ในโอกาสที่เรากำลังจะเฉลิมฉลองวันสุขภาพจิตโลก สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือการตระหนักถึงบทบาทของสุขภาพจิตในชีวิตประจำวันของเรา ความเข้าใจในความสำคัญของสุขภาพจิตไม่ได้เพียงแต่ช่วยให้เรารู้จักดูแลตัวเอง แต่ยังส่งเสริมให้เราเข้าใจและเห็นอกเห็นใจผู้อื่นในสังคมได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในปัจจุบัน ซีรีส์เกาหลีได้กลายเป็นสื่อที่ทรงพลังในการนำเสนอประเด็นสุขภาพจิตอย่างเข้มข้นและสะเทือนใจ
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซีรีส์เกาหลีสามารถถ่ายทอดปัญหาสุขภาพจิตในหลากหลายรูปแบบ ทั้งภาวะซึมเศร้า อาการทางจิต เช่น โรคจิตเภท ออทิสติก และบาดแผลทางใจ ซีรีส์เหล่านี้ไม่เพียงแค่ทำให้เรารู้สึกสนุกไปกับเรื่องราวที่ดำเนินไป แต่ยังสอดแทรกความเข้าใจในมิติของปัญหาจิตใจที่หลากหลาย ทั้งยังทำให้ผู้ชมที่อาจเคยประสบปัญหาเหล่านี้ได้สะท้อนมุมมองของตัวเองผ่านตัวละคร
สำหรับผู้ที่สนใจและต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิต ซีรีส์เกาหลีเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ซีรีส์เหล่านี้ได้นำเสนอเรื่องราวของตัวละครที่ต้องเผชิญกับความทุกข์ ความยากลำบาก และการเยียวยาตัวเอง ทำให้เกิดแรงบันดาลใจและความหวังในการเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ บทความนี้จึงได้รวบรวม 10 ซีรีส์เกาหลีที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิตที่คุณไม่ควรพลาดในวันสุขภาพจิตโลก
10 ซีรีส์เกาหลีเกี่ยวกับสุขภาพจิตที่คุณไม่ควรพลาด
1. It’s Okay to Not Be Okay (เรื่องหัวใจ ไม่ไหวอย่าฝืน)
เรื่องราวในซีรีส์ “It’s Okay to Not Be Okay” เกี่ยวกับความรักและการต่อสู้กับปัญหาสุขภาพจิต โดยมีตัวเอกคือ คังแท (รับบทโดย คิมซูฮยอน) พนักงานดูแลผู้ป่วยที่มีปัญหาทางจิตใจ และ มุนยอง (รับบทโดย ซอเยจี) นักเขียนหนังสือเด็กที่มีประวัติการเติบโตที่ซับซ้อน ทั้งสองคนพบกันในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด และเริ่มสร้างความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความท้าทาย
คังแทต้องดูแลพี่ชายของเขาที่มีปัญหาสุขภาพจิต ในขณะที่มุนยองต้องเผชิญกับความจริงเกี่ยวกับอดีตของตัวเอง ซีรีส์นี้สำรวจความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาและการค้นหาวิธีที่จะรักและเข้าใจกัน แม้ว่าจะมีบาดแผลจากอดีตที่ยังไม่หายดี
เรื่องราวจะพาผู้ชมไปสัมผัสกับการต่อสู้เพื่อค้นหาความสุขในชีวิต แม้จะต้องเผชิญกับความเจ็บปวดและความไม่สมบูรณ์แบบของตนเอง
- ประเภท: ดราม่า, โรแมนติก, จิตวิทยา
- วันที่ออกอากาศ: 20 มิถุนายน 2020
- นักแสดงนำ: คิมซูฮยอน, ซอเยจี
- ผู้กำกับ: พัคชินอู
- จำนวนตอน/ความยาว: 16 ตอน
- เรตติ้ง IMDb: 8.4/10
- ช่องทางการดู: Netflix
2. Move to Heaven
Move to Heaven เป็นซีรีส์ที่เล่าเรื่องราวของ Han Geu-ru ชายหนุ่มที่มีอาการออทิสติก ซึ่งทำงานในธุรกิจของครอบครัวที่ชื่อว่า “Move to Heaven” ที่ให้บริการทำความสะอาดสถานที่เกิดเหตุร้ายแรงและจัดการกับสิ่งของที่เหลืออยู่ของผู้เสียชีวิต เมื่อพ่อของเขาเสียชีวิต Geu-ru ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต เมื่อ Cho Sang-gu ลุงของเขาซึ่งเป็นอดีตนักสู้ในวงการมวยใต้ดินกลายมาเป็นผู้ปกครองของเขา
เรื่องราวดำเนินไปเมื่อ Sang-gu ต้องทำงานร่วมกับ Geu-ru ในการจัดการกับสิ่งของที่เหลืออยู่จากผู้เสียชีวิต เพื่อให้ได้สิทธิ์ในการดูแล Geu-ru ตามคำสั่งในพินัยกรรม พวกเขาต้องเรียนรู้ที่จะเข้าใจกันและกัน ขณะที่พวกเขาเผชิญกับความเจ็บปวดและความสูญเสียจากชีวิต
ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่สำรวจประเด็นเกี่ยวกับสุขภาพจิตและความสัมพันธ์ในครอบครัว แต่ยังนำเสนอเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความหวังและการค้นหาความหมายในชีวิต ผ่านการจัดการกับความทรงจำและสิ่งของที่เหลืออยู่จากผู้คนที่จากไป
- ประเภท: ดราม่า, ชีวิต
- วันที่ออกอากาศ: 14 พฤษภาคม 2021
- นักแสดงนำ: Lee Je-hoon, Tang Joon-sang, Hong Seung-hee
- ผู้กำกับ: Kim Sung-ho
- จำนวนตอน/ความยาว: 10 ตอน
- เรตติ้ง IMDb: 8.4/10
- ช่องทางการดู: Netflix
3. My Mister (คุณลุงของฉัน)
My Mister เป็นซีรีส์ที่สำรวจความซับซ้อนของชีวิตและความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากในชีวิต โดยมีตัวละครหลักคือ Park Dong-Hun ชายวัยกลางคนที่แบกรับภาระหนักจากชีวิตการทำงานและครอบครัว ขณะที่ Lee Ji-An หญิงสาววัยยี่สิบที่ต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ ในชีวิต ทั้งสองได้พบกันและช่วยเหลือกันในการค้นหาความหมายและความสงบในชีวิต
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ Dong-Hun ต้องรับมือกับความเครียดจากการทำงานและปัญหาภายในครอบครัว ในขณะเดียวกัน Ji-An ก็มีชีวิตที่เต็มไปด้วยความท้าทายและการเอาชีวิตรอด ทั้งคู่ได้สร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งขึ้นในขณะที่พวกเขาเรียนรู้ที่จะเปิดใจและแบ่งปันความรู้สึกของตนเอง ซีรีส์นี้นำเสนอประเด็นเกี่ยวกับการยอมรับตัวเอง การให้อภัย และการค้นหาความสุขในชีวิต
การแสดงของนักแสดงนำได้รับคำชมอย่างมาก โดยเฉพาะการแสดงของ IU ที่ถ่ายทอดอารมณ์และความซับซ้อนของตัวละครได้อย่างลึกซึ้ง ในขณะที่ Lee Sun-Kyun ก็ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงน้ำหนักของชีวิตที่เขาต้องแบกรับ ซีรีส์นี้ถือเป็นหนึ่งในผลงานที่มีคุณภาพสูงและสะท้อนถึงความเป็นจริงของสังคมในปัจจุบัน
- ประเภท: ดราม่า, โรแมนติก
- วันที่ออกอากาศ: 21 มีนาคม 2018
- นักแสดงนำ: Lee Sun-Kyun, IU
- ผู้กำกับ: Kim Won-Suk
- จำนวนตอน/ความยาว: 16 ตอน
- เรตติ้ง IMDb: 9.1/10
- ช่องทางการดู: Netflix, iQIYI, MONOMAX
4. Kill Me Heal Me (รักวุ่นวาย นายอลเวง)
เรื่องราวใน “Kill Me Heal Me” เป็นการผสมผสานระหว่างความโรแมนติกและความตลกขบขัน โดยเล่าถึงชีวิตของ Cha Do Hyun ทายาทจากครอบครัวที่ร่ำรวยที่มีอาการโรคบุคลิกภาพแยก (DID) ซึ่งเขามีบุคลิกภาพถึง 7 ตัวที่แตกต่างกัน ในขณะที่เขาพยายามที่จะจัดการกับปัญหาของตัวเอง เขาได้พบกับ Oh Ri Jin นักศึกษาแพทย์ปีหนึ่งที่กลายมาเป็นจิตแพทย์ลับของเขา เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อทั้งสองต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษาและเข้าใจซึ่งกันและกัน
ในขณะที่ Cha Do Hyun พยายามที่จะควบคุมบุคลิกภาพที่หลากหลายของเขา Oh Ri Jin ก็ต้องเรียนรู้ที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดและความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขา ความรักและการรักษาจึงกลายเป็นธีมหลักของเรื่อง ในแต่ละตอน ผู้ชมจะได้เห็นการพัฒนาของตัวละครและความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างพวกเขา
ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่ให้ความบันเทิง แต่ยังมีการนำเสนอประเด็นเกี่ยวกับสุขภาพจิตอย่างละเอียด โดยเฉพาะในเรื่องของผลกระทบจากการถูกทอดทิ้งในวัยเด็กและการฟื้นฟูจิตใจผ่านความรักและการสนับสนุนจากคนรอบข้าง
- ประเภท: ดราม่า, โรแมนติก, คอมเมดี้
- วันที่ออกอากาศ: 7 มกราคม 2015
- นักแสดงนำ: Ji Sung, Hwang Jung-eum, Park Seo-joon
- ผู้กำกับ: Kim Jin-man
- จำนวนตอน/ความยาว: 20 ตอน
- เรตติ้ง IMDb: 8.3/10
- ช่องทางการดู: –
5. My Liberation Notes (ปล่อยใจสู่เสรี)
“My Liberation Notes” เป็นซีรีส์ที่สำรวจชีวิตของพี่น้องสามคนที่รู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตประจำวันที่ซ้ำซากและต้องการค้นหาความหมายและเสรีภาพในชีวิตของตนเอง เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อพวกเขาได้พบกับชายลึกลับที่มีปัญหาส่วนตัว ซึ่งเข้ามาเปลี่ยนแปลงมุมมองของพวกเขาเกี่ยวกับชีวิตและความสัมพันธ์ นำไปสู่การค้นหาความสุขในรูปแบบที่แตกต่างกัน
ในขณะที่พี่น้องแต่ละคนมีปัญหาและความท้าทายเฉพาะตัว พวกเขาต้องเผชิญกับความกดดันจากสังคมและความคาดหวังจากครอบครัว ซีรีส์นี้นำเสนอการเดินทางของการค้นหาตนเอง การเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง และการเปิดใจให้กับคนอื่น ในขณะเดียวกันก็สะท้อนถึงความเป็นจริงของชีวิตที่ไม่ง่ายดาย
ด้วยการเล่าเรื่องที่ละเอียดอ่อนและเข้าถึงอารมณ์ ซีรีส์นี้จึงเป็นการสะท้อนถึงความรู้สึกของผู้คนในยุคปัจจุบัน ที่ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนและความเครียดจากชีวิตประจำวัน “My Liberation Notes” จึงเป็นงานที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและความหวัง
- ประเภท: ดราม่า, ชีวิต, โรแมนติก
- วันที่ออกอากาศ: 9 เมษายน 2022
- นักแสดงนำ: คิม จี วอน, อี มิน คิ, ซน ซุก คู, ลี เอล
- ผู้กำกับ: คิม ซอก ยุน
- จำนวนตอน/ความยาว: 16 ตอน
- เรตติ้ง IMDb: 8.5/10
- ช่องทางการดู: Netflix
6. Our Blues (เวลาสีฟ้าหม่น)
“Our Blues” เป็นซีรีส์ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่บนเกาะเชจู ซีรีส์นี้นำเสนอเรื่องราวที่หลากหลายของตัวละครแต่ละตัว ซึ่งมีความเชื่อมโยงกันในชีวิตประจำวันและเผชิญกับความท้าทายทางอารมณ์และจิตใจ ตัวละครหลักหลายคนต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ เช่น ความรัก ความสูญเสีย และการค้นหาตนเองในโลกที่เต็มไปด้วยความกดดัน
เรื่องราวเริ่มต้นจาก Ko Mi-Ran ที่กลับคืนสู่บ้านเกิดหลังจากรู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตในเมืองใหญ่ ในขณะที่ Lee Yeong-Ok ที่ทำงานเป็นนักดำน้ำหญิง (haenyeo) ต้องเผชิญกับข่าวลือและความกดดันจากสังคม เมื่อเธอได้พบกับ Park Jeong-Jun ผู้เป็นกัปตันเรือประมง ชีวิตของพวกเขาเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง
ซีรีส์นี้ยังสำรวจความหมายของการเป็นชุมชนและการสนับสนุนซึ่งกันและกันในช่วงเวลาที่ยากลำบาก โดยใช้ฉากหลังของเกาะเชจูที่สวยงามเพื่อสร้างบรรยากาศที่เข้าถึงอารมณ์ของผู้ชมได้อย่างลึกซึ้ง
- ประเภท: ดราม่า, โรแมนติก, ชีวิต
- วันที่ออกอากาศ: 9 เมษายน – 12 มิถุนายน 2022
- นักแสดงนำ: อี บยองฮอน, ฮัน จีมิน, คิม วูบิน
- ผู้กำกับ: คิม คยูแท
- จำนวนตอน/ความยาว: 20 ตอน
- เรตติ้ง IMDb: 8.6/10
- ช่องทางการดู: Netflix
7. Strangers From Hell (นรกคือคนอื่น)
เรื่องราวใน “Strangers From Hell” หรือ “타인은 지옥이다” เล่าถึงชีวิตของ ยูน จงอู (Im Si-wan) ชายหนุ่มในวัย 20 ที่ย้ายจากเมืองเล็กๆ ไปยังโซลเพื่อทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง เมื่อเขาต้องหาที่พัก เขาได้พบกับอพาร์ตเมนต์ราคาถูกชื่อว่า “Eden Studio” ซึ่งมีบรรยากาศที่น่ากลัวและผู้เช่าที่ดูแปลกประหลาด จงอูต้องทนอยู่ที่นี่จนกว่าจะมีเงินพอที่จะย้ายออก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในอพาร์ตเมนต์กลับทำให้เขารู้สึกไม่ปลอดภัย
เมื่อเวลาผ่านไป จงอูเริ่มสังเกตเห็นเหตุการณ์ลึกลับและพฤติกรรมที่ผิดปกติของเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันอย่าง ซอ มุนโจ (Lee Dong-wook) ผู้มีความลับที่น่าสงสัย เรื่องราวเริ่มเข้มข้นขึ้นเมื่อจงอูต้องเผชิญกับความจริงที่เขาไม่คาดคิดเกี่ยวกับผู้คนรอบตัว และต้องต่อสู้กับความหวาดกลัวที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น
“Strangers From Hell” ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องราวของความตึงเครียดและความลึกลับ แต่ยังสะท้อนถึงปัญหาสุขภาพจิตและความรู้สึกโดดเดี่ยวในเมืองใหญ่ โดยนำเสนอการต่อสู้ของจงอูในการหาทางออกจากสถานการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวนี้
- ประเภท: ระทึกขวัญ, จิตวิทยา
- วันที่ออกอากาศ: 31 สิงหาคม – 6 ตุลาคม 2019
- นักแสดงนำ: Im Si-wan, Lee Dong-wook
- ผู้กำกับ: Lee Chang-hee
- จำนวนตอน/ความยาว: 10 ตอน
- เรตติ้ง IMDb: 7.8/10
- ช่องทางการดู: Disney+
8. Soul Mechanic
“Soul Mechanic” เป็นซีรีส์ที่สำรวจเรื่องราวของจิตแพทย์ที่พยายามรักษาบาดแผลทางอารมณ์ของผู้คน โดยเน้นการให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูจิตใจและการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ป่วยและแพทย์ เรื่องราวจะพาผู้ชมไปพบกับตัวละครที่มีปัญหาทางจิตใจที่แตกต่างกัน และวิธีการที่พวกเขาเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดในชีวิต
ตัวละครหลักคือ Lee Si Joon จิตแพทย์ที่มีความสามารถในการเข้าใจและช่วยเหลือผู้ป่วยของเขา ในขณะที่เขาต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งในเรื่องงานและชีวิตส่วนตัว ซีรีส์นี้นำเสนอการเดินทางของการรักษาและการค้นหาความหมายในชีวิต โดยมีฉากที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขันและความอบอุ่น
“Soul Mechanic” ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการรักษาจิตใจ แต่ยังสื่อถึงความสำคัญของการสนับสนุนจากคนรอบข้างและการยอมรับตนเอง โดยมีช่วงเวลาที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความหวังและแรงบันดาลใจในการเผชิญหน้ากับปัญหาในชีวิต
- ประเภท: ดราม่า, โรแมนติก, การแพทย์
- วันที่ออกอากาศ: 6 พฤษภาคม 2020
- นักแสดงนำ: ชิน ฮา คยุน, จอง โซ มิน
- ผู้กำกับ: ยู ฮยอน คิ
- จำนวนตอน/ความยาว: 32 ตอน
- เรตติ้ง IMDb: 7.2/10
- ช่องทางการดู: –
9. Daily Dose of Sunshine (รับแดดอุ่น กรุ่นไอรัก)
“Daily Dose of Sunshine” เป็นซีรีส์เกาหลีที่เล่าเรื่องราวของพยาบาลสาวที่ถูกย้ายไปทำงานในแผนกจิตเวชของโรงพยาบาล โดยเธอชื่อว่า จอง ดาอึน (รับบทโดย ปาร์ค โบยอง) ซึ่งมีความรักในอาชีพพยาบาลและต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ในการดูแลผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพจิต ซีรีส์นี้นำเสนอการทำงานในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความกดดัน แต่ก็แฝงไปด้วยอารมณ์ขันและความเห็นอกเห็นใจ
ในระหว่างที่เธอปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ ดาอึนได้สร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานและผู้ป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเพื่อนสนิทของเธออย่าง ซง ยูชาน (รับบทโดย จาง ดงยุน) และแพทย์ประจำแผนก ฮวัง ยอฮวาน (รับบทโดย ชาง รยูล) ซึ่งคอยสนับสนุนและช่วยเหลือเธอผ่านความท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้น
ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่สำรวจปัญหาสุขภาพจิต แต่ยังสะท้อนถึงความสำคัญของการเข้าใจและให้กำลังใจซึ่งกันและกันในช่วงเวลาที่ยากลำบาก โดยมีการผสมผสานระหว่างความจริงจังและความเบาสมอง ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความอบอุ่นและแรงบันดาลใจ
- ประเภท: ดราม่า, โรแมนติก
- วันที่ออกอากาศ: 26 ตุลาคม 2023
- นักแสดงนำ: ปาร์ค โบยอง, ยอน วูจิน, จาง ดงยุน
- ผู้กำกับ: อี จองซู
- จำนวนตอน/ความยาว: 16 ตอน
- เรตติ้ง IMDb: 8.5/10
- ช่องทางการดู: Netflix
10. The Smile Has Left Your Eyes (สืบรอยอดีตรัก)
“The Smile Has Left Your Eyes” เป็นซีรีส์ที่สำรวจความซับซ้อนของความรักและสุขภาพจิต โดยเริ่มต้นจากการพบกันของ Moo Young ชายหนุ่มที่มีอดีตที่มืดมน และ Jin Kang หญิงสาวที่มีชีวิตที่ดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบ แต่กลับซ่อนความเจ็บปวดภายในไว้ เมื่อทั้งคู่เริ่มผูกพันกัน ความลับในอดีตของ Moo Young ค่อยๆ เผยออกมา ทำให้ Jin Kang ต้องเผชิญกับความจริงที่อาจเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอไปตลอดกาล
ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่เล่าเรื่องราวความรัก แต่ยังสะท้อนถึงปัญหาสุขภาพจิตและผลกระทบที่เกิดจากการสูญเสีย การต่อสู้เพื่อค้นหาความหมายในชีวิต และการยอมรับตัวตนของตนเอง ในขณะที่ตัวละครต่างๆ ต้องเผชิญกับความท้าทายและการตัดสินใจที่ยากลำบาก
ด้วยการเล่าเรื่องที่เข้มข้นและการพัฒนาตัวละครที่ลึกซึ้ง “The Smile Has Left Your Eyes” จึงเป็นซีรีส์ที่ทำให้ผู้ชมต้องคิดและรู้สึกถึงความซับซ้อนของความรักและชีวิต
- ประเภท: ดราม่า, โรแมนติก, ระทึกขวัญ
- วันที่ออกอากาศ: 26 กันยายน 2018
- นักแสดงนำ: Seo In-guk, Jung So-min
- ผู้กำกับ: Kim Jin-won
- จำนวนตอน/ความยาว: 16 ตอน
- เรตติ้ง IMDb: 8.1/10
- ช่องทางการดู: iQIYI
ซีรีส์เกาหลีที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิตเหล่านี้ ไม่เพียงแต่จะสร้างความบันเทิง แต่ยังให้ความสำคัญกับประเด็นที่ต้องการการตระหนักรู้ในสังคม โดยเฉพาะในวันสุขภาพจิตโลก เราสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อเปิดใจให้กว้างขึ้นและเรียนรู้ที่จะเข้าใจและให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตของเราเองและผู้อื่น หวังว่าการรับชมซีรีส์เหล่านี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและความเข้าใจใหม่ ๆ เกี่ยวกับการเยียวยาจิตใจและการเติบโตทางจิตใจของทุกคน
เรื่องที่เกี่ยวข้อง:
- 12 ซีรีส์หมอเกาหลี น่าดูที่สุด ประทับใจเนื้อเรื่องและนักแสดง
- 50 ซีรีส์เกาหลี ฟิน จิกหมอน พากย์ไทย ฟินจนหยุดดูไม่ได้!
- แนะนำ 60 ซีรีส์เกาหลีดังสนุก ๆ พากย์ไทย ฟินจนหยุดดูไม่ได้!
- 17 อนิเมะเกี่ยวกับการจัดการกับภาวะซึมเศร้า!