ซีรีส์

7 ซีรีส์พระเอกรวยแกล้งจน เสน่ห์ความลับที่น่าค้นหา!

ในโลกของซีรีส์เอเชีย หนึ่งในพล็อตเรื่องที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องคือ “พระเอกรวยแกล้งจน” ซึ่งนำเสนอเรื่องราวของตัวละครหลักที่มีฐานะร่ำรวยแต่เลือกที่จะปลอมตัวเป็นคนธรรมดาหรือยากจน ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไปในแต่ละเรื่อง พล็อตนี้ไม่เพียงแต่สร้างความบันเทิงให้กับผู้ชม แต่ยังสะท้อนมุมมองทางสังคมและความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ได้อย่างน่าสนใจ

Advertisement

ซีรีส์ประเภทนี้มักจะนำเสนอการเติบโตของตัวละคร การเรียนรู้คุณค่าของความสัมพันธ์ที่แท้จริง และการค้นพบตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง ผ่านสถานการณ์ที่ท้าทายและความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างทาง นอกจากนี้ ยังมักจะสอดแทรกประเด็นทางสังคม เช่น ความเหลื่อมล้ำทางชนชั้น อคติ และคุณค่าของความซื่อสัตย์

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 7 ซีรีส์พระเอกรวยแกล้งจนที่โดดเด่นและได้รับความนิยมอย่างสูง แต่ละเรื่องมีเอกลักษณ์และเสน่ห์เฉพาะตัว ที่จะทำให้คุณติดตามไม่วางจอ พร้อมทั้งสัมผัสถึงอารมณ์และความรู้สึกที่หลากหลายผ่านการแสดงของนักแสดงที่มีความสามารถ

7. Rooftop Prince (ตามหาหัวใจเจ้าชายหลงยุค)

Rooftop Prince (ตามหาหัวใจเจ้าชายหลงยุค)

เรื่องราวใน “Rooftop Prince” เริ่มต้นจากเจ้าชายลี กัก (Park Yoochun) แห่งยุคโชซอน ที่ต้องสูญเสียภรรยาของเขาอย่างไม่คาดคิด เขาและกลุ่มผู้ติดตามที่ไว้ใจได้จึงพยายามสืบหาความจริงเกี่ยวกับการตายของเธอ แต่กลับถูกหมายหัวเพื่อไม่ให้รู้ความจริง หลังจากนั้นพวกเขาได้ถูกส่งมายังกรุงโซลในปี 2012 โดยไม่ตั้งใจ เจ้าชายลี กักพบกับจู เซนา (Han Ji Min) หญิงสาวที่มีรูปลักษณ์เหมือนภรรยาที่เสียชีวิตไป

เมื่อเจ้าชายลี กักต้องปรับตัวเข้ากับโลกสมัยใหม่ เขาเริ่มเข้าใจถึงความท้าทายและความซับซ้อนของชีวิตในปัจจุบัน ในขณะเดียวกัน เขายังต้องเผชิญกับอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดจากศัตรูในอดีตที่ยังคงตามหลอกหลอนเขาอยู่ เรื่องราวนี้เต็มไปด้วยความตลกขบขันและดราม่า ขณะที่ลี กักพยายามค้นหาความจริงเกี่ยวกับการตายของภรรยาและค้นหาความรักในโลกใหม่

Advertisement

การเดินทางของเจ้าชายในโลกปัจจุบันนำมาซึ่งความสนุกสนานและความประทับใจ โดยเฉพาะเมื่อเขาต้องเรียนรู้วิธีการใช้ชีวิตในสังคมที่แตกต่างจากที่เขาเคยรู้จัก เรื่องราวจะทำให้ผู้ชมได้สัมผัสถึงความรัก ความสูญเสีย และการค้นหาตนเองผ่านมุมมองที่ไม่เหมือนใคร

  • ประเภท: โรแมนติก, คอมเมดี้, แฟนตาซี
  • วันที่ออกอากาศ: 14 มีนาคม 2012
  • นักแสดงนำ: Park Yoochun, Han Ji Min
  • ผู้กำกับ: Shin Yoon Sub
  • จำนวนตอน/ความยาว: 20 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb: 7.7/10
  • ช่องทางการดู: Netflix

6. High Society (สังคมไฮโซ)

High Society

High Society เป็นซีรีส์ที่เล่าเรื่องราวของ Jang Yoon-ha ลูกสาวคนเล็กของครอบครัวเศรษฐีที่มีชื่อเสียง แม้ว่าเธอจะมีฐานะร่ำรวย แต่เธอกลับเลือกที่จะทำงานพาร์ทไทม์ที่ตลาดอาหารเพื่อซ่อนตัวตนที่แท้จริงของเธอในฐานะทายาท เพราะสิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดคือการหาความรักที่แท้จริงจากคนที่รักเธอในฐานะตัวตน ไม่ใช่เพราะเงินทองของเธอ

ในขณะเดียวกัน Choi Joon-ki ชายหนุ่มที่เติบโตในความยากจนและมีความรู้สึกไม่พอใจต่อชีวิต เขาได้พบกับ Yoon-ha และเริ่มมีความรู้สึกต่อกัน แต่ความแตกต่างทางสถานะทางสังคมกลับทำให้ความรักของพวกเขาต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ซีรีส์นี้สำรวจความรัก ความฝัน และการต่อสู้เพื่อค้นหาตนเองในโลกที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน

ด้วยการเล่าเรื่องที่เข้มข้นและตัวละครที่มีมิติ ซีรีส์ High Society จึงนำเสนอภาพสะท้อนของชีวิตในสังคมชั้นสูง และความท้าทายที่เกิดขึ้นเมื่อคนสองคนจากสองโลกต่างกันต้องมาพบกัน

  • ประเภท: ดราม่า, โรแมนติก
  • วันที่ออกอากาศ: 8 มิถุนายน 2015
  • นักแสดงนำ: Lim Ji-yeon, Sung Joon, Park Hyung-sik
  • ผู้กำกับ: Yoo In-sik
  • จำนวนตอน/ความยาว: 16 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb: 7.3/10
  • ช่องทางการดู: Netflix

5. Hwarang: The Poet Warrior Youth (ฮวารัง: เยาวชนนักรบกวี)

Hwarang: The Poet Warrior Youth (ฮวารัง ยอดบุรุษบุปผางาม)

Hwarang: The Poet Warrior Youth เป็นซีรีส์ที่ตั้งอยู่ในราชอาณาจักรชิลลาในสมัยโบราณ โดยเล่าเรื่องราวของกลุ่มชายหนุ่มนักรบที่เรียกว่า “ฮวารัง” ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการปกป้องและพัฒนาประเทศ กลุ่มนี้ประกอบไปด้วยสมาชิกที่มีความสามารถหลากหลาย รวมถึง Moo Myung (รับบทโดย Park Seo Joon) ที่มีอดีตที่ซับซ้อน และ Sam Maek Jong (รับบทโดย Park Hyung Sik) ที่เป็นตัวแทนของอนาคตของชิลลา

เรื่องราวดำเนินไปเมื่อกลุ่มฮวารังถูกสร้างขึ้นโดยพระราชินี Ji So เพื่อรักษาอำนาจและความสงบสุขในประเทศ ในขณะที่พวกเขาต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งจากศัตรูภายนอกและการเมืองภายใน กลุ่มนักรบต้องเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกันและสร้างมิตรภาพที่แน่นแฟ้น ขณะเดียวกันก็ต้องค้นหาตัวตนและบทบาทของตนในประวัติศาสตร์

ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่เน้นเรื่องการต่อสู้และการผจญภัย แต่ยังมีองค์ประกอบของความรักและมิตรภาพที่เข้มข้น โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครหลักที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคต่างๆ ทั้งทางอารมณ์และการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม

  • ประเภท: ดราม่า, ประวัติศาสตร์, โรแมนติก
  • วันที่ออกอากาศ: 19 ธันวาคม 2016
  • นักแสดงนำ: Park Seo Joon, Go Ara, Park Hyung Sik
  • ผู้กำกับ: Yoon Sung Shik
  • จำนวนตอน/ความยาว: 20 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb: 7.8/10
  • ช่องทางการดู: Netflix, Viu

4. The Liar and His Lover (สะดุดรักนักแต่งเพลง)

The Liar and His Lover (สะดุดรักนักแต่งเพลง)

Li Huizhen เป็นหญิงสาวที่เคยมีความงามในวัยเด็ก แต่เมื่อครอบครัวประสบปัญหาทางการเงิน ความสวยงามของเธอก็ค่อยๆ หายไป เมื่อเวลาผ่านไป เธอได้พบกับ Bai Haoyu เพื่อนสมัยเด็กที่เติบโตขึ้นมาเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลาและประสบความสำเร็จ แต่เมื่อเธอรู้ว่าเขาคือเจ้านายของเธอในบริษัทนิตยสารแฟชั่น เธอจึงรู้สึกอับอายเกินกว่าที่จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเธอ จึงขอให้เพื่อนสนิท Xia Qiao มาสวมบทบาทแทนเธอ

ในขณะที่ Li Huizhen พยายามสร้างตัวตนใหม่และทำงานในแผนกบรรณาธิการของนิตยสาร เธอก็เริ่มพัฒนาความสัมพันธ์กับ Bai Haoyu โดยที่เขายังไม่รู้ว่าเธอคือ Li Huizhen คนเดิม ขณะเดียวกัน Lin Yimu เพื่อนร่วมงานของเธอก็เริ่มมีใจให้กับเธอเช่นกัน เรื่องราวจึงเต็มไปด้วยความรัก ความไม่แน่ใจ และการค้นหาตนเองในโลกที่เต็มไปด้วยแรงกดดัน

Li Huizhen ต้องเผชิญกับความไม่มั่นใจในตัวเองและความกลัวจากอดีต ในขณะที่ต้องพยายามเปิดใจให้กับคนที่เธอรัก เรื่องราวนี้นำเสนอการเดินทางของการค้นหาความรักและการยอมรับตนเองในโลกที่เต็มไปด้วยความกดดันและการเปรียบเทียบ

  • ประเภท: คอมเมดี้, โรแมนติก
  • วันที่ออกอากาศ: 20 มีนาคม 2017
  • นักแสดงนำ: Dilraba Dilmurat, Sheng Yilun, Zhang Binbin
  • ผู้กำกับ: Zhao Chen Yang
  • จำนวนตอน/ความยาว: 24 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb: 7.6/10
  • ช่องทางการดู: WeTV, MONOMAX

3. Revolutionary Love (หัวใจไม่มีกรอบ)

Revolutionary Love (หัวใจไม่มีกรอบ)

Revolutionary Love เป็นซีรีส์ที่เล่าเรื่องราวความรักและการต่อสู้ของตัวละครหลักในช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการเมือง ตัวเอกคือ “อีซู” หญิงสาวที่มีความฝันในการเป็นนักข่าว เธอต้องเผชิญกับความยากลำบากในชีวิตและการทำงานในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ในขณะที่ “คิมจินซอก” ชายหนุ่มที่มีอุดมการณ์และมุ่งมั่นในการเปลี่ยนแปลงสังคม ทั้งสองได้พบกันและร่วมมือกันในการต่อสู้เพื่อสร้างความยุติธรรมในสังคม

เรื่องราวดำเนินไปด้วยความตึงเครียดระหว่างการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมและความรักที่พัฒนาขึ้นระหว่างตัวละคร อีซูต้องเลือกว่าจะยืนหยัดเพื่ออุดมการณ์หรือจะตามหาความรักที่เธอปรารถนา ในขณะที่จินซอกต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความเชื่อมั่นในอุดมการณ์ของเขา

ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่เน้นไปที่ความรัก แต่ยังสะท้อนถึงปัญหาสังคมและการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ตัวละครต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบาก ซึ่งจะทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงอารมณ์และแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนแปลง

  • ประเภท: ดราม่า, โรแมนติก, การเมือง
  • วันที่ออกอากาศ: 24 กันยายน 2017
  • นักแสดงนำ: อีแจฮุน, คิมจูฮยอน
  • ผู้กำกับ: คิมจองฮุน
  • จำนวนตอน/ความยาว: 16 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb: 7.5/10
  • ช่องทางการดู: WeTV, iQIYI

2. Welcome to Waikiki (ไวกีกิ เกสต์เฮาส์อลเวง)

โปสเตอร์ซีรีส์เกาหลี Welcome to Waikiki (แก๊งป่วน ก๊วนบ้านไวกีกิ)

เรื่องราวในซีรีส์ “Welcome to Waikiki” เกิดขึ้นที่เกสต์เฮาส์ชื่อเดียวกันในย่านอิแทวอน โดยมีสามหนุ่มที่มีความฝันในการสร้างภาพยนตร์ร่วมกันเปิดธุรกิจเกสต์เฮาส์นี้ขึ้น แต่การทำงานของพวกเขากลับเต็มไปด้วยความวุ่นวายและปัญหาที่ไม่คาดคิด ทั้งสามคน ได้แก่ ดงกู ผู้ซึ่งมักจะโชคร้ายและมีความฝันที่จะเป็นผู้กำกับภาพยนตร์, จุนกิ นักแสดงที่ eccentric และดูชิก นักเขียนฟรีแลนซ์ที่ไม่ค่อยทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

ในขณะที่พวกเขาพยายามทำให้เกสต์เฮาส์ประสบความสำเร็จ พวกเขายังต้องรับมือกับการเข้ามาของแขกที่หลากหลาย รวมถึงน้องสาวของดงกู, ยุนอา แม่เลี้ยงเดี่ยวที่เข้ามาอยู่ในเกสต์เฮาส์พร้อมกับลูกน้อยของเธอ และแฟนเก่าของดงกู ทำให้เกิดสถานการณ์ที่ตลกขบขันและซับซ้อนมากมาย เรื่องราวนี้นำเสนอความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน ความรัก และการเติบโตในช่วงเวลาที่ยากลำบาก

“Welcome to Waikiki” เป็นซีรีส์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขันและความอบอุ่น โดยมีการเล่าเรื่องแบบ Slice of Life ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกเชื่อมโยงกับตัวละครและเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน

  • ประเภท: คอมเมดี้, โรแมนติก, ชีวิตประจำวัน
  • วันที่ออกอากาศ: 5 กุมภาพันธ์ 2018
  • นักแสดงนำ: Lee Yi-kyung, Kim Seon-ho, Shin Hyun-soo
  • ผู้กำกับ: Lee Chang-min
  • จำนวนตอน/ความยาว: 16 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb: 8.2/10
  • ช่องทางการดู: Netflix, Viu

1. My Liberation Notes (ปล่อยใจสู่เสรี)

My Liberation Notes (ปล่อยใจสู่เสรี)

My Liberation Notes (ปล่อยใจสู่เสรี) เป็นซีรีส์ที่เล่าเรื่องราวของพี่น้องสามคนที่อาศัยอยู่ในย่านชานเมืองของโซล พวกเขาต้องเผชิญกับความท้าทายและความกดดันในชีวิตประจำวัน ขณะเดียวกันก็ต้องรับมือกับความรู้สึกที่เกิดจากการทำงานและความสัมพันธ์ในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีชายลึกลับคนหนึ่งเข้ามาในชีวิตของพวกเขา ซึ่งทำให้พวกเขาต้องตั้งคำถามเกี่ยวกับชีวิตและความหมายของการเป็นอิสระ

เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ Yeom Chang-hee, Yeom Mi-jeong และ Yeom Ki-jeong ต้องเดินทางไปทำงานในกรุงโซลทุกวัน ในขณะที่พวกเขาพยายามหาทางหลุดพ้นจากชีวิตที่น่าเบื่อหน่ายและความกดดันจากสังคม พวกเขาต้องเผชิญกับปัญหาที่เกิดจากการทำงาน การเงิน และความสัมพันธ์ในครอบครัว โดยมี Mr. Gu ชายลึกลับที่ทำงานให้กับครอบครัวของพวกเขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต

ซีรีส์นี้นำเสนอการเดินทางเพื่อค้นหาความหมายของชีวิตและการเป็นอิสระ โดยมีบทสนทนาและโมโนล็อกที่ลึกซึ้งสะท้อนถึงความรู้สึกของตัวละคร ทำให้ผู้ชมสามารถเชื่อมโยงกับประสบการณ์ของตัวละครได้อย่างใกล้ชิด

  • ประเภท: ดราม่า, ชีวิตประจำวัน
  • วันที่ออกอากาศ: 9 เมษายน – 29 พฤษภาคม 2022
  • นักแสดงนำ: Lee Min-ki, Kim Ji-won, Son Suk-ku, Lee El
  • ผู้กำกับ: Kim Seok-yoon
  • จำนวนตอน/ความยาว: 16 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb: 8.5/10
  • ช่องทางการดู: Netflix

ซีรีส์พระเอกรวยแกล้งจนทั้ง 7 เรื่องที่เราได้นำเสนอไปนั้น แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายและความลึกซึ้งของพล็อตที่ดูเหมือนจะเรียบง่าย แต่กลับซ่อนความซับซ้อนของมนุษย์และสังคมไว้อย่างแยบยล แต่ละเรื่องไม่เพียงแต่ให้ความบันเทิง แต่ยังกระตุ้นให้ผู้ชมได้คิดและตั้งคำถามกับค่านิยมและมุมมองของตนเองต่อเรื่องความรัก มิตรภาพ และความสำเร็จในชีวิต

ความนิยมของซีรีส์ประเภทนี้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของผู้ชมที่อยากเห็นเรื่องราวที่มีทั้งความโรแมนติก ความตื่นเต้น และการเติบโตของตัวละคร ในขณะเดียวกันก็สามารถสอดแทรกประเด็นทางสังคมที่ลึกซึ้งได้อย่างแนบเนียน ทำให้ผู้ชมได้รับทั้งความบันเทิงและข้อคิดไปพร้อมๆ กัน

ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนซีรีส์เอเชียอยู่แล้ว หรือกำลังมองหาเรื่องใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ซีรีส์พระเอกรวยแกล้งจนทั้ง 7 เรื่องนี้ล้วนเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าแก่การรับชม ด้วยเนื้อเรื่องที่ชวนติดตาม การแสดงที่โดดเด่น และข้อคิดที่สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตจริงได้ เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณได้ค้นพบซีรีส์ใหม่ๆ ที่จะกลายเป็นเรื่องโปรดของคุณในอนาคต

เรื่องที่เกี่ยวข้อง:

Advertisement

อ่านต่อ
Advertisement

NaniTalk S.

เป็นนักเขียนที่ขยันขันแข็งและมุ่งมั่นที่จะผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพ เรียนรู้และเติบโตอยู่เสมอ เชื่อว่าเนื้อหาที่ดีสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกได้

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button