ทศวรรษที่ผ่านมาถือเป็นยุคทองของวงการซีรีส์อังกฤษ ที่ผลิตผลงานคุณภาพออกมาอย่างต่อเนื่อง จนได้รับการยอมรับในระดับสากล ด้วยบทซีรีส์ที่เฉียบคม, โปรดักชั่นสุดอลังการ และการแสดงที่ยอดเยี่ยม ซีรีส์อังกฤษจึงสามารถสะกดใจผู้ชมทั่วโลกได้อย่างอยู่หมัด
ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์อิงประวัติศาสตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง The Crown, หรือซีรีส์อาชญากรรมสุดลึกลับอย่าง Sherlock แต่ละเรื่องล้วนมีเอกลักษณ์โดดเด่นและสร้างความประทับใจไม่รู้ลืม
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปสำรวจ 10 ซีรีส์อังกฤษที่ได้รับความนิยมสูงสุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มาดูกันว่ามีเรื่องไหนบ้างที่คุณเคยดูแล้ว หรือมีเรื่องไหนที่น่าสนใจจนคุณต้องรีบไปหามาดู!
Heartstopper (เธอทำให้ใจฉันหยุดเต้น)
Heartstopper เป็นซีรีส์ที่เล่าเรื่องราวความรักอันแสนบริสุทธิ์ของเด็กหนุ่มสองคน ชาร์ลี สปริง เด็กเนิร์ดที่เปิดเผยตัวว่าเป็นเกย์ และ นิค เนลสัน หนุ่มนักรักบี้สุดฮอตประจำโรงเรียน พวกเขาได้มาพบเจอกันโดยบังเอิญ และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ค่อยๆ พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จากเพื่อน สู่ความรู้สึกที่มากกว่านั้น
ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้เพียงแค่เล่าเรื่องราวความรักของตัวละครหลักเท่านั้น แต่ยังสอดแทรกประเด็น LGBTQ+ การค้นหาตัวตน การยอมรับตัวเอง และการเผชิญหน้ากับปัญหาต่างๆ ในช่วงวัยรุ่นได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ ยังมีเรื่องราวของเพื่อนๆ ของชาร์ลีและนิค ที่มีความหลากหลายและน่าติดตามไม่แพ้กัน
Heartstopper เป็นซีรีส์ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ละมุนละไม และเต็มไปด้วยสีสันสดใส ที่จะทำให้คุณยิ้มได้ตลอดทั้งเรื่อง ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ก็สามารถอินไปกับเรื่องราวความรักและมิตรภาพของตัวละครในเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน
- ประเภท: โรแมนติก, วัยรุ่น, LGBTQ+
- วันที่เข้าฉาย: 22 เมษายน 2022
- นักแสดงนำ: คิต คอนเนอร์, โจ ล็อค
- ผู้กำกับ: ยูโรส ลิน
- จำนวนตอน/ความยาว: 8 ตอน (ซีซั่น 1)
- เรตติ้ง IMDb: 8.9/10
- ช่องทางการรับชม: Netflix
I May Destroy You
“I May Destroy You” เป็นซีรีส์ที่ติดตามชีวิตของ อาราเบลลา เอสซิดู นักเขียนสาวชาวลอนดอน ผู้มีชีวิตที่เต็มไปด้วยสีสันและความสนุกสนาน แต่ชีวิตของเธอกลับพลิกผันหลังจากเหตุการณ์ที่เธอถูกล่วงละเมิดทางเพศในคืนหนึ่ง เรื่องราวจะพาผู้ชมไปสำรวจการเดินทางของอาราเบลลาในการค้นหาความจริง ความยุติธรรม และการเยียวยาบาดแผลทางใจ
ซีรีส์นี้ไม่ได้เพียงแค่เล่าเรื่องราวการถูกล่วงละเมิดทางเพศ แต่ยังเจาะลึกถึงประเด็นที่ซับซ้อนเกี่ยวกับความยินยอม มิตรภาพ ความสัมพันธ์ และการค้นหาตัวตนในโลกที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน
“I May Destroy You” นำเสนอเรื่องราวที่ทั้งเจ็บปวดและทรงพลัง พร้อมกับความตลกร้ายที่ทำให้ผู้ชมต้องขบคิด ซีรีส์นี้เป็นผลงานที่กล้าหาญในการสำรวจประเด็นที่ละเอียดอ่อนและท้าทายให้ผู้ชมตั้งคำถามกับสิ่งที่เราคิดว่าเรารู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์และความยินยอม
- ประเภท: ดราม่า, คอมเมดี้, อาชญากรรม
- วันที่เข้าฉาย: 7 มิถุนายน 2020
- นักแสดงนำ: มิเคลา โคเอล, เวรูเช โอเปีย, ปาปา เอสซิดู
- ผู้กำกับ: มิเคลา โคเอล, แซม มิลเลอร์
- จำนวนตอน/ความยาว: 12 ตอน
- เรตติ้ง IMDb: 8.1/10
- ช่องทางการดู: HBO Go
The End of the F***ing World (โลกมันห่วย ช่วยไม่ได้)
“ซีรีส์ The End of the F***ing World” เล่าเรื่องราวของเจมส์และอลิซซา วัยรุ่นสองคนที่มีบุคลิกและความคิดที่แตกต่างกันสุดขั้ว เจมส์เชื่อว่าตัวเองเป็นโรคจิตและต้องการที่จะฆ่าใครสักคน ขณะที่อลิซซาต้องการหลบหนีจากชีวิตที่น่าเบื่อในบ้านและค้นหาการผจญภัย เมื่อทั้งสองพบกันและตัดสินใจเดินทางไปด้วยกัน ความผูกพันที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นพร้อมกับเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขา
ซีรีส์นี้นำเสนอการเดินทางที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ความฮา และความตื่นเต้น โดยสอดแทรกไปด้วยเนื้อหาที่ซับซ้อนและความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครที่น่าสนใจ ภาพและการเล่าเรื่องที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้ซีรีส์นี้เป็นที่นิยมอย่างมาก
ซีรีส์ “The End of the F***ing World” มีการเล่าเรื่องที่เข้มข้นและน่าติดตาม โดยจะทำให้ผู้ชมต้องคิดถึงความหมายของชีวิต ความรัก และการเติบโตในวัยรุ่น
- ประเภท: ดราม่า, ตลก, โรแมนติก, ผจญภัย
- วันที่เข้าฉาย: 24 ตุลาคม 2017
- นักแสดงนำ: อเล็กซ์ ลอว์เธอร์, เจสสิก้า บาร์เดน
- ผู้กำกับ: โจนาธาน เอ็นทวิสเทิล, ลูซี เชอริฟฟ์
- จำนวนตอน: 2 ซีซั่น, 16 ตอน
- IMDb Rating: 8.1/10
- ช่องทางการดู: Netflix
The Night Manager (เดอะ ไนท์ เมเนเจอร์)
Jonathan Pine อดีตทหารชาวอังกฤษผันตัวมาเป็นผู้จัดการโรงแรมสุดหรูในกรุงไคโร ชีวิตของเขาพลิกผันเมื่อได้พบกับ Sophie หญิงสาวผู้พัวพันกับ Richard Roper พ่อค้าอาวุธสงครามชื่อดังระดับโลก เธอได้มอบหลักฐานสำคัญเกี่ยวกับการค้าอาวุธของ Roper ให้กับ Pine แต่กลับต้องจบชีวิตลงอย่างน่าเศร้า
หลังจากนั้น Pine ได้รับการติดต่อจากหน่วยข่าวกรองของอังกฤษให้แทรกซึมเข้าไปในองค์กรของ Roper เพื่อเปิดโปงแผนการค้าอาวุธครั้งใหญ่ Pine ต้องใช้ทุกเล่ห์เหลี่ยมเพื่อเอาตัวรอดและทำภารกิจให้สำเร็จ โดยมี Angela Burr สายลับผู้มุ่งมั่นเป็นผู้ควบคุมและวางแผน
การไล่ล่าสุดระทึกจึงเริ่มต้นขึ้น Pine จะสามารถเปิดโปงความชั่วร้ายของ Roper และนำตัวเขาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้หรือไม่?
- ประเภท: ดราม่า, ระทึกขวัญ, อาชญากรรม
- วันที่เข้าฉาย: 21 กุมภาพันธ์ 2016
- นักแสดงนำ: ทอม ฮิดเดิลสตัน, ฮิวจ์ ลอรี, โอลิเวีย โคลแมน, ทอม ฮอลแลนเดอร์, เอลิซาเบธ เดบิคกี้
- ผู้กำกับ: ซูซานน์ เบียร์
- จำนวนตอน/ความยาว: 6 ตอน
- เรตติ้ง IMDb: 8.1/10
Baby Reindeer
Baby Reindeer เป็นซีรีส์แนวดราม่า-ระทึกขวัญที่สร้างจากเรื่องจริงของ Richard Gadd นักแสดงตลกชาวอังกฤษ เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อดอนนี่ ดันน์ บาร์เทนเดอร์หนุ่มผู้มีอารมณ์ขัน ได้พบกับมาร์ธา ลูกค้าสาวที่ดูแปลกประหลาด ความสงสารทำให้เขาเลี้ยงชาเธอ แต่การกระทำเล็กๆ นี้กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของฝันร้าย เมื่อมาร์ธากลายเป็นสตอล์กเกอร์ที่คอยตามรังควานชีวิตเขาอย่างไม่ลดละ
ซีรีส์พาเราเข้าสู่โลกอันบิดเบี้ยวของความสัมพันธ์ที่ไม่ปกติ ดอนนี่ต้องเผชิญกับความหวาดกลัวและความสิ้นหวัง เมื่อเขาพยายามที่จะหลุดพ้นจากเงื้อมมือของมาร์ธา แต่ยิ่งเขาพยายามหนีเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งเข้ามาใกล้มากขึ้นเท่านั้น
Baby Reindeer ไม่ใช่แค่เรื่องราวของการถูกสะกดรอยตาม แต่ยังเป็นการสำรวจจิตใจอันบอบช้ำของเหยื่อ และความเจ็บปวดที่เกิดจากการถูกคุกคาม ซีรีส์นี้จะทำให้คุณตั้งคำถามเกี่ยวกับความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และความยุติธรรมในสังคม
- ประเภท: ดราม่า, ระทึกขวัญ
- วันที่เข้าฉาย: 11 เมษายน 2023
- นักแสดงนำ: Richard Gadd
- ผู้กำกับ: Veronica Tofilska, Josephine Bornebusch
- จำนวนตอน: 7 ตอน
- เรตติ้ง IMDb: 7.3/10
- ช่องทางการรับชม: Netflix
It’s a Sin
It’s a Sin พาผู้ชมย้อนกลับไปยังกรุงลอนดอนในยุค 80s ติดตามชีวิตของหนุ่มสาวกลุ่มหนึ่งที่กำลังเริ่มต้นชีวิตอิสระ พวกเขาเต็มไปด้วยความฝัน ความรัก และมิตรภาพ แต่แล้วโรคระบาดใหม่ที่ไม่รู้จักอย่าง HIV/AIDS ก็เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาไปตลอดกาล
ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้เพียงแค่เล่าเรื่องราวการแพร่ระบาดของโรคเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความรัก ความกล้าหาญ และการต่อสู้เพื่อสิทธิของกลุ่ม LGBTQ+ ในยุคที่สังคมยังไม่เปิดกว้าง
It’s a Sin เป็นซีรีส์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ทั้งความสุข ความเศร้า ความหวัง และความสิ้นหวัง ผู้ชมจะได้สัมผัสถึงความเจ็บปวดของการสูญเสีย แต่ในขณะเดียวกันก็จะได้เห็นถึงพลังของความรักและมิตรภาพที่สามารถช่วยให้เราก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้
- ประเภท: ดราม่า
- วันที่เข้าฉาย: 22 มกราคม 2021
- นักแสดงนำ: Olly Alexander, Omari Douglas, Callum Scott Howells, Lydia West
- ผู้กำกับ: Peter Hoar
- จำนวนตอน: 5 ตอน
- เรตติ้ง IMDb: 8.6/10
Fleabag
“Fleabag” เป็นซีรีส์ที่พาคุณดำดิ่งสู่ชีวิตของหญิงสาวชาวลอนดอนที่ดูเหมือนจะมีทุกอย่าง แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยความวุ่นวาย เธอต้องรับมือกับความเศร้าโศก ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน และปัญหาครอบครัวที่ไม่ลงรอยกัน เธอพยายามอย่างยิ่งที่จะรักษาภาพลักษณ์ที่ดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบ แต่ความจริงแล้วเธอกำลังแตกสลาย
ซีรีส์เรื่องนี้มีความโดดเด่นในการเล่าเรื่องที่ตรงไปตรงมาและตลกร้าย Fleabag มักจะหันมาพูดกับคนดูโดยตรง ทำให้เราได้เห็นความคิดที่แท้จริงและความเปราะบางที่เธอพยายามซ่อนไว้
เราจะได้เห็นเธอพยายามนำทางชีวิตที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ทั้งเรื่องงาน ความรัก และความสัมพันธ์กับครอบครัวที่ไม่ราบรื่น แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็พยายามค้นหาความหมายและความสุขที่แท้จริงในชีวิต
- ประเภท: คอมเมดี้-ดราม่า
- วันที่เข้าฉาย: 21 กรกฎาคม 2016
- นักแสดงนำ: ฟีบี้ วอลเลอร์-บริดจ์
- ผู้กำกับ: แฮร์รี่ แบรดเบียร์, ทิม เคอร์กบี้
- จำนวนตอน/ความยาว: 12 ตอน (2 ซีซั่น)
- เรตติ้ง IMDb: 8.7/10
- ช่องทางการดู: Amazon Prime Video
Normal People
Normal People บอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์อันซับซ้อนของ “คอนเนล” กับ “มาเรียน” สองวัยรุ่นที่เติบโตมาด้วยกันในเมืองเล็กๆ ของไอร์แลนด์ ทั้งคู่มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คอนเนลเป็นนักกีฬาสุดฮอต ขณะที่มาเรียนเป็นสาวเรียนเก่งแต่แปลกแยก ทั้งสองแอบคบกันในโรงเรียน แต่เมื่อเข้ามหาวิทยาลัย สถานะทางสังคมของทั้งคู่กลับพลิกผัน
ซีรีส์นี้จะพาคุณดำดิ่งสู่ห้วงอารมณ์ของความรัก ความสูญเสีย และการค้นหาตัวเองของคนหนุ่มสาว ดำเนินเรื่องผ่านช่วงเวลาหลายปี เราจะได้เห็นความสัมพันธ์ของคอนเนลและมาเรียนผลิบาน เติบโต และร่วงโรย แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขาก็ยังคงวนเวียนกลับมาหากันเสมอ
Normal People ไม่ใช่แค่เรื่องราวความรักธรรมดา แต่ยังสำรวจประเด็นทางสังคม เช่น ชนชั้น ความคาดหวัง และความกดดันในชีวิตวัยหนุ่มสาว
- ประเภท: โรแมนติก, ดราม่า
- วันที่เข้าฉาย: 26 เมษายน 2020
- นักแสดงนำ: เดซี เอ็ดการ์-โจนส์, พอล เมสคัล
- ผู้กำกับ: Lenny Abrahamson, Hettie Macdonald
- จำนวนตอน: 12 ตอน
- เรตติ้ง IMDb: 8.4/10
Ted Lasso
Ted Lasso โค้ชอเมริกันฟุตบอลผู้มองโลกในแง่ดี ได้รับการว่าจ้างให้มาคุมทีมฟุตบอล AFC Richmond ในลีกอังกฤษ ทั้งที่เขาไม่มีประสบการณ์กับกีฬาฟุตบอลมาก่อนเลย! เขาต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งความไม่เชื่อมั่นจากนักเตะและแฟนบอล การปรับตัวกับวัฒนธรรมที่แตกต่าง และการรับมือกับเจ้าของทีมจอมวายร้าย
Ted Lasso ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค เขาใช้ความจริงใจ ความเมตตา และมุกตลกแปลกๆ เข้าไปสู่ใจของทุกคนรอบตัว เขาเชื่อว่าฟุตบอลไม่ใช่แค่การแข่งขัน แต่เป็นเรื่องของการสร้างทีมเวิร์ค การพัฒนาตนเอง และการค้นหาความสุขในสิ่งที่ทำ
แม้จะต้องเจอกับความล้มเหลวและความผิดหวัง Ted Lasso ก็ยังคงยึดมั่นในคติประจำใจของเขาว่า “Believe” เขาพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า ความเชื่อมั่นและความหวังสามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์ได้
- ประเภท: คอมเมดี้, ดราม่า, กีฬา
- วันที่เข้าฉาย: 14 สิงหาคม 2020
- นักแสดงนำ: เจสัน ซูเดikis, ฮันนาห์ แวดดิงแฮม, เบรนแดน ฮันท์
- ผู้กำกับ: ไม่ระบุชื่อผู้กำกับหลัก (มีผู้กำกับหลายคนในแต่ละตอน)
- จำนวนตอน/ความยาว: 34 ตอน (3 ซีซั่น)
- เรตติ้ง IMDb: 8.8/10
- ช่องทางการรับชม: Apple TV+
The Crown (เดอะ คราวน์)
The Crown คือซีรีส์ดราม่าอิงประวัติศาสตร์ที่พาผู้ชมเข้าสู่โลกอันหรูหราและซับซ้อนของราชวงศ์อังกฤษ โดยเน้นไปที่รัชสมัยของควีนเอลิซาเบธที่ 2 ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์จนถึงช่วงเวลาปัจจุบัน ซีรีส์นี้เจาะลึกถึงเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองและความสัมพันธ์ส่วนพระองค์ที่ส่งผลต่อชีวิตของพระองค์และราชวงศ์
ซีรีส์ The Crown ไม่เพียงแต่เปิดเผยเบื้องหลังเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังสำรวจความขัดแย้งภายในราชวงศ์ ความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิก และความท้าทายที่พวกเขาเผชิญในฐานะบุคคลสาธารณะและสมาชิกราชวงศ์
The Crown ยังเผยให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการเมืองในสหราชอาณาจักรและทั่วโลกที่เกิดขึ้นในช่วงรัชสมัยของควีนเอลิซาเบธที่ 2 ทำให้ผู้ชมเข้าใจถึงบริบททางประวัติศาสตร์และผลกระทบของเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น
- ประเภท: ดราม่า, ประวัติศาสตร์
- วันที่เข้าฉาย: 4 พฤศจิกายน 2016
- นักแสดงนำ: แคลร์ ฟอย, แมตต์ สมิธ, โอลิเวีย โคลแมน, โทเบียส เมนซีส์, อิเมลด้า สทอนตัน, โจนาธาน ไพรซ์
- ผู้กำกับ: สตีเฟน ดัลดรี้, ฟิลิป มาร์ติน, เบนจามิน คาเริน, เจสสิกา ฮอบส์ และอื่นๆ
- จำนวนตอน/ความยาว: 60 ตอน (6 ซีซั่น)
- เรตติ้ง IMDb: 8.7/10
- ช่องทางการดู: Netflix
วงการซีรีส์อังกฤษยังคงพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง และสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพออกมาให้เราได้ติดตามกันอย่างต่อเนื่อง 10 ซีรีส์ที่เราแนะนำในบทความนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของซีรีส์มากมายที่รอให้คุณค้นพบ หวังว่าบทความนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นให้คุณได้สัมผัสกับความสนุกและหลงใหลในโลกของซีรีส์อังกฤษอย่างเต็มที่