ซีรีส์

100 ซีรีส์ฝรั่งที่ต้องดูให้ได้ก่อนตาย พร้อมรีวิว และคะแนน!

เพื่อนๆ คนไหนที่กำลังมองหาซีรีส์ฝรั่งสนุกๆ ดูอยู่บ้าง? วันนี้เราขอมาแนะนำลิสต์ซีรีส์ฝรั่งสุดปัง 100 เรื่องที่คัดสรรมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ! ไม่ว่าจะเป็นสายดราม่า โรแมนติก คอมเมดี้ หรือแอ็คชั่น ก็ต้องมีเรื่องที่ถูกใจคุณแน่นอน

Advertisement

เราเข้าใจดีว่าการเลือกซีรีส์ดีๆ สักเรื่องดูมันไม่ง่ายเลย บางทีก็เลือกไม่ถูกว่าจะดูเรื่องไหนดี หรือบางทีก็กลัวว่าจะเลือกเรื่องไม่สนุกมาดู แต่ไม่ต้องห่วง! ลิสต์นี้เราคัดมาให้แล้วว่าแต่ละเรื่องเด็ดจริงอะไรจริง รับรองว่าดูแล้วจะไม่ผิดหวัง

แนะนำ 100 ซีรีส์ฝรั่งที่ต้องดู

ในลิสต์นี้ คุณจะได้พบกับซีรีส์หลากหลายแนว ทั้งซีรีส์ดังระดับตำนานที่ใครๆ ก็ต้องรู้จัก ซีรีส์ใหม่แกะกล่องที่กำลังมาแรง รวมถึงซีรีส์คุณภาพดีที่อาจจะไม่ดังมาก แต่รับรองว่าสนุกไม่แพ้กัน มาเปิดโลกซีรีส์ฝรั่งไปพร้อมๆ กันเถอะ!

100. Babylon Berlin (2017-)

ซีรีส์ฝรั่ง Babylon Berlin (2017 )

ซีรีส์เยอรมันย้อนยุค เกิดขึ้นที่เบอร์ลินช่วงปลายยุค 1920s อ่ะ บรรยากาศคือสุด! มีทั้งความหรูหราฟู่ฟ่า แสงสีเสียงในไนท์คลับ แต่ก็แฝงไปด้วยความมืดมนของโลกใต้ดิน การเมืองก็กำลังคุกรุ่น แล้วก็มีคดีฆาตกรรมปริศนาอีก

พระเอกเป็นตำรวจหนุ่มไฟแรงจากโคโลญจน์ เพิ่งย้ายมาเบอร์ลินใหม่ๆ นางเอกเป็นสาวทะเยอทะยาน อยากเป็นนักสืบ แล้วทั้งคู่ก็ต้องมาเจอเรื่องวุ่นๆ ด้วยกัน ทั้งการเมืองมาเฟีย คดีฆาตกรรม ลึกลับซับซ้อนสุดๆ

Advertisement

บอกเลยว่าพล็อตแน่นมาก ตัวละครแต่ละตัวมีมิติ มีปมหลังของตัวเอง แล้วมันทำให้เราอินไปกับเรื่องราวของพวกเขาได้ง่ายๆ เลย ฉากต่างๆ ก็สวยงามอลังการ เสื้อผ้าหน้าผมก็เป๊ะ บรรยากาศคือได้มาก ใครชอบซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวน ย้อนยุค ห้ามพลาด!

  • ประเภท: ดราม่า, อาชญากรรม, ย้อนยุค, ระทึกขวัญ
  • วันที่เข้าฉาย: 13 ตุลาคม 2017
  • นักแสดงนำ: Volker Bruch, Liv Lisa Fries, Peter Kurth
  • ผู้กำกับ: Tom Tykwer, Henk Handloegten, Achim von Borries
  • จำนวนตอนหรือความยาว: 4 ซีซั่น (32 ตอน)
  • คะแนน IMDb: 8.5/10

99. Call My Agent! (2015–2020)

เรียกผู้จัดการมาสิ!

ซีรีส์ฝรั่ง Call My Agent! (2015–2020)

เรื่องมันเกี่ยวกับเอเจนซี่นักแสดงในปารีส ที่ชื่อ ASK ซึ่งแต่ละคนก็คือปวดหัวกับลูกค้าสุดๆ ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว อีรุงตุงนังไปหมด แต่ก็ฮาปนดราม่าน้ำตาซึมนะ พวกเอเจนซี่ก็ต้องทำทุกทางเพื่อให้นักแสดงในสังกัดแฮปปี้ ลูกค้าพอใจ แถมยังต้องรับมือกับปัญหาชีวิตตัวเองอีก โอ๊ย สารพัดจะวุ่นวาย

ที่พีคคือซีรีส์ฝรั่งเรื่องนี้มีนักแสดงดังๆ มาเล่นเป็นตัวเองด้วยนะ อย่าง Juliette Binoche, Isabelle Huppert คือแบบ เห็นตัวตนจริงๆ ของพวกเขาเวลาทำงาน ฮามากกก แถมยังได้เห็นเบื้องหลังวงการบันเทิงฝรั่งเศสด้วยนะ เลิศ!

  • ประเภท: ตลก, ดราม่า
  • วันที่เข้าฉาย: 2015–2020
  • นักแสดงนำ: Camille Cottin, Thibault de Montalembert, Grégory Montel, Liliane Rovère
  • ผู้กำกับ: หลายคนเลย แต่หลักๆ คือ Cédric Klapisch, Lola Doillon, Antoine Garceau
  • จำนวนตอน: 4 ซีซั่น, 24 ตอน
  • คะแนน IMDb: 8.3/10

98. Nathan Barley (2005)

ซีรีส์ฝรั่ง Nathan Barley (2005)

เป็นซีรีส์อังกฤษเก่าหน่อยนะ แต่ตลกแบบเสียดสีสังคมสุดๆ เล่าเรื่องของ Dan Ashcroft นักเขียนที่เกลียดพวกฮิปสเตอร์สุดๆ แต่ดันต้องมาเจอกับ Nathan Barley เจ้าพ่อแห่งวงการฮิปสเตอร์ตัวพ่อที่คลั่งไคล้ผลงานของเขาซะงั้น

ซีรีส์นี้จะพาเราไปสำรวจโลกของพวกฮิปสเตอร์สุดโต่งที่เต็มไปด้วยศัพท์แสงแปลกๆ ไลฟ์สไตล์สุดโต่ง และความพยายามที่จะดู “คูล” ตลอดเวลา มันทั้งตลกและน่ารำคาญในเวลาเดียวกันเลยล่ะ

ถ้าชอบซีรีส์ฝรั่งแนวเสียดสีสังคมแบบ The Office หรือ Black Mirror น่าจะชอบเรื่องนี้เหมือนกันนะ แถมแต่ละตอนก็สั้นๆ ดูเพลินๆ ได้เลย

  • ประเภท: ตลกเสียดสี, ซิทคอม
  • ปีที่ฉาย: 2005
  • นักแสดงนำ: Nicholas Burns, Julian Barratt, Charlie Condou, Claire Keelan
  • ผู้กำกับ: Chris Morris
  • จำนวนตอน: 6 ตอน
  • คะแนน IMDb: 7.5/10

97. Oz (1997–2003)

ซีรีส์ฝรั่ง Oz (1997–2003)

เรื่องมันเกิดขึ้นในคุก Oswald State Correctional Facility หรือเรียกสั้นๆ ว่า Oz นี่แหละ มันเป็นคุกที่มีการทดลองอะไรใหม่ๆ ตลอดเวลา แต่ที่เด็ดคือมันโหดมาก! แกจะได้เห็นชีวิตในคุกแบบเรียลๆ ทั้งการแก่งแย่งอำนาจ ความรุนแรง ยาเสพติด มิตรภาพ และอะไรอีกเยอะที่คาดไม่ถึงเลย

ตัวละครแต่ละคนก็มีเรื่องราวเป็นของตัวเอง มีทั้งนักโทษ ผู้คุม ที่แต่ละคนก็มีทั้งด้านดีและด้านมืดปะปนกันไป ทำให้เราอินไปกับทุกตัวละครเลย แกจะได้เห็นว่าในคุกมันไม่ได้มีแค่คนเลวเสมอไปนะ บางทีก็มีเรื่องราวที่น่าเห็นใจซ่อนอยู่เหมือนกัน

  • ประเภท: ดราม่า, อาชญากรรม
  • ปีที่ฉาย: 1997–2003
  • นักแสดงนำ: Ernie Hudson, Terry Kinney, Harold Perrineau
  • ผู้สร้าง: Tom Fontana
  • จำนวนตอน: 56 ตอน
  • คะแนน IMDb: 8.7/10

96. Inside No. 9 (2014-2024)

ซีรีส์ฝรั่ง Inside No 9 (2014 2024)

เป็นซีรีส์แนว anthology อ่ะ แต่ละตอนจะเป็นเรื่องราวคนละเรื่องเลย ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน แต่ทุกตอนจะเกิดขึ้นในสถานที่ที่มีเลข 9 เป็นส่วนหนึ่ง เช่น บ้านเลขที่ 9 ห้องเลขที่ 9 อะไรแบบนี้ แล้วแต่ละตอนคือมันจะมีพล็อตเรื่องที่พลิกไปพลิกมา เดาทางไม่ถูกเลย บางทีก็ตลก บางทีก็หลอน บางทีก็ดราม่าสุดๆ คือแบบ มันสุดทุกอารมณ์จริงๆ

นักแสดงก็คือแบบ… ไม่ได้มีตัวหลักตายตัวนะ แต่ละตอนก็จะมีนักแสดงชุดใหม่ๆ มาเล่น ซึ่งแต่ละคนก็คือฝีมือขั้นเทพทั้งนั้น เล่นดีจนขนลุกเลยอ่ะ แล้วที่สำคัญคือ คนเขียนบทกับผู้กำกับเขาเป็นคนเดียวกันนะ คือ Reece Shearsmith กับ Steve Pemberton สองคนนี้เขาเคยทำซีรีส์ตลกสยองขวัญเรื่อง The League of Gentlemen มาก่อนด้วยแหละ ก็เลยไม่แปลกใจที่ Inside No. 9 มันจะออกมาแหวกแนวขนาดนี้

แกต้องลองไปดูนะ มันเป็นซีรีส์ที่ดูแล้วต้องคิดตามตลอดเวลา แล้วก็จะแบบ… เฮ้ย! ทำไมเป็นงี้อ่ะ! คือมันสนุกมากจริงๆ

  • ประเภท: ตลก, สยองขวัญ, ดราม่า, ระทึกขวัญ
  • วันที่เข้าฉาย: 5 กุมภาพันธ์ 2014 – 20 กรกฎาคม 2024
  • นักแสดง: หลายคนมากกกกกกก (แต่ละตอนไม่ซ้ำกัน)
  • ผู้กำกับ: Reece Shearsmith, Steve Pemberton
  • จำนวนตอน: 55 ตอน
  • IMDb Rating: 8.6/10

95. Whatever Happened to the Likely Lads? (1973-1974)

ซีรีส์ฝรั่ง Whatever Happened to the Likely Lads

Whatever Happened to the Likely Lads ตลกมากกก เป็นเรื่องของเพื่อนซี้สองคน เทอร์รี่กับบ็อบ ที่ใช้ชีวิตวัยหนุ่มสุดเหวี่ยงด้วยกันในยุค 60s พอเวลาผ่านไป แต่ละคนก็มีเส้นทางชีวิตที่เปลี่ยนไป บ็อบแต่งงานมีครอบครัว ส่วนเทอร์รี่ไปเป็นทหาร

พอเทอร์รี่กลับมาบ้านเกิด ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เลยต้องเจอกับบททดสอบ ทั้งเรื่องความต่างของไลฟ์สไตล์ มุมมองชีวิต แถมยังมีเรื่องผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้องอีก

บอกเลยว่าเรื่องนี้ฮามาก ดูแล้วจะเข้าใจเลยว่าเพื่อนแท้คืออะไร แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน หรือชีวิตจะเปลี่ยนไปยังไง แต่สุดท้ายมิตรภาพก็ยังคงอยู่ ถ้าชอบซีรีส์แนว feel good ดูแล้วอมยิ้ม แนะนำเรื่องนี้เลย

  • ประเภท: ซิทคอม, ตลก, ดราม่า
  • วันที่เข้าฉาย: 9 มกราคม 1973
  • นักแสดงนำ: James Bolam, Rodney Bewes
  • ผู้กำกับ: John Howard Davies, Sydney Lotterby
  • จำนวนตอน: 26 ตอน (2 ซีซัน)
  • IMDb Rating: 8.2/10

94. Rick and Morty (2013-)

ริค แอนด์ มอร์ตี้

ซีรีส์ฝรั่ง Rick and Morty (2013 )

ริค เป็นนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องขั้นเทพที่ชอบสร้างปัญหา แล้วก็มี มอร์ตี้ หลานชายสุดเนิร์ดที่ไม่ค่อยเอาไหน ต้องคอยตามริคไปผจญภัยในจักรวาลแบบงงๆ ตลกตรงที่มันจะมีเรื่องบ้าๆ บอๆ เกิดขึ้นตลอด ทั้งเจอเอเลี่ยนเพี้ยนๆ มิติพิศวง หรือแม้แต่ตัวละครเวอร์ชั่นอื่นๆ ของตัวเอง

แต่เออ… มันไม่ได้มีแค่ความฮาแบบไร้สาระนะ บางทีก็มีแอบเสียดสีสังคม จิกกัดชีวิต หรือพูดถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวแบบแสบๆ คันๆ ด้วย คือดูไปก็ขำไป แต่บางทีก็มีแอบเหวอ แอบคิดตามเหมือนกัน

ถ้าชอบอะไรที่มันแหวกแนว ไม่ซ้ำซากจำเจ ต้องดูเลย รับรองติด!

  • แนว: แอนิเมชัน, ผจญภัย, ไซไฟ, ตลก
  • ปีที่เริ่มฉาย: 2013
  • นักพากย์หลัก: Justin Roiland (ริคและมอร์ตี้), Chris Parnell (เจอร์รี่), Sarah Chalke (เบธ)
  • ผู้สร้าง: Justin Roiland, Dan Harmon
  • จำนวนตอน: 6 ซีซัน (61 ตอน) แต่ละตอนประมาณ 20 นาที
  • คะแนน IMDb: 9.2/10
  • ช่องทางการรับชม: HBO

93. Spooks (2002–2011)

ซีรีส์ฝรั่ง Spooks (2002–2011)

เรื่องมันเกี่ยวกับหน่วยสืบราชการลับของอังกฤษชื่อ MI5 อะ พวกเขาต้องรับมือกับภัยคุกคามความมั่นคงต่างๆ ทั้งการก่อการร้าย การจารกรรม แล้วก็พวกอาชญากรรมข้ามชาติ คือแต่ละภารกิจมันโคตรเสี่ยงอะ บอกเลยว่าลุ้นระทึกทุกตอน

ตัวละครหลักก็มีหลายคนเลย แต่ที่เด่นๆ ก็คือ Tom Quinn กับ Harry Pearce นี่แหละ พวกเขาเป็นสายลับที่เก่งมาก แต่ก็ต้องเจอกับความกดดันและอันตรายตลอดเวลา บางทีก็ต้องทำเรื่องที่ไม่ถูกต้องเพื่อปกป้องประเทศชาติด้วยนะ มันเลยทำให้เราเห็นด้านมืดของงานสายลับด้วยอะ

สรุปคือถ้าชอบซีรีส์ฝรั่งแนวสืบสวนสอบสวน บู๊แอ็คชั่น แล้วก็มีปมดราม่าด้วย แนะนำ Spooks เลย รับรองว่าไม่ผิดหวัง!

  • ประเภท: แอ็คชั่น, ดราม่า, ระทึกขวัญ
  • ปีที่ฉาย: 2002–2011
  • นักแสดงนำ: Matthew Macfadyen, Peter Firth, Keeley Hawes, Nicola Walker และอีกหลายคน
  • ผู้กำกับ: มีหลายคนมาก เพราะแต่ละตอนก็ผู้กำกับต่างกันไป
  • จำนวนตอน: 86 ตอน (10 ซีซั่น)
  • คะแนน IMDb: 8.3/10

92. It’s a Sin (2021)

ซีรีส์ฝรั่ง It’s a Sin (2021)

เรื่องเกี่ยวกับกลุ่มเพื่อนชาว LGBTQ+ ในลอนดอนช่วงยุค 80s ตอนนั้นโรคเอดส์เพิ่งเริ่มระบาดใหม่ๆ แล้วสังคมก็ยังไม่ค่อยยอมรับกลุ่มนี้อีก เรื่องมันจะพาเราไปเห็นชีวิตของพวกเขา ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข มิตรภาพ ความรัก ไปจนถึงช่วงเวลาที่ต้องเผชิญกับความสูญเสีย ความเจ็บปวด และการต่อสู้เพื่อสิทธิของตัวเอง มันทั้งอบอุ่น ทั้งเศร้า ทั้งให้กำลังใจ ครบรสมากๆ

ตัวละครแต่ละตัวมีเสน่ห์มาก แล้วนักแสดงก็เล่นดีกันทุกคนเลยนะ ที่สำคัญคือมันทำให้เราเข้าใจความรู้สึกของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศมากขึ้น เห็นเลยว่าพวกเขาต้องผ่านอะไรมาบ้างในยุคนั้น แถมยังสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาสังคมในอดีตที่ยังคงส่งผลมาถึงปัจจุบันอีกด้วย ใครชอบซีรีส์ฝรั่งดราม่าที่กินใจ แนะนำเลยเรื่องนี้

  • ประเภท: ดราม่า, Coming-of-age, LGBTQ+
  • วันที่เข้าฉาย: 22 มกราคม 2021
  • นักแสดงนำ: Olly Alexander, Omari Douglas, Callum Scott Howells, Lydia West
  • ผู้กำกับ: Peter Hoar
  • จำนวนตอน: 5 ตอน
  • คะแนน IMDb: 8.6/10

91. Community (2009–2015)

ชุมชนคนป่วน

ซีรีส์ฝรั่ง Community (2009–2015)

กลุ่มคนที่ไม่น่าจะมาอยู่ด้วยกันได้เลย แต่ดันต้องมาเรียนรวมกันในวิทยาลัยชุมชนแห่งหนึ่งในเมือง Greendale มีตั้งแต่ทนายปากจัดที่โดนยึดใบอนุญาต, แม่บ้านผิวสีที่อยากกลับมาเรียน, เด็กเนิร์ดติดเกม, สาวสวยสุดเพอร์เฟ็ค, แล้วก็ตัวละครเพี้ยนๆ อีกเพียบ! แต่ละคนมีปัญหาและเรื่องราวของตัวเอง แต่พวกเขาก็ดันสนิทกันแบบงงๆ ซะงั้น

แต่ละตอนจะมีเรื่องราวฮาๆ เกิดขึ้นตลอด ไม่ว่าจะเป็นการทำโปรเจกต์กลุ่มสุดป่วน การแข่งขันเพ้นท์บอลสุดมันส์ หรือแม้แต่การเล่นเกมกระดานที่กลายเป็นเรื่องใหญ่โตระดับโลก! แถมยังมีมุกตลกเสียดสีสังคมและวัฒนธรรมป๊อปแบบจัดเต็ม บอกเลยว่าฮาจนท้องแข็งแน่นอน

  • ประเภท: ตลก, สถานการณ์
  • วันที่เข้าฉาย: 17 กันยายน 2009
  • นักแสดงนำ: โจเอล แม็คเฮล, กิลเลียน จาคอบส์, แดนนี่ พูดี้, อลิสัน บรี, โดนัลด์ โกลเวอร์
  • ผู้สร้าง: แดน ฮาร์มอน
  • จำนวนตอน: 110 ตอน (6 ซีซั่น)
  • คะแนน IMDb: 8.5/10

90. Garth Marenghi’s Darkplace (2004)

ซีรีส์ฝรั่ง Garth Marenghi’s Darkplace (2004)

ซีรีส์สยองขวัญยุค 80s ปลอมๆ ที่เอามาฉายใหม่ในยุคปัจจุบัน แต่ความพีคคือมันไม่ได้แค่สยองนะ มันกาก มันตลกแบบไม่ได้ตั้งใจอะ

ตัวเอกคือ Garth Marenghi นักเขียนนิยายสยองขวัญ (ที่โคตรหลงตัวเอง) เขาจะมาแนะนำซีรีส์ของเขาเองที่เขาบอกว่ามันโคตรเจ๋ง แต่จริงๆ แล้วมันคือหายนะ ทั้งบทห่วยๆ การแสดงแข็งๆ เอฟเฟคกากๆ คือมันแย่จนฮาอะแก

  • ประเภท: ตลก, สยองขวัญ, ล้อเลียน
  • วันที่เข้าฉาย: 12 มกราคม 2004
  • นักแสดงนำ: Matthew Holness, Richard Ayoade, Matt Berry
  • ผู้กำกับ: Matthew Holness, Richard Ayoade
  • จำนวนตอน: 6 ตอน
  • IMDb Rating: 8.5/10

89. Spiral (2005-2020)

ซีรีส์ฝรั่ง Spiral (2005 2020)

ซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวน แต่ไม่ใช่แบบธรรมดานะ มันเรียลมากๆ เล่าเรื่องผ่านมุมมองของตำรวจ อัยการ ทนาย แล้วก็ผู้พิพากษา คือเราจะได้เห็นทุกแง่มุมของกระบวนการยุติธรรมเลย คดีก็แบบเข้มข้น มีทั้งฆาตกรรม ยาเสพติด คอร์รัปชั่น คือครบรสเลย นักแสดงก็เล่นดีมาก โดยเฉพาะ Caroline Proust ที่เล่นเป็นตำรวจหญิง Laure Berthaud นางแบบเก่งและแกร่งมาก

แต่ขอบอกก่อนนะว่าเรื่องนี้มันค่อนข้างดาร์กและรุนแรงหน่อยนะ ไม่ได้มีฉากบู๊เยอะ แต่เน้นการไขคดีและการต่อสู้ในชั้นศาลมากกว่า ใครชอบซีรีส์ฝรั่งแนวนี้ต้องลองเลย รับรองว่าติดหนึบ!

  • ประเภท: อาชญากรรม, ดราม่า, ระทึกขวัญ
  • วันที่เข้าฉาย: 6 ธันวาคม 2005
  • นักแสดงนำ: Caroline Proust, Grégory Fitoussi, Philippe Duclos
  • ผู้กำกับ: หลายคน (แต่ละซีซั่นมีผู้กำกับต่างกัน)
  • จำนวนตอน: 8 ซีซั่น, 65 ตอน
  • คะแนน IMDb: 8.2/10

88. Dexter (2006-2013)

เด็กซเตอร์ เชือดพิทักษ์คุณธรรม

ซีรีส์ฝรั่ง Dexter

Dexter เนี่ย เป็นนักวิเคราะห์คราบเลือดให้ตำรวจไมอามี เก่งมากนะ แต่… เขามีอีกด้านที่ไม่มีใครรู้ คือเขาเป็นฆาตกรต่อเนื่อง! แต่ไม่ใช่ฆาตกรธรรมดานะ เขาฆ่าเฉพาะฆาตกรที่กฎหมายเอาผิดไม่ได้อะ มันส์สุดๆ

ซีรีส์นี้จะพาเราไปสำรวจชีวิตสองด้านของ Dexter ทั้งการไขคดีในตอนกลางวัน และการตามล่าฆาตกรในตอนกลางคืน มันทั้งตื่นเต้น ลุ้นระทึก แล้วก็ทำให้เราตั้งคำถามเกี่ยวกับความดีความชั่วไปพร้อมๆ กันด้วยนะ

  • ประเภท: ระทึกขวัญ, อาชญากรรม, ดราม่า
  • วันที่เข้าฉาย: 1 ตุลาคม 2006
  • นักแสดงนำ: Michael C. Hall
  • ผู้กำกับ: หลายคนกำกับนะ แต่คนแรกๆ คือ Michael Cuesta
  • จำนวนตอน: 8 ซีซั่น, 96 ตอน
  • คะแนน IMDb: 8.6/10
  • ช่องทางการรับชม: Netflix

87. Peep Show (2003–2015)

ซีรีส์ฝรั่ง Peep Show (2003–2015)

เรื่องมันเกี่ยวกับเพื่อนร่วมห้องสองคน Mark กับ Jez ที่นิสัยต่างกันสุดขั้ว แต่ดันต้องมาอยู่ด้วยกัน แล้วชีวิตพวกเขาก็โคตรจะพังพินาศ แบบว่าแต่ละวันต้องเจอกับเรื่องบ้าๆ บอๆ ทั้งเรื่องงาน เรื่องความรัก เรื่องเพื่อน คือมันฮาตรงที่เราจะได้ยินความคิดของตัวละครตลอดเวลา เหมือนเราแอบส่องชีวิตพวกเขาอยู่

ถ้าชอบอะไรที่มันตลกร้ายๆ แล้วก็ real แบบสุดๆ ต้องลองดู Peep Show เลยนะ รับรองว่าไม่ผิดหวัง

  • ประเภท: ตลก, เสียดสีสังคม
  • วันที่เข้าฉาย: 19 กันยายน 2003 – 16 ธันวาคม 2015
  • นักแสดงนำ: David Mitchell, Robert Webb
  • ผู้กำกับ: หลายคน (แต่ละตอนมีผู้กำกับต่างกัน)
  • จำนวนตอน: 54 ตอน (แต่ละตอนประมาณ 25 นาที)
  • IMDb Rating: 8.6/10

86. The White Lotus (2021-)

เกาะสวาท หาดฆาตกรรม

ซีรีส์ฝรั่ง The White Lotus (2021 )

ซีรีส์แนวเสียดสีสังคม แต่ละซีซันจะพาเราไปตามติดชีวิตแขกและพนักงานของโรงแรมหรูชื่อ The White Lotus แต่ละที่มีเรื่องราวของตัวเอง ไม่เกี่ยวข้องกัน แค่ใช้ชื่อโรงแรมเดียวกัน

คือแบบ… มันเรียลมาก ตัวละครแต่ละตัวคือมีปม มีปัญหาชีวิตที่แบบ… เราเข้าใจได้เลยว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น แล้วพอทุกคนมาเจอกันในบรรยากาศพักร้อนหรูๆ มันก็ยิ่งขับเน้นความแตกต่าง ความเหลื่อมล้ำในสังคมออกมาสุดๆ ไปเลยอะ แล้วก็มีเรื่องดราม่า ความสัมพันธ์ ความลับดำมืดต่างๆ มาแบบไม่หยุดไม่หย่อน บอกเลยว่าแต่ละตอนคือพีคมากกกกกกกกกกกกก

สรุปคือถ้าชอบซีรีส์ฝรั่งที่ดูแล้วได้คิดตาม ชอบเสพดราม่าชีวิตคนรวยๆ แล้วก็มีตลกร้ายๆ แทรกมาเป็นระยะๆ ต้องดู The White Lotus เลยนะ!

  • ประเภท: ดราม่า, ตลกร้าย, เสียดสีสังคม
  • วันที่เข้าฉาย: 11 กรกฎาคม 2021 (ซีซัน 1), 30 ตุลาคม 2022 (ซีซัน 2)
  • นักแสดงนำ: (เยอะมากกกก แต่ละซีซันก็ต่างกัน) ซีซัน 1 มี Murray Bartlett, Connie Britton, Jennifer Coolidge, Alexandra Daddario, Jake Lacy, ซีซัน 2 มี F. Murray Abraham, Jennifer Coolidge, Adam DiMarco, Meghann Fahy, Theo James, Aubrey Plaza,
  • ผู้กำกับ: Mike White (คนเดียวทั้ง 2 ซีซันเลย!)
  • จำนวนตอนหรือความยาว: แต่ละซีซันมีประมาณ 6-7 ตอน ตอนละ 50-60 นาที
  • คะแนน IMDb: 7.9/10 (ซีซัน 1), 8.0/10 (ซีซัน 2) (เรตติ้งดีมากกกก)
  • ช่องทางการรับชม: HBO

85. Parks and Recreation (2009-2015)

ซีรีส์ฝรั่ง Parks and Recreation (2009 2015)

เป็นเรื่องเกี่ยวกับ Leslie Knope ที่ทำงานในแผนก Parks and Recreation ของเมือง Pawnee, Indiana นางมีความตั้งใจแรงกล้าที่จะพัฒนาเมืองให้ดีขึ้น แต่ก็เจออุปสรรคต่างๆ นานา ทั้งจากเพื่อนร่วมงานบ้าง ประชาชนบ้าง แล้วก็ระบบราชการที่มันก็… เออ… นั่นแหละ

แต่คือเสน่ห์ของเรื่องมันอยู่ที่ตัวละครแต่ละตัว คือมันมีเอกลักษณ์มากๆ แล้วก็ตลกแบบไม่ห่วงสวยห่วงหล่อกันเลย แล้วก็มี Ron Swanson ที่เป็นหัวหน้าแผนก Parks and Recreation ที่แบบ… นิ่งมาก เย็นชาสุดๆ แต่ก็ฮาแบบไม่ตั้งใจ

คือโดยรวมแล้ว Parks and Recreation มันเป็นซีรีส์ฝรั่งที่ดูได้เรื่อยๆ เพลินๆ สบายๆ ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย แค่ดูตัวละครแต่ละตัวเล่นมุกใส่กันก็ขำจนท้องแข็งแล้ว แถมยังได้เห็นพัฒนาการของตัวละครแต่ละตัวด้วยนะแก คือมันดีงามพระรามแปดจริงๆ!

  • ประเภท: ตลก, เสียดสี
  • วันที่เข้าฉาย: 9 เมษายน 2009 – 24 กุมภาพันธ์ 2015
  • นักแสดงนำ: Amy Poehler, Nick Offerman, Aubrey Plaza, Chris Pratt, Adam Scott, Aziz Ansari, Retta, Jim O’Heir
  • ผู้สร้าง: Greg Daniels, Michael Schur
  • จำนวนตอน: 125 ตอน
  • คะแนน IMDb: 8.6/10

84. Futurama (1999-)

ฟิวเจอร์ราม่า ป่วนฮาโลกอนาคต

ซีรีส์ฝรั่ง Futurama (1999 )

เรื่องมันเริ่มต้นตอนที่ Philip J. Fry ส่งพิซซ่าไปผิดที่แล้วบังเอิญไปหลุดเข้าไปในเครื่องแช่แข็งจนตื่นขึ้นมาอีกทีก็ปี 3000 แล้ว! แล้วเขาก็ได้เจอกับเพื่อนใหม่สุดเพี้ยนอย่าง Leela ที่มีตาเดียว กับหุ่นยนต์ขี้เหล้า Bender พวกเขาเลยออกผจญภัยสุดป่วนในโลกอนาคตด้วยกัน

ซีรีส์ฝรั่งนี้มันตลกมากนะ มีมุกเสียดสีสังคมและเทคโนโลยีแบบแสบๆ คันๆ แล้วก็มีตัวละครแปลกๆ เพียบเลย แถมยังมีตอนที่ซึ้งกินใจด้วยนะ บางทีก็ทำให้เราคิดถึงเรื่องความสัมพันธ์และชีวิตของเราเองเลยล่ะ

  • ประเภท: แอนิเมชัน, ไซไฟ, คอมเมดี้
  • วันที่เข้าฉาย: 28 มีนาคม 1999
  • นักพากย์หลัก: Billy West, Katey Sagal, John DiMaggio
  • ผู้สร้าง: Matt Groening, David X. Cohen
  • จำนวนตอน: 140 ตอน (7 ซีซั่น)
  • IMDb Rating: 8.5/10
  • ช่องทางการรับชม: Disney+

83. Line of Duty (2012-2021)

ไลน์ ออฟ ดิวตี้

ซีรีส์ฝรั่ง Line of Duty (2012 2021)

ซีรีส์ฝรั่งสืบสวนสอบสวนตำรวจอังกฤษเนี่ยแหละ แต่ไม่ใช่แบบธรรมดานะ มันเข้มข้น ลุ้นระทึกทุกตอนเลย

คือมันเกี่ยวกับหน่วย AC-12 ที่ต้องตามล่าพวกตำรวจเลวที่ทุจริตคอรัปชั่นอะ แต่ละคดีคือพลิกไปพลิกมา เดาทางไม่ถูกเลย ตัวละครแต่ละตัวก็มีปม มีความลับเยอะแยะไปหมด บอกเลยว่าต้องดูเองถึงจะรู้ว่ามันส์แค่ไหน

ส่วนตัวละครหลักก็มี สตีฟ อาร์น็อตต์, เคท เฟลมมิ่ง, และ เท็ด แฮสติงส์ นี่แหละ แต่ละคนคือเล่นดีมาก สมบทบาทสุด ๆ ดูแล้วอินไปกับเรื่องราวของพวกเขาเลย

  • ประเภท: อาชญากรรม, ดราม่า, ระทึกขวัญ
  • วันที่เข้าฉาย: 26 มิถุนายน 2012
  • นักแสดงนำ: มาร์ติน คอมป์ตัน, วิกกี้ แมคคลัวร์, เอเดรียน ดันบาร์
  • ผู้สร้าง: เจด เมอร์คูริโอ
  • จำนวนตอน: 6 ซีซั่น, 36 ตอน
  • คะแนน IMDb: 9/10

82. Atlanta (2016-2022)

ซีรีส์ฝรั่ง Atlanta (2016 2022)

Earn ผู้จัดการส่วนตัว (แบบงงๆ) ให้ Alfred ลูกพี่ลูกน้องตัวเองที่เป็นแร็ปเปอร์นะ ชื่อในวงการ Paper Boi แล้วก็มี Darius เพื่อน Alfred อีกคน คือแบบ สามคนนี้แหละ ตัวหลักเลย ซีรีส์มันจะพาเราตามติดชีวิตพวกเขาใน Atlanta ที่แบบ… จะเรียกว่าดิ้นรนก็ได้นะ คือแต่ละคนก็มีความฝัน มีปัญหาชีวิต แล้วมันก็พาเราไปเจอเรื่องราวต่างๆ ที่มันทั้งตลก ทั้งเจ็บปวด ทั้งเหนือจริง คือแบบ ดูไปก็ได้คิดตามไปด้วย ว่าชีวิตมันก็แบบนี้แหละ

แต่ที่ชอบคือ มันไม่ได้แค่เล่าเรื่องชีวิตพวกเขาเฉยๆ นะ มันมีอะไรที่มันลึกกว่านั้น มันสะท้อนสังคม สะท้อนปัญหาของคนผิวสีในอเมริกา ซึ่งบางทีมันก็เจ็บแสบ บางทีมันก็ตลกร้าย แต่ทุกอย่างมันดูจริง มันทำให้เราเข้าใจอะไรมากขึ้น

สรุปคือ Atlanta มันเป็นซีรีส์ฝรั่งที่แหวกแนว มันไม่เหมือนซีรีส์อื่นๆ ที่เคยดู มันตลกแบบแปลกๆ มันดราม่าแบบจุกๆ แล้วมันก็ทำให้เราอินไปกับตัวละคร ถ้าชอบอะไรที่มันแตกต่าง ลองดูเลย ไม่ผิดหวังแน่นอน

  • ประเภท: คอมเมดี้-ดราม่า, เซอร์เรียล
  • ปีที่ฉาย: 2016-2022
  • นักแสดงนำ: Donald Glover, Brian Tyree Henry, LaKeith Stanfield, Zazie Beetz
  • ผู้สร้าง: Donald Glover
  • จำนวนตอน: 41 ตอน (4 ซีซั่น)
  • คะแนน IMDb: 8.6/10
  • ช่องทางการรับชม: Disney+

81. It’s Always Sunny in Philadelphia (2005-)

ซีรีส์ฝรั่ง It’s Always Sunny in Philadelphia (2005 )

ซีรีส์แนวตลกสุดป่วนเกี่ยวกับแก๊งเพื่อนซี้สี่คนที่บริหารผับไอริชชื่อ Paddy’s Pub ในฟิลาเดลเฟีย แต่ละคนนี่คือสุดโต่ง ตัวละครแต่ละตัวคือมีปม มีปัญหาชีวิตของตัวเอง แล้วชอบสร้างสถานการณ์วุ่นวายให้คนรอบข้างปวดหัวตลอด

มุขตลกในเรื่องคือแบบ ดาร์กคอมเมดี้ เสียดสีสังคมสุดๆ บางทีก็อาจจะดูแรงไปบ้าง แต่รับรองว่าขำจนท้องแข็งแน่นอน นี่ดูแล้วติดงอมแงมเลย ตอนนี้มีตั้ง 15 ซีซั่นแล้วนะ คิดดูว่ามันสนุกขนาดไหน!

ถ้าชอบซีรีส์ฝรั่งตลกที่แหวกแนว ไม่ซ้ำใคร ต้องลองดู It’s Always Sunny in Philadelphia เลย รับรองไม่ผิดหวัง!

  • ประเภท: ตลก, ดาร์กคอมเมดี้, ซิทคอม
  • วันที่เข้าฉาย: 4 สิงหาคม 2005
  • นักแสดงนำ: Charlie Day, Glenn Howerton, Rob McElhenney, Kaitlin Olson
  • ผู้กำกับ: หลายคน (แต่หลักๆ คือแก๊งนักแสดงนำนี่แหละ)
  • จำนวนตอน: 162 ตอน (15 ซีซั่น)
  • คะแนน IMDb: 8.8/10
  • ช่องทางการรับชม: Disney+

80. Insecure (2016–2021)

ซีรีส์ฝรั่ง Insecure (2016–2021)

เรื่องเกี่ยวกับเพื่อนรักสองคน อิสซ่ากับมอลลี่ ที่กำลังอยู่ในช่วงวัยใกล้ 30 แล้วก็ต้องเจอกับเรื่องราวต่างๆ ทั้งเรื่องงาน ความรัก มิตรภาพ แล้วก็การค้นหาตัวเอง คือมันเรียลมาก เข้าใจความรู้สึกของตัวละครเลย

อิสซ่าเนี่ย ทำงานอยู่ที่องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรแห่งหนึ่ง แล้วก็รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองเท่าไหร่ ส่วนมอลลี่เป็นทนายความที่ประสบความสำเร็จ แต่ก็ยังมีปัญหากับเรื่องความสัมพันธ์อยู่ ซีรีส์มันจะพาเราไปดูชีวิตของพวกเธอ แบบทั้งเรื่องตลก เศร้า แล้วก็ซึ้งปนกันไป คือมันเรียลมากๆ แกต้องลองไปดู

  • ประเภท: ตลก-ดราม่า
  • ปีที่ฉาย: 2016–2021
  • นักแสดงนำ: Issa Rae, Yvonne Orji
  • ผู้สร้าง: Issa Rae, Larry Wilmore
  • จำนวนตอน: 44 ตอน (5 ซีซั่น)
  • คะแนน IMDb: 8.0/10
  • ช่องทางการรับชม: HBO, Netflix

79. Luther (2010-2019)

ลูเธอร์

ซีรีส์ฝรั่ง Luther (2010 2019)

พระเอกชื่อ จอห์น ลูเธอร์ เป็นตำรวจสืบสวนคดีฆาตกรรมโคตรเก่ง แต่แก… วิธีการของเขาคือเข้าถึงจิตใจฆาตกรเลยอะ แบบโคตรดาร์ก บางทีก็เลยมีปัญหากับทีมตัวเองบ้าง แต่แกเชื่อดิ มันส์สุดๆ

แต่ๆๆ ความสามารถของเขามันก็ดาบสองคมนะ ชีวิตส่วนตัวเขาก็เลยพังๆ หน่อย แกต้องไปดูเองอะ ว่าเขาจะรับมือกับความมืดในตัวเองยังไง แล้วคดีแต่ละคดีก็คือแบบ โคตรซับซ้อน เดาทางไม่ถูกเลย

สรุปคือ ถ้าชอบซีรีส์สืบสวนแบบจิตวิทยาหน่อยๆ ต้องดู Luther เลย!

  • ประเภท: อาชญากรรม, ดราม่า, ระทึกขวัญ
  • วันที่เข้าฉาย: 4 พฤษภาคม 2010
  • นักแสดงนำ: Idris Elba
  • ผู้กำกับ: Neil Cross (คนสร้าง) และผู้กำกับแต่ละตอนหลายคน
  • จำนวนตอน: 20 ตอน (5 ซีซั่น)
  • คะแนน IMDb: 8.4/10

78. Andor (2022-)

สตาร์ วอร์ส: เอนดอร์

ซีรีส์ฝรั่ง Andor

Andor เนี่ย เป็นซีรีส์ในจักรวาล Star Wars เลยนะ แต่ไม่ต้องห่วง ถ้าไม่เคยดู Star Wars มาก่อนก็ดูรู้เรื่อง เพราะมันเป็นเรื่องราวของ Cassian Andor ตัวละครที่เราเคยเห็นแว้บๆ ในหนัง Rogue One นั่นแหละ ซีรีส์นี้จะพาเราย้อนไปดูชีวิตของเขาก่อนที่จะมาเป็นกบฏเต็มตัว คือช่วงที่จักรวรรดิกำลังเรืองอำนาจเลย

เราจะได้เห็นว่า Cassian ที่ตอนแรกก็แค่คนธรรมดาๆ คนนึง ต้องเจอกับอะไรบ้าง ถึงทำให้เขาลุกขึ้นมาต่อสู้กับจักรวรรดิ มันไม่ได้มีฉากยิงกันตูมตามตลอดนะ แต่จะเน้นไปที่การเมือง การชิงไหวชิงพริบ แล้วก็การต่อสู้ในรูปแบบที่คนตัวเล็กๆ ทำได้ ซึ่งมันเรียลมากๆ

แต่ขอบอกเลยว่า ถึงจะไม่ได้บู๊แหลก แต่ก็ลุ้นระทึกทุกตอน ตัวละครแต่ละตัวมีมิติ มีความซับซ้อน ไม่ได้แบ่งแยกง่ายๆ ว่าฝ่ายดีฝ่ายร้าย แล้วงานสร้างก็ดีงามตามสไตล์ Star Wars เลย ใครชอบแนวสายลับ สืบสวนสอบสวนหน่อยๆ น่าจะถูกใจ

  • ประเภท: แอคชั่น ผจญภัย ระทึกขวัญ
  • วันที่เข้าฉาย: 21 กันยายน 2022
  • นักแสดงนำ: Diego Luna
  • ผู้กำกับ: Tony Gilroy, Susanna White และคนอื่นๆ
  • จำนวนตอน: ซีซั่น 1 มี 12 ตอน (ซีซั่น 2 กำลังถ่ายทำ)
  • คะแนน IMDb: 8.4/10
  • ช่องทางการรับชม: Disney+

77. I, Claudius (1976)

ซีรีส์ฝรั่ง I, Claudius (1976)

ซีรีส์อิงประวัติศาสตร์ของโรมัน เล่าเรื่องราวของจักรพรรดิคลอดิอัสตั้งแต่สมัยที่เขายังเป็นเด็กจนถึงวันที่เขาขึ้นครองบัลลังก์ คือบอกเลยว่าชีวิตแกโคตรดราม่า แกต้องเจอกับการเมือง การทรยศหักหลัง การฆาตกรรมในราชวงศ์ โอ๊ยเยอะ! แต่ที่พีคคือแกเป็นคนพูดติดอ่าง เดินขาเป๋ ทุกคนเลยมองว่าแกไร้ความสามารถ แต่สุดท้ายแกกลับได้เป็นจักรพรรดิเฉยเลย

คือซีรีส์มันทำให้เราเห็นเลยว่าเบื้องหลังความรุ่งเรืองของอาณาจักรโรมัน มันเต็มไปด้วยความโหดร้ายและการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น แกจะได้เห็นเลยว่าคนเราทำได้ทุกอย่างเพื่ออำนาจ แม้กระทั่งฆ่าคนในครอบครัวตัวเอง นี่ขนาดชั้นดูจบแล้วยังรู้สึกหน่วงๆ อยู่เลย

แต่รวมๆ แล้วคือดีมากนะ นักแสดงเล่นดีมาก ฉากต่างๆ ก็อลังการสมกับเป็นซีรีส์ฝรั่งอิงประวัติศาสตร์ ถ้าแกชอบแนวนี้ ชั้นแนะนำเลย ไม่ผิดหวังแน่นอน

  • ประเภท: ดราม่า, ประวัติศาสตร์
  • ปีที่ฉาย: 1976
  • นักแสดงนำ: Derek Jacobi, Sian Phillips, Brian Blessed, John Hurt
  • ผู้กำกับ: Herbert Wise
  • จำนวนตอน: 12 ตอน
  • คะแนน IMDb: 9.0/10

76. Father Ted (1995-1998)

ซีรีส์ฝรั่ง Father Ted (1995 1998)

3 บาทหลวงสุดเพี้ยนที่อยู่บนเกาะ Craggy Island ที่ไอร์แลนด์ แต่ละคนนี่มีปัญหาของตัวเอง

มี Father Ted ที่ดูเหมือนจะปกติสุดในกลุ่ม แต่ก็มีเรื่องโกงเงินมา Father Dougal ที่ใสซื่อจนเกินไป บางทีก็พูดไม่รู้เรื่อง ส่วน Father Jack นี่หนักเลย ติดเหล้าแล้วก็ชอบพูดแต่ “Drink! Feck! Arse!” ฮ่าๆๆๆ พวกเขาต้องรับมือกับเรื่องวุ่นวายบนเกาะ ทั้งชาวบ้านแปลกๆ นักบวชหญิงจอมจุ้น แล้วก็แม่บ้านดอยล์ที่คอยจะเสิร์ฟชาตลอดเวลา

บอกเลยว่าแต่ละตอนนี่คือฮาจนท้องแข็ง มุกตลกมันแบบ… บ้าบอมาก แต่ก็เสียดสีสังคมได้เจ็บแสบเหมือนกันนะ ถ้าชอบซีรีส์ตลกแบบอังกฤษๆ หน่อย ต้องลองดูเลย ไม่ผิดหวังแน่นอน!

  • ประเภท: ตลก, เสียดสี
  • ปีที่ฉาย: 1995-1998
  • นักแสดงนำ: Dermot Morgan, Ardal O’Hanlon, Frank Kelly
  • ผู้สร้าง: Graham Linehan, Arthur Mathews
  • จำนวนตอน: 25 ตอน (3 ซีซั่น)
  • คะแนน IMDb: 9.0/10

75. The Fresh Prince of Bel-Air (1990-1996)

ซีรีส์ฝรั่ง The Fresh Prince of Bel Air (1990 1996)

เรื่องมันเริ่มต้นที่ วิล เด็กหนุ่มจอมแสบจากฟิลาเดลเฟีย ต้องย้ายไปอยู่กับญาติผู้ร่ำรวยที่เบลแอร์ แคลิฟอร์เนีย แค่คิดก็ฮาแล้วใช่มั้ยล่ะ? ชีวิตของวิลที่บ้านใหม่นี่ต่างจากเดิมสุดขั้วเลย ทั้งวัฒนธรรม ไลฟ์สไตล์ ทุกอย่างเลย แกคงนึกภาพออกใช่มะว่าต้องเกิดเรื่องป่วนๆ แน่

แต่เออ สนุกมากนะ ไม่ใช่แค่ตลกโปกฮาอย่างเดียวนะ มันยังมีเรื่องราวซึ้งๆ ให้เราอินตามไปกับตัวละครด้วย ดูแล้วจะรักวิลเลย เป็นเด็กที่ทั้งฉลาด กวนโอ๊ย แต่ก็มีน้ำใจนะ แถมยังสอนให้เรารู้จักคุณค่าของครอบครัวและมิตรภาพด้วย ใครชอบซิตคอมดูเพลินๆ ห้ามพลาดเลย

  • ประเภท: ซิตคอม, ตลก, ครอบครัว
  • วันที่เข้าฉาย: 10 กันยายน 1990 – 20 พฤษภาคม 1996
  • นักแสดงนำ: วิล สมิธ, เจมส์ เอเวอรี่, อัลฟอนโซ ริเบโร, คาเรน พาร์สันส์, ทาเทียน่า อาลี
  • จำนวนตอน: 148 ตอน (6 ซีซั่น)
  • IMDb Rating: 8/10

74. Schitt’s Creek (2015-2020)

ซีรีส์ฝรั่ง Schitt’s Creek (2015 2020)

เรื่องมันเริ่มจากครอบครัว Rose ที่รวยล้นฟ้าอยู่ดี ๆ ก็โดนโกงจนหมดตัว เหลือสมบัติชิ้นเดียวคือเมืองเล็ก ๆ ชื่อ Schitt’s Creek ที่พวกเขาเคยซื้อไว้เล่น ๆ ตอนเมามั้ง 55555 สุดท้ายก็ต้องย้ายไปอยู่ในเมืองนั้นแหละ แล้วเรื่องฮาก็ตามมาเพียบ เพราะครอบครัวนี้คือไฮโซเว่อร์ ปรับตัวกับชีวิตบ้านนอกไม่เป็นเลย คิดดูดิ จากคฤหาสน์หรูต้องมาอยู่ในโมเต็ลโทรม ๆ อีแม่ Moira นี่ชุดแต่ละชุดคือเว่อวังอลังการมาก เดินไปไหนในเมืองคนก็มองกันทั้งเมืองอะ ฮาสุด!

แต่แก ความฮาคือเปลือกนอก จริง ๆ แล้วซีรีส์ฝรั่งนี้มันอบอุ่นหัวใจมากนะ มันเกี่ยวกับการที่ครอบครัวนี้ค่อย ๆ เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตแบบ “คนธรรมดา” แล้วก็ค้นพบว่าความสุขที่แท้จริงมันไม่เกี่ยวกับเงินทองเลย พวกเขาเริ่มสนิทกันมากขึ้น มีเพื่อนใหม่ ๆ ในเมืองที่แปลกประหลาดแต่ก็น่ารัก แล้วก็ค่อย ๆ เติบโตเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิมอะ ดูไปก็อมยิ้มไป น้ำตาซึมไป คือมันดีต่อใจมาก

แกต้องลองดูนะ Schitt’s Creek เนี่ย ชั้นรับประกันความฮาและความอบอุ่นหัวใจเลย!

  • ประเภท: ตลก, ดราม่า, ครอบครัว
  • วันที่เข้าฉาย: 13 มกราคม 2015
  • นักแสดงนำ: Eugene Levy, Catherine O’Hara, Dan Levy, Annie Murphy
  • ผู้สร้าง: Dan Levy, Eugene Levy
  • จำนวนตอน: 80 ตอน (6 ซีซั่น)
  • คะแนน IMDb: 8.5/10
  • ช่องทางการรับชม: Netflix

73. Our Friends in the North (1996)

ซีรีส์ฝรั่ง Our Friends in the North (1996)

เล่าเรื่องชีวิตเพื่อนสนิทสี่คนจากเมืองนิวคาสเซิล ตั้งแต่สมัยพวกเขาเป็นวัยรุ่นไฟแรงในยุค 60s จนถึงช่วงวัยกลางคนในยุค 90s น่ะ แกก็จะได้เห็นเลยว่าแต่ละคนมีความฝัน ความทะเยอทะยานอะไรบ้าง แล้วชีวิตมันก็พาพวกเขาไปเจอเรื่องราวต่างๆ ทั้งสุข ทั้งเศร้า ทั้งสมหวัง ทั้งผิดหวัง มันสะท้อนให้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการเมืองของอังกฤษในช่วงนั้นด้วยนะ

คือแกต้องดูเองอะ มันเรียลมาก แล้วแต่ละตัวละครก็มีมิติ มีปม มีความซับซ้อนของตัวเอง แล้วนักแสดงก็เล่นดีมากกก ชั้นอินตามไปกับทุกตัวละครเลย

  • ประเภท: ดราม่า, การเมือง, ประวัติศาสตร์
  • ปีที่ฉาย: 1996
  • นักแสดงนำ: Christopher Eccleston, Daniel Craig, Mark Strong, Gina McKee
  • ผู้กำกับ: Stuart Urban, Pedr James, Simon Cellan Jones
  • จำนวนตอน: 9 ตอน
  • คะแนน IMDb: 8.6/10

72. What We Do in the Shadows (2019-)

ซีรีส์ฝรั่ง What We Do in the Shadows (2019 )

เรื่องเกี่ยวกับแก๊งแวมไพร์สี่ตัวที่อยู่ด้วยกันบนเกาะ Staten Island มาเป็นร้อยปีแล้ว แล้วก็มีไอ้หนุ่มคนนึงที่เป็นคนรับใช้ให้พวกมันด้วย แล้วคือมันเป็นซีรีส์ฝรั่งแบบสารคดีปลอมๆ อ่ะ คือมีทีมงานถ่ายทำชีวิตประจำวันของพวกมัน ซึ่งมันก็คือโคตรจะฮา คือพวกมันทำอะไรก็ดูเชยไปหมด แถมยังต้องปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่มันเปลี่ยนไปเยอะมากอีก

คือมุกในเรื่องมันแบบตลกร้าย แล้วก็เล่นกับความไร้สาระของพวกแวมไพร์ได้แบบสุดๆ คือดูไปก็ขำไป แถมยังมีตัวละครแปลกๆ เพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ อีก แบบว่าดูไปก็ไม่รู้ว่าจะเจออะไรบ้าง

สรุปคือถ้าชอบอะไรตลกๆ แบบไม่เหมือนใคร ต้องดูเรื่องนี้เลย รับรองว่าฮาจนท้องแข็งแน่นอน

  • ประเภท: ตลก, สยองขวัญ, ม็อคคิวเมนทารี
  • วันที่เข้าฉาย: 27 มีนาคม 2019
  • นักแสดงนำ: Kayvan Novak, Matt Berry, Natasia Demetriou, Harvey Guillén
  • ผู้สร้าง: Jemaine Clement
  • จำนวนตอน: 4 ซีซั่น (จนถึง 2023), 10 ตอนต่อซีซั่น (โดยประมาณ)
  • คะแนน IMDb: 8.6/10
  • ช่องทางการรับชม: Disney+

71. Freaks and Geeks (1999-2000)

ซีรีส์ฝรั่ง Freaks and Geeks (1999 2000)

เป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตวัยรุ่นในโรงเรียนมัธยมปลายช่วงยุค 80s อ่ะ มันเล่าเรื่องสองกลุ่มหลักๆ คือพวก Freaks ที่เป็นเด็กแนวๆ แหกกฎหน่อย กับพวก Geeks ที่เป็นเด็กเนิร์ดๆ เรียนเก่งๆ แล้วมันก็เล่าเรื่องความสัมพันธ์ ความรัก ความฝัน ปัญหาชีวิตวัยรุ่นอะไรพวกนี้ คือมันเรียลมากกกกกกกก แบบว่าดูแล้วอินสุดๆ

ตัวละครแต่ละตัวก็มีเสน่ห์มาก แบบว่าแต่ละคนมีคาแรคเตอร์ชัดเจน แล้วก็แสดงดีกันทุกคนเลย โดยเฉพาะ Lindsay Weir ที่เป็นตัวเอกของเรื่อง ที่แสดงโดย Linda Cardellini นางเล่นดีมากกกกกกกก แบบว่าอินเนอร์มาเต็ม แล้วก็มี James Franco ด้วยนะ ตอนนั้นเขายังละอ่อนอยู่เลย

  • ประเภท: ตลก-ดราม่า, Coming-of-age
  • วันที่เข้าฉาย: 25 กันยายน 1999
  • นักแสดงนำ: Linda Cardellini, John Francis Daley, James Franco, Samm Levine, Seth Rogen, Jason Segel, Busy Philipps, Martin Starr, Becky Ann Baker, Joe Flaherty
  • ผู้สร้าง: Paul Feig
  • จำนวนตอน: 1 ฤดูกาล (18 ตอน)
  • IMDb Rating: 8.8/10

70. Barry (2018-2023)

ซีรีส์ฝรั่ง Barry (2018-2024)

Barry เนี่ย เป็นอดีตทหารผ่านศึกที่ผันตัวมาเป็นนักฆ่ารับจ้างไง แต่ชีวิตมันพลิกผันตอนที่เขาไปทำภารกิจที่แอลเอ แล้วดันไปหลงเสน่ห์โลกของการแสดงเข้าซะงั้น สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือความพยายามที่จะทิ้งอดีตอันดำมืดเพื่อไล่ตามความฝันใหม่ แต่แน่นอนว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิด ชีวิตนักฆ่ามันไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆ หรอก

ซีรีส์ฝรั่งเรื่องนี้มันทั้งตลก ทั้งดาร์ก ทั้งลุ้นระทึกไปพร้อมๆ กัน บิล เฮเดอร์ ผู้รับบท Barry เล่นได้โคตรดี คือแกจะเอาใจช่วยตัวละครนี้ ทั้งที่รู้ว่ามันเป็นคนไม่ดี แต่ก็อดสงสารไม่ได้ แล้วตัวละครอื่นๆ ก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กันนะ โดยเฉพาะอาจารย์สอนการแสดงของ Barry นี่อย่างฮา

  • ประเภท: ตลกร้าย, ดราม่า, อาชญากรรม
  • วันที่เข้าฉาย: 25 มีนาคม 2018 – 28 พฤษภาคม 2023
  • นักแสดงนำ: บิล เฮเดอร์, สตีเฟน รูท, ซาราห์ โกลด์เบิร์ก, เฮนรี วิงเคลอร์
  • ผู้กำกับ: บิล เฮเดอร์ (ส่วนใหญ่), อเล็ค เบิร์ก, ฮิโร่ ไ counties
  • จำนวนตอนหรือความยาว: 4 ซีซั่น, 32 ตอน (ประมาณ 30 นาทีต่อตอน)
  • คะแนน IMDb: 8.3/10
  • ช่องทางการรับชม: HBO

69. 30 Rock (2006–2013)

ซีรีส์ฝรั่ง 30 Rock (2006–2013)

เรื่องมันเกี่ยวกับ Liz Lemon นักเขียนบทสาวที่ต้องรับมือกับนักแสดงเพี้ยนๆ ทีมงานสุดป่วน และเจ้านายสุดติสท์ ในการผลิตรายการวาไรตี้โชว์สดชื่อดัง “TGS with Tracy Jordan” ปัญหาต่างๆ ก็เข้ามาไม่หยุดหย่อน ทำให้ชีวิตเธอวุ่นวายสุดๆ ทั้งเรื่องงาน เรื่องความรัก และเรื่องส่วนตัว

บอกเลยว่า 30 Rock เป็นซีรีส์ที่ดูได้เพลินๆ ไม่ต้องคิดมาก แถมยังมีมุกตลกเสียดสีวงการบันเทิงแบบเจ็บๆ คันๆ อีกด้วย ถ้าชอบซิทคอมที่ทั้งฮาและแสบๆ คันๆ ต้องลองดูเลย

  • ประเภท: ซิทคอม, ตลก
  • วันที่เข้าฉาย: 11 ตุลาคม 2006
  • นักแสดงนำ: Tina Fey, Alec Baldwin, Tracy Morgan, Jane Krakowski, Jack McBrayer
  • ผู้สร้าง: Tina Fey
  • จำนวนตอน: 138 ตอน (7 ซีซั่น)
  • IMDb Rating: 8.2/10

68. Doctor Who (1963-)

ด็อกเตอร์ฮู

ซีรีส์ฝรั่ง Doctor Who (1963 )

เคยได้ยินเรื่อง Doctor Who ปะ? มันเป็นซีรีส์อังกฤษโคตรเก่าเลยนะ แต่ยังฉายอยู่เรื่อยๆจนถึงทุกวันนี้ คือมันเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวที่เรียกตัวเองว่า “The Doctor” เขาเดินทางข้ามเวลาและอวกาศด้วยยานรูปตู้โทรศัพท์ตำรวจอังกฤษยุคเก่าๆอะ แล้วเขาก็ไปเจอเรื่องแปลกๆตลอด มีเพื่อนร่วมทางด้วยนะ ส่วนใหญ่เป็นมนุษย์นี่แหละ

คือแก The Doctor เนี่ย เขาไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวธรรมดานะ เขาเป็น Time Lord มีพลังในการฟื้นฟูร่างกายตัวเองได้ เวลาใกล้ตายก็จะเปลี่ยนร่างใหม่หมดเลย ทั้งหน้าตา นิสัยก็เปลี่ยนด้วย เพราะงั้นถึงซีรีส์ฝรั่งมันจะเก่ามาก แต่ก็มี Doctor หลายคนแล้ว แต่ละคนก็มีเสน่ห์ต่างกันไป แล้วแต่คนชอบเลย

ถ้าชอบแนววิทยาศาสตร์ ผจญภัย แฟนตาซีหน่อยๆ ต้องลองดูเลยนะ มันส์มาก บางตอนก็ตลก บางตอนก็ดราม่าน้ำตาแตก แล้วแต่เลยว่า The Doctor คนไหนกับเพื่อนร่วมทางของเขาจะไปเจออะไรบ้าง รับรองว่าไม่น่าเบื่อแน่นอน ไปหาดูกันได้เลย!

  • ประเภท: วิทยาศาสตร์, ผจญภัย, แฟนตาซี
  • วันที่เข้าฉาย: 23 พฤศจิกายน ค.ศ. 1963 (ฉายมาอย่างยาวนาน มีหลายภาคหลายตอนมาก)
  • นักแสดงนำ: มีหลายคนมาก เพราะ The Doctor เปลี่ยนร่างไปเรื่อยๆ (เช่น Christopher Eccleston, David Tennant, Matt Smith, Peter Capaldi, Jodie Whittaker)
  • ผู้กำกับ: มีหลายคนมาก เพราะแต่ละตอนก็ผู้กำกับต่างกันไป
  • จำนวนตอนหรือความยาว: มีหลายภาคมาก แต่ละภาคก็มีหลายตอน ความยาวแต่ละตอนก็ประมาณ 45 นาที
  • IMDb Rating: 8.6/10

67. Skins (2007–2013)

ซีรีส์ฝรั่ง Skins (2007–2013)

เรื่องเกี่ยวกับชีวิตวัยรุ่นกลุ่มนึงในอังกฤษอะ แก๊งนี้มี đủ mọi thể loại ทั้งพวกติสท์แตก ปาร์ตี้จัดหนัก เฟี้ยวๆ กวนๆ แล้วก็พวกมีปมในใจ มันไม่ได้โลกสวยนะ คือแบบ…ชีวิตจริงวัยรุ่นอะ มีเรื่องเซ็กซ์ ยาเสพติด ความสัมพันธ์ที่มันยุ่งเหยิง แต่คือมันโคตรเรียล เข้าใจพวกเขาเลยอะ

แต่ละตอนจะโฟกัสที่ตัวละครคนนึง ให้เราเห็นชีวิต เห็นปัญหาของเขา มันทั้งตลก ทั้งเศร้า ทั้งดราม่า บางทีก็แบบ…เห้ย! ทำไปได้ไงวะ แต่สุดท้ายแล้วมันก็ทำให้เราเข้าใจพวกเขามากขึ้นอะ ชอบที่มันกล้าเล่าเรื่องพวกนี้แบบไม่ปิดบัง ไม่ต้องสอน ไม่ต้องตัดสิน แค่โชว์ให้เห็นว่าชีวิตวัยรุ่นมันเป็นยังไง

ถ้าแกชอบซีรีส์ฝรั่งที่มันเรียลๆ ไม่โลกสวย ไม่ต้องมี happy ending ทุกตอน Skins คือคำตอบเลย!

  • ประเภท: วัยรุ่น, ดราม่า, ตลกร้าย
  • วันที่เข้าฉาย: 25 มกราคม 2007
  • นักแสดงหลัก: Nicholas Hoult, Dev Patel, Kaya Scodelario, Joe Dempsie, Hannah Murray และอีกเพียบ!
  • ผู้กำกับ: หลายคนเลย แต่หลักๆ ก็ Bryan Elsley กับ Jamie Brittain
  • จำนวนตอน: ทั้งหมด 61 ตอน (7 ซีซั่น)
  • คะแนน IMDb: 8.2/10

66. Girls (2012–2017)

แสบใสไฮโซ

ซีรีส์ฝรั่ง Girls (2012–2017)

เกี่ยวกับแก๊งเพื่อนสาว 4 คนในนิวยอร์ก ชีวิตพวกนางคือโคตรวุ่นวาย ทั้งเรื่องงาน ความรัก มิตรภาพ ปัญหาครอบครัว คือมันดราม่าสุดๆ แต่ก็ตลกแบบเจ็บๆ ด้วยนะ

นางเอกคือ Hannah นางอยากเป็นนักเขียน แต่ชีวิตจริงคือ…เอ่อ…😂 นางมีเพื่อนอีก 3 คน คือ Marnie, Jessa, แล้วก็ Shoshanna แต่ละคนก็มีปัญหาของตัวเอง คือมันเรียลมากจนบางทีชั้นก็แบบ…นี่มันชั้นหรือเปล่าเนี่ย!

ถ้าชอบซีรีส์ที่ดูแล้วอิน ดูแล้วรู้สึกว่า ‘ใช่เลย!’ ต้องดูเรื่องนี้เลยแก มันแบบ…ชีวิตจริงสุดๆ

  • ประเภท: Comedy-drama
  • วันที่เข้าฉาย: 15 เมษายน 2012
  • นักแสดงนำ: Lena Dunham, Allison Williams, Jemima Kirke, Zosia Mamet
  • ผู้กำกับ: Lena Dunham (ผู้สร้าง), Judd Apatow และ Jenni Konner (ผู้อำนวยการสร้าง)
  • จำนวนตอนหรือความยาว: 6 ซีซั่น, 62 ตอน
  • คะแนน IMDb: 7.3/10
  • ช่องทางการรับชม: HBO

65. Firefly (2002)

ซีรีส์ฝรั่ง Firefly (2002)

เป็นแนวอวกาศ ผจญภัย เวสเทิร์นหน่อยๆ เล่าเรื่องราวของกลุ่มคนที่อยู่บนยานอวกาศชื่อ Serenity พวกเขาเป็นเหมือนพวกนอกกฎหมาย รับจ้างทำอะไรก็ได้เพื่อเอาตัวรอดในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้

ตัวเอกของเรื่องคือกัปตันยาน Mal Reynolds ที่รับบทโดย Nathan Fillion เท่ห์มากแก! แล้วก็มีลูกเรืออีกหลายคนที่แต่ละคนมีสตอรี่เป็นของตัวเอง ทั้งนักบิน สาวลึกลับ หมอสุดเก่ง พระเอกก็มีนะ เป็นนักสู้ที่เก่งมาก แต่ที่ชอบที่สุดคือ Jayne อ่ะ ฮาดี

ซีรีส์ฝรั่งนี้มันส์ตรงที่แต่ละตอนจะมีภารกิจใหม่ๆ ให้พวกเขาต้องไปทำ แล้วก็มีการต่อสู้ ยิงกันสนั่นจอ แต่ก็มีมุมตลกแทรกเข้ามาตลอดด้วยนะ ไม่เครียดเกินไป แถมยังมีปมปริศนาเกี่ยวกับ River Tam ที่ทำให้เราอยากรู้เรื่องราวในอดีตของเธอด้วย เสียดายที่มีแค่ซีซั่นเดียวเอง แต่ก็คุ้มค่าแก่การดูมากนะแก ลองไปหาดูนะ!

  • ประเภท: วิทยาศาสตร์, ผจญภัย, เวสเทิร์น
  • วันที่เข้าฉาย: 20 กันยายน 2002
  • นักแสดงนำ: Nathan Fillion, Gina Torres, Alan Tudyk, Morena Baccarin
  • ผู้กำกับ: Joss Whedon
  • จำนวนตอน: 14 ตอน
  • คะแนน IMDb: 9.0/10

64. I’m Alan Partridge (1997-2002)

ซีรีส์ฝรั่ง I’m Alan Partridge (1997 2002)

เคยดูพวกพิธีกรที่แบบ… พยายามจะตลก แต่จริงๆแล้วแป้กสุดๆ ป่ะ? นั่นแหละ อลัน พาร์ทริดจ์ ตัวเอกของเรื่องนี้เลย เขาเคยเป็นพิธีกรดังนะ แต่ตอนนี้ตกอับสุดๆ ต้องมาจัดรายการวิทยุตอนดึกๆ ที่ไม่มีใครฟัง แถมยังต้องทนอยู่โรงแรมเล็กๆ ริมถนนอีกต่างหาก ชีวิตเขานี่คือความพยายามที่จะกลับมาดังให้ได้ แต่ยิ่งพยายามยิ่งฮา

แต่เออ สงสารเขาก็สงสารนะ คือเขาเชื่อจริงๆว่าตัวเองเจ๋ง แต่จริงๆแล้วไม่มีใครเห็นด้วยเลยสักคน แถมยังทำเรื่องน่าอายๆตลอดเวลาอีกต่างหาก แต่แก มันก็เลยกลายเป็นตลกไปอีกแบบ ดูแล้วก็ได้แต่คิดว่า “นี่มันชีวิตชั้นชัดๆ”

ถ้าชอบอะไรแบบตลกร้ายๆ เสียดสีสังคมนิดๆ แถมยังได้เห็นชีวิตคน (ที่น่าสงสารแต่ก็ฮา) ดิ้นรนเพื่อความฝัน (ที่ไม่มีทางเป็นจริง) ฉันว่าเรื่องนี้เหมาะเลย

  • ประเภท: ตลกเสียดสี, ซิทคอม
  • ปีที่ฉาย: 1997-2002
  • นักแสดงนำ: Steve Coogan
  • ผู้กำกับ: Dominic Brigstocke, Armando Iannucci
  • จำนวนตอน: 12 ตอน (2 ซีซั่น)
  • คะแนน IMDb: 8.5/10

63. The Leftovers (2014–2017)

เมืองคนหาย

ซีรีส์ฝรั่ง The Leftovers (2014–2017)

เป็นซีรีส์ฝรั่งที่แบบว่า…โคตรจะดาร์กเลยว่ะ แต่ในความดาร์กมันก็มีอะไรให้คิดเยอะมากนะเว้ย คือเรื่องมันเริ่มจากวันนึงอยู่ดีๆ คนหายไปจากโลก 2% แบบปุ๊บปั๊บหายไปเลย ไม่มีใครรู้ว่าเกิดไรขึ้น คนที่เหลือก็เลยต้องใช้ชีวิตต่อไปท่ามกลางความสับสน ความเศร้า ความกลัว และคำถามมากมายที่ไม่มีคำตอบ แล้วซีรีส์มันก็จะโฟกัสไปที่กลุ่มคนในเมืองเล็กๆเมืองนึงที่ต้องรับมือกับความสูญเสียและความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลวงนี้

คือมันไม่ได้มีฉากหายนะตูมตามอะไรแบบนั้นนะ แต่มันจะเน้นไปที่ความรู้สึกของตัวละครแต่ละตัว ที่ต้องเผชิญหน้ากับความว่างเปล่า ความสิ้นหวัง และการตั้งคำถามถึงความหมายของชีวิต แล้วก็จะมีพวกกลุ่มลัทธิแปลกๆโผล่มาอีก คือมันชวนให้คิดตามเยอะมากอ่ะแก

  • ประเภท: ดราม่า, ลึกลับ, ระทึกขวัญ
  • วันที่เข้าฉาย: 29 มิถุนายน 2014 – 4 มิถุนายน 2017
  • นักแสดงนำ: Justin Theroux, Carrie Coon, Amy Brenneman, Christopher Eccleston
  • ผู้กำกับ: Damon Lindelof, Tom Perrotta
  • จำนวนตอน: 28 ตอน (3 ซีซั่น)
  • IMDb Rating: 8.3/10
  • ช่องทางการรับชม: HBO

62. NYPD Blue (1993-2005)

ซีรีส์ฝรั่ง NYPD Blue (1993 2005)

เรื่องมันเกี่ยวกับชีวิตตำรวจในนิวยอร์กอ่ะแก แบบว่าไม่ได้มีแค่คดีฆาตกรรมนะ แต่มันมีเรื่องส่วนตัวของตำรวจแต่ละคนด้วย แบบว่าดราม่าเข้มข้นมาก บางทีก็มีเรื่องตลกแทรกมาบ้างให้พอหายเครียด

ตัวละครแต่ละตัวคือมีมิติมากนะแก แบบว่าไม่ได้ดีเลิศไปหมดทุกอย่าง แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายไปซะหมด มีความเป็นมนุษย์สูงมาก ทำให้เราอินไปกับตัวละครได้ง่าย แล้วก็คดีแต่ละคดีก็คือลุ้นระทึกดี ชอบที่มันไม่ได้เน้นแค่จับคนร้าย แต่ยังสะท้อนปัญหาสังคมต่างๆด้วย

  • ประเภท: ดราม่า, อาชญากรรม, ตำรวจ
  • วันที่เข้าฉาย: 21 กันยายน 1993 – 1 มีนาคม 2005
  • นักแสดงนำ: Dennis Franz, David Caruso, Jimmy Smits
  • ผู้กำกับ: หลายคน (แต่ละตอนมีผู้กำกับต่างกัน)
  • จำนวนตอน: 261 ตอน (12 ซีซั่น)
  • คะแนน IMDb: 8.0/10

61. Boardwalk Empire (2010-2014)

โคตรเจ้าพ่อเหนือทรชน

ซีรีส์ฝรั่ง Boardwalk Empire (2010 2014)

Boardwalk Empire จะพาไปรู้จักกับเขาในยุค Prohibition ที่เหล้าเถื่อนเฟื่องฟู Nucky นี่ไม่ใช่แค่คนธรรมดา เขาเป็นทั้งนักการเมืองและเจ้าพ่อผู้ทรงอิทธิพลใน Atlantic City

ซีรีส์ฝรั่งนี้จะพาแกเข้าสู่โลกใต้ดินของการค้าของเถื่อน การเมืองที่สกปรก และความรุนแรงที่พร้อมปะทุได้ทุกเมื่อ Nucky ต้องคอยรักษาอำนาจของตัวเอง ท่ามกลางศัตรูรอบด้าน ทั้งพวกมาเฟียคู่แข่ง เจ้าหน้าที่รัฐที่ไม่ซื่อ และแม้แต่คนใกล้ตัว

แต่แกจะได้เห็นมากกว่าแค่การต่อสู้แย่งชิงอำนาจนะ ตัวละครแต่ละตัวมีความซับซ้อน มีแรงจูงใจและปมในใจที่ทำให้เราเอาใจช่วยพวกเขา (หรือบางทีก็เกลียด!) เรื่องราวเข้มข้นจนแกต้องลุ้นทุกตอนเลยล่ะ

  • ประเภท: อาชญากรรม, ดราม่า, ประวัติศาสตร์
  • ปีที่ฉาย: 2010-2014
  • นักแสดงนำ: Steve Buscemi
  • ผู้สร้าง: Terence Winter
  • จำนวนตอน: 56 ตอน (5 ซีซั่น)
  • คะแนน IMDb: 8.5/10
  • ช่องทางการรับชม: HBO

60. Life On Mars (2006-2007)

ซีรีส์ฝรั่ง Life On Mars (2006 2007)

พระเอกเป็นตำรวจยุคปัจจุบัน แล้วอยู่ๆ ก็โดนรถชน ตื่นมาอีกที ดันไปโผล่อยู่ในปี 1973 ซะงั้น! ตอนแรกก็คิดว่าฝันไป แต่ทุกอย่างมันโคตรจริง แล้วคือวิธีการทำงานของตำรวจสมัยนั้นก็แบบ ฮาร์ดคอร์มาก ไม่เหมือนที่เขาเคยเจอมาเลย

ทีนี้พระเอกก็เลยต้องปรับตัวครั้งใหญ่ ทั้งสืบคดีไปด้วย หาทางกลับโลกปัจจุบันไปด้วย แล้วยังต้องทำความเข้าใจกับตำรวจยุคนั้นอีก คือมันส์มากนะ มีทั้งเรื่องสืบสวนสอบสวน แล้วก็มีปมให้คิดตลอดว่าตกลงเขาฝันไป หรือย้อนเวลาจริงๆ กันแน่

ถ้าชอบซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนแบบมีอะไรให้ลุ้นตลอด แนะนำเลย ลองหาดูนะ ไม่ผิดหวังแน่นอน!

  • ประเภท: สืบสวนสอบสวน, ดราม่า, ไซไฟ
  • ปีที่ฉาย: 2006-2007
  • นักแสดงนำ: John Simm
  • ผู้กำกับ: Ashley Pearce, S.J. Clarkson และ Bharat Nalluri
  • จำนวนตอน: 2 ซีซั่น, 16 ตอน
  • คะแนน IMDb: 8.3/10

59. Deadwood (2004-2006)

ซีรีส์ฝรั่ง Deadwood (2004 2006)

เป็นซีรีส์ฝรั่งแนวคาวบอยตะวันตกดิบเถื่อนสุดๆ เล่าเรื่องเมือง Deadwood ในช่วงยุคตื่นทอง ปี 1870s ที่เต็มไปด้วยพวกนอกกฎหมาย คนขุดทอง โสเภณี คือแบบ บรรยากาศมันดิบ โหด เลือดสาดกันกระจาย

ตัวละครแต่ละตัวก็มีมิติ มีความซับซ้อนสุดๆ โดยเฉพาะ Al Swearengen เจ้าของบาร์ The Gem ที่ทั้งโหดเหี้ยม เจ้าเล่ห์ แต่ก็มีมุมอ่อนโยนกับคนรอบข้างด้วยนะ แล้วก็มี Seth Bullock อดีตนายอำเภอที่ย้ายมาเปิดร้านขายของใน Deadwood แต่ก็ยังรักความยุติธรรมอยู่

คือมันส์ตรงที่เราจะได้เห็นการต่อสู้ช่วงชิงอำนาจ การเอาตัวรอดในเมืองที่ไร้กฎหมาย ความสัมพันธ์ของตัวละครที่ทั้งรักทั้งเกลียดกัน มันส์จนหยุดดูไม่ได้เลย แนะนำให้ไปดูนะ!

  • ประเภท: ตะวันตก, ดราม่า, อาชญากรรม
  • วันที่เข้าฉาย: 21 มีนาคม 2004 – 27 สิงหาคม 2006
  • นักแสดงนำ: Timothy Olyphant, Ian McShane, Molly Parker
  • ผู้สร้าง: David Milch
  • จำนวนตอน: 3 ฤดูกาล, 36 ตอน
  • คะแนน IMDb: 9/10

58. The Bear (2022-)

ซีรีส์ฝรั่ง The Bear

เรื่องเกี่ยวกับ “คาร์มี” เชฟหนุ่มไฟแรงที่ทำงานในร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ แต่แล้ววันนึงชีวิตเขาก็พลิกผัน ต้องกลับมาสานต่อร้านอาหารเล็กๆ ที่เป็นร้านขายแซนด์วิชของพี่ชายที่เพิ่งเสียชีวิตไป นึกภาพดิ จากร้านหรูๆ ต้องมาบริหารร้านเล็กๆ ที่วุ่นวายสุดๆ แถมยังต้องรับมือกับพนักงานเก่าแก่ที่ดื้อรั้น และปัญหาหนี้สินที่รุมเร้า โอ๊ย! แค่คิดก็เหนื่อยแทนแล้ว

แต่ที่พีคคือซีรีส์ฝรั่งเรื่องนี้ไม่ได้เน้นแค่เรื่องอาหารนะ มันยังเจาะลึกไปถึงความสัมพันธ์ของตัวละครแต่ละตัว การเยียวยาบาดแผลในใจ และการต่อสู้เพื่อความฝัน แถมยังมีฉากทำอาหารที่โคตรเรียล ดูแล้วหิวตามเลยอะ!

  • ประเภท: ดราม่า, คอมเมดี้
  • วันที่เข้าฉาย: 23 มิถุนายน 2022
  • นักแสดงนำ: เจเรมี อัลเลน ไวต์
  • ผู้สร้าง: คริสโตเฟอร์ สโตเรอร์
  • จำนวนตอน: 2 ซีซั่น (ซีซั่นละ 8 ตอน)
  • คะแนน IMDb: 8.5/10
  • ช่องทางการรับชม: Disney+

57. Columbo (1968-2003)

ซีรีส์ฝรั่ง Columbo (1968 2003)

เกี่ยวกับนักสืบนายนี้ชื่อโคลัมโบ ดูเผินๆ เหมือนเป็นคนซุ่มซ่าม แต่งตัวมอซอ เสื้อโค้ทเก่าๆ รถก็โทรมๆ แต่จริงๆ แล้วเขาฉลาดเป็นกรดเลยนะ แกจะได้เห็นเขาไขคดีฆาตกรรมต่างๆ ที่คนรวยๆ หรือคนมีชื่อเสียงก่อขึ้น แต่พวกนี้มันคิดว่าตัวเองแน่ไง คิดว่าจะหลอกโคลัมโบได้ แต่สุดท้ายก็ไม่รอดสักราย

ความสนุกมันอยู่ตรงที่เราจะได้เห็นโคลัมโบทำเป็นงงๆ ถามคำถามซ้ำๆ จนคนร้ายมันเริ่มรำคาญ แล้วสุดท้ายแกก็จะงัดหลักฐานเด็ดออกมาแบบคาดไม่ถึงเลย พลิกคดีได้ตลอด

ถ้าชอบซีรีส์แนวสืบสวนที่เน้นเชือดเฉือนทางสติปัญญา ไม่ใช่บู๊แหลก ต้องลองดูเลย มันส์จริงๆ

  • ประเภท: สืบสวนสอบสวน, ลึกลับ, อาชญากรรม
  • วันที่เข้าฉาย: 1968-2003
  • นักแสดงนำ: Peter Falk
  • ผู้กำกับ: หลายคนเลย แต่ที่เด่นๆ ก็ Richard Levinson, William Link
  • จำนวนตอน: 69 ตอน
  • IMDb Rating: 8.5/10

56. True Detective (2014-)

ตำรวจพันธุ์แท้

ซีรีส์ฝรั่ง True Detective ทรู ดิเท็คทิฟ

ซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนที่แต่ละซีซันจะเป็นเรื่องราวใหม่หมดเลยนะ แต่ละเรื่องก็จะมีคดีฆาตกรรมสุดซับซ้อนที่ต้องใช้เวลาแกะรอยนานหลายปี ตัวละครก็จะเป็นพวกตำรวจ นักสืบ ที่ต้องต่อสู้กับทั้งคดีและปมในใจตัวเองไปพร้อม ๆ กัน บอกเลยว่าเนื้อเรื่องมันเข้มข้น ดาร์กสุด ๆ แถมยังมีปมให้ขบคิดตามตลอด

ที่ฉันชอบมากคือบรรยากาศของเรื่อง มันดูหม่น ๆ ลึกลับ น่าค้นหา แล้วก็มีการแสดงที่โคตรเทพจากนักแสดงดัง ๆ หลายคนเลย แต่ละซีซันก็จะมีนักแสดงนำคู่ใหม่นะ อย่างซีซันแรกก็จะมี Matthew McConaughey กับ Woody Harrelson เล่นเป็นคู่หูนักสืบที่ต้องตามล่าฆาตกรต่อเนื่อง บอกเลยว่าเคมีเข้ากันสุด ๆ

ถ้าแกชอบซีรีส์ฝรั่งแนวสืบสวนที่เนื้อเรื่องเข้มข้น มีปมให้คิดเยอะ ๆ แถมยังมีการแสดงขั้นเทพ ฉันแนะนำ True Detective เลยนะ แต่เตือนไว้ก่อนว่ามันค่อนข้างดาร์กและมีฉากรุนแรงอยู่บ้างนะ

  • ประเภท: อาชญากรรม, ดราม่า, ลึกลับ
  • วันที่เข้าฉาย: 12 มกราคม 2014
  • นักแสดงนำ: แตกต่างกันไปในแต่ละซีซัน เช่น Matthew McConaughey, Woody Harrelson, Colin Farrell, Rachel McAdams, Mahershala Ali
  • ผู้กำกับ: หลายคน เช่น Cary Joji Fukunaga, Justin Lin, Jeremy Saulnier
  • จำนวนตอน: แต่ละซีซันมี 8 ตอน
  • คะแนน IMDb: เฉลี่ย 8.9/10 (แต่ละซีซันมีคะแนนต่างกัน)
  • ช่องทางการรับชม: HBO

55. Stranger Things (2016-)

สเตรนเจอร์ ธิงส์

ซีรีส์ฝรั่ง Stranger Things สเตรนเจอร์ ธิงส์

เรื่องเริ่มที่เด็กผู้ชายคนนึงหายตัวไปในเมืองเล็กๆ ที่ดูธรรมดา แต่จริงๆ แล้วมันมีอะไรแปลกๆ ซ่อนอยู่เพียบเลย กลุ่มเพื่อนๆ ของเด็กที่หายไปก็ออกตามหา แล้วก็ไปเจอเด็กผู้หญิงคนนึงที่มีพลังวิเศษ แล้วก็ไปเจอเรื่องราวมิติลี้ลับ สัตว์ประหลาด ชวนขนลุกสุดๆ

แต่ที่ชอบคือมันไม่ใช่แค่สยองขวัญอย่างเดียวนะ มันมีความผูกพันธ์ของเพื่อน ความรักในครอบครัว แล้วก็เรื่องราวความรักวัยรุ่นกุ๊กกิ๊กด้วย มันส์ครบรสมาก แล้วตัวละครแต่ละตัวคือมีเสน่ห์สุดๆ โดยเฉพาะอีเลเว่น เด็กผู้หญิงพลังจิตอะ น่ารักมากกก

แกเชื่อปะว่าดูแล้วหยุดไม่ได้เลย มันจะค่อยๆ เผยปมทีละนิดๆ แล้วก็มีฉากลุ้นระทึกให้สะดุ้งตลอด ต้องดูเองแล้วจะรู้ว่าทำไมคนถึงชอบกันเยอะขนาดนี้

  • ประเภท: ไซไฟ, สยองขวัญ, ดราม่า, coming-of-age
  • วันที่เข้าฉาย: 15 กรกฎาคม 2016
  • นักแสดงนำ: Winona Ryder, David Harbour, Finn Wolfhard, Millie Bobby Brown, Gaten Matarazzo, Caleb McLaughlin, Noah Schnapp, Sadie Sink
  • ผู้สร้าง: พี่น้อง Duffer
  • จำนวนตอน: 4 ซีซั่น (ยังไม่จบ)
  • IMDb Rating: 8.7/10
  • ช่องทางการรับชม: Netflix

54. Veep (2012-2019)

ทีเด็ด รองประธานาธิบดี

ซีรีส์ฝรั่ง Veep

เป็นเรื่องเกี่ยวกับ Selina Meyer รองประธานาธิบดีของอเมริกา ที่ดันซวย ต้องมาเจอกับเรื่องปวดหัวในโลกการเมืองแบบรายวัน ทั้งปัญหาภายในทีมงาน ปัญหากับประธานาธิบดี ปัญหาเรื่องภาพลักษณ์ แถมนางก็เป็นคนแบบ… ปากไว ชอบพูดอะไรไม่คิด เลยยิ่งทำให้เรื่องวุ่นวายไปกันใหญ่

คือแบบ… ทุกอย่างมันชุลมุนวุ่นวายไปหมด แต่ก็ตลกมากกกก แบบฮาแบบเจ็บแสบ เหมือนเค้าเอาเรื่องจริงในวงการเมืองมาล้อเลียนอะ แต่ละตัวละครก็คือเล่นใหญ่รัชดาลัยเธียเตอร์กันสุดฤทธิ์ โดยเฉพาะนางเอก Selina Meyer คือเล่นได้แบบ… โอ๊ยยยย… ชั้นรักนาง

สรุปคือถ้าแกชอบซีรีส์แนวตลกเสียดสีการเมือง แถมยังมีดราม่าให้ลุ้นบ้างนิดหน่อย ต้องไปดู Veep เลยนะ รับรองว่าแกจะไม่ผิดหวัง

  • ประเภท: ตลก, เสียดสี, การเมือง
  • วันที่เข้าฉาย: 22 เมษายน 2012
  • นักแสดงนำ: Julia Louis-Dreyfus
  • ผู้สร้าง: Armando Iannucci
  • จำนวนตอน: 65 ตอน (7 ซีซั่น)
  • คะแนน IMDb: 8.4/10
  • ช่องทางการรับชม: HBO GO

53. Friday Night Lights (2006-2011)

ซีรีส์ฝรั่ง Friday Night Lights เส้นทางสู่ฝัน วันแห่งชัยชนะ (2004)

ไม่ได้เป็นแค่ซีรีส์กีฬาอเมริกันฟุตบอลธรรมดานะ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตในเมืองเล็กๆ ที่ทุกคนคลั่งไคล้ฟุตบอลไฮสคูลมาก แล้วโค้ชก็เหมือนเป็นฮีโร่ของเมืองเลย แต่ชีวิตของโค้ชและนักกีฬาแต่ละคนมันก็มีดราม่า มีปัญหาครอบครัว ปัญหาความรัก ปัญหาการเรียน คือมันเรียลมาก เหมือนเราดูชีวิตคนจริงๆ เลย

ตัวละครแต่ละตัวคือมีมิติมากนะ ไม่ได้มีแค่ดีหรือร้าย แล้วเราจะผูกพันกับพวกเขาไปเลย คอยลุ้น คอยเอาใจช่วย โดยเฉพาะโค้ชเทย์เลอร์กับภรรยาคือน่ารักมาก แล้วนักกีฬาก็มีหลายแบบ ทั้งเก่ง ทั้งมีปัญหา ทั้งสู้ชีวิต คือมันครบรสมาก

แกเชื่อฉันเถอะ ลองดูสักตอนสองตอน แล้วแกจะติดใจ ฉันดูแล้วอินมาก น้ำตาไหลไปหลายรอบเลย มันไม่ใช่แค่ซีรีส์กีฬา แต่มันคือซีรีส์ชีวิตดีๆ นี่เอง

  • ประเภท: ดราม่า, กีฬา
  • ปีที่ฉาย: 2006-2011
  • นักแสดงนำ: Kyle Chandler, Connie Britton, Zach Gilford, Taylor Kitsch
  • ผู้สร้าง: Peter Berg
  • จำนวนตอน: 76 ตอน
  • คะแนน IMDb: 8.7/10

52. Lost (2004–2010)

ซีรีส์ฝรั่ง Lost (2004–2010)

เครื่องบินตกกลางทะเล แล้วผู้รอดชีวิตก็มาติดอยู่บนเกาะร้างแห่งหนึ่ง แต่เกาะนี้มันไม่ธรรมดาเลยนะ มีอะไรแปลกๆ ทั้งสัตว์ประหลาด ปรากฏการณ์ลึกลับ แล้วก็พวก ‘คนอื่น’ ที่อยู่บนเกาะนั้นมาก่อนแล้วด้วย

ตัวละครแต่ละคนก็มีปม มีเรื่องราวในอดีตที่ค่อยๆเปิดเผยออกมา ทำให้เราอินไปกับพวกเขา แล้วก็ลุ้นไปด้วยว่าพวกเขาจะเอาชีวิตรอดกันยังไง จะหนีออกจากเกาะนี้ได้ไหม แล้วไอ้ความลึกลับทั้งหลายบนเกาะนี่มันคืออะไรกันแน่?

บอกเลยว่าดูแล้วจะหยุดไม่ได้! มันทั้งลุ้นระทึก ทั้งซึ้ง ทั้งชวนให้คิดตาม แล้วก็มีปมปริศนาให้เราคอยแกะตลอดทั้งเรื่อง ใครชอบแนวผจญภัย ไซไฟ ลึกลับหน่อย ต้องลองดูเลย!

  • ประเภท: ดราม่า, ผจญภัย, ไซไฟ, ลึกลับ
  • ปีที่ฉาย: 2004-2010
  • นักแสดงนำ: Matthew Fox, Evangeline Lilly, Josh Holloway, Terry O’Quinn
  • ผู้สร้าง: J.J. Abrams, Jeffrey Lieber, Damon Lindelof
  • จำนวนตอน: 121 ตอน (6 ซีซั่น)
  • คะแนน IMDb: 8.3/10
  • ช่องทางการรับชม: Disney+, Netflix

51. Narcos (2015-2017)

นาร์โคส

ซีรีส์ฝรั่ง Narcos ซีรีส์อาชญากรรม เรื่องจริงของ ปาโบล เอสโกบาร์

ซีรีส์จะพาเราไปรู้จักกับ ปาโบล เอสโกบาร์ เจ้าพ่อโคเคนตัวจริงเสียงจริงในโคลอมเบียเลยนะเว้ย คือแบบว่าแก มันส์มาก ได้เห็นชีวิตของเจ้าพ่อค้ายาระดับโลกเลย ทั้งการสร้างอาณาจักร การต่อสู้กับตำรวจ การเมืองอะไรต่าง ๆ คือแบบว่าครบรสมาก

แล้วคือเราจะได้เห็นทั้งมุมของเอสโกบาร์และตำรวจ DEA ที่ตามล่าเขาด้วยนะ ทำให้เราเข้าใจทั้งสองฝ่ายเลยว่าต่างฝ่ายต่างก็มีเหตุผลของตัวเอง แล้วก็คือแบบว่ามันลุ้นระทึกมากตลอดทั้งเรื่องเลย ไม่รู้ว่าใครจะอยู่ใครจะไป คือแบบว่าต้องดูเองอะแก ถึงจะเข้าใจความมันส์

แก ถ้าชอบซีรีส์แนวอาชญากรรมเข้มข้นนะ ต้องลองดู Narcos เลย รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน!

  • ประเภท: อาชญากรรม, ชีวประวัติ, ดราม่า
  • วันที่เข้าฉาย: 28 สิงหาคม 2015
  • นักแสดงนำ: วากเนอร์ มูร่า (ปาโบล เอสโกบาร์), บอยด์ โฮลบรู๊ค (สตีฟ เมอร์ฟี), เปโดร ปาสคาล (ฮาเวียร์ พีน่า)
  • ผู้กำกับ: หลายคน เช่น José Padilha, Andrés Baiz, Fernando Coimbra
  • จำนวนตอน: 3 ซีซั่น, 30 ตอน
  • คะแนน IMDb: 8.8/10
  • ช่องทางการรับชม: Netflix

50. I May Destroy You (2020)

ซีรีส์ฝรั่ง I May Destroy You (2020)

ซีรีส์เล่าเรื่องของ ‘อาราเบลลา’ นักเขียนสาวที่กำลังรุ่ง แต่ชีวิตพลิกผันเมื่อเธอถูกมอมยาและข่มขืนในคืนหนึ่ง จากนั้นชีวิตเธอก็เปลี่ยนไป เธอพยายามจำเรื่องราวในคืนนั้น เพื่อตามหาความจริงและเยียวยาตัวเอง

คือมันไม่ได้แค่เล่าเรื่องการข่มขืนนะ แต่มันลงลึกไปถึงผลกระทบที่มันมีต่อชีวิตเธอ ทั้งความสัมพันธ์กับเพื่อน ครอบครัว ความรัก แม้กระทั่งงานที่เธอรัก มันทำให้เราเห็นว่าการเยียวยาตัวเองมันยากและซับซ้อนแค่ไหน

บอกเลยว่าดูแล้วอินมาก นางเอกเล่นดีมากกกก มันเรียลจนบางทีเราก็แอบกลัว ใครชอบซีรีส์ฝรั่งดราม่าที่สะท้อนสังคม แนะนำเลยเรื่องนี้!

  • ประเภท: ดราม่า, อาชญากรรม
  • วันที่เข้าฉาย: 7 มิถุนายน 2020
  • นักแสดงนำ: Michaela Coel
  • ผู้กำกับ: Michaela Coel, Sam Miller
  • จำนวนตอน: 12 ตอน
  • IMDb Rating: 8.1/10
  • ช่องทางการรับชม: HBO

49. Sex and the City (1998–2004)

เซ็กซ์ แอนด์ เดอะ ซิตี้

ซีรีส์ฝรั่ง Sex and the City (1998–2004)

มีเพื่อนสาว 4 คนในนิวยอร์ก แคร์รีเป็นนักเขียน ชอบเขียนคอลัมน์เกี่ยวกับเรื่องเซ็กส์และความสัมพันธ์ ซาแมนธาเป็นสาวมั่นสุดแซ่บ มิแรนด้าเป็นทนายความบ้างาน ส่วนชาร์ล็อตต์เป็นสาวหวานผู้ใฝ่ฝันเรื่องรักแท้ ซีรีส์ฝรั่งเรื่องนี้จะพาเราไปตามติดชีวิตพวกเธอ ทั้งเรื่องความรัก การทำงาน มิตรภาพ และการค้นหาตัวเองในเมืองที่ไม่เคยหลับใหลนี้

คือมันเรียลมากแก พวกเธอเจอปัญหาชีวิตคู่ ปัญหาเรื่องเซ็กส์ ปัญหาเรื่องงาน เหมือนผู้หญิงทั่วไปนี่แหละ แต่ที่ชอบคือพวกเธอไม่เคยทิ้งกัน คอยซัพพอร์ตกันตลอด ถึงจะมีทะเลาะกันบ้าง แต่สุดท้ายก็กลับมาคืนดีกัน

แล้วแกเชื่อไหม แต่ละตอนจะมีประเด็นให้ขบคิดตามตลอด ไม่ใช่แค่เรื่องเซ็กส์นะ แต่เกี่ยวกับความรัก การใช้ชีวิต มิตรภาพ คือดูแล้วอินมากกกก

  • แนว: โรแมนติกคอมเมดี้, ดราม่า
  • ปีที่ฉาย: 1998–2004
  • นักแสดงนำ: Sarah Jessica Parker, Kim Cattrall, Kristin Davis, Cynthia Nixon
  • ผู้สร้าง: Darren Star
  • จำนวนตอน: 94 ตอน (6 ซีซั่น)
  • คะแนน IMDb: 7.1/10
  • ช่องทางการรับชม: HBO, Netflix

48. Chernobyl (2019)

เชอร์โนบิล

ซีรีส์ฝรั่ง Chernobyl

เกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เชอร์โนบิลเมื่อปี 1986 อ่ะ จำได้ป่ะ? ที่มันเป็นข่าวใหญ่ระดับโลกเลยนะ แต่ซีรีส์ฝรั่งเรื่องนี้ไม่ได้แค่เล่าเหตุการณ์ระเบิดนะ มันเจาะลึกไปถึงเบื้องหลัง ความพยายามในการรับมือกับหายนะครั้งนี้ของคนหลายกลุ่ม ทั้งนักวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่รัฐบาล และประชาชนทั่วไปที่ต้องเผชิญกับผลกระทบอันเลวร้าย

คือมันจะพาเราไปเห็นความกล้าหาญของคนกลุ่มหนึ่งที่ต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อหยุดยั้งหายนะที่อาจจะรุนแรงยิ่งกว่าเดิม และในขณะเดียวกันก็สะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวของระบบราชการ การปกปิดความจริง และผลกระทบอันใหญ่หลวงที่เกิดขึ้นกับชีวิตผู้คนและสิ่งแวดล้อม คือดูแล้วมันทั้งลุ้น ทั้งเศร้า ทั้งได้ความรู้ไปพร้อมๆ กันเลยอ่ะ

  • ประเภท: ดราม่า, ประวัติศาสตร์, ภัยพิบัติ
  • วันที่เข้าฉาย: 6 พฤษภาคม 2019
  • นักแสดงนำ: จาเร็ด แฮร์ริส, สเตลแลน สการ์สการ์ด, เอมิลี่ วัตสัน
  • ผู้กำกับ: โยฮัน เร็งค์
  • จำนวนตอน: 5 ตอน
  • คะแนน IMDb: 9.4/10
  • ช่องทางการรับชม: HBO

47. Peaky Blinders (2013–2022)

พีกี้ ไบลน์เดอร์ส

ซีรีส์ฝรั่ง พีกี้ ไบลน์เดอร์ส (Peaky Blinders)

ซีรีส์เกี่ยวกับแก๊งมาเฟียตระกูลเชลบี้ ที่เบอร์มิงแฮม อังกฤษ หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 นำโดย ทอมมี่ เชลบี้ ที่โคตรเท่ ฉลาด เจ้าเล่ห์สุดๆ เขาจะพาครอบครัวไต่เต้าจากธุรกิจใต้ดินเล็กๆ สู่การเป็นใหญ่ในโลกอาชญากรรม

แต่เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบนะ ต้องเจอทั้งศัตรู แก๊งคู่อริ ตำรวจ ที่คอยขัดขวาง แถมยังมีเรื่องการเมือง ความรัก ความแค้น เข้ามาเกี่ยวข้องอีก บอกเลยว่าแต่ละซีซั่นนี่ลุ้นระทึก แทบหยุดหายใจ

ที่สำคัญคือ ภาพสวยมาก บรรยากาศอังกฤษยุคเก่า เพลงประกอบก็ดีงาม นักแสดงแต่ละคนคือเล่นดีมาก โดยเฉพาะ คิลเลียน เมอร์ฟี ที่รับบททอมมี่ คือเอาอยู่ทุกฉาก ใครชอบซีรีส์แนวแก๊งสเตอร์ ดราม่าเข้มข้น ห้ามพลาดเลย

  • ประเภท: อาชญากรรม, ดราม่า, ประวัติศาสตร์
  • วันที่เข้าฉาย: 12 กันยายน 2013 – 3 เมษายน 2022
  • นักแสดงนำ: คิลเลียน เมอร์ฟี, พอล แอนเดอร์สัน, เฮเลน แมคครอรี่
  • ผู้สร้าง: สตีเวน ไนท์
  • จำนวนตอน: 36 ตอน (6 ซีซั่น)
  • คะแนน IMDb: 8.8/10
  • ช่องทางการรับชม: Netflix

46. ER (1994–2009)

ซีรีส์ฝรั่ง ER (1994–2009)

ซีรีส์เกี่ยวกับชีวิตประจำวันในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลในชิคาโก แกจะได้เห็นหมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานกันแบบเรียลไทม์เลยนะ ทั้งความเครียด ความกดดัน การตัดสินใจที่ต้องทำในเสี้ยววินาที บางทีก็มีเรื่องดราม่าของพวกเขาเองด้วยนะ ซึ้งกินใจสุดๆ

แต่ไม่ใช่ว่าจะเครียดตลอดนะ บางทีก็มีเรื่องตลก เรื่องอบอุ่นหัวใจ穿插เข้ามาบ้าง คือมันทำให้เราเห็นภาพชีวิตของคนในโรงพยาบาลได้ชัดเจนมากขึ้นจริงๆ แกต้องลองดูนะ

  • ประเภท: ดราม่า, การแพทย์
  • วันที่เข้าฉาย: 19 กันยายน 1994
  • นักแสดงนำ: George Clooney, Julianna Margulies, Anthony Edwards, Noah Wyle
  • ผู้กำกับ: Michael Crichton (ผู้สร้าง), Christopher Chulack, Jonathan Kaplan และอีกหลายคน
  • จำนวนตอน: 331 ตอน
  • คะแนน IMDb: 7.7/10

45. Better Things (2016–2022)

ซีรีส์ฝรั่ง Better Things (2016–2022)

เรื่องเกี่ยวกับ Sam Fox นักแสดงสาวที่ต้องเลี้ยงลูกสาวสามคนใน LA คนเดียว เธอต้องรับบทบาททั้งแม่ ทั้งพ่อ ทั้งเพื่อน ทั้งตำรวจในบ้านเดียวกัน เรียกได้ว่าเป็น Wonder Woman ในชีวิตจริงเลยแหละ

ซีรีส์นี้ไม่ได้เน้นพล็อตหวือหวาอะไรมากมาย แต่มันคือเรื่องราวชีวิตจริงที่เราทุกคนเข้าถึงได้ ทั้งเรื่องครอบครัว ความสัมพันธ์ การทำงาน ปัญหาชีวิตต่างๆ ที่ Sam ต้องเจอ มันทั้งตลก ทั้งซึ้ง ทั้งเจ็บปวด แต่สุดท้ายแล้วมันก็สวยงามและอบอุ่นหัวใจมากๆ

  • ประเภท: ตลก-ดราม่า, ชีวิต
  • วันที่เข้าฉาย: 8 กันยายน 2016 – 25 เมษายน 2022
  • นักแสดงนำ: Pamela Adlon
  • ผู้กำกับ: Pamela Adlon และคนอื่นๆ
  • จำนวนตอน: 52 ตอน (5 ซีซั่น)
  • IMDb Rating: 8.1/10

44. Heimat (1984-)

ซีรีส์ฝรั่ง Heimat (1984 )

เป็นซีรีส์เยอรมันเก่าหน่อย ฉายตั้งแต่ปี 1984 แต่คือแบบว่าดีมากจริงๆ เล่าเรื่องของครอบครัวหนึ่งในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ชื่อ Schabbach ตั้งแต่ช่วงปี 1919 ไปจนถึง 1982 น่ะ คือมันยาวนานมาก เห็นชีวิตของคนในหมู่บ้านนี้ผ่านช่วงเวลาสำคัญๆ ของเยอรมนีเลย ทั้งสงครามโลก สงครามเย็น การเปลี่ยนแปลงทางสังคม คือมันเรียลมาก

ตัวละครแต่ละตัวคือมีมิติมาก มีความสุข เศร้า ผิดหวัง สมหวัง ความรัก ความสัมพันธ์ คือครบรสชาติชีวิตจริงๆ แล้วคือมันไม่ได้เน้นดราม่าจ๋าอะไรขนาดนั้นนะ แต่ด้วยความที่มันเล่าเรื่องยาวนานมาก เราเลยได้เห็นชีวิตของตัวละครแต่ละตัวค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา มันแบบว่า…กินใจอะแก

  • ประเภท: ดราม่า, ประวัติศาสตร์
  • ปีที่ฉาย: 1984
  • นักแสดงนำ: Marita Breuer, Gertrud Bredel, Willi Burger, Jörg Hube
  • ผู้กำกับ: Edgar Reitz
  • จำนวนตอน: 11 ตอน
  • คะแนน IMDb: 8.4/10

43. The Thick of It (2005–2012)

ซีรีส์ฝรั่ง The Thick of It

เป็นซีรีส์อังกฤษอะ เกี่ยวกับพวกนักการเมืองกับทีมงานเบื้องหลัง แต่แบบว่าไม่ได้เครียดนะ ตลกโปกฮามาก เหมือนเอาเรื่องจริงในวงการเมืองมาล้อเลียนอะ คือแต่ละคนนี่แบบ ปากจัด ด่ากันไฟแลบ วุ่นวายชิบหาย แล้วก็คือแต่ละสถานการณ์ที่เจออะ โคตรจะ absurd แบบว่า จะอะไรกันนักกันหนาวะ

แต่คือดูแล้วก็แบบ เออ มันก็สะท้อนอะไรหลายๆ อย่างนะ ว่าเบื้องหลังการเมืองมันก็มีเรื่องแบบนี้แหละ ความวุ่นวาย ความกดดัน การเมืองภายใน แล้วคือแต่ละตัวละครนี่ก็แบบ มีเอกลักษณ์สุดๆ โดยเฉพาะ Malcolm Tucker ที่แบบ โคตรปากหมา ด่าได้ทุกคน 55555 ใครชอบซีรีส์แนวตลกร้าย ด่ากันไฟแลบ แนะนำเลย ต้องดู!

  • ประเภท: ตลก, เสียดสี, การเมือง
  • วันที่เข้าฉาย: 19 พฤษภาคม 2005
  • นักแสดงนำ: Peter Capaldi, Chris Addison, James Smith, Joanna Scanlan
  • ผู้กำกับ: Armando Iannucci,
  • จำนวนตอน: 24 ตอน (4 ซีซั่น)
  • IMDb Rating: 8.7/10

42. Arcane (2021–2024)

อาร์เคน: ตำนานลีกออฟเลเจ็นดส์

ซีรีส์ฝรั่ง Arcane

ซีรีส์แอนิเมชันที่สร้างจากเกม League of Legends นะ แต่ไม่ต้องห่วง ถึงไม่เคยเล่นเกมก็ดูรู้เรื่องแน่นอน เนื้อเรื่องมันเกี่ยวกับสองเมือง Piltover กับ Zaun ที่แตกต่างกันสุดขั้ว เมืองบนหรูหราไฮโซ เมืองล่างสกปรกอันตราย แล้วก็มีสองพี่น้อง Vi กับ Powder ที่ต้องเผชิญกับความขัดแย้งระหว่างสองเมืองนี้ แล้วก็มีเรื่องของการประดิษฐ์ Hextech ที่ทำให้เกิดพลังเวทมนตร์ขึ้นมาด้วย มันส์มาก!

ภาพสวยมากกกก แบบตะโกน! ฉากต่อสู้ก็ทำออกมาได้ดีสุด ๆ ตัวละครแต่ละตัวมีมิติ มีปม มีที่มาที่ไปให้เราเอาใจช่วย แล้วเชื่อไหมว่าดูไปดูมาอินจัด ร้องไห้ตามตัวละครไปหลายรอบเลย

สรุปคือแนะนำเลย ใครชอบแอนิเมชัน ภาพสวย ๆ เนื้อเรื่องเข้มข้น ตัวละครน่าติดตาม ต้องดู Arcane รับรองไม่ผิดหวัง!

  • ประเภท: แอ็กชัน, ผจญภัย, ดราม่า, แฟนตาซี, ไซไฟ
  • วันที่เข้าฉาย: 6 พฤศจิกายน 2021
  • ผู้ให้เสียงพากย์หลัก: Hailee Steinfeld, Ella Purnell, Katie Leung
  • ผู้สร้าง: Christian Linke, Alex Yee
  • จำนวนตอน: 9 ตอน (ซีซัน 1)
  • คะแนน IMDb: 9.0/10
  • ช่องทางการรับชม: Netflix

41. Fleabag (2016-2019)

ฟลีแบ็ก

ซีรีส์ฝรั่ง Fleabag ซีรีส์ Prime Video น่าดูสนุก ๆ

นางเอกชื่อ Fleabag เนี่ย เป็นผู้หญิงที่ดูเหมือนจะใช้ชีวิตปกติทั่วไป ทำร้านกาแฟเล็กๆ ในลอนดอน แต่จริงๆ ชีวิตนางโคตร messed up ทั้งเรื่องครอบครัว ความสัมพันธ์ ความรัก คือแบบ… เละไปหมด นางก็เลยมีวิธีรับมือกับปัญหาชีวิตด้วยการ… พูดตรงๆ เลยนะ มี Sex มั่วซั่ว, เสียดสีทุกสิ่งอย่าง และที่พีคคือ นางชอบหันมาพูดกับคนดูตลอดเวลา เหมือนคนดูเป็นเพื่อนสนิทที่รู้ทุกเรื่องในชีวิตนางอ่ะ

คือตอนแรกๆ ชั้นก็แบบ “เออ ตลกดี” แต่พอดูไปเรื่อยๆ ชั้นเริ่มอินกับตัวละคร Fleabag มากขึ้น นางดูตลก แต่จริงๆ แล้วโคตรเศร้าเลย ความสัมพันธ์กับคนรอบตัวนางก็ดู Toxic ไปหมด โดยเฉพาะกับพ่อกับน้องสาว คือมัน Real มากๆ ดูแล้วก็คิดถึงปัญหาชีวิตตัวเองเลย

สรุปคือแกต้องไปดูนะ Fleabag เนี่ย มันทั้งตลก ทั้งเศร้า ทั้งทำให้เราฉุกคิดถึงชีวิตตัวเอง คือมันดีมากๆ จริงๆ

  • ประเภท: ตลกร้าย, ดราม่า
  • วันที่เข้าฉาย: 2016-2019
  • นักแสดงนำ: Phoebe Waller-Bridge
  • ผู้กำกับ: หลายคน (แต่ Phoebe Waller-Bridge เป็นคนสร้างสรรค์ซีรีส์)
  • จำนวนตอน: 12 ตอน (2 ซีซั่น)
  • IMDb Rating: 8.7/10
  • ช่องทางการรับชม: Prime Video

40. Bluey (2018-)

ซีรีส์ฝรั่ง Bluey (2018 )

Bluey เป็นเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวหมาบลูฮีลเลอร์ในออสเตรเลีย ตัวเอกคือบลูอีย์ ลูกหมาตัวเมียที่ซนสุดๆ ชอบเล่นสนุกกับบิงโก น้องสาว แล้วก็คุณพ่อแบนดิตกับคุณแม่ชิลลี

แต่ละตอนก็จะเป็นเรื่องราวชีวิตประจำวันธรรมดาๆ นี่แหละ แต่บลูอีย์จะชอบจินตนาการว่าทุกอย่างเป็นเรื่องสนุก เช่น เล่นว่าเป็นหมอ เปิดร้านอาหาร หรือผจญภัยในสวนหลังบ้าน

คือมันดูแล้วอบอุ่นหัวใจมากเลยนะ ได้เห็นความสัมพันธ์ในครอบครัวที่น่ารัก แล้วบลูอีย์ก็สอนให้เรามองโลกในแง่ดี มองเรื่องธรรมดาให้เป็นเรื่องสนุกได้

  • ประเภท: แอนิเมชัน, เด็ก, ตลก
  • วันที่เข้าฉาย: 1 ตุลาคม 2018
  • ผู้สร้าง: Joe Brumm
  • จำนวนตอน: 156 ตอน (ณ สิงหาคม 2023)
  • ความยาวตอน: 7 นาที
  • IMDb Rating: 8.8/10
  • ช่องทางการรับชม: Disney+

39. Fallout (2024–)

ฟอลล์เอาท์ ภารกิจฝ่าแดนฝุ่นมฤตยู

ซีรีส์ฝรั่ง Fallout ฉบับซีรีส์ อาจมีถึง 5 ซีซั่น อนาคตที่น่าติดตาม!

Fallout พาเราไปสู่โลกอนาคตหลังสงครามนิวเคลียร์ โลกที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพังและความโหดร้าย เราจะได้ติดตามเรื่องราวของผู้รอดชีวิตกลุ่มหนึ่งที่ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดในดินแดนรกร้างแห่งนี้ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับอันตรายจากทั้งธรรมชาติและจากน้ำมือมนุษย์ด้วยกันเอง

ซีรีส์ฝรั่งเรื่องนี้จะพาเราไปสำรวจหลุมหลบภัย Vault 33 ที่ดูเหมือนจะเป็นสถานที่ปลอดภัย แต่กลับมีความลับดำมืดซ่อนอยู่ เราจะได้เห็นการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด การทรยศหักหลัง และการค้นหาความหมายของการมีชีวิตอยู่ในโลกที่ล่มสลาย

ถ้าชอบหนังหรือเกมแนวโลกหลังหายนะ บอกเลยว่า Fallout ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน ฉากสวยมาก บรรยากาศก็โคตรได้ แถมยังมีตัวละครที่น่าสนใจให้ติดตามอีกเพียบ

  • ประเภท: ผจญภัย, ดราม่า, วิทยาศาสตร์, โลกหลังหายนะ
  • วันที่เข้าฉาย: 10 เมษายน 2024
  • นักแสดงนำ: Ella Purnell, Walton Goggins, Kyle MacLachlan
  • ผู้กำกับ: Geneva Robertson-Dworet และ Graham Wagner
  • จำนวนตอน: 8 ตอน (ซีซัน 1)
  • IMDb Rating: 7.5/10
  • ช่องทางการรับชม: Prime Video

38. The Office (2005-2013)

ออฟฟิศป่วนชวนหัว

ซีรีส์ฝรั่ง The Office ดิออฟฟิศ

ซีรีส์เล่าเรื่องราวชีวิตประจำวันของพนักงานบริษัทขายกระดาษ Dunder Mifflin สาขา Scranton ที่มี Michael Scott เป็นผู้จัดการสุดเพี้ยน นายคนนี้คือที่สุดของความตลกแบบหน้าตาย บางทีก็ทำตัวงี่เง่า แต่บางทีก็มีมุมน่ารักๆ ให้เห็นเหมือนกัน นอกจากนี้ก็ยังมีตัวละครอื่นๆ ที่มีสีสันไม่แพ้กัน เช่น Dwight ที่แปลกประหลาด, Jim ที่ชอบแกล้ง Dwight, Pam ที่แอบชอบ Jim อะไรแบบนี้ คือแต่ละคนก็จะมีเรื่องราวของตัวเอง แล้วมันก็จะสอดประสานกันไปมาจนเกิดเป็นเรื่องราวสุดฮา

แกต้องลองดูนะ มันเป็นซีรีส์ฝรั่งที่ดูได้เรื่อยๆ เพลินๆ ไม่ต้องคิดอะไรมาก แถมยังแอบสะท้อนชีวิตออฟฟิศได้ดีอีกด้วย บางทีดูไปก็จะรู้สึกว่า เออ เหมือนที่ทำงานเราก็มีคนแบบนี้นะ

  • ประเภท: ตลก, เสียดสีสังคม
  • วันที่เข้าฉาย: 24 มีนาคม 2005 – 16 พฤษภาคม 2013
  • นักแสดงนำ: Steve Carell, Rainn Wilson, John Krasinski, Jenna Fischer
  • ผู้กำกับ: หลายคน (แต่ Greg Daniels เป็นคนดัดแปลงจากเวอร์ชันอังกฤษ)
  • จำนวนตอน: 201 ตอน (9 ซีซั่น)
  • IMDb Rating: 9/10
  • ช่องทางการรับชม: Prime Video

37. Top Boy (2011–2023)

ท็อปบอย: ซัมเมอร์เฮาส์

ซีรีส์ฝรั่ง Top Boy (2011–2024)

ซีรีส์อังกฤษที่เล่าเรื่องแก๊งค้ายาในลอนดอนตะวันออก แก๊งนี้ชื่อ Summerhouse มีตัวละครหลักคือ Dushane กับ Sully สองคนนี้เป็นเพื่อนกัน แต่ก็มีเรื่องทะเลาะกันบ่อยๆ เรื่องมันส์ตรงที่เราจะได้เห็นว่าพวกเขาต้องดิ้นรนเอาตัวรอดในโลกที่โหดร้าย ต้องรับมือกับทั้งตำรวจ คู่แข่ง และปัญหาภายในแก๊งเอง

แต่ขอบอกว่ามันไม่ใช่แค่ซีรีส์แอ็กชันนะ มันมีความดราม่าเข้มข้นด้วย เราจะได้เห็นเบื้องหลังชีวิตของตัวละครแต่ละตัวว่าพวกเขาต้องเจอกับอะไรบ้าง ทั้งปัญหาครอบครัว ความยากจน และการพยายามหาทางออกที่ดีกว่าให้กับชีวิตตัวเอง

ถ้าชอบซีรีส์ฝรั่งที่เนื้อเรื่องเข้มข้น ตัวละครมีมิติ แล้วก็มีฉากแอ็กชันมันส์ๆ ปนอยู่ด้วย ต้องลองดู Top Boy เลย!

  • ประเภท: อาชญากรรม, ดราม่า
  • วันที่เข้าฉาย: 2011-2023
  • นักแสดงนำ: Ashley Walters, Kane Robinson, Micheal Ward, Simbi Ajikawo
  • ผู้กำกับ: หลายคน (แต่ละซีซันมีผู้กำกับต่างกัน)
  • จำนวนตอน: 26 ตอน (5 ซีซัน)
  • คะแนน IMDb: 8.4/10
  • ช่องทางการรับชม: Netflix

36. South Park (1997-)

เซาท์พาร์ก

ซีรีส์ฝรั่ง South Park (1997 )

ซีรีส์เกี่ยวกับเด็กสี่คน Stan, Kyle, Cartman แล้วก็ Kenny ที่อยู่ในเมือง South Park เมืองเล็กๆที่โคตรจะเพี้ยน พวกนี้จะเจอเรื่องบ้าๆบอๆตลอด ทั้งเรื่องเอเลี่ยนบุกโลก คนดังมาเยี่ยมเมือง หรือแม้แต่เรื่องการเมืองก็เอามาล้อได้หมด

แต่ที่เจ๋งคือมันไม่ได้แค่ตลกโปกฮาไปวันๆนะ มันเสียดสีสังคมและวัฒนธรรมอเมริกันได้แบบแสบสันต์สุดๆ แถมยังมีมุกตลกร้ายที่ทำให้เราขำทั้งน้ำตาอีกต่างหาก ใครชอบการ์ตูนสายเกรียนต้องลองดูเลย

  • ประเภท: อนิเมชั่น, ตลก, เสียดสี
  • วันที่เข้าฉาย: 13 สิงหาคม 1997
  • ผู้สร้าง: Trey Parker, Matt Stone
  • จำนวนตอน: 328 ตอน (ณ สิงหาคม 2024)
  • ความยาวตอน: ประมาณ 22 นาที
  • IMDb Rating: 8.7/10

35. The Walking Dead (2010–2022)

ล่าสยอง…กองทัพผีดิบ

ซีรีส์ฝรั่ง The Walking Dead เดอะวอล์กกิงเดด

โลกมันล่มสลายเพราะมีซอมบี้ระบาดเต็มไปหมดเลยอะ แล้วพระเอกของเรื่องคือ ริค ไกรมส์ เขาเป็นนายอำเภอที่ฟื้นขึ้นมาจากอาการโคม่าแล้วพบว่าโลกเปลี่ยนไปหมดแล้ว เขาต้องหาทางเอาชีวิตรอดและตามหาครอบครัวของเขาไปด้วย ระหว่างทางก็เจอผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ แล้วก็ต้องร่วมมือกันต่อสู้กับซอมบี้และอันตรายต่างๆ ทั้งจากคนเป็นและคนตายเลยแก คือมันส์มาก ลุ้นทุกตอนเลยว่าใครจะอยู่ใครจะไป

แล้วแก มันไม่ได้มีแค่ซอมบี้นะ มันมีดราม่า มีเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครด้วย คือแต่ละคนมีปมมีปัญหาของตัวเอง แล้วพอต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ มันก็ยิ่งทำให้เห็นด้านมืดของมนุษย์ออกมา บางคนเห็นแก่ตัว บางคนเสียสละ บางคนก็บ้าคลั่งไปเลย คือมันทำให้เราคิดตามอะ ว่าถ้าเราอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น เราจะเป็นยังไง

สรุปคือแก The Walking Dead เป็นซีรีส์ที่ครบรสมาก มันส์ ลุ้น ระทึก ดราม่า ครบ! แถมยังสะท้อนให้เห็นด้านมืดของมนุษย์ในสถานการณ์คับขันอีกด้วย แกต้องไปหาดูนะ แล้วจะติดใจเหมือนชั้น

  • ประเภท: ดราม่า, สยองขวัญ, ระทึกขวัญ
  • วันที่เข้าฉาย: 31 ตุลาคม 2010
  • นักแสดงนำ: แอนดรูว์ ลินคอล์น, นอร์แมน รีดัส, เมลิสซา แม็คไบรด์
  • ผู้กำกับ: แฟรงค์ ดาราบอนต์ (และผู้กำกับอื่นๆ อีกหลายคนในแต่ละตอน)
  • จำนวนตอนหรือความยาว: 11 ซีซั่น, 177 ตอน
  • คะแนน IMDb: 8.2/10
  • ช่องทางการรับชม: Disney+

34. Archer (2009–2023)

อาร์เชอร์

ซีรีส์ฝรั่ง Archer (2009–2024)

เป็นการ์ตูนสำหรับผู้ใหญ่นะ แต่แบบตลกสุดๆ เนื้อเรื่องมันเกี่ยวกับหน่วยสืบราชการลับชื่อ ISIS ที่มีแต่พวกเพี้ยนๆ ทำงานกันแบบมั่วซั่วมาก ตัวเอกชื่อสเตอร์ลิง อาร์เชอร์ หล่อแต่โคตรหลงตัวเอง เป็นสายลับที่เก่งนะ แต่ส่วนใหญ่จะก่อเรื่องมากกว่า

แต่ละตอนก็จะมีภารกิจให้ทำแหละ แต่เชื่อเถอะว่ามันจะไม่ง่ายอย่างที่คิดหรอก เพราะแต่ละคนในทีมนี่มีปัญหาส่วนตัวเยอะมาก ทั้งเรื่องแม่ที่เป็นเจ้านายจอมเผด็จการ เพื่อนร่วมงานที่ชอบแกล้งกันเอง แล้วก็เรื่องรักๆใคร่ๆที่วุ่นวายสุดๆ ดูไปก็ได้แต่ขำกับความบ้าบอของพวกเขา

บอกเลยว่าถ้าแกชอบการ์ตูนที่ตลกแบบผู้ใหญ่หน่อยๆ ต้องลองดู Archer เลยนะ รับรองว่าฮาจนท้องแข็งแน่นอน!

  • ประเภท: แอนิเมชัน, ตลก, แอ็กชัน
  • วันที่เข้าฉาย: 17 กันยายน 2009 – 17 ธันวาคม 2023
  • นักพากย์หลัก: H. Jon Benjamin (พากย์เป็น Sterling Archer)
  • ผู้สร้าง: Adam Reed
  • จำนวนตอน: 144 ตอน (14 ซีซั่น)
  • คะแนน IMDb: 8.6/10
  • ช่องทางการรับชม: Netflix

33. The X-Files (1993-2002)

แฟ้มลับคดีพิศวง

ซีรีส์ฝรั่ง The X Files

ซีรีส์เป็นเรื่องเกี่ยวกับเอฟบีไอสองคน คือ มัลเดอร์กับสกัลลี ที่ต้องมาสืบคดีแปลกๆ ที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์อะ มัลเดอร์นี่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติเต็มที่ ส่วนสกัลลีเป็นพวกวิทยาศาสตร์จ๋าเลย ชอบตั้งคำถามกับทุกอย่างที่มัลเดอร์เจอ

แต่พอได้ทำงานด้วยกันไปเรื่อยๆ ทั้งคู่ก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น แล้วก็มีเคสแปลกๆ ให้ตามสืบเยอะมาก ทั้งเรื่องมนุษย์ต่างดาว การทดลองลับของรัฐบาล พวกสัตว์ประหลาด สารพัดเลย บางทีก็หลอน บางทีก็ลุ้นจนตัวโก่ง

แกต้องลองไปดูนะ มันส์จริงๆ แล้วก็มีอะไรให้คิดตามเยอะมากด้วย

  • ประเภท: ไซไฟ, สืบสวนสอบสวน, ลึกลับ, ระทึกขวัญ
  • วันที่เข้าฉาย: 10 กันยายน 1993 – 19 พฤษภาคม 2002
  • นักแสดงนำ: เดวิด ดูคอฟนี, จิลเลียน แอนเดอร์สัน
  • ผู้สร้าง: คริส คาร์เตอร์
  • จำนวนตอน: 202 ตอน (9 ซีซั่น)
  • คะแนน IMDb: 8.6/10
  • ช่องทางการรับชม: Disney+

32. Gotham (2014–2019)

ก็อตแธม

ซีรีส์ฝรั่ง Gotham (2014–2019)

เคยดู Batman ป่ะ? ถ้าชอบนะ ต้องลองดู Gotham เลย มันส์มาก! เป็นซีรีส์ฝรั่งที่เล่าเรื่องก่อน Batman จะเกิดนะ คือตอนที่เมืองก็อตแธมยังเต็มไปด้วยอาชญากร ตัวหลักคือ จิม กอร์ดอน ตอนยังเป็นนักสืบใหม่ๆ เลยนะ เขาต้องสืบคดีฆาตกรรมพ่อแม่ของบรูซ เวย์นด้วย แถมยังต้องรับมือกับเหล่าวายร้ายตัวเป้งๆ อย่าง เพนกวิน, ริดเลอร์, แคทวูแมน ก่อนที่พวกนี้จะดังเป็นพลุแตกอีก

คือมันส์ตรงที่เราจะได้เห็นจุดเริ่มต้นของตัวละครพวกนี้อ่ะ ว่าแต่ละคนมีที่มาที่ไปยังไง กว่าจะกลายมาเป็นตัวร้ายสุดโฉดใน Batman ได้ แล้วก็ได้เห็นพัฒนาการของจิม กอร์ดอนด้วยนะ ว่าเขาต้องเจอกับอะไรบ้าง กว่าจะกลายเป็นผู้บัญชาการตำรวจที่แกร่งกล้า

ซีรีส์นี้ภาพสวย บรรยากาศก็อตแธมสุดๆ ตัวละครแต่ละตัวก็มีเสน่ห์เฉพาะตัว แสดงดีกันทุกคน โดยเฉพาะเพนกวินนี่คือขโมยซีนมาก ใครชอบซีรีส์แนวอาชญากรรม ดราม่า มีฉากแอ็คชั่นด้วย แนะนำเลย Gotham นี่แหละ ครบรส!

  • ประเภท: อาชญากรรม, ดราม่า, แอ็คชั่น
  • วันที่เข้าฉาย: 22 กันยายน 2014
  • นักแสดงนำ: Ben McKenzie, Donal Logue, David Mazouz
  • ผู้สร้าง: Bruno Heller
  • จำนวนตอน: 5 ซีซั่น (100 ตอน)
  • IMDb Rating: 7.8/10

31. Frasier (1993-2004)

เฟรเชอร์

ซีรีส์ฝรั่ง Frasier (1993 2004)

Frasier Crane จิตแพทย์คนดังจากบอสตันที่ย้ายกลับมาบ้านเกิดที่ซีแอตเทิล แล้วก็ไปจัดรายการวิทยุให้คำปรึกษาปัญหาชีวิตคนอื่น แต่ชีวิตตัวเองนี่สิกลับวุ่นวายสุดๆ ทั้งต้องรับมือกับพ่อขี้บ่น, น้องชายเพี้ยนๆ, แล้วก็โปรดิวเซอร์รายการที่แสบสุดๆ เรื่องราวชวนหัวก็เลยเกิดขึ้นไม่หยุดหย่อนเลยล่ะ

ตัวละครแต่ละตัวนี่มีเอกลักษณ์สุดๆ ทั้ง Frasier ที่ดูหยิ่งๆ แต่จริงๆ แล้วก็มีมุมน่ารัก, Niles น้องชายที่ดูเหมือนจะเพอร์เฟกต์แต่ก็เพี้ยนไม่เบา, แล้วก็พ่อ Martin ที่เป็นตำรวจเกษียณพูดตรงไปตรงมา คือแต่ละคนนี่สร้างสีสันให้เรื่องได้ฮาแบบไม่พักเลย ฉันชอบเวลาพวกเขามาเจอกันแล้วเถียงกันไปเถียงกันมา มันตลกแบบมีชั้นเชิงดีจริงๆ

  • ประเภท: ซิทคอม, ตลก
  • วันที่เข้าฉาย: 16 กันยายน 1993 – 13 พฤษภาคม 2004
  • นักแสดงนำ: Kelsey Grammer, David Hyde Pierce, John Mahoney, Jane Leeves, Peri Gilpin
  • ผู้กำกับ: หลายคน (แต่ละตอนมีผู้กำกับคนละคน)
  • จำนวนตอน: 264 ตอน (11 ซีซั่น)
  • คะแนน IMDb: 7.7/10
  • ช่องทางการรับชม: Prime Video

30. Underground Railroad (2021)

ทางลับ ทางทาส

ซีรีส์ฝรั่ง Underground Railroad

แกเคยอ่านนิยายเรื่อง Underground Railroad ปะ? ที่มันเล่าเรื่องทาสผิวสีหนีจากไร่ฝ้ายทางตอนใต้ของอเมริกาเพื่อไปหาอิสรภาพอะ อันนี้คือซีรีส์ที่สร้างจากนิยายเรื่องนั้นเลยนะเว้ย

ตัวเอกชื่อโคร่า เป็นทาสสาวที่ทนไม่ไหวแล้วกับชีวิตที่ไร้ซึ่งความหวัง เธอเลยตัดสินใจเสี่ยงหนีไปตามทางรถไฟใต้ดิน ซึ่งในเรื่องนี้มันไม่ใช่แค่เส้นทางลับนะแก แต่มันคือรถไฟใต้ดินของจริงเลย มีราง มีอุโมงค์ สุดยอดไปเลย! ระหว่างทางโคร่าต้องเจอกับอุปสรรคและอันตรายมากมาย ทั้งพวกนายทาสที่ตามล่า ทั้งกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม แถมยังมีพวกคนใจร้ายที่จ้องจะทำร้ายเธออีก แต่โคร่าก็ไม่ยอมแพ้ เธอมีความหวังและความกล้าหาญที่จะไปให้ถึงจุดหมายให้ได้

บอกเลยว่าซีรีส์เรื่องนี้โคตรดาร์กและสะเทือนอารมณ์ มันทำให้เราเห็นภาพความโหดร้ายของระบบทาสในอเมริกาสมัยก่อนได้อย่างชัดเจน แถมยังทำให้เราลุ้นและเอาใจช่วยโคร่าไปตลอดทางอีกด้วย ใครที่ชอบซีรีส์ฝรั่งแนวดราม่าประวัติศาสตร์ที่เข้มข้น รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน

  • ประเภท: ดราม่า, ประวัติศาสตร์, ระทึกขวัญ
  • วันเข้าฉาย: 14 พฤษภาคม 2021
  • นักแสดงนำ: Thuso Mbedu, Chase W. Dillon, Joel Edgerton
  • ผู้กำกับ: Barry Jenkins
  • จำนวนตอน: 10 ตอน
  • คะแนน IMDb: 7.5/10
  • ช่องทางการรับชม: Prime Video

29. Star Trek: The Next Generation (1987–1994)

สตาร์ เทรค: เดอะ เน็กซ์ เจเนอเรชัน

ซีรีส์ฝรั่ง Star Trek The Next Generation

เรื่องมันเกิดขึ้นประมาณร้อยปีหลังจากเหตุการณ์ใน Star Trek ภาคแรกอ่ะ คราวนี้เราจะได้ตามติดการผจญภัยของลูกเรือยาน USS Enterprise-D ที่นำโดยกัปตัน Jean-Luc Picard ผู้สุขุม พวกเขาต้องออกสำรวจอวกาศ ไปเผชิญหน้ากับเผ่าพันธุ์ต่างดาวใหม่ ๆ แก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างทาง ทั้งเรื่องการเมือง ความขัดแย้ง หรือแม้แต่ภัยคุกคามจากศัตรูสุดโหด

แต่ที่เจ๋งคือซีรีส์นี้ไม่ได้เน้นแค่แอ็กชันนะ มันยังมีประเด็นให้ขบคิดเยอะมาก ทั้งเรื่องจริยธรรม ปรัชญา หรือแม้แต่การพัฒนาของมนุษยชาติในอนาคต บอกเลยว่าดูแล้วได้อะไรมากกว่าความบันเทิงแน่นอน

  • ประเภท: วิทยาศาสตร์, ผจญภัย, ดราม่า
  • วันที่เข้าฉาย: 28 กันยายน 1987
  • นักแสดงนำ: Patrick Stewart, Jonathan Frakes, Brent Spiner, LeVar Burton, Michael Dorn, Gates McFadden, Marina Sirtis
  • ผู้กำกับ: หลายคนมาก (แต่ Gene Roddenberry เป็นคนสร้างสรรค์ซีรีส์นี้ขึ้นมา)
  • จำนวนตอน: 178 ตอน (7 ซีซั่น)
  • คะแนน IMDb: 8.7/10
  • ช่องทางการรับชม: Netflix

28. Better Call Saul (2015–2022)

มีปัญหาปรึกษาซอล

ซีรีส์ฝรั่ง Better Call Saul (มีปัญหา ปรึกษาซอล)

เป็นเรื่องของทนายความคนนึงชื่อจิมมี่ แมคกิลล์ แต่แกจะรู้จักเขาในชื่อซอล กู๊ดแมนมากกว่าจากเรื่อง Breaking Bad นั่นแหละ แต่เรื่องนี้มันย้อนไปเล่าตอนที่เขายังไม่ดัง ยังเป็นแค่ทนายตัวเล็กๆ พยายามดิ้นรนหาทางอยู่ในโลกนี้ แล้วก็มีเรื่องวุ่นๆ ตามมาเพียบเลย ทั้งเรื่องงาน เรื่องครอบครัว เรื่องความรัก คือมันเรียลมาก ดูแล้วอินสุดๆ

แล้วที่ชอบอีกอย่างคือตัวละครแต่ละตัวมันมีมิติมาก ไม่ได้ดีเลวไปเลยซะหมด มันทำให้เราเข้าใจการตัดสินใจของพวกเขา แถมยังมีมุกตลกร้ายแทรกมาตลอด ทำให้ดูแล้วไม่เครียดเกินไปด้วยนะ

เอาง่ายๆ คือถ้าชอบ Breaking Bad ต้องดูเรื่องนี้เลย มันจะทำให้แกเข้าใจตัวละครซอลมากขึ้น แล้วก็จะได้เห็นว่าเขาผ่านอะไรมาบ้างกว่าจะกลายเป็นซอล กู๊ดแมนที่เราเห็นน่ะ

  • ประเภท: ดราม่า, อาชญากรรม, ตลกร้าย
  • ปีที่ฉาย: 2015–2022
  • นักแสดงนำ: บ็อบ โอเดนเคิร์ก, โจนาธาน แบงส์, เรอา ซีฮอร์น
  • ผู้สร้าง: วินซ์ กิลลิแกน, ปีเตอร์ กูลด์
  • จำนวนตอน: 6 ซีซั่น, 63 ตอน
  • คะแนน IMDb: 9.7/10
  • ช่องทางการรับชม: Netflix

27. Silicon Valley (2014–2019)

ซิลิคอนวัลเล่ย์ รวมพลคนอัจฉริยะ

ซีรีส์ฝรั่ง Silicon Valley (2014–2019)

เรื่องมันเกี่ยวกับกลุ่มโปรแกรมเมอร์เนิร์ดๆ ที่พยายามจะสร้างบริษัทสตาร์ทอัพของตัวเองในซิลิคอน วัลเลย์ ที่ที่แข่งขันกันสูงมาก พวกเขาสร้างอัลกอริทึมการบีบอัดข้อมูลสุดล้ำ แล้วก็ต้องเจอกับเรื่องวุ่นๆ ทั้งเรื่องเงินทุน เรื่องคู่แข่ง แถมยังมีเรื่องตลกๆ ของพวกเนิร์ดๆ อีกเพียบ!

ตัวละครแต่ละตัวนี่มีเอกลักษณ์สุดๆ ทั้ง Richard Hendricks ที่เป็นหัวหน้าทีมแต่ขี้อายสุดๆ Erlich Bachman ที่ปากหมาแต่ก็มีน้ำใจ Dinesh Chugtai กับ Gilfoyle ที่ชอบกัดกันตลอดเวลา บอกเลยว่าฮาจนท้องแข็ง

ถ้าชอบเรื่องราวเกี่ยวกับสตาร์ทอัพ เทคโนโลยี แล้วก็อยากขำจนกรามค้าง ต้องดูเลยนะ!

  • ประเภท: ตลก, ดราม่า
  • วันที่เข้าฉาย: 6 เมษายน 2014 – 8 ธันวาคม 2019
  • นักแสดงนำ: Thomas Middleditch, T.J. Miller, Josh Brener, Martin Starr, Kumail Nanjiani, Zach Woods, Amanda Crew, Matt Ross, Jimmy O. Yang, Suzanne Cryer
  • ผู้สร้าง: Mike Judge, John Altschuler, Dave Krinsky
  • จำนวนตอน: 53 ตอน (6 ซีซั่น)
  • IMDb Rating: 8.5/10
  • ช่องทางการรับชม: HBO

26. Battlestar Galactica (2004–2009)

กาแล็คติก้า สงครามถล่มจักรวาล

ซีรีส์ฝรั่ง Battlestar Galactica (2004–2009)

ซีรีส์เป็นแนวไซไฟอวกาศนะ เล่าเรื่องเกี่ยวกับมนุษย์ที่เหลือรอดจากการโจมตีของหุ่นยนต์ที่พวกเขาสร้างขึ้นมาเอง พวกนี้ต้องหนีตายไปพร้อมกับยานรบกาแลคติกา แล้วก็ออกเดินทางตามหาโลกใหม่ที่เรียกว่า “เอิร์ธ” ระหว่างทางก็เจอเรื่องราวต่างๆ ทั้งการต่อสู้เอาชีวิตรอด ความขัดแย้งภายในกลุ่ม รวมถึงคำถามเกี่ยวกับตัวตนของพวกเขาเองด้วย

คือมันส์มาก! ฉากต่อสู้ในอวกาศนี่ทำได้อลังการสุดๆ แล้วก็มีปมปริศนาให้ชวนติดตามตลอดว่าใครกันแน่ที่เป็นพวกไซลอนที่ปลอมตัวมา แถมยังมีประเด็นให้ขบคิดเกี่ยวกับศีลธรรม จริยธรรม และความหมายของการเป็นมนุษย์อีกต่างหาก

ถ้าชอบแนวอวกาศ ไซไฟ ล้ำๆ หน่อย บอกเลยว่าห้ามพลาด Battlestar Galactica เด็ดขาด!

  • ประเภท: วิทยาศาสตร์, ดราม่า, แอ็กชัน
  • วันที่เข้าฉาย: 18 ตุลาคม 2004
  • นักแสดงนำ: Edward James Olmos, Mary McDonnell, Katee Sackhoff, Jamie Bamber
  • ผู้กำกับ: Ronald D. Moore
  • จำนวนตอน: 75 ตอน (4 ซีซั่น) + มินิซีรีส์ และภาพยนตร์ภาคแยก
  • คะแนน IMDb: 8.7/10

25. The Gentlemen (2024)

สุภาพบุรุษมาหากัญ

ซีรีส์ฝรั่ง The Gentlemen (2024) กาย ริตชี่หวนคืนฟอร์มสุดแสบ

เรื่องมันเกี่ยวกับ เอ็ดดี ลูกชายของเจ้าพ่อกัญชาในอเมริกาที่ดังมาก แต่พ่อเขาอยากจะเกษียณแล้วส่งต่อธุรกิจให้เอ็ดดีดูแล เอ็ดดีก็เลยต้องกลับมาอังกฤษเพื่อเคลียร์ปัญหาต่างๆ ทั้งเรื่องธุรกิจผิดกฎหมาย การเมือง และก็พวกแก๊งมาเฟียที่จ้องจะฮุบสมบัติพ่อเขาไป คือมันส์มาก มีแอคชั่น มีตลก มีดราม่า ครบรสสุดๆ

ตัวละครแต่ละตัวคือมีเสน่ห์มาก โดยเฉพาะตัวเอกที่เล่นโดย ธีโอ เจมส์ คือเท่ห์แบบ bad boy สุดๆ แล้วบทมันก็มีอะไรให้ลุ้นตลอด ไม่น่าเบื่อเลยซักตอนเดียว ใครชอบหนังแนวแก๊งสเตอร์ หรือชอบหนังของ Guy Ritchie อยู่แล้ว บอกเลยว่าเรื่องนี้ไม่ควรพลาด

  • ประเภท: แอคชั่น, อาชญากรรม, ตลก
  • วันที่เข้าฉาย: 7 มีนาคม 2024
  • นักแสดงนำ: ธีโอ เจมส์, คายา สโคเดลาริโอ, วินนี โจนส์
  • ผู้กำกับ: Guy Ritchie
  • จำนวนตอน: 8 ตอน
  • IMDb Rating: 7.4/10
  • ช่องทางการรับชม: Netflix

24. Orange is the New Black (2013–2019)

ออเรนจ์ อีส เดอะ นิว แบล็ค

ซีรีส์ฝรั่ง Orange Is the New Black ออเรนจ์ อีส เดอะ นิว แบล็ค

เรื่องมันเกี่ยวกับผู้หญิงคนนึงชื่อ Piper ชีวิตดี๊ดี มีแฟนหล่อ มีธุรกิจ แต่ดันพลาดไปพัวพันกับคดียาเสพติดสมัยวัยรุ่น สรุปโดนจับเข้าคุกหญิงไปเลยจ้า! ตอนแรกชีก็ช็อคไปเลย คิดว่าชีวิตจบแล้ว แต่ปรากฎว่าในคุกนี่มันมีเรื่องราวอีกโลกนึงเลย มีทั้งมิตรภาพ ความรัก ดราม่า โหด มัน ฮา ครบรส! แต่ละคนในนั้นมีที่มาที่ไปต่างกัน บางคนน่าสงสาร บางคนก็ร้ายสุดๆ คือมันเรียลมากแก

คือซีรีส์ฝรั่งเรื่องนี้ไม่ได้เน้นแค่ความสนุกนะ แต่มันทำให้เราเห็นอีกด้านของสังคม เห็นว่าชีวิตในคุกมันเป็นยังไง แล้วแต่ละคนต้องเจอกับอะไรบ้าง มันทำให้เราเข้าใจคนอื่นมากขึ้น แล้วก็ทำให้เราเห็นคุณค่าของอิสรภาพด้วยนะ

  • ประเภท: ดราม่า, ตลก, อาชญากรรม
  • วันที่เข้าฉาย: 11 กรกฎาคม 2013 – 26 กรกฎาคม 2019
  • นักแสดงนำ: Taylor Schilling, Laura Prepon, Uzo Aduba, Danielle Brooks
  • ผู้สร้าง: Jenji Kohan
  • จำนวนตอน: 91 ตอน (7 ซีซั่น)
  • คะแนน IMDb: 8.1/10
  • ช่องทางการรับชม: Netflix

23. Arrested Development (2003-2019)

ซีรีส์ฝรั่ง Arrested Development (2003 2019)

เป็นเรื่องเกี่ยวกับครอบครัว Bluth ที่โคตรรวย แต่พ่อดันถูกจับเข้าคุกเพราะบริษัทมีปัญหา เลยเหลือแต่ลูกชายคนโต Michael ที่ต้องมารับช่วงต่อ ดูแลครอบครัวที่เหลือ ซึ่งแต่ละคนก็คือพีคมากกก ทั้งพี่สาวที่เอาแต่ใจ น้องชายที่ไม่เอาไหน ลูกชายตัวเองก็ดูจะเพี้ยนๆไปบ้าง บอกเลยว่าแต่ละคนสร้างเรื่องปวดหัวให้ Michael ไม่เว้นแต่ละวัน

คือตลกแบบตลกร้ายอะ เข้าใจปะ มันจะมีมุกแบบเสียดสีสังคม แซะเรื่องครอบครัวคนรวยหน่อยๆ แล้วตัวละครแต่ละตัวคือมีเอกลักษณ์ชัดเจนมาก แบบจำได้เลยว่าใครเป็นใคร ดูไปก็ขำไป สงสาร Michael ไปด้วย 55555

ถ้าชอบซีรีส์ฝรั่งแนวตลกๆ บ้าๆ บอๆ แนะนำเลย Arrested Development เนี่ยแหละ ดูเพลินๆ ฮาๆ คลายเครียดได้ดีเลย

  • ประเภท: ตลก, เสียดสี
  • วันที่เข้าฉาย: 2 พฤศจิกายน 2003 – 15 มีนาคม 2019
  • นักแสดงนำ: Jason Bateman, Portia de Rossi, Will Arnett, Michael Cera
  • ผู้สร้าง: Mitchell Hurwitz
  • จำนวนตอน: 84 ตอน (5 ซีซั่น)
  • IMDb Rating: 8.7/10

22. Friends (1994-2004)

เฟรนส์

ซีรีส์ฝรั่ง Friends เฟรนส์

เป็นซิตคอมในตำนานอะ คือแบบว่าดูได้เรื่อย ๆ สบาย ๆ แต่ก็ฮาแล้วก็อบอุ่นหัวใจมาก ๆ เล่าเรื่องชีวิตของเพื่อน 6 คนที่อยู่ในนิวยอร์กอะ มีทั้งเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ปัญหาชีวิต การงาน คือมันเรียลมาก เหมือนได้เห็นชีวิตตัวเองในนั้นเลย

ตัวละครแต่ละตัวคือมีเอกลักษณ์มากอะ จะมี ราเชล สวย ๆ เริ่ด ๆ แต่ก็โก๊ะ ๆ หน่อย มอนิก้า เจ้าระเบียบ เพอร์เฟคชั่นนิสต์ ชอบทำอาหาร ฟีบี้ เพี้ยน ๆ ตลก ๆ แต่ก็น่ารักอะ แล้วก็มี โจอี้ หนุ่มเจ้าเสน่ห์ จอมหว่านเสน่ห์ แชนด์เลอร์ กวน ๆ ปากร้าย แต่ก็ฮา แล้วก็ รอสส์ น้องชายมอนิก้า เป็นนักวิชาการหน่อย ๆ แต่ก็มีมุมน่ารักเหมือนกัน

คือแก มันเป็นซีรีส์ที่ดูแล้วรู้สึกดีอะ เหมือนได้นั่งเม้าท์มอยกับเพื่อน ๆ เลย แล้วแต่ละตอนก็จะมีเรื่องราวให้ลุ้น ให้ขำ ให้ซึ้งตลอดอะ แนะนำเลยนะ ดูแล้วจะติดใจ!

  • ประเภท: ซิตคอม, ตลก, โรแมนติก
  • วันที่เข้าฉาย: 22 กันยายน 1994 – 6 พฤษภาคม 2004
  • นักแสดงนำ: เจนนิเฟอร์ อนิสตัน, คอร์ตนีย์ ค็อกซ์, ลิซา คูโดรว์, แมตต์ เลอบลังก์, แมทธิว เพอร์รี, เดวิด ชวิมเมอร์
  • ผู้สร้าง: เดวิด เครน, มาร์ทา คอฟฟ์แมน
  • จำนวนตอน: 236 ตอน (10 ซีซั่น)
  • IMDb Rating: 9/10
  • ช่องทางการรับชม: Netflix

21. Band of Brothers (2001)

กองรบวีรบุรุษ

ซีรีส์ฝรั่ง Band of Brothers กองรบวีรบุรุษ

เป็นเรื่องเกี่ยวกับทหารพลร่มอเมริกันกลุ่มนึงชื่อ Easy Company ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตั้งแต่ตอนฝึกหนักๆ ยันโดดร่มลง Normandy ในวัน D-Day อ่ะ แล้วก็ตามติดชีวิตพวกเขาไปในแต่ละสมรภูมิสำคัญๆ ในยุโรปเลยนะ ทั้ง Market Garden, Battle of the Bulge อะไรพวกนี้ คือแบบมันเรียลมาก เห็นทั้งมิตรภาพ ความกล้าหาญ ความสูญเสีย มันสะเทือนใจสุดๆ

นักแสดงก็เล่นดีทุกคน นำโดย Damian Lewis กับ Ron Livingston เลยนะ แต่ละคนคืออินเนอร์มาเต็มมาก รู้สึกเลยว่าพวกเขาผ่านอะไรมาบ้าง แล้วที่สำคัญคือซีรีส์ฝรั่งนี้สร้างจากเรื่องจริงนะ ยิ่งทำให้รู้สึกอินไปอีก คือมันไม่ได้แค่โชว์ฉากสงครามอย่างเดียว แต่มันถ่ายทอดความเป็นมนุษย์ของทหารแต่ละคนออกมาด้วย แบบมิตรภาพ ความกลัว ความหวัง อะไรแบบนี้ มันเลยไม่ใช่แค่ซีรีส์สงครามธรรมดาอะแก มันมีอะไรมากกว่านั้นเยอะ

  • ประเภท: ดราม่า, สงคราม, ประวัติศาสตร์
  • วันที่เข้าฉาย: 9 กันยายน 2001
  • นักแสดงนำ: Damian Lewis, Ron Livingston, Donnie Wahlberg
  • ผู้กำกับ: หลายคนเลย แต่คนดังๆก็เช่น Steven Spielberg, Tom Hanks
  • จำนวนตอน: 10 ตอน
  • IMDb Rating: 9.4/10
  • ช่องทางการดู: Netflix, HBO

20. Curb Your Enthusiasm (2000-)

เคิร์บ ยัวร์ เอ็นธูสิแอสซึ่ม

ซีรีส์ฝรั่ง Curb Your Enthusiasm

แลร์รี เดวิด นักเขียนบททีวีที่เกษียณตัวเองแล้ว แต่ชีวิตเขามันไม่ได้สงบสุขอย่างที่คิดเลย คือทุกอย่างที่เขาทำมันต้องมีเรื่องให้ปวดหัวตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน หรือเรื่องใหญ่โตที่ไม่คาดคิด มันก็จะกลายเป็นเรื่องวุ่นวายไปหมด

แลร์รีเป็นคนตรงไปตรงมาและไม่ค่อยแคร์สังคมเท่าไหร่ ซึ่งมันก็ทำให้เกิดสถานการณ์ตลก ๆ เยอะมาก เขาจะเถียงกับคนอื่นเรื่องไร้สาระ หรือทำอะไรที่คนทั่วไปเขาไม่ทำกัน แล้วสุดท้ายมันก็จะนำไปสู่ความโกลาหลที่ไม่มีใครคาดคิดได้เลย

ถ้าชอบอะไรที่มันตลกแบบไม่เหมือนใคร ต้องลองดูเลยนะ รับรองว่าจะฮาจนท้องแข็ง!

  • ประเภท: ตลก, สถานการณ์
  • วันที่เข้าฉาย: 15 ตุลาคม 2000
  • นักแสดงนำ: Larry David
  • ผู้สร้าง: Larry David
  • จำนวนตอน: 110 ตอน (11 ซีซั่น)
  • ความยาวต่อตอน: ประมาณ 30 นาที
  • คะแนน IMDb: 8.7/10
  • ช่องทางการรับชม: HBO

19. American Horror Story (2011–)

อเมริกัน ฮอร์เรอร์ สตอรี่

ซีรีส์ฝรั่ง American Horror Story

แต่ละซีซั่นมันจะเป็นเรื่องใหม่หมดเลยนะ แต่เชื่อมโยงกันนิดๆ หน่อยๆ แบบบางตัวละครก็โผล่มาอีกซีซั่นไรงี้ แล้วธีมแต่ละซีซั่นคือหลอนมาก แบบบ้านผีสิง โรงพยาบาลบ้า คณะละครสัตว์ประหลาด แม่มด ฆาตกรต่อเนื่อง คือแบบ… ครบ! แล้วมันไม่ได้แค่ผีหลอกนะ มันมีความดาร์ก ดราม่า ไซไฟ สืบสวนสอบสวน ปนๆ กันไป คือดูแล้วจะแบบ เฮ้ย คิดได้ไงวะเนี่ย

นักแสดงก็คือดีงามมากกก ส่วนใหญ่จะวนๆ กันมาเล่นหลายซีซั่น แล้วแต่ละคนคือตีบทแตกกระจุย โดยเฉพาะซาร่าห์ พอลสัน เล่นบทไหนก็คืออินมาก แล้วงานภาพก็คือสวย อาร์ต ล้ำมากกก ใครชอบแนวหลอนๆ ไม่ควรพลาดเลย

  • ประเภท: สยองขวัญ, ระทึกขวัญ, ดราม่า
  • วันที่เข้าฉาย: 5 ตุลาคม 2011 (ซีซั่นแรก)
  • นักแสดงหลัก: ซาร่าห์ พอลสัน, อีวาน ปีเตอร์ส, เจสสิก้า แลงจ์, แคธี่ เบตส์, ลิลี่ เร้บ, ฟินน์ วิททร็อค, เอ็มม่า โรเบิร์ตส์ และอีกมากมาย
  • ผู้สร้าง: ไรอัน เมอร์ฟี, แบรด ฟัลชัก
  • จำนวนตอนหรือความยาว: แต่ละซีซั่นจะมีประมาณ 9-13 ตอน
  • คะแนน IMDb: 7.5-8.5/10
  • ช่องทางการรับชม: Disney+

18. The Boys (2019–)

ก๊วนหนุ่มซ่าล่าซูเปอร์ฮีโร่

ซีรีส์ฝรั่ง The Boys ซีซั่น 4: ยิ่งโหด ยิ่งฮา ยิ่งมันส์

มันเป็นโลกที่พวกซูเปอร์ฮีโร่มีอยู่จริงอะ แต่พวกนี้ไม่ได้ดีงามเหมือนที่เราคิดนะ บางคนโคตรเลวเลย ทำตัวกร่าง เห็นแก่ตัว ใช้พลังไปในทางที่ผิด แล้วก็มีกลุ่ม The Boys นี่แหละที่คอยตามล่าพวกซูเปอร์ฮีโร่เลวๆ พวกนี้

ตัวเอกคือ บิลลี่ บุชเชอร์ แกแค้นพวกซูเปอร์ฮีโร่มากๆ โดยเฉพาะกับ โฮมแลนเดอร์ ที่เป็นเหมือนซูเปอร์แมนเวอร์ชั่นโฉด แล้วก็มี ฮิวอี้ แคมป์เบล ที่แฟนโดนซูเปอร์ฮีโร่ฆ่า เลยเข้าร่วมทีม The Boys ด้วย

แต่บอกเลยว่ามันไม่ใช่แค่บู๊แหลกนะ มันมีดราม่า มีตลกร้ายเสียดสีสังคมด้วย คือแบบว่าสะท้อนด้านมืดของวงการบันเทิง ความดัง ความอยากมีอำนาจอะ แล้วก็มีฉากโหดๆ เลือดสาดด้วยนะ ใครใจไม่ถึงก็ข้ามๆ ไปบ้างก็ได้ 555

  • ประเภท: แอ็คชั่น, ดาร์กคอมเมดี้, ซูเปอร์ฮีโร่
  • วันที่เข้าฉาย: 26 กรกฎาคม 2019
  • นักแสดงนำ: คาร์ล เออร์บัน, แจ็ค เควด, แอนโทนี่ สตาร์
  • ผู้สร้าง: อีริค คริปเก้
  • จำนวนตอน/ความยาว: 3 ซีซั่น (ซีซั่นละ 8 ตอน)
  • คะแนน IMDb: 8.7/10
  • ช่องทางการรับชม: Prime Video

17. House of the Dragon (2022–)

ตระกูลแห่งมังกร

ซีรีส์ฝรั่ง House of the Dragon Season 2 2024

แกเคยดู Game of Thrones ป่ะ? ถ้าชอบนะ ต้องลองดู House of the Dragon เลย มันคือภาคก่อนหน้า เกิดขึ้นประมาณ 200 ปีก่อนเรื่องราวใน GOT เล่าถึงช่วงที่ตระกูล Targaryen เรืองอำนาจสุดๆ แล้วก็มีมังกรเยอะแยะไปหมด

เรื่องมันเริ่มตอนที่กษัตริย์ Viserys I ต้องเลือกว่าจะให้ใครเป็นรัชทายาท ระหว่าง Rhaenyra ลูกสาวคนโต กับ Daemon น้องชายจอมทะเยอทะยาน แล้วก็มีเรื่องวุ่นๆ ตามมาอีกเพียบ ทั้งการเมืองในราชสำนัก การชิงดีชิงเด่นระหว่างขุนนาง แถมยังมีมังกรมาเกี่ยวข้องด้วยนะ

บอกเลยว่ามันส์มาก ฉากอลังการงานสร้าง มังกรแต่ละตัวนี่เท่สุดๆ แถมเนื้อเรื่องยังเข้มข้น มีปมให้ลุ้นตลอด ใครชอบซีรีส์ฝรั่งแนวแฟนตาซี ดราม่าเข้มข้น ห้ามพลาดเลย

  • ประเภท: แฟนตาซี, ดราม่า, สงคราม
  • วันที่เข้าฉาย: 21 สิงหาคม 2022
  • นักแสดงนำ: Paddy Considine, Matt Smith, Emma D’Arcy, Olivia Cooke, Rhys Ifans
  • ผู้กำกับ: มีหลายคนกำกับในแต่ละตอน เช่น Miguel Sapochnik, Clare Kilner, Geeta Vasant Patel
  • จำนวนตอนหรือความยาว: ซีซัน 1 มี 10 ตอน, ซีซัน 2 มี 8 ตอน
  • คะแนน IMDb: 8.5/10
  • ช่องทางการรับชม: HBO

16. The Simpsons (1989-)

เดอะ ซิมป์สันส์

ซีรีส์ฝรั่ง The Simpsons เดอะซิมป์สันส์

แกเคยดู The Simpsons ยัง? มันเป็นการ์ตูนซิตคอมอเมริกันที่ดังมากกกกกกกกกก แบบว่าอยู่มานานมากกกกกกกกก ตั้งแต่ปี 1989 แล้วก็ยังฉายอยู่เลยอะ

เรื่องมันเกี่ยวกับครอบครัวซิมป์สันส์ ที่อยู่ในเมืองสปริงฟิลด์ มีพ่อโฮเมอร์ที่เป็นพวกขี้เกียจแต่ใจดี แม่มาร์จที่คอยดูแลทุกคน บาร์ตลูกชายจอมแสบ ลิซ่าลูกสาวที่ฉลาดเป็นกรด และแม็กกี้ลูกคนเล็กที่ยังพูดไม่ได้ แต่ก็ฮาได้

แต่ขอบอกเลยว่ามันไม่ใช่การ์ตูนเด็กนะ มันเสียดสีสังคมอเมริกันแบบจัดเต็ม ทั้งการเมือง ศาสนา วัฒนธรรมป๊อป คือผู้ใหญ่ดูก็ขำ เด็กดูก็ได้แง่คิดไปอีกแบบ ใครชอบแนวตลกร้ายต้องลองเลย!

  • ประเภท: ซิตคอม, แอนิเมชัน, ตลกร้าย
  • วันที่เข้าฉาย: 17 ธันวาคม 1989
  • ผู้สร้าง: Matt Groening
  • จำนวนตอน: มากกว่า 700 ตอน (และยังมีต่อ!)
  • IMDb Rating: 8.7/10
  • ช่องทางการรับชม: Disney+

15. Six Feet Under (2001-2005)

ซิกส์ ฟีต อันเดอร์

ซีรีส์ฝรั่ง Six Feet Under (ซิกส์ ฟีต อันเดอร์)

ซีรีส์นี้มันเกี่ยวกับครอบครัว Fisher ที่เปิดธุรกิจร้านรับจัดงานศพใน LA แล้วอยู่ๆ พ่อก็ตายกะทันหัน ลูกชายคนโตที่ไม่ค่อยลงรอยกับที่บ้านก็ต้องกลับมาช่วยงานศพ แล้วก็ต้องมาช่วยแม่กับน้องๆ ดูแลกิจการต่อด้วย ปัญหาคือแต่ละคนก็มีปม มีเรื่องราวของตัวเองอีกเพียบ เอาจริงๆ แค่พล็อตก็ดราม่าแล้วใช่มะ แต่ที่พีคคือซีรีส์มันไม่ได้โฟกัสแค่เรื่องความตายนะ มันยังพูดถึงชีวิต ความสัมพันธ์ ปัญหาครอบครัว มิตรภาพ ความรัก ได้แบบลึกซึ้งมาก ดูแล้วอินตามทุกตอน

ตัวละครแต่ละตัวคือมีมิติมากๆ นะ มีทั้งดีเลว ปะปนกันไป บางทีเราก็เกลียดบางตัวละคร แต่บางทีก็เข้าใจ เห็นใจเขา แบบว่ามันเรียลสุดๆ อ่ะ แล้วที่ชอบอีกอย่างคือซีรีส์มันกล้าเล่นกับประเด็นต่างๆ ที่สังคมไม่ค่อยพูดถึงกันเท่าไหร่ เช่น เรื่องเพศ เรื่องความตาย เรื่องศาสนา คือดูแล้วได้แง่คิดอะไรเยอะเลย

สรุปคือ Six Feet Under เป็นซีรีส์ฝรั่งดราม่าคุณภาพที่ควรค่าแก่การดูจริงๆ นะ ไม่ใช่แค่ดูเอาบันเทิง แต่ดูแล้วได้อะไรกลับมาคิดต่อเยอะเลย รับรองว่าไม่ผิดหวัง

  • ประเภท: ดราม่า, ตลกร้าย, ครอบครัว
  • วันที่เข้าฉาย: 3 มิถุนายน 2001 – 21 สิงหาคม 2005
  • นักแสดงนำ: Peter Krause, Michael C. Hall, Frances Conroy, Lauren Ambrose
  • ผู้สร้าง: Alan Ball
  • จำนวนตอน: 63 ตอน (5 ซีซัน)
  • IMDb Rating: 8.7/10
  • ช่องทางการรับชม: HBO

14. The Crown (2016–2023)

เดอะ คราวน์

ซีรีส์ฝรั่ง The Crown เดอะ คราวน์

The Crown นี่มันดีมากเลยนะ แบบว่าเล่าเรื่องราวของควีนเอลิซาเบธที่ 2 ตั้งแต่ยังสาวๆ เลยนะ จนถึงช่วงปัจจุบันเลยอะ คือแบบว่าเห็นทุกช่วงชีวิตของพระองค์เลย ตั้งแต่ตอนที่ต้องขึ้นครองราชย์แบบกะทันหัน ทั้งที่ยังเด็กและไม่พร้อมเลย จนถึงช่วงที่ต้องรับมือกับเรื่องราวต่างๆ ทั้งในราชวงศ์และในประเทศอังกฤษ คือแบบว่าเข้มข้นมาก

แล้วคือเขาทำออกมาได้ดีมากอะ ทั้งเสื้อผ้า ฉากต่างๆ คือแบบว่าเหมือนเราหลุดเข้าไปอยู่ในยุคนั้นเลยอะ แล้วนักแสดงก็เล่นดีมาก คืออินไปกับทุกตัวละครเลย โดยเฉพาะคนที่เล่นเป็นควีนแต่ละช่วงวัย คือแบบว่าเหมือนควีนจริงๆ เลยอะ

แกต้องลองไปดูนะ คือมันไม่ใช่แค่เรื่องราวของราชวงศ์อังกฤษอะ แต่มันยังสะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์และการเปลี่ยนแปลงของโลกในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาด้วย คือแบบว่าได้ทั้งความบันเทิงและความรู้เลยอะ

  • ประเภท: ดราม่า, ประวัติศาสตร์
  • วันที่เข้าฉาย: 4 พฤศจิกายน 2016
  • นักแสดงนำ: Claire Foy, Olivia Colman, Imelda Staunton (รับบทเป็นควีนเอลิซาเบธที่ 2 ในแต่ละช่วงวัย)
  • ผู้กำกับ: มีหลายคนมาก เพราะแต่ละซีซั่นก็มีผู้กำกับหลายคนสลับกันไป
  • จำนวนตอนหรือความยาว: 6 ซีซั่น
  • คะแนน IMDb: 8.7/10
  • ช่องทางการรับชม: Netflix

13. The Lord of the Rings: The Rings of Power (2022–)

เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ แหวนแห่งอำนาจ

ซีรีส์ฝรั่ง Lord of the Rings: The Rings of Power แหวนแห่งอำนาจ

The Lord of the Rings: The Rings of Power มันพาเราย้อนไปยุคก่อน The Hobbit กับ The Lord of the Rings อีกนะ ตอนที่มิดเดิลเอิร์ธยังสงบสุขอยู่ แต่ก็เริ่มมีลางร้ายแล้วว่าความชั่วร้ายกำลังจะกลับมา ตัวละครเยอะมาก ทั้งพวกที่เราคุ้นเคยแล้วก็หน้าใหม่เพียบเลย ทุกคนต้องร่วมมือกันเพื่อหยุดยั้งหายนะครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นกับโลกใบนี้

แกจะได้เห็นเรื่องราวการสร้างแหวนแห่งพลังทั้งหลาย การกลับมาของเซารอนจอมมารร้าย แล้วก็การล่มสลายของอาณาจักรนูเมนอร์ด้วยนะ มันส์สุดๆ ฉากอลังการงานสร้างมาก แล้วก็ยังมีปริศนาให้เราได้ลุ้นตามตลอดว่าใครกันแน่ที่เป็นเซารอนตัวจริง

ถ้าชอบแนวแฟนตาซีผจญภัยแบบอลังการ มีเรื่องราวให้ติดตามเยอะๆ ต้องลองดูเลยนะ ไม่ผิดหวังแน่นอน

  • ประเภท: แฟนตาซี, ผจญภัย, ดราม่า
  • วันที่เข้าฉาย: 1 กันยายน 2022
  • นักแสดงนำ: Morfydd Clark, Robert Aramayo, Ismael Cruz Córdova, Markella Kavenagh และอีกมากมาย
  • ผู้กำกับ: J.A. Bayona, Wayne Che Yip, Charlotte Brändström และอีกหลายคน
  • จำนวนตอนหรือความยาว: 8 ตอนต่อซีซั่น (ซีซั่นแรก)
  • คะแนน IMDb: 6.9/10
  • ช่องทางการรับชม: Amazon Prime Video

12. Star Trek: Deep Space 9 (1993–1999)

สตาร์ เทรค: ดีพ สเปซ ไนน์

ซีรีส์ฝรั่ง Star Trek Deep Space 9 (1993–1999)

เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการสำรวจอวกาศด้วยยานเอนเทอร์ไพรซ์แบบเดิม ๆ แต่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนสถานีอวกาศชื่อ Deep Space Nine ใกล้กับดาว Bajor ที่เพิ่งเป็นอิสระจากการปกครองของ Cardassian ตัวเอกคือ Commander Benjamin Sisko ที่ต้องรับมือกับความขัดแย้งทางการเมือง ศาสนา และเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ ที่มาบรรจบกันบนสถานีนี้ แถมยังมีรูหนอนที่เชื่อมไปยังอีกฝั่งของกาแล็กซี ทำให้สถานีนี้กลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญและเต็มไปด้วยอันตราย

ถ้าชอบ Star Trek ที่มีความซับซ้อนของตัวละคร เนื้อเรื่องเข้มข้น มีปมปริศนา และการเมืองระหว่างดวงดาวเยอะ ๆ นี่แหละใช่เลย มันมีความเป็นดราม่า การต่อสู้ และการผจญภัยครบรส ลองหาดูนะ!

  • ประเภท: วิทยาศาสตร์, ดราม่า, ผจญภัย
  • วันที่เข้าฉาย: 3 มกราคม 1993
  • นักแสดงนำ: Avery Brooks, Rene Auberjonois, Terry Farrell, Cirroc Lofton, Colm Meaney, Armin Shimerman, Alexander Siddig, Nana Visitor
  • ผู้กำกับ: หลายคน (ซีรีส์หลายตอน)
  • จำนวนตอน: 176 ตอน (7 ซีซั่น)
  • คะแนน IMDb: 8.0/10
  • ช่องทางการรับชม: Netflix

11. The West Wing (1999-2006)

ซีรีส์ฝรั่ง The West Wing

เป็นซีรีส์เกี่ยวกับเบื้องหลังการทำงานในทำเนียบขาวของประธานาธิบดี Josiah Bartlet กับทีมงานของเขาอะ คือแบบว่าแกจะได้เห็นเลยว่าพวกเขาต้องเจอกับปัญหาอะไรบ้าง ทั้งเรื่องนโยบาย การเมืองระหว่างประเทศ แล้วก็เรื่องส่วนตัวของแต่ละคนด้วยนะ มันส์ตรงที่เราจะได้เห็นเบื้องหลังการตัดสินใจครั้งสำคัญๆ ที่ส่งผลกระทบต่อคนทั้งประเทศเลยอะ

ตัวละครแต่ละตัวก็มีมิติมากนะ คือแบบว่าแต่ละคนก็มีจุดยืนของตัวเอง แล้วก็ต้องต่อสู้เพื่อสิ่งที่ตัวเองเชื่ออะ แล้วก็มีความสัมพันธ์ของตัวละครที่ซับซ้อนน่าติดตามด้วย แกต้องลองไปดูนะ แล้วแกจะเข้าใจว่าทำไมชั้นถึงชอบซีรีส์ฝรั่งเรื่องนี้มากขนาดนี้

  • ประเภท: ดราม่า, การเมือง
  • วันที่เข้าฉาย: 22 กันยายน 1999
  • นักแสดงนำ: Martin Sheen, Rob Lowe, Allison Janney, John Spencer, Bradley Whitford
  • ผู้สร้าง: Aaron Sorkin
  • จำนวนตอน: 156 ตอน (7 ซีซั่น)
  • คะแนน IMDb: 8.9/10

10. Succession (2018–2023)

สักเสซชั่น

ซีรีส์ฝรั่ง Succession (2018–2024)

เป็นเรื่องเกี่ยวกับตระกูลมหาเศรษฐีที่พ่อป่วย แล้วลูกๆ ก็เริ่มแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันเพื่อแย่งตำแหน่งผู้สืบทอดอ่ะ คิดดูดิ แต่ละคนก็ร้ายกาจไม่ใช่เล่นนะ บอกเลยว่ามีเรื่องให้ลุ้นทุกตอน

คือมันไม่ได้มีแค่เรื่องแย่งสมบัติกันธรรมดานะเว้ย แต่เราจะได้เห็นเบื้องลึกเบื้องหลังของตระกูลมหาเศรษฐีว่ามันมีเรื่องดราม่าอะไรกันบ้าง ความสัมพันธ์ในครอบครัวก็โคตรซับซ้อน มีทั้งรัก ทั้งเกลียด ทั้งหักหลังกันเอง บอกเลยว่าเข้มข้นมาก

ตัวละครแต่ละตัวก็มีมิติมากนะ ไม่ได้ดีเลวชัดเจน แล้วบทก็เขียนดีมากกกก มีความตลกร้ายแทรกตลอด แถมยังสะท้อนสังคมชั้นสูงได้อย่างเจ็บแสบ ถ้าชอบซีรีส์ดราม่าเข้มข้น มีปมให้ขบคิด แนะนำเลยเรื่องนี้!

  • ประเภท: ดราม่า, ตลกร้าย, ครอบครัว
  • วันที่เข้าฉาย: 3 มิถุนายน 2018
  • นักแสดงนำ: ไบรอัน ค็อกซ์, เจเรมี สตรอง, ซาราห์ สนูค, คีแรน คัลกิน, อลัน รัค, แมทธิว แม็คเฟเดียน, นิโคลัส บราวน์
  • ผู้กำกับ: หลายคน เช่น มาร์ค ไมลอด, อดัม แม็คเคย์
  • จำนวนตอน: 4 ซีซั่น, 39 ตอน
  • คะแนน IMDb: 8.8/10
  • ช่องทางการรับชม: HBO

9. Mad Men (2007–2015)

ซีรีส์ฝรั่ง Mad Men ตัวตนคนโฆษณา

เป็นเรื่องเกี่ยวกับวงการโฆษณาในนิวยอร์กช่วงยุค 60s น่ะ ตัวเอกคือ ดอน เดรเปอร์ ผู้บริหารสุดหล่อ เท่ เก่ง แต่ชีวิตเขาก็ซับซ้อนสุดๆ ทั้งเรื่องงาน เรื่องครอบครัว เรื่องชู้สาว โอ๊ย ปวดหัวแทน

ซีรีส์ฝรั่งเรื่องนี้ไม่ได้มีแค่ดอนนะ ยังมีตัวละครอื่นๆ อีกเพียบ แต่ละคนก็มีเรื่องราวของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น เพ็กกี้ โอลเซ่น สาวมั่นที่เริ่มจากเลขานุการจนกลายเป็นนักเขียนโฆษณา หรือ โจน แฮร์ริส สาวสวยสุดแซ่บที่ต้องต่อสู้ในโลกของผู้ชาย

Mad Men มันไม่ได้แค่โชว์ชีวิตคนในวงการโฆษณานะ แต่มันยังสะท้อนสังคมอเมริกาในยุคนั้นด้วย ทั้งเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม คือดูแล้วได้อะไรเยอะมาก

  • ประเภท: ดราม่า, ย้อนยุค
  • วันที่เข้าฉาย: 19 กรกฎาคม 2007 – 17 พฤษภาคม 2015
  • นักแสดงนำ: จอน แฮมม์, อลิซาเบธ มอสส์, แจนัวรี โจนส์, วินเซนต์ คาร์ไธเซอร์, จอห์น สแลทเทอรี่, คริสติน่า เฮนดริกส์
  • ผู้สร้าง: แมทธิว ไวเนอร์
  • จำนวนตอนทั้งหมด: 92 ตอน (7 ซีซั่น)
  • คะแนน IMDb: 8.6/10
  • ช่องทางการรับชม: Netflix

8. Suits (2011–2019)

สูท

ซีรีส์ฝรั่ง Suits (2011–2019)

ซีรีส์ฝรั่งเกี่ยวกับทนายความคนนึงชื่อ Harvey Specter เทพสุดๆ แล้วเขาดันไปจ้างเด็กหนุ่มที่ชื่อ Mike Ross มาเป็นผู้ช่วย ทั้งๆ ที่ Mike ไม่ได้จบกฎหมายมาเลยนะ! แต่คือ Mike อ่ะ ความจำเป็นเลิศ จำทุกอย่างได้หมด แล้วทั้งคู่ก็เลยต้องปิดเรื่องนี้เป็นความลับ

คือมันส์ตรงที่ ทั้งคู่ต้องรับมือกับคดีความต่างๆ ที่ซับซ้อนสุดๆ แล้วก็ต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ ไม่ให้ความลับแตกด้วยนะ แกต้องไปลองดู แล้วแกจะหลงรัก Harvey กับ Mike แน่นอน ชั้นดูแล้วติดงอมแงมเลย

  • ประเภท: ดราม่า, กฎหมาย
  • วันที่เข้าฉาย: 23 มิถุนายน 2011
  • นักแสดงนำ: Gabriel Macht, Patrick J. Adams, Meghan Markle
  • ผู้กำกับ: หลายคนเลย เช่น Kevin Bray, John Scott, Silver Tree
  • จำนวนตอน: 9 ซีซั่น 134 ตอน
  • IMDb Rating: 8.4/10
  • ช่องทางการดู: Netflix

7. Game of Thrones (2011-2019)

มหาศึกชิงบัลลังก์

ซีรีส์ฝรั่ง Game of Thrones มหาศึกชิงบัลลังก์

ต้องดู Game of Thrones ให้ได้เลยนะ มันเป็นซีรีส์แฟนตาซีสุดยิ่งใหญ่ที่แบบ… ว้าวมาก! เรื่องมันเกิดขึ้นในดินแดนสมมติที่ชื่อว่า Westeros กับ Essos ที่มีหลายตระกูลใหญ่แย่งชิงบัลลังก์เหล็กเพื่อปกครองเจ็ดอาณาจักร มันส์มากนะแก

แกจะได้เห็นทั้งการเมือง การทรยศหักหลัง มังกร แล้วก็… พวก White Walker ที่น่ากลัวด้วย! ตัวละครแต่ละตัวนี่มีมิติมาก มีทั้งดี เลว ฉลาด เจ้าเล่ห์ แล้วก็มีปมของตัวเองให้ติดตาม คือแบบ… มันส์จนหยุดดูไม่ได้เลย

แต่แกต้องทำใจหน่อยนะ บางทีตัวละครที่แกชอบอาจจะ… ตายแบบไม่ทันตั้งตัวก็ได้ 555 แต่เอาจริง ๆ มันก็เป็นเสน่ห์ของซีรีส์เรื่องนี้นะ มันทำให้เราลุ้นทุกตอนเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

  • ประเภท: แฟนตาซี, ดราม่า, ผจญภัย
  • วันที่เข้าฉาย: 17 เมษายน 2011 – 19 พฤษภาคม 2019
  • นักแสดงนำ: เยอะมากแก! มีทั้ง Emilia Clarke, Kit Harington, Peter Dinklage, Lena Headey, และอีกเพียบ
  • ผู้กำกับ: หลายคนมากแก สลับกันไปแต่ละตอน
  • จำนวนตอน: ทั้งหมด 73 ตอน (8 ซีซั่น)
  • IMDb Rating: 9.2/10
  • ช่องทางการรับชม: HBO

6. Buffy the Vampire Slayer (1997-2003)

มือใหม่ปราบผี

ซีรีส์ฝรั่ง Buffy the Vampire Slayer (1997 2003)

Buffy เนี่ย เป็นสาวไฮสคูลธรรมดาๆ นี่แหละ แต่ดันมีชะตาลิขิตให้เป็นนักล่าแวมไพร์! คิดดูสิ ปกติก็ต้องเรียนหนังสือ สอบ เหมือนเราๆ นี่แหละ แต่นางต้องมาล่าปีศาจ แวมไพร์ อะไรพวกนี้ด้วย โคตรเท่! แล้วนางก็ไม่ได้สู้คนเดียวนะ มีเพื่อนๆ คอยช่วยด้วย ทั้ง Willow ที่เก่งเวทมนตร์ กับ Xander ที่เป็นคนธรรมดาแต่ใจสู้

ซีรีส์มันส์ตรงที่แต่ละตอนก็จะมีเรื่องราวให้ Buffy ต้องไปจัดการ แล้วมันก็ไม่ได้มีแค่แวมไพร์อย่างเดียวนะ มีปีศาจ ตัวประหลาด ชนิดที่แบบ เห็นแล้วขนลุก! แต่ Buffy ก็สู้ไม่ถอยนะ นางเก่งมาก แถมยังมีมุมตลก น่ารัก กวนๆ ด้วย ไม่ได้เครียดตลอดเวลา

แกต้องลองไปดูนะ! มันส์จริงจัง ไม่ได้มีดีแค่แอคชั่น มันมีดราม่า โรแมนติก ครบรสเลย แถมยังสะท้อนปัญหาชีวิตวัยรุ่นได้ดีด้วย เชื่อชั้น!

  • ประเภท: แอคชั่น, แฟนตาซี, ดราม่า, ตลก
  • วันที่เข้าฉาย: 10 มีนาคม 1997
  • นักแสดงนำ: Sarah Michelle Gellar, Nicholas Brendon, Alyson Hannigan
  • ผู้สร้าง: Joss Whedon
  • จำนวนตอน: 144 ตอน (7 ซีซั่น)
  • IMDb Rating: 8.2/10
  • ช่องทางการรับชม: Disney+

5. Tinker Tailor Soldier Spy (1979)

ซีรีส์ฝรั่ง Tinker Tailor Soldier Spy 2011

มีสายลับโซเวียตแฝงตัวอยู่ในหน่วยข่าวกรองอังกฤษระดับสูง แล้ว George Smiley อดีตสายลับมือเก๋าที่เกษียณไปแล้วก็โดนเรียกกลับมาเพื่อตามหาตัวไอ้หนอนบ่อนไส้ตัวนี้นี่แหละ บอกเลยว่าโคตรลุ้นระทึก!

คือตัวซีรีส์มันไม่ได้มีฉากแอ็คชั่นอะไรเยอะนะ แต่เน้นไปที่การวางแผน, การวิเคราะห์, แล้วก็การชิงไหวชิงพริบระหว่าง Smiley กับผู้ต้องสงสัยแต่ละคนในหน่วยงาน บรรยากาศมันอึมครึม, ลึกลับ, ชวนให้เราคอยจับผิดตัวละครไปด้วยตลอดเวลา

Alec Guinness เล่นเป็น Smiley ได้โคตรดี! คือแกแสดงออกทางสีหน้าและแววตาได้แบบ เก็บงำความรู้สึกสุดๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้เรารู้สึกถึงความเฉลียวฉลาดและความมุ่งมั่นของตัวละครได้อย่างดี

  • แนว: สืบสวนสอบสวน, ระทึกขวัญ, ดราม่า
  • ปีที่ฉาย: 1979
  • นักแสดงนำ: Alec Guinness
  • ผู้กำกับ: John Irvin
  • จำนวนตอน: 7 ตอน
  • คะแนน IMDb: 9/10

4. The Wire (2002–2008)

ดับอิทธิพลเถื่อน

ซีรีส์ฝรั่ง The Wire เดอะ ไวเออร์ - ดับอิทธิพลเถื่อน

ซีรีส์ฝรั่งเรื่องนี้มันแบบ…โคตรเรียลอ่ะแก มันพาเราไปดูโลกของเมืองบัลติมอร์ สหรัฐฯ ที่เต็มไปด้วยปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด แล้วก็การคอรัปชั่น มันไม่ได้เล่าแค่เรื่องตำรวจจับผู้ร้ายธรรมดาๆ นะ แต่มันเจาะลึกไปถึงเบื้องหลังปัญหาทั้งหมดเลย ทั้งระบบการเมือง ระบบเศรษฐกิจ สังคม มันทำให้เราเข้าใจเลยว่า ทำไมปัญหาพวกนี้ถึงแก้ไม่หายสักที

ตัวละครแต่ละตัวก็คือดีงามพระรามแปด มีทั้งตำรวจ นักสืบ พ่อค้ายา นักการเมือง คือแต่ละคนมีมิติ มีความซับซ้อน ไม่ได้แบ่งแยกง่ายๆ ว่าใครดีใครเลว แล้วบทมันก็เขียนได้โคตรคมคาย ฉากไหนตึงก็คือลุ้นตัวเกร็ง ฉากไหนดราม่าก็คือบีบหัวใจสุดๆ

  • ประเภท: อาชญากรรม, ดราม่า
  • วันที่เข้าฉาย: 2 มิถุนายน 2002 – 9 มีนาคม 2008
  • นักแสดงนำ: Dominic West, Lance Reddick, Sonja Sohn, Wendell Pierce, Idris Elba และอีกมากมาย
  • ผู้กำกับ: มีหลายคนร่วมกันกำกับแต่ละตอน เช่น David Simon, Ed Burns, Ernest Dickerson
  • จำนวนตอน: 5 ซีซั่น รวม 60 ตอน
  • คะแนน IMDb: 9.3/10
  • ช่องทางการรับชม: HBO

3. The Sopranos (1999-2007)

เดอะ โซปราโน่ส์

ซีรีส์ฝรั่ง The Sopranos เดอะ โซปราโน่ส์

ซีรีส์ฝรั่งเกี่ยวกับเจ้าพ่อมาเฟียคนนึงชื่อโทนี่ โซปราโน่ แกเป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียในนิวเจอร์ซีย์ แล้วก็ต้องคอยรับมือกับเรื่องวุ่นวายทั้งในครอบครัวและในแก๊งค์ แบบว่าลูกน้องก็ดื้อ เมียก็เรื่องเยอะ แถมยังต้องไปหาจิตแพทย์อีก เพราะตัวเองดันเป็นโรควิตกกังวลซะงั้น! 555

แต่ที่พีคคือซีรีส์มันไม่ได้เล่าแค่เรื่องแอ็กชั่นยิงกันนะเว้ย มันเจาะลึกชีวิตของโทนี่แบบสุดๆ ทั้งความสัมพันธ์ในครอบครัว ปัญหาส่วนตัว ความขัดแย้งภายในจิตใจ คือมันเรียลมาก ดูแล้วอินตามเลย

แกต้องลองไปหาดูนะ มันจะมีหลายซีซั่นหน่อย แต่รับรองว่าคุ้ม!

  • ประเภท: ดราม่า, อาชญากรรม
  • วันที่เข้าฉาย: 10 มกราคม 1999
  • นักแสดงนำ: James Gandolfini, Lorraine Bracco, Edie Falco
  • ผู้สร้าง: David Chase
  • จำนวนตอน: 86 ตอน (6 ซีซั่น)
  • IMDb Rating: 9.2/10
  • ช่องทางการรับชม: HBO

2. Twin Peaks (1990–1991)

เมืองดิบคนดุ

ซีรีส์ฝรั่ง Twin Peaks

มีสาวสวยคนนึงชื่อลอร่า พาล์มเมอร์ ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมในเมืองเล็กๆ ชื่อทวินพีคส์ แล้วก็มีเอฟบีไอสุดหล่อชื่อเดล คูเปอร์มาสืบคดีนี้ แล้วคือเมืองทวินพีคส์เนี่ย มันโคตรจะแปลกประหลาด ผู้คนก็ดูมีอะไรๆ ลึกลับซ่อนอยู่ แล้วเดล คูเปอร์ก็ต้องสืบไปพร้อมๆ กับเผชิญกับเรื่องราวเหนือธรรมชาติ พลิกไปพลิกมา เดาทางไม่ถูกเลย

คือมันส์มากนะแก ทั้งเรื่องฆาตกรรม สืบสวนสอบสวน แล้วก็มีกลิ่นอายความลึกลับเหนือธรรมชาติด้วย แล้วตัวละครแต่ละตัวคือมีมิติมากๆ เลยนะ บางทีก็ฮา บางทีก็หลอน บางทีก็ทำให้อึ้งไปเลย

แกต้องลองไปดูเองแล้วจะรู้ว่าทำไมคนถึงชอบกันเยอะ แต่ระวังนะ มันจะทำให้แกติดหนึบเลยล่ะ!

  • ประเภท: ลึกลับ, สืบสวนสอบสวน, ดราม่า, เหนือธรรมชาติ
  • วันที่เข้าฉาย: 8 เมษายน 1990
  • นักแสดงนำ: Kyle MacLachlan, Michael Ontkean, Mädchen Amick, Lara Flynn Boyle, Sherilyn Fenn
  • ผู้กำกับ: David Lynch, Mark Frost
  • จำนวนตอน: 2 ซีซั่น (30 ตอน)
  • IMDb Rating: 8.8/10

1. Breaking Bad (2008-2013)

ดับเครื่องชน คนดีแตก

ซีรีส์ฝรั่ง Breaking Bad ดับเครื่องชน คนดีแตก

เรื่องมันเริ่มจาก วอลเตอร์ ไวท์ ครูเคมีธรรมดาๆ คนนึง ดันตรวจเจอมะเร็งปอดระยะสุดท้ายเข้า แถมยังมีลูกชายพิการอีก ชีวิตแกโคตรน่าสงสารเลย ตอนแรกแกก็ทำใจแล้วนะ แต่พอรู้ว่าตัวเองจะอยู่ได้อีกไม่นาน แกเลยคิดว่า เอาวะ! ขอทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ครอบครัวมีเงินใช้หลังจากแกไม่อยู่แล้ว แกเลยร่วมมือกับลูกศิษย์เก่าอย่าง เจสซี พิงค์แมน หันมาผลิตยาไอซ์ขายซะงั้น!

แกคิดดูดิ จากครูเนิร์ดๆ กลายมาเป็นพ่อค้ายาระดับเทพ! คือมันส์มาก พล็อตเรื่องโคตรพลิกผัน ตอนแรกก็ทำยาขายเล็กๆ น้อยๆ แต่ไปๆ มาๆ ดันไปพัวพันกับแก๊งค้ายาตัวพ่อซะงั้น เรื่องเลยบานปลายไปกันใหญ่ แกต้องเอาตัวรอดจากทั้งตำรวจ ทั้งแก๊งค้ายา แถมยังต้องปกปิดเรื่องนี้จากครอบครัวตัวเองอีก โคตรลุ้น!

บอกเลยว่าเรื่องนี้ครบรส ทั้งดราม่า ทั้งแอ็กชัน ทั้งตลกร้าย คือดูแล้วหยุดไม่ได้จริงๆ แถมยังทำให้เราตั้งคำถามกับตัวเองด้วยนะ ว่าถ้าเป็นเรา เราจะเลือกทางไหน จะยอมทำผิดเพื่อคนที่เรารักไหม? โคตรกระแทกใจ!

  • ประเภท: ดราม่า, อาชญากรรม, ระทึกขวัญ
  • วันที่เข้าฉาย: 20 มกราคม 2008 – 29 กันยายน 2013
  • นักแสดงนำ: ไบรอัน แครนสตัน, แอรอน พอล
  • ผู้สร้าง: วินซ์ กิลลิแกน
  • จำนวนตอน: 62 ตอน (5 ซีซัน)
  • คะแนน IMDb: 9.5/10
  • ช่องทางการรับชม: Netflix

หวังว่าลิสต์ 100 ซีรีส์ฝรั่งที่เราแนะนำจะช่วยให้มีตัวเลือกซีรีส์ดีๆ ไว้ดูมากขึ้นนะคะ ถ้ามีโอกาสก็ลองไปหามาดูกันนะ รับรองว่าจะไม่ผิดหวังแน่นอน! และถ้าเพื่อนๆ มีซีรีส์เรื่องไหนที่อยากแนะนำเพิ่มเติม ก็คอมเมนต์บอกกันได้เลยนะ

Advertisement

Advertisement

NaniTalk S.

เป็นนักเขียนที่ขยันขันแข็งและมุ่งมั่นที่จะผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพ เรียนรู้และเติบโตอยู่เสมอ เชื่อว่าเนื้อหาที่ดีสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกได้

Am J.

เป็นนักเขียนเนื้อหาออนไลน์อิสระ มีความสนใจในการเขียนงานทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นบทความ บทสัมภาษณ์ บทวิจารณ์ หรืองานสร้างสรรค์อื่น ๆ มีความถนัดในการเขียนงานที่เป็นข้อมูลเชิงลึก เข้าใจง่าย และให้ข้อมูลแก่ผู้อ่านอย่างครบถ้วน ยังชอบที่จะเขียนงานในรูปแบบที่สร้างสรรค์และดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน เชื่อว่างานเขียนที่ดีควรสามารถสื่อสารข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพและน่าติดตาม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button