Nine Puzzles” เป็นซีรีส์แนวอาชญากรรมระทึกขวัญที่เล่าเรื่องราวของ ยูนอีนา (รับบทโดย คิมดามี) หญิงสาวที่เคยเป็นพยานและผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมเมื่อ 10 ปีก่อน หลังจากเหตุการณ์นั้น เธอได้กลายมาเป็นนักวิเคราะห์พฤติกรรมอาชญากร (Profiler) เพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับคดีในอดีตที่ยังคงหลอกหลอนเธอ

ในขณะเดียวกัน คิมฮันซึม (รับบทโดย ซนซอกกู) เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้มากประสบการณ์ ยังคงสงสัยว่าอีนาอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ ทั้งสองต้องทำงานร่วมกันเพื่อไขปริศนาที่ซับซ้อนและเผชิญหน้ากับความจริงที่ถูกซ่อนเร้นมานานหลายปี

ซีรีส์นี้นำเสนอความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างตัวละครหลัก พร้อมทั้งการเล่าเรื่องที่เข้มข้นและเต็มไปด้วยความลุ้นระทึก การไขปริศนาแต่ละชิ้นเปรียบเสมือนการต่อจิ๊กซอว์ที่นำไปสู่บทสรุปที่น่าตื่นเต้น

  • ประเภท: อาชญากรรม, ระทึกขวัญ, ดราม่า
  • วันที่ออกอากาศ: 2025
  • นักแสดงนำ: คิมดามี, ซนซอกกู
  • ผู้กำกับ: Yoon Jong Bin
  • จำนวนตอน/ความยาว: 12 ตอน
  • ช่องทางการดู: Disney+

As You Stood By (2025)

“As You Stood By” เป็นซีรีส์เกาหลีแนวระทึกขวัญและลึกลับที่เล่าเรื่องราวของสองผู้หญิง อึนซู และ ฮีซู ซึ่งต่างกำลังเผชิญปัญหาในชีวิตที่หนักหนา อึนซูเป็นพนักงานขายสินค้าไฮเอนด์ในห้างสรรพสินค้า เธอยังคงมีอดีตฝังใจที่ส่งผลต่อชีวิตปัจจุบัน ขณะที่ฮีซู อดีตนักเขียนนิยายเด็ก กำลังตกอยู่ในวังวนความรุนแรงจากสามีของเธอ ทั้งสองจึงร่วมมือกันวางแผนเพื่อหลุดพ้นจากสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้

เรื่องราวเข้มข้นขึ้นเมื่อทั้งสองต้องเผชิญหน้ากับจินพโย สามีของฮีซู ผู้ซึ่งเป็นภัยคุกคามและคอยข่มขู่พวกเธอ ในขณะเดียวกัน จินโซแบค ซีอีโอของบริษัทจินกัง ได้สังเกตเห็นแผนการของพวกเธอและกลายมาเป็นผู้สนับสนุนสำคัญ ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและการตัดสินใจที่เสี่ยงอันตรายทำให้เรื่องราวเต็มไปด้วยความลุ้นระทึกและความไม่แน่นอน

“As You Stood By” สำรวจประเด็นเกี่ยวกับความรุนแรงในครอบครัว ความกล้าหาญ และการดิ้นรนเพื่อชีวิตใหม่ ซีรีส์นี้นำเสนอความสัมพันธ์ของตัวละครที่ลึกซึ้ง พร้อมกับการเล่าเรื่องที่กระตุ้นให้ผู้ชมติดตามอย่างใกล้ชิด

  • ประเภท: ระทึกขวัญ, ลึกลับ, อาชญากรรม
  • วันที่ออกอากาศ: 2025
  • นักแสดงนำ: จอนโซนี, อียูมี, จางซึงโจ, อีมูแซง
  • ผู้กำกับ: อีจองริม
  • จำนวนตอน/ความยาว: 8 ตอน
  • ช่องทางการดู: Netflix

Cashero (2025)

“Cashero” (2025) เป็นซีรีส์แนวแอคชั่นผสมผสานกับอารมณ์ขันที่สร้างจากเว็บตูนยอดนิยม ถ่ายทอดเรื่องราวของ คังซังอุง ข้าราชการธรรมดาที่มีพลังพิเศษซึ่งขึ้นอยู่กับจำนวนเงินสดที่เขามีในมือ ยิ่งเขามีเงินสดมากเท่าไร พลังของเขาก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น แต่ทุกครั้งที่ใช้พลัง เงินสดนั้นจะหายไป ทำให้เขาต้องดิ้นรนเพื่อรักษาสมดุลระหว่างชีวิตประจำวันและการใช้พลังของเขา

ในขณะเดียวกัน คิมมินซุก แฟนสาวผู้ช่างวิเคราะห์และมีความสามารถด้านตัวเลขของเขา พยายามช่วยเหลือและสนับสนุนให้เขาใช้พลังอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งสองต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายเมื่อกลุ่มอาชญากรลึกลับเริ่มตามล่าผู้ที่มีพลังเหนือธรรมชาติ ทำให้คังซังอุงต้องร่วมมือกับผู้มีพลังพิเศษคนอื่น ๆ เพื่อปกป้องโลกจากภัยคุกคาม

ซีรีส์นี้นำเสนอเรื่องราวของคนธรรมดาที่มีพลังพิเศษ ซึ่งต้องต่อสู้ทั้งกับศัตรูภายนอกและความขัดแย้งในตัวเอง พร้อมทั้งแฝงด้วยอารมณ์ขันและการสะท้อนถึงคุณค่าของความเสียสละและการทำเพื่อส่วนรวม

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: Cashero
  • ประเภท: แอคชั่น, ผจญภัย, คอมเมดี้
  • วันที่ออกอากาศ: 2025
  • นักแสดงนำ: อีจุนโฮ, คิมฮเยจุน, คิมฮยังกี, คิมบยองชอล
  • ผู้กำกับ: Lee Chang Min
  • จำนวนตอน/ความยาว:
  • ช่องทางการดู: Netflix

Mercy For None (2025)

“Mercy For None” เป็นซีรีส์เกาหลีแนวอาชญากรรมที่เข้มข้นและสะเทือนอารมณ์ เล่าเรื่องราวของนัมกีจุน อดีตสมาชิกแก๊งที่เคยเป็นนักสู้ผู้แข็งแกร่งในโลกอาชญากรรม หลังจากเขาตัดสินใจลาออกจากแก๊งเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกับน้องชายที่เข้าร่วมแก๊งคู่แข่ง ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แต่เมื่อเวลาผ่านไป 11 ปี น้องชายของเขาถูกฆาตกรรมอย่างลึกลับ ทำให้นัมกีจุนต้องกลับเข้าสู่วงการอันตรายอีกครั้งเพื่อค้นหาความจริงและแก้แค้น

ในระหว่างการสืบสวน นัมกีจุนต้องเผชิญหน้ากับความซับซ้อนของความสัมพันธ์ระหว่างแก๊งคู่แข่งและความลับที่ถูกซ่อนเร้นมายาวนาน การเดินทางของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ความสูญเสีย และการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ท่ามกลางโลกที่เต็มไปด้วยการหักหลังและความรุนแรง

ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่เล่าถึงการแก้แค้น แต่ยังสะท้อนถึงความสัมพันธ์ในครอบครัว ความเสียสละ และผลกระทบจากการตัดสินใจในอดีตที่หลอกหลอนตัวละครหลักจนถึงปัจจุบัน ด้วยการดำเนินเรื่องที่เข้มข้นและตัวละครที่มีมิติ “Mercy For None” นำเสนอเรื่องราวที่ทั้งดิบและลึกซึ้ง

  • ประเภท: อาชญากรรม, ดราม่า, ลึกลับ, แอ็กชั่น
  • วันที่ออกอากาศ: 2025
  • นักแสดงนำ: โซจีซอบ, ฮอจุนโฮ, อันกิลคัง, กงมยอง
  • ผู้กำกับ: ชเวซองอึน
  • จำนวนตอน/ความยาว: 8 ตอน
  • ช่องทางการดู: Netflix

Way Back Love (2025)

Way Back Love (2025) เป็นซีรีส์แนวโรแมนติก-แฟนตาซีที่เล่าเรื่องราวของ จองฮีวัน หญิงสาวผู้สิ้นหวังในชีวิตที่ได้พบกับ คิมรัมอู เพื่อนวัยเด็กและรักแรกของเธอที่เสียชีวิตไปเมื่อ 6 ปีก่อน แต่กลับปรากฏตัวอีกครั้งในฐานะยมทูต รัมอูมาพร้อมข่าวสำคัญว่า ฮีวันเหลือเวลาในชีวิตเพียงหนึ่งสัปดาห์ และเธอจะจากโลกนี้ไปอย่างสงบได้ก็ต่อเมื่อเรียกชื่อเขาสามครั้ง อย่างไรก็ตาม ฮีวันที่ยังมีความโดดเดี่ยวและไม่อยากเสียรัมอูไปอีกครั้ง จึงเริ่มต้นการเดินทางเพื่อเติมเต็มความปรารถนาสุดท้ายของเธอ

ระหว่างการทำลิสต์สิ่งที่อยากทำก่อนจากไป รัมอูช่วยให้ฮีวันได้สัมผัสความสุขเล็กๆ ในชีวิตอีกครั้ง ทั้งสองได้ใช้เวลาร่วมกันและรื้อฟื้นความทรงจำในอดีต ความสัมพันธ์ที่เคยเกินคำว่าเพื่อนแต่ไม่เคยเปิดเผยกลับถูกถ่ายทอดออกมาอย่างลึกซึ้ง แม้จะมีเวลาจำกัด แต่ฮีวันและรัมอูก็พยายามค้นหาความหมายของชีวิตและความรักที่แท้จริง

ซีรีส์นี้นำเสนอเรื่องราวที่สะท้อนถึงความเปราะบางของชีวิต การปล่อยวาง และการหาความสุขในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงพลังของความรักที่สามารถเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งได้ แม้กระทั่งในสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะไม่มีทางแก้ไข

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: Way Back Love
  • ประเภท: โรแมนติก, แฟนตาซี
  • วันที่ออกอากาศ: 2025
  • นักแสดงนำ: กงมยอง, คิมมินฮา
  • ผู้กำกับ: Choi Ha Na
  • จำนวนตอน/ความยาว: 6 ตอน

The Murky Stream (2025)

“The Murky Stream” (2025) เป็นซีรีส์แนวประวัติศาสตร์ที่เล่าถึงเรื่องราวของ Jang Si Yul ชายหนุ่มที่ซ่อนอดีตของตัวเองและกลายเป็นอันธพาลที่ท่าเรือมาโปในแม่น้ำฮัน ซึ่งเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์และเศรษฐกิจในยุคโชซอน เขาใช้ความสามารถและความเฉลียวฉลาดในการสร้างอำนาจและชื่อเสียงจนกลายเป็นตำนานในดินแดนที่ไร้กฎหมาย

เรื่องราวยังนำเสนอ Choi Eun หญิงสาวผู้มีความยุติธรรมและปัญญาเฉียบแหลมที่ต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความถูกต้องในโลกที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ขณะเดียวกัน Jeong Cheon ชายหนุ่มผู้ใฝ่ฝันจะเป็นเจ้าหน้าที่ที่ซื่อสัตย์ ต้องต่อสู้กับความขัดแย้งระหว่างอุดมการณ์และความจริงในชีวิต

“The Murky Stream” ถ่ายทอดชะตากรรมของตัวละครหลักทั้งสามคนผ่านการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด ความทะเยอทะยาน และการค้นหาความหมายของอำนาจและความยุติธรรม ท่ามกลางฉากหลังของยุคโชซอนที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งทางสังคมและการเมือง

  • ประเภท: ดราม่า, ประวัติศาสตร์, แอ็กชัน
  • วันที่ออกอากาศ: ปี 2025
  • นักแสดงนำ: โรอุน (Rowoon), ชินเยอึน (Shin Ye Eun), พัคซอฮัม (Park Seo Ham), พัคจีฮวาน (Park Ji Hwan)
  • ผู้กำกับ: ชูชางมิน (Choo Chang Min)
  • จำนวนตอน/ความยาว: 9 ตอน
  • ช่องทางการดู: Disney+

Unknown Seoul (2025)

“Unknown Seoul” (2025) เป็นซีรีส์ที่เล่าเรื่องราวของฝาแฝดสองคนที่ใช้ชีวิตแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คนพี่อาศัยอยู่ในกรุงโซล เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายและการแข่งขัน ส่วนคนน้องใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายในชนบท แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันทำให้พวกเธอต้องสลับตัวตนกัน การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้นำมาซึ่งความท้าทายและการค้นพบตัวเองในสภาพแวดล้อมใหม่ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

เรื่องราวพัฒนาผ่านมุมมองของตัวละครทั้งสองที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับชีวิตใหม่ คนพี่ต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตอย่างสงบในชนบท ขณะที่คนน้องต้องเผชิญกับความกดดันและความซับซ้อนของชีวิตในเมืองใหญ่ ความสัมพันธ์ของพวกเธอถูกทดสอบผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบาก และทำให้พวกเธอเข้าใจถึงคุณค่าของครอบครัวและตัวตนที่แท้จริง

ซีรีส์นี้ผสมผสานระหว่างดราม่าและโรแมนติก ถ่ายทอดเรื่องราวที่สะท้อนถึงความแตกต่างระหว่างเมืองและชนบท รวมถึงการค้นหาตัวตนและความหมายของชีวิต ผ่านการแสดงอันทรงพลังของนักแสดงนำ

  • ประเภท: ดราม่า, โรแมนติก
  • วันที่ออกอากาศ: 12 เมษายน 2025
  • นักแสดงนำ: พัคโบยอง, จินยอง
  • ผู้กำกับ: พัคชินอู
  • จำนวนตอน/ความยาว: 12 ตอน

Dear X (2025)

“Dear X” (2025) เป็นซีรีส์ที่เล่าเรื่องราวของแบคอาจิน หญิงสาวผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จในวงการบันเทิง เธอใช้ความงามและความสามารถในการอ่านใจคนอื่นเพื่อควบคุมสถานการณ์และไต่เต้าขึ้นสู่จุดสูงสุด อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังความงดงามนั้นกลับซ่อนความโหดร้ายที่เธอไม่อยากให้ใครล่วงรู้

ในขณะเดียวกัน ยุนจุนซอ ชายหนุ่มผู้ศรัทธาในความรัก ยังคงอยู่เคียงข้างแบคอาจินเสมอ แม้ว่าเขาจะรับรู้ถึงด้านมืดในตัวเธอ แต่เขาก็พร้อมจะปกป้องและสนับสนุนเธออย่างไม่มีเงื่อนไข นอกจากนี้ ยังมีคิมแจโอ ชายอีกคนที่มีอดีตอันเจ็บปวด แต่กลับพบเหตุผลในการมีชีวิตอยู่เมื่อได้พบกับแบคอาจิน ทั้งสองคนต่างมีบทบาทสำคัญในชีวิตของเธอ

ซีรีส์นี้นำเสนอความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างตัวละคร พร้อมทั้งสะท้อนถึงการต่อสู้ภายในจิตใจของแบคอาจิน ที่ต้องเลือกระหว่างการรักษาความทะเยอทะยานของตัวเองหรือการเปิดใจให้กับความรักแท้ที่อยู่ใกล้ตัว

  • ประเภท: เมโลดราม่า, ระทึกขวัญ
  • วันที่ออกอากาศ: ภายในปี 2025
  • นักแสดงนำ: คิมยูจอง, คิมยองแด, คิมโดฮุน
  • ผู้กำกับ: อีอึงบก
  • จำนวนตอน/ความยาว: 12 ตอน

Twelve (2025)

“Twelve” (2025) เป็นซีรีส์เกาหลีแนวแอ็กชันแฟนตาซีที่เล่าเรื่องราวของเหล่าทูตสวรรค์ 12 ตน ซึ่งได้รับพลังพิเศษจากสวรรค์และถูกส่งมายังโลกมนุษย์เพื่อปกป้องมนุษยชาติ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มปีศาจที่ถูกปิดผนึกไว้ในอดีต แต่กำลังฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง นำโดย Asura ราชาแห่งปีศาจที่ต้องการครอบครองโลก การต่อสู้ระหว่างความดีและความชั่วเริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือด

ในเรื่องนี้ Tae San (รับบทโดย Ma Dong Seok) หัวหน้าทูตสวรรค์ผู้เป็นตัวแทนของเสือ นำทีมเหล่าทูตสวรรค์ในการต่อกรกับ Oh Gwi (รับบทโดย Park Hyung Sik) ผู้เป็นตัวแทนของอีกาและเป็นพลังชั่วร้ายที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมา ตัวละครอื่นๆ อย่าง Mir (Lee Joo Bin) ทูตสวรรค์ผู้เป็นตัวแทนมังกร และ Won Sung (Seo In Guk) ทูตสวรรค์ผู้เป็นตัวแทนลิง ต่างมีบทบาทสำคัญในภารกิจนี้

ซีรีส์นี้ไม่เพียงแค่มีฉากแอ็กชันที่น่าตื่นเต้น แต่ยังนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับความเสียสละ ความหวัง และการต่อสู้เพื่อปกป้องโลกมนุษย์ของเหล่าทูตสวรรค์ ทำให้ “Twelve” เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่น่าจับตามองที่สุดในปี 2025

  • ประเภท: แอ็กชัน, แฟนตาซี, เหนือธรรมชาติ
  • วันที่ออกอากาศ: ปี 2025
  • นักแสดงนำ: Ma Dong Seok, Park Hyung Sik, Seo In Guk, Lee Joo Bin
  • ผู้กำกับ: Kang Dae Gyu
  • จำนวนตอน/ความยาว: 8 ตอน

ซีรีส์เกาหลีในปี 2025 จะเป็นปีแห่งการพลิกโฉมวงการบันเทิง ด้วยการนำเสนอเนื้อหาที่แปลกใหม่และท้าทาย พร้อมทั้งการผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและความร่วมสมัยได้อย่างลงตัว ผู้ชมจะได้สัมผัสกับประสบการณ์การรับชมที่แตกต่างไปจากเดิม

ความพิเศษของซีรีส์ในปีนี้ไม่เพียงแต่อยู่ที่เนื้อหาและนักแสดงเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการยกระดับคุณภาพการผลิตที่เทียบเท่าระดับสากล ทำให้ซีรีส์เกาหลีกลายเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมป๊อปที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก

เมื่อพิจารณาจากรายชื่อซีรีส์ทั้ง 40 เรื่องที่กำลังจะมาในปี 2025 เราสามารถคาดการณ์ได้ว่า วงการซีรีส์เกาหลีจะยังคงรักษามาตรฐานความบันเทิงระดับสูงและสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆ ให้กับวงการบันเทิงโลกอย่างต่อเนื่อง

Advertisement

Source
netflix.com
กดเพื่ออ่านต่อ
Advertisement

NaniTalk S.

เป็นนักเขียนที่ขยันขันแข็งและมุ่งมั่นที่จะผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพ เรียนรู้และเติบโตอยู่เสมอ เชื่อว่าเนื้อหาที่ดีสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกได้

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button