ภาพยนตร์ซีรีส์

20 หนังและซีรีส์แนวเอาชีวิตรอดดุเดือด ที่คุณต้องห้ามพลาด!

หนังและซีรีส์แนวเอาชีวิตรอดเป็นหนึ่งในประเภทที่ทำให้เราหายใจรดต้นคอ เพราะมันสะท้อนสั ญชาตญานการดิ้นรนของมนุษย์ได้อย่างสมจริง ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้กับภัยธรรมชาติ สัตว์ดุร้าย หรือแม้กระทั่งมนุษย์ด้วยกันเอง ทุกฉากทุกตอนล้วนเต็มไปด้วยความตื่นเต้นที่คาดเดาไม่ได้ และนี่คือเหตุผลที่เราชวนคุณมาร่วมลุ้นไปกับ 20 เรื่องราวสุดระทึก!

การเอาชีวิตรอดไม่ใช่แค่การวิ่งหนีหรือใช้กำลัง แต่ยังรวมถึงการใช้สติและไหวพริบในการแก้ปัญหา บางเรื่องอาจทำให้คุณต้องกุมกำไลเก้าอี้แน่นขึ้น บางเรื่องก็สอนให้รู้ว่าเส้นแบ่งระหว่างชีวิตและความตายบางเบาแค่ไหน หนังและซีรีส์เหล่านี้จะพาคุณเข้าไปสัมผัสความโหดร้ายและความหวังที่แทรกอยู่ในวิกฤตสุดขั้ว!

สำหรับคนที่ชอบความท้าทายและความเข้มข้นทางอารมณ์ เราได้รวบรวมทั้งหนังและซีรีส์คลาสสิกและยุคใหม่ที่ห้ามพลาดมาฝาก ไม่ว่าคุณจะเป็นสายลุ้นตัวยงหรือแค่ต้องการหาความบันเทิงสุดเอ็กซ์ตรีม ลิสต์นี้มีครบทุกสไตล์ให้คุณได้เลือกชม!

20 หนังและซีรีส์แนวเอาชีวิตรอด ที่ต้องลองดูสักครั้งในชีวิต

หนังและซีรีส์แต่ละเรื่องถูกคัดสรรมาเพื่อให้คุณสัมผัสความหลากหลายของการเอาชีวิตรอด ทั้งการต่อสู้แบบตัวต่อตัว ภัยคุกคามจากสิ่งแวดล้อม และการทดสอบจิตใจที่ต้องใช้สติล้วนๆ บางเรื่องอาจทำให้คุณยิ้มได้เมื่อตัวละครหาทางรอดอย่างชาญฉลาด ในขณะที่บางเรื่องก็ทิ้งคำถามไว้ให้คิดต่อเกี่ยวกับความเป็นมนุษย์!

สำหรับคนที่ชอบค้นหาสิ่งใหม่ๆ เราได้รวมหนังและซีรีส์อินดี้และผลงานระดับโลกไว้ด้วยกัน ไม่ว่าคุณจะชอบแนวแอคชั่นดุเดือดหรือดราม่าเข้มข้น ลิสต์นี้มีทุกอารมณ์ให้ลุ้นไปพร้อมกัน!

Advertisement

20. Alice in Borderland (2020)

Alice in Borderland (อลิซในแดนมรณะ)

“Alice in Borderland” (2020) เป็นซีรีส์ไซไฟ-ระทึกขวัญที่ดัดแปลงมาจากมังงะชื่อเดียวกันของฮาโร อาโซ เรื่องราวเริ่มต้นเมื่ออาริสุ (ริวเฮ อาริสุ) และเพื่อนของเขาถูกส่งไปยังโลกคู่ขนานที่เรียกว่า “บอร์เดอร์แลนด์” ซึ่งเป็นโตเกียวที่ไร้ผู้คน แต่เต็มไปด้วยเกมอันตรายที่ต้องเล่นเพื่อเอาชีวิตรอด ผู้เล่นแต่ละคนจะได้รับ “วีซ่า” ซึ่งเป็นเวลาที่กำหนดให้พวกเขาต้องชนะเกมเพื่อยืดอายุ หากวีซ่าหมดอายุ ผู้เล่นจะถูกกำจัดโดยลำแสงเลเซอร์จากท้องฟ้า เกมแต่ละเกมถูกแบ่งตามประเภทและความยากโดยใช้สัญลักษณ์ของไพ่: โพดำ (พละกำลัง), ดอกจิก (การทำงานเป็นทีม), ข้าวหลามตัด (สติปัญญา), และหัวใจ (การทรยศและอารมณ์)

อาริสุและเพื่อนของเขาต้องเผชิญกับเกมที่ท้าทายทั้งร่างกายและจิตใจ ในขณะที่พวกเขาพยายามไขความลับของบอร์เดอร์แลนด์และหาทางกลับสู่โลกจริง ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่ทดสอบความสามารถในการเอาชีวิตรอดของตัวละคร แต่ยังสำรวจมิตรภาพ ความไว้วางใจ และการเสียสละในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด

เมื่อพวกเขาเข้าใกล้การไขความลับของบอร์เดอร์แลนด์มากขึ้น อาริสุและเพื่อนร่วมทางก็ต้องเผชิญกับความจริงที่โหดร้ายเกี่ยวกับโลกนี้และผู้ที่อยู่เบื้องหลังเกม ซีรีส์นี้ผสมผสานความตื่นเต้นของเกมเอาชีวิตรอดเข้ากับการเล่าเรื่องที่ลึกซึ้งและตัวละครที่มีมิติ

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: อลิสในแดนมรณะ
  • ประเภท: ไซไฟ, ระทึกขวัญ, ดราม่า, แอคชั่น
  • วันที่ออกอากาศ: 10 ธันวาคม 2020
  • นักแสดงนำ: เค็นโตะ ยามาซากิ (ริวเฮ อาริสุ), ทาโอะ สึจิยะ (ยูซูฮะ อูซางิ)
  • ผู้กำกับ: ชินซูเกะ ซาโต
  • จำนวนตอน/ความยาว: 8 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb: 7.6/10
  • ช่องทางการดู: Netflix

19. Night Has Come (2023)

Night Has Come (2023)

“Night Has Come” (2023) เป็นซีรีส์ระทึกขวัญ-ลึกลับที่เล่าเรื่องราวของนักเรียนชั้นมัธยมปลายจากโรงเรียนยูอิลไฮสคูล ที่ถูกบังคับให้เล่นเกมมาเฟียอันตรายระหว่างการเดินทางไปค่ายพักแรม เกมนี้เริ่มต้นเมื่อแอปพลิเคชันลึกลับถูกติดตั้งในโทรศัพท์ของนักเรียน และพวกเขาต้องโหวตเพื่อกำจัดผู้เล่นที่สงสัยว่าเป็น “มาเฟีย” หากผู้เล่นถูกโหวตออก พวกเขาจะถูกกำจัดในเวลากลางคืน และความตายก็กลายเป็นเรื่องจริง นักเรียนต้องเผชิญกับความหวาดกลัวและความสงสัยในตัวกันและกัน ในขณะที่พยายามไขความลับของเกมและหาทางรอด

ในบรรยากาศที่ตึงเครียดและเต็มไปด้วยความหวาดระแวง นักเรียนแต่ละคนต้องใช้ทั้งสติปัญญาและจิตวิทยาเพื่อเอาชีวิตรอด ลี ยุน ซอ นักเรียนที่มีทักษะการวิเคราะห์สูง พยายามหาความจริงเบื้องหลังเกมนี้ ในขณะที่คิม จุน ฮี ประธานนักเรียน พยายามรักษาความสงบและความเป็นธรรมในกลุ่ม ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนเริ่มสั่นคลอนเมื่อความไว้วางใจถูกทดสอบ และความลับของแต่ละคนเริ่มถูกเปิดเผย

เมื่อเกมดำเนินไป นักเรียนเริ่มตระหนักว่าเกมนี้ไม่ใช่แค่เกมธรรมดา แต่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการลึกลับที่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ในอดีตของพวกเขา ความตายและการทรยศเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และพวกเขาต้องเผชิญกับความจริงที่โหดร้ายเกี่ยวกับตัวเองและคนรอบข้าง ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่สร้างความตื่นเต้นด้วยเกมเอาชีวิตรอด แต่ยังสำรวจจิตวิทยาของมนุษย์ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เกมโหวตตาย
  • ประเภท: ระทึกขวัญ, ลึกลับ, สยองขวัญ, วัยรุ่น
  • วันที่ออกอากาศ: 4 ธันวาคม 2023
  • นักแสดงนำ: ลี แจ อิน (ลี ยุน ซอ), คิม อู ซอก (คิม จุน ฮี)
  • ผู้กำกับ: อิม แด อุง
  • จำนวนตอน/ความยาว: 12 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb: 7.6/10
  • ช่องทางการดู: MONOMAX

18. Death’s Game (2023)

Death's Game (เกมท้าตาย)

“Death’s Game” (2023) เป็นซีรีส์แฟนตาซี-ระทึกขวัญที่ดัดแปลงมาจากเว็บตูนชื่อดัง “I Will Die Soon” ของลี วอน-ซิก และ กุล-ชาน เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อชเวอีแจ (ซออินกุก) ชายหนุ่มที่ท้อแท้กับชีวิตหลังจากล้มเหลวในการหางานมาเป็นเวลา 7 ปี และถูกเพื่อนสนิทโกงเงินจนหมดตัว เขาตัดสินใจจบชีวิตตัวเองด้วยการกระโดดตึก แต่แทนที่จะตายไปอย่างสงบ เขากลับพบว่าตัวเองต้องเผชิญกับ “ความตาย” (พัคโซดัม) สิ่งมีชีวิตลึกลับที่ลงโทษให้เขาต้องตายซ้ำแล้วซ้ำเล่าใน 12 ชีวิตที่แตกต่างกัน โดยแต่ละชีวิตเขาต้องพยายามเอาชีวิตรอดจากความตายที่กำลังจะเกิดขึ้น หากเขาสามารถรอดได้ในชีวิตใดชีวิตหนึ่ง เขาจะได้ใช้ชีวิตในร่างนั้นต่อไป แต่หากล้มเหลว เขาจะต้องตกนรก

ชเวอีแจต้องเผชิญกับความท้าทายในแต่ละชีวิตที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ทายาทเศรษฐี นักกีฬาเอ็กซ์ตรีม นักเรียนที่ถูกกลั่นแกล้ง ไปจนถึงนักโทษและนายแบบ แต่ละชีวิตนำพาเขาไปสู่การค้นพบความหมายที่แท้จริงของการมีชีวิตอยู่ และการต่อสู้เพื่อเอาชนะโชคชะตาที่โหดร้าย ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่ทดสอบความสามารถในการเอาชีวิตรอดของตัวละคร แต่ยังสำรวจมิตรภาพ ความไว้วางใจ และการเสียสละในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด

เมื่อเขาเข้าใกล้การไขความลับของเกมความตายมากขึ้น ชเวอีแจก็ต้องเผชิญกับความจริงที่โหดร้ายเกี่ยวกับชีวิตและความตาย ซีรีส์นี้ผสมผสานความตื่นเต้นของเกมเอาชีวิตรอดเข้ากับการเล่าเรื่องที่ลึกซึ้งและตัวละครที่มีมิติ

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เกมท้าตาย
  • ประเภท: แฟนตาซี, ระทึกขวัญ, ดราม่า
  • วันที่ออกอากาศ: 15 ธันวาคม 2023 (4 ตอนแรก), 5 มกราคม 2024 (4 ตอนหลัง)
  • นักแสดงนำ: ซออินกุก (ชเวอีแจ), พัคโซดัม (ความตาย)
  • ผู้กำกับ: ฮาบยองฮุน
  • จำนวนตอน/ความยาว: 8 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb: 8.6/10
  • ช่องทางการดู: Prime Video

17. The Day After Tomorrow (2004)

The Day After Tomorrow (วิกฤติวันสิ้นโลก) 2004

“The Day After Tomorrow” (2004) เป็นภาพยนตร์ภัยพิบัติที่เล่าเรื่องราวของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรงที่นำไปสู่ยุคน้ำแข็งใหม่ในเวลาอันสั้น นักวิทยาศาสตร์ชื่อแจ็ค ฮอลล์ (เดนnis ควิด) ค้นพบว่าการละลายของน้ำแข็งขั้วโลกกำลังทำให้กระแสน้ำอุ่นในมหาสมุทรหยุดชะงัก ส่งผลให้อุณหภูมิโลกลดลงอย่างรวดเร็วและเกิดพายุรุนแรงที่คุกคามชีวิตมนุษย์

ในขณะที่แจ็คพยายามเตือนรัฐบาลและโลกให้เตรียมพร้อม ลูกชายของเขาซาม (เจค จิลเลนฮาล) ต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดในนครนิวยอร์กที่ถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งและพายุหิมะร้ายแรง ภาพยนตร์นี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของมนุษย์ในการเอาชนะธรรมชาติที่โหดร้าย และความรักของพ่อที่พยายามจะไปช่วยลูกชายให้รอดพ้นจากหายนะ

“The Day After Tomorrow” ไม่เพียงแต่สร้างความตื่นเต้นด้วยเอฟเฟกต์พิเศษที่สมจริง แต่ยังสะท้อนถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ผู้ชมตระหนักถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความสำคัญของการเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติ

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: วิกฤติวันสิ้นโลก
  • ประเภท: ภัยพิบัติ, ดราม่า, แอคชั่น
  • วันที่ออกอากาศ: 28 พฤษภาคม 2004
  • นักแสดงนำ: เดนnis ควิด (แจ็ค ฮอลล์), เจค จิลเลนฮาล (ซาม ฮอลล์), เอมมี รอสซัม (ลอรา แชปแมน)
  • ผู้กำกับ: โรแลนด์ เอ็มเมอริช
  • จำนวนตอน/ความยาว: 2 ชั่วโมง 4 นาที
  • เรตติ้ง IMDb: 6.4/10
  • ช่องทางการดู: Netflix, Disney+

16. นรก 6 เมตร (2018)

นรก 6 เมตร (2018)

“The Pool” (2018) เป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญเอาชีวิตรอดของไทย ที่เล่าเรื่องราวของ “เดย์” (ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) ผู้กำกับศิลปินหนุ่มที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวเพื่อทำความสะอาดสระว่ายน้ำลึก 6 เมตรหลังจากถ่ายทำโฆษณาเสร็จสิ้น เขาตัดสินใจพักผ่อนบนแพยางในสระ แต่เมื่อตื่นขึ้นมา ระดับน้ำในสระลดลงจนเขาปีนออกมาไม่ได้ และไม่มีใครได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเขา สถานการณ์เลวร้ายลงเมื่อจระเข้ตัวหนึ่งตกลงไปในสระและเริ่มไล่ล่าเขา

ในขณะที่เดย์พยายามหาทางออกจากสระ แฟนสาวของเขา “ก้อย” (รัตนมอน รัชตะรัตน์) ก็ปรากฏตัวและกระโดดลงไปในสระโดยไม่ทราบถึงอันตรายที่รออยู่ เธอบาดเจ็บสาหัสหลังจากลื่นล้ม ทำให้เดย์ต้องดูแลเธอในสภาพที่ทั้งคู่ติดอยู่ในสระกับจระเข้ที่หิวโหย ทั้งคู่ต้องใช้สติปัญญาและความกล้าเพื่อเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์ที่เลวร้ายลงทุกขณะ

ภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วยความตึงเครียดและฉากแอคชั่นที่เข้มข้น โดยเฉพาะการต่อสู้กับจระเข้และการหาทางออกจากสระที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ “The Pool” ไม่เพียงแต่ทดสอบความสามารถในการเอาชีวิตรอดของตัวละคร แต่ยังสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างเดย์และก้อยในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เดอะ พูล นรก 6 เมตร
  • ประเภท: ระทึกขวัญ, เอาชีวิตรอด, ดราม่า
  • วันที่ออกอากาศ: 22 พฤศจิกายน 2018
  • นักแสดงนำ: ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ (เดย์), รัตนมอน รัชตะรัตน์ (ก้อย)
  • ผู้กำกับ: พิง ลำพระเพลิง
  • จำนวนตอน/ความยาว: 91 นาที
  • เรตติ้ง IMDb: 5.3/10
  • ช่องทางการดู: Netflix, MONOMAX

15. Twisters (2024)

Twisters (ทวิสวิเตอร์ส)

“Twisters (2024)” เป็นภาพยนตร์ภัยพิบัติที่ดัดแปลงมาจากภาคก่อนอย่าง “Twister” (1996) โดยเล่าเรื่องราวของ “เคท คาร์เตอร์” (เดซี่ เอ็ดการ์-โจนส์) นักอุตุนิยมวิทยาที่เคยเป็นนักล่าพายุ แต่ต้องเผชิญกับโศกนาฏกรรมที่ทำให้เธอสูญเสียเพื่อนร่วมทีมและคนรักไปในเหตุการณ์พายุทอร์นาโดครั้งใหญ่ เธอตัดสินใจเลิกทำงานสนามและหันไปทำงานด้านพยากรณ์อากาศในนิวยอร์กซิตี้แทน อย่างไรก็ตาม ห้าปีต่อมา เธอถูกชักชวนโดย “จาวี” (แอนโทนี รามอส) เพื่อนเก่าให้กลับมาล่าพายุอีกครั้งในโอคลาโฮมา เพื่อทดสอบเทคโนโลยีใหม่ที่อาจช่วยลดความรุนแรงของพายุทอร์นาโด

ในโอคลาโฮมา เคทได้พบกับ “ไทเลอร์ โอเวนส์” (เกล็น โพเวลล์) นักล่าพายุชื่อดังบนโซเชียลมีเดียที่ทำคอนเทนต์เกี่ยวกับการไล่ล่าพายุ ทั้งคู่เริ่มทำงานร่วมกันแม้จะมีความคิดและวิธีการที่แตกต่างกัน ในขณะที่เคทมุ่งเน้นการวิจัยเพื่อช่วยเหลือผู้คน ไทเลอร์กลับมองว่าการไล่ล่าพายุเป็นทั้งความท้าทายและโอกาสในการสร้างคอนเทนต์ที่น่าตื่นเต้น ระหว่างการทำงานร่วมกัน ทั้งคู่ต้องเผชิญกับพายุทอร์นาโดที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และค้นพบความจริงอันโหดร้ายเกี่ยวกับผู้ที่แสวงหาผลประโยชน์จากภัยพิบัติเหล่านี้

เมื่อพายุทอร์นาโดระดับ EF5 คุกคามเมืองเอลเรโน เคทและทีมของเธอต้องตัดสินใจเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือผู้คนและทดสอบวิธีการหยุดยั้งพายุ ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยฉากแอคชั่นที่ตื่นเต้นเร้าใจ แต่ยังสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ และการเผชิญหน้ากับความกลัวในอดีตเพื่อก้าวไปข้างหน้า

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ทวิสเตอร์ส
  • ประเภท: แอคชั่น, ผจญภัย, ระทึกขวัญ
  • วันที่ออกอากาศ: 11 กรกฎาคม 2024 (ไทย), 19 กรกฎาคม 2024 (สหรัฐอเมริกา)
  • นักแสดงนำ: เดซี่ เอ็ดการ์-โจนส์, เกล็น โพเวลล์, แอนโทนี รามอส
  • ผู้กำกับ: อี ไอแซก จอง
  • จำนวนตอน/ความยาว: 1 ชั่วโมง 57 นาที
  • เรตติ้ง IMDb: 6.5/10
  • ช่องทางการดู: HBO MAX

14. The Hunger Games (2012)

The Hunger Games

ในโลกอนาคตอันมืดมนของ Panem ซึ่งถูกปกครองโดยเมืองหลวงที่ทรงอำนาจและเผด็จการ การแข่งขัน “Hunger Games” ถูกจัดขึ้นทุกปีเพื่อเป็นการลงโทษสำหรับการกบฏในอดีต แต่ละเขตต้องส่งตัวแทนชายและหญิงวัย 12-18 ปีเข้าร่วมการต่อสู้ที่โหดร้ายและถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ ผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียวจะได้รับชื่อเสียงและความมั่งคั่ง แต่ต้องแลกด้วยชีวิตของผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ

เมื่อ Primrose Everdeen เด็กสาววัย 12 ปีจากเขต 12 ถูกเลือกให้เข้าร่วมการแข่งขัน Katniss Everdeen พี่สาวของเธอได้อาสาแทนที่ Prim เพื่อปกป้องน้องสาวของเธอ Katniss และ Peeta Mellark ตัวแทนชายจากเขตเดียวกัน ต้องเผชิญหน้ากับผู้เข้าแข่งขันที่แข็งแกร่งและได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี ในขณะเดียวกัน Katniss ต้องใช้ไหวพริบและความสามารถในการเอาชีวิตรอดเพื่อรักษาชีวิตตัวเองและคนที่เธอรัก

“The Hunger Games” เป็นเรื่องราวที่สะท้อนถึงความไม่เท่าเทียม การต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด และความเสียสละ ภาพยนตร์นี้นำเสนอความเข้มข้นทั้งในแง่ของการกระทำและอารมณ์ พร้อมกับการแสดงที่ยอดเยี่ยมของนักแสดงนำ Jennifer Lawrence ที่ทำให้ Katniss Everdeen กลายเป็นตัวละครที่น่าจดจำ

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เกมล่าเกม
  • ประเภท: ไซไฟ, แอ็กชัน, ผจญภัย
  • วันที่ออกอากาศ: 23 มีนาคม 2012
  • นักแสดงนำ: Jennifer Lawrence, Josh Hutcherson, Liam Hemsworth
  • ผู้กำกับ: Gary Ross
  • จำนวนตอน/ความยาว: 2 ชั่วโมง 22 นาที
  • เรตติ้ง IMDb: 7.2/10
  • ช่องทางการดู: Netflix, HBO MAX

13. 28 Weeks Later (2007)

28 Weeks Later (2007)

ในภาพยนตร์ “28 Weeks Later” (2007) เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นหลังจากการระบาดของไวรัส Rage ที่ทำลายล้างสังคมในเกาะอังกฤษไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อเวลาผ่านไป 28 สัปดาห์ ไวรัสดูเหมือนจะหมดไป และกองกำลังสหรัฐฯ ได้เข้ามาสร้างเขตปลอดภัยสำหรับผู้รอดชีวิตในลอนดอน อย่างไรก็ตาม ความสงบสุขที่ดูเหมือนจะเกิดขึ้นกลับถูกทำลายลงเมื่อสองพี่น้อง Tammy และ Andy แอบออกจากเขตปลอดภัยเพื่อค้นหาความทรงจำเก่า ๆ ของครอบครัว การกระทำครั้งนี้นำไปสู่การระบาดครั้งใหม่ที่น่าสะพรึงกลัว

ในขณะที่ไวรัสกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง เหล่าผู้รอดชีวิตต้องเผชิญกับความโกลาหลและความหวาดกลัวที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ภาพยนตร์นำเสนอการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดของตัวละครต่าง ๆ ทั้งพลเรือนและทหารที่ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่เลวร้าย นอกจากนี้ยังมีการสำรวจประเด็นทางศีลธรรมและจริยธรรมเกี่ยวกับการตัดสินใจในช่วงเวลาวิกฤต

“28 Weeks Later” ถ่ายทอดเรื่องราวด้วยความเข้มข้นและฉากแอคชั่นที่ดุเดือด พร้อมทั้งสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของมนุษย์ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้นและลุ้นระทึกไปกับทุกฉาก

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: มหันตภัยเชื้อนรกถล่มเมือง
  • ประเภท: สยองขวัญ, ระทึกขวัญ, ไซไฟ
  • วันที่ออกอากาศ: 11 พฤษภาคม 2007
  • นักแสดงนำ: โรเบิร์ต คาร์ไลล์, โรส เบิร์น, เจเรมี เรนเนอร์, อิดริส เอลบา
  • ผู้กำกับ: ฮวน คาร์ลอส เฟรสนาดิลโล
  • จำนวนตอน/ความยาว: 1 ชั่วโมง 40 นาที
  • เรตติ้ง IMDb: 7.0/10
  • ช่องทางการดู: Disney+

12. Tunnel (2016)

Tunnel (อุโมงค์มรณะ)

“Tunnel” (2016) เป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญที่เล่าเรื่องราวของ Lee Jung-soo (รับบทโดย Ha Jung-woo) พนักงานขายรถยนต์ที่กำลังเดินทางกลับบ้านพร้อมเค้กวันเกิดสำหรับลูกสาวของเขา ระหว่างขับรถผ่านอุโมงค์ Hado ที่สร้างไม่ดี อุโมงค์เกิดถล่มลงมา ทำให้เขาติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง เขามีเพียงโทรศัพท์มือถือ แบตเตอรี่ใกล้หมด น้ำสองขวด และเค้กวันเกิดเท่านั้น

ในขณะที่ Jung-soo พยายามเอาชีวิตรอด ทีมกู้ภัยนำโดย Dae-kyung (รับบทโดย Oh Dal-su) พยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือเขา ด้านภรรยาของ Jung-soo, Se-hyun (รับบทโดย Bae Doona) ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากสื่อและรัฐบาล รวมถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับชะตากรรมของสามีของเธอ เรื่องราวสะท้อนถึงความพยายาม การเสียสละ และความหวังในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่เน้นการเอาชีวิตรอด แต่ยังวิพากษ์วิจารณ์ระบบราชการและสังคมที่ให้ความสำคัญกับผลประโยชน์มากกว่าชีวิตมนุษย์ “Tunnel” ถ่ายทอดอารมณ์และความสัมพันธ์ของตัวละครได้อย่างลึกซึ้ง ทำให้ผู้ชมรู้สึกมีส่วนร่วมและสะเทือนใจไปพร้อมกัน

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: อุโมงค์มรณะ
  • ประเภท: ดราม่า, ระทึกขวัญ, เอาชีวิตรอด
  • วันที่ออกอากาศ: 10 สิงหาคม 2016
  • นักแสดงนำ: Ha Jung-woo, Bae Doona, Oh Dal-su
  • ผู้กำกับ: Kim Seong-hun
  • จำนวนตอน/ความยาว: 2 ชั่วโมง 6 นาที
  • เรตติ้ง IMDb: 6.8/10
  • ช่องทางการดู: Netflix

11. The Walking Dead (2010)

The Walking Dead เดอะวอล์กกิงเดด

“The Walking Dead” เล่าถึงเรื่องราวของ Rick Grimes นายอำเภอที่ตื่นจากอาการโคม่าและพบว่าโลกเต็มไปด้วยซอมบี้หรือที่เรียกว่า “วอล์กเกอร์” หลังจากตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลที่รกร้าง เขาเริ่มต้นการเดินทางเพื่อตามหาครอบครัวของเขา และได้พบกับกลุ่มผู้รอดชีวิตที่ต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอดในโลกที่เต็มไปด้วยอันตรายจากทั้งซอมบี้และมนุษย์ที่เปลี่ยนไปเพราะความสิ้นหวัง

ในขณะที่ Rick กลายเป็นผู้นำของกลุ่ม เขาต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งด้านจิตใจและร่างกาย รวมถึงการตัดสินใจที่ยากลำบากเพื่อปกป้องคนที่เขารัก กลุ่มผู้รอดชีวิตต้องเผชิญกับความขัดแย้งทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้กับกลุ่มมนุษย์อื่นๆ ที่มีกฎเกณฑ์และศีลธรรมของตัวเอง หรือการเอาชีวิตรอดจากฝูงซอมบี้ที่ไม่มีวันหมด

ซีรีส์นี้นำเสนอประเด็นเกี่ยวกับความเป็นมนุษย์ ความหวัง และการอยู่รอดในโลกที่พังทลาย ผู้ชมจะได้สัมผัสถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร การเสียสละ และการปรับตัวในสถานการณ์สุดขั้วที่ไม่มีใครคาดคิด

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ล่าสยองกองทัพผีดิบ
  • ประเภท: ดราม่า, สยองขวัญ, ระทึกขวัญ
  • วันที่ออกอากาศ: 31 ตุลาคม 2010
  • นักแสดงนำ: Andrew Lincoln, Norman Reedus, Melissa McBride
  • ผู้กำกับ: Frank Darabont (ซีซั่นแรก), ร่วมด้วยทีมผู้กำกับอื่นๆ ในซีซั่นถัดไป
  • จำนวนตอน/ความยาว: 11 ซีซั่น, 177 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb: 8.1/10
  • ช่องทางการดู: Disney+

10. Happy Death Day (2017)

Happy Death Day (2017)

Tree Gelbman นักศึกษามหาวิทยาลัยที่ใช้ชีวิตอย่างไร้จุดหมาย ตื่นขึ้นมาในเช้าวันเกิดของเธอในห้องพักของเพื่อนร่วมชั้น Carter Davis หลังจากคืนปาร์ตี้หนัก อย่างไรก็ตาม ค่ำคืนของเธอกลับจบลงด้วยการถูกฆาตกรรมโดยบุคคลลึกลับที่สวมหน้ากากเด็กทารก แต่แทนที่จะเสียชีวิต เธอกลับตื่นขึ้นมาในวันเดิมอีกครั้งและพบว่าตัวเองติดอยู่ในวังวนเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับความตายซ้ำแล้วซ้ำเล่า

Tree พยายามใช้โอกาสจากการวนลูปนี้ในการสืบหาตัวฆาตกรที่แท้จริง เธอเริ่มสำรวจความสัมพันธ์รอบตัว ตั้งแต่เพื่อนร่วมหอพัก ครอบครัว ไปจนถึงอาจารย์ที่เธอมีความสัมพันธ์ลับๆ ขณะเดียวกันเธอยังต้องเรียนรู้ที่จะปรับเปลี่ยนตัวเองและเผชิญหน้ากับอดีตที่เธอพยายามหลีกเลี่ยง

เรื่องราวผสมผสานระหว่างความสยองขวัญและความตลกขบขัน พร้อมกับการพัฒนาตัวละครที่น่าประทับใจ Tree ต้องหาทางออกจากวังวนนี้ให้ได้ก่อนที่ร่างกายของเธอจะไม่สามารถทนต่อการวนลูปได้อีกต่อไป

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: สุขสันต์วันตาย
  • ประเภท: สยองขวัญ, ระทึกขวัญ, คอมเมดี้
  • วันที่ออกอากาศ: 13 ตุลาคม 2017
  • นักแสดงนำ: Jessica Rothe, Israel Broussard, Ruby Modine
  • ผู้กำกับ: Christopher Landon
  • จำนวนตอน/ความยาว: 1 ชั่วโมง 36 นาที
  • เรตติ้ง IMDb: 6.6/10
  • ช่องทางการดู: Prime Video

9. Escape Room (2019)

Escape Room

กลุ่มคนแปลกหน้าหกคนจากภูมิหลังที่แตกต่างกันได้รับคำเชิญลึกลับให้เข้าร่วมเกมห้องปริศนาที่มีเงินรางวัล $10,000 เป็นเดิมพัน พวกเขาถูกนำตัวมายังอาคารสำนักงานแห่งหนึ่งและเริ่มต้นเกมโดยไม่รู้เลยว่ามันจะกลายเป็นการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด เมื่อพวกเขาค้นพบว่าห้องแต่ละห้องเต็มไปด้วยกับดักอันตรายที่ถูกออกแบบมาอย่างซับซ้อน

ในขณะที่พวกเขาพยายามไขปริศนาและหลบหนีจากห้องเหล่านี้ ความตึงเครียดและความหวาดกลัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อสมาชิกในกลุ่มเริ่มเสียชีวิตทีละคน ผู้เล่นที่เหลืออยู่ต้องใช้ไหวพริบและความร่วมมือเพื่อเอาชีวิตรอด แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็เริ่มสังเกตเห็นว่าเบาะแสบางอย่างในห้องเชื่อมโยงกับอดีตของพวกเขา

“Escape Room” นำเสนอเรื่องราวที่ผสมผสานระหว่างความลุ้นระทึกและการไขปริศนา พร้อมทั้งตั้งคำถามเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์เมื่อเผชิญกับสถานการณ์คับขัน ภาพยนตร์นี้เต็มไปด้วยฉากที่ตื่นเต้นและบรรยากาศที่กดดัน ซึ่งจะทำให้ผู้ชมลุ้นจนแทบนั่งไม่ติดเก้าอี้

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: กักห้อง เกมโหด
  • ประเภท: ระทึกขวัญ, จิตวิทยา, ลึกลับ
  • วันที่ออกอากาศ: 4 มกราคม 2019
  • นักแสดงนำ: Taylor Russell, Logan Miller, Deborah Ann Woll
  • ผู้กำกับ: Adam Robitel
  • จำนวนตอน/ความยาว: 1 ชั่วโมง 39 นาที
  • เรตติ้ง IMDb: 6.4/10
  • ช่องทางการดู: Netflix, Prime Video

8. 47 Meters Down: Uncaged (2019)

47 Meters Down Uncaged (2019)

“47 Meters Down: Uncaged” (2019) เป็นภาพยนตร์แนวระทึกขวัญที่เล่าเรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นหญิงสี่คนที่ตัดสินใจดำน้ำสำรวจเมืองมายันโบราณที่จมอยู่ใต้น้ำ การผจญภัยที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นกลับกลายเป็นฝันร้ายเมื่อพวกเธอต้องเผชิญกับฉลามขาวยักษ์ที่อาศัยอยู่ในเขาวงกตใต้น้ำอันแคบและมืดมิด

เมื่ออากาศในถังออกซิเจนเริ่มลดลง กลุ่มเพื่อนต้องหาวิธีเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์สุดเลวร้ายนี้ พวกเธอต้องต่อสู้กับความกลัวและความกดดันในการหาทางออกจากถ้ำใต้น้ำ พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของนักล่าที่ไร้ความปรานี การเดินทางครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทดสอบความกล้าหาญ แต่ยังเผยให้เห็นถึงความสัมพันธ์และความเสียสละระหว่างเพื่อน

ภาพยนตร์นี้สร้างบรรยากาศที่น่าขนลุกและเต็มไปด้วยความระทึกใจ โดยใช้ฉากใต้น้ำที่แคบและมืดเพื่อเพิ่มความกดดันและความรู้สึกอึดอัดให้กับผู้ชม นับเป็นอีกหนึ่งผลงานที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์แนวเอาชีวิตรอดและการผจญภัยในโลกใต้น้ำ

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ดิ่งลึกสุดนรก
  • ประเภท: ระทึกขวัญ, ผจญภัย, สยองขวัญ
  • วันที่ออกอากาศ: 16 สิงหาคม 2019
  • นักแสดงนำ: โซฟี เนลิสส์, คอรินน์ ฟ็อกซ์, ไบรแอนน์ ทจู, ซิสทีน สตอลโลน
  • ผู้กำกับ: โยฮันเนส โรเบิร์ตส์
  • จำนวนตอน/ความยาว: 1 ชั่วโมง 30 นาที
  • เรตติ้ง IMDb: 5.0/10
  • ช่องทางการดู: MONOMAX

7. Circle (2015)

Circle

ในภาพยนตร์ Circle (2015) ผู้คน 50 คนตื่นขึ้นมาในห้องลึกลับที่มีรูปทรงวงกลม โดยไม่มีใครจำได้ว่าพวกเขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ทุกสองนาที หนึ่งในพวกเขาจะถูกฆ่าโดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อพวกเขาค้นพบว่าการตายเกิดจากการโหวตของผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ ความขัดแย้งและการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดจึงเริ่มต้นขึ้น

เรื่องราวเน้นไปที่การสำรวจพฤติกรรมของมนุษย์ในสถานการณ์ที่กดดันและสิ้นหวัง การตัดสินใจของแต่ละคนสะท้อนถึงคุณค่าและอคติส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพศ เชื้อชาติ หรือสถานะทางสังคม ความลึกลับของห้องนี้และเหตุผลเบื้องหลังการทดลองนี้ยังคงเป็นปริศนาที่ผู้ชมต้องค้นหาคำตอบ

Circle นำเสนอประเด็นทางจิตวิทยาและสังคมที่ท้าทายผู้ชมให้ตั้งคำถามเกี่ยวกับศีลธรรมและความเป็นมนุษย์ ภาพยนตร์นี้ไม่เพียงแต่สร้างความตื่นเต้น แต่ยังกระตุ้นให้คิดถึงความหมายของการเสียสละและการอยู่รอดในโลกที่เต็มไปด้วยความแตกต่าง

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เซอร์เคิล
  • ประเภท: ไซไฟ, ระทึกขวัญ, จิตวิทยา
  • วันที่ออกอากาศ: 28 พฤษภาคม 2015 (เทศกาลภาพยนตร์ซีแอตเทิล), 16 ตุลาคม 2015 (วิดีโอออนดีมานด์)
  • นักแสดงนำ: Michael Nardelli, Julie Benz, Carter Jenkins, Allegra Masters
  • ผู้กำกับ: Aaron Hann, Mario Miscione
  • จำนวนตอน/ความยาว: 87 นาที
  • เรตติ้ง IMDb: 6.0/10
  • ช่องทางการดู: Netflix

6. Everest (2015)

Everest (2015)

“Everest” (2015) เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากเหตุการณ์จริงในปี 1996 ที่กลุ่มนักปีนเขาสองกลุ่มต้องเผชิญกับพายุหิมะรุนแรงขณะพยายามพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ ภาพยนตร์เล่าเรื่องราวของ Rob Hall และ Scott Fischer ผู้นำทีมปีนเขาที่ร่วมมือกันเพื่อพากลุ่มของพวกเขาขึ้นไปยังยอดเขา แต่เมื่อสภาพอากาศแย่ลง พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายที่ไม่คาดคิด ซึ่งเปลี่ยนการเดินทางครั้งนี้ให้กลายเป็นการต่อสู้เพื่อความอยู่รอด

ในระหว่างการเดินทาง ตัวละครแต่ละคนต้องเผชิญกับความยากลำบากทั้งทางร่างกายและจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นการขาดออกซิเจน ความเหนื่อยล้าจากระดับความสูง หรือความเสี่ยงจากพายุหิมะที่โหมกระหน่ำ ภาพยนตร์ถ่ายทอดความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครและการตัดสินใจที่มีผลต่อชีวิตของพวกเขา โดยเน้นถึงความสำคัญของมิตรภาพ ความเสียสละ และความมุ่งมั่น

“Everest” ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความงดงามและอันตรายของธรรมชาติ แต่ยังสะท้อนถึงความเปราะบางของมนุษย์เมื่อต้องเผชิญกับพลังอันยิ่งใหญ่ของโลก ภาพยนตร์นี้เป็นการผสมผสานระหว่างฉากที่สวยงามและเรื่องราวที่เข้มข้น ซึ่งจะทำให้ผู้ชมรู้สึกทั้งตื่นเต้นและสะเทือนใจ

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ไต่ฟ้าท้านรก
  • ประเภท: ชีวประวัติ, ผจญภัย, ดราม่า
  • วันที่ออกอากาศ: 18 กันยายน 2015
  • นักแสดงนำ: Jason Clarke, Jake Gyllenhaal, Josh Brolin, Keira Knightley
  • ผู้กำกับ: Baltasar Kormákur
  • จำนวนตอน/ความยาว: 2 ชั่วโมง 1 นาที
  • เรตติ้ง IMDb: 7.1/10
  • ช่องทางการดู: Prime Video

5. 3% (2016)

3%

“3%” เป็นซีรีส์ระทึกขวัญจากบราซิลที่เล่าเรื่องราวในโลกอนาคตที่แบ่งแยกสังคมออกเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจน ฝั่งหนึ่งคือผู้คนที่อาศัยอยู่ในความยากจนและขาดแคลนทรัพยากร อีกฝั่งคือกลุ่มชนชั้นสูงที่มีชีวิตหรูหราในสถานที่ที่เรียกว่า “Offshore” ทุกปีจะมีการคัดเลือกคนจากฝั่งยากจนให้ได้สิทธิ์ย้ายไปยัง Offshore ผ่านกระบวนการคัดเลือกที่เรียกว่า “The Process” ซึ่งโหดร้ายและเต็มไปด้วยการแข่งขัน

กระบวนการนี้เป็นการทดสอบความสามารถ ความฉลาด และจิตใจของผู้เข้าร่วม โดยมีเพียง 3% ของผู้สมัครทั้งหมดเท่านั้นที่จะผ่านเข้าไปได้ เรื่องราวติดตามกลุ่มคนหนุ่มสาวที่ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายและการตัดสินใจที่ยากลำบากเพื่อเอาชนะระบบและเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขา

ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความเหลื่อมล้ำทางสังคม แต่ยังตั้งคำถามเกี่ยวกับจริยธรรม ความเป็นธรรม และความหมายของความสำเร็จในโลกที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและความไม่เท่าเทียม

  • ประเภท: ระทึกขวัญ, ดราม่า, ไซไฟ
  • วันที่ออกอากาศ: 25 พฤศจิกายน 2016
  • นักแสดงนำ: João Miguel, Bianca Comparato
  • ผู้กำกับ: César Charlone
  • จำนวนตอน/ความยาว: 4 ซีซัน, รวม 33 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb: 7.4/10
  • ช่องทางการดู: Netflix

4. Greenland (2020)

GREENLAND 2020

ในภาพยนตร์ Greenland (2020) เรื่องราวเล่าถึงครอบครัว Garrity ที่ต้องเผชิญกับภัยพิบัติระดับโลก เมื่อดาวหางขนาดมหึมากำลังพุ่งชนโลกและอาจทำลายล้างมนุษยชาติทั้งหมด John Garrity วิศวกรโครงสร้าง ผู้เป็นพ่อ ต้องนำครอบครัวของเขา—ภรรยา Allison และลูกชาย Nathan—เข้าสู่การเดินทางที่เต็มไปด้วยความหวังและความสิ้นหวัง เพื่อหาที่หลบภัยในบังเกอร์ที่ประเทศกรีนแลนด์

ระหว่างการเดินทาง ครอบครัวต้องเผชิญกับความโกลาหลจากผู้คนที่สิ้นหวังและการสูญเสียที่เกิดขึ้นรอบตัว พวกเขาต้องต่อสู้กับเวลาและอุปสรรคต่างๆ เพื่อเอาชีวิตรอด ในขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์ในครอบครัวก็ถูกทดสอบอย่างหนักหน่วง ทั้งในแง่ของความรัก ความเสียสละ และความเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน

Greenland ไม่เพียงแต่เป็นภาพยนตร์ภัยพิบัติที่ตื่นเต้นเร้าใจ แต่ยังสะท้อนถึงความเป็นมนุษย์ในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด ทั้งในแง่ของความเห็นแก่ตัวและความเสียสละ พร้อมทั้งนำเสนอฉากที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดและอารมณ์ที่ลึกซึ้ง

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: นาทีระทึก..วันสิ้นโลก
  • ประเภท: ดราม่า, ระทึกขวัญ, ภัยพิบัติ
  • วันที่ออกอากาศ: 18 ธันวาคม 2020 (สหรัฐอเมริกา)
  • นักแสดงนำ: Gerard Butler, Morena Baccarin, Roger Dale Floyd
  • ผู้กำกับ: Ric Roman Waugh
  • จำนวนตอน/ความยาว: 1 ชั่วโมง 59 นาที
  • เรตติ้ง IMDb: 6.4/10
  • ช่องทางการดู: MONOMAX

3. The Maze Runner (2014)

The Maze Runner 2014

“The Maze Runner” (2014) เล่าเรื่องราวของโธมัส (Thomas) ชายหนุ่มที่ตื่นขึ้นมาในลิฟต์สนิมโดยไร้ความทรงจำเกี่ยวกับตัวเอง เมื่อเขาออกจากลิฟต์ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในพื้นที่ที่เรียกว่า “เดอะเกลด” (The Glade) ซึ่งเป็นชุมชนของเด็กหนุ่มอีกหลายคนที่ติดอยู่ในสถานที่ล้อมรอบด้วยเขาวงกตขนาดยักษ์ พวกเขาต้องสร้างสังคมและเอาชีวิตรอดโดยมีเป้าหมายหลักคือการหาทางออกจากเขาวงกตนี้

โธมัสต้องปรับตัวเข้ากับชีวิตในเดอะเกลดและเรียนรู้เกี่ยวกับกฎเกณฑ์ต่างๆ ในขณะเดียวกัน เขาเริ่มสงสัยและค้นหาความจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ที่พวกเขาเผชิญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับองค์กรลึกลับที่ชื่อว่า W.C.K.D. ซึ่งอาจเป็นต้นเหตุของทุกสิ่ง ความอยากรู้อยากเห็นของโธมัสนำไปสู่การเป็นหนึ่งใน “นักวิ่ง” (Runners) ผู้ที่มีหน้าที่สำรวจเขาวงกตในช่วงกลางวันเพื่อหาทางออก

เมื่อเด็กหญิงคนแรกชื่อเทเรซา (Teresa) มาถึงพร้อมข้อความแปลกประหลาด สถานการณ์ในเดอะเกลดก็เริ่มเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว โธมัสและเพื่อนๆ ต้องเผชิญกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ทั้งการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดที่เรียกว่า “กรีฟเวอร์” (Grievers) และการตัดสินใจครั้งสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตพวกเขาตลอดไป

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เมซ รันเนอร์ วงกตมฤตยู
  • ประเภท: ไซไฟ, ผจญภัย, แอ็กชัน, ระทึกขวัญ
  • วันที่ออกอากาศ: 19 กันยายน 2014
  • นักแสดงนำ: Dylan O’Brien, Kaya Scodelario, Thomas Brodie-Sangster, Will Poulter
  • ผู้กำกับ: Wes Ball
  • จำนวนตอน/ความยาว: 1 ชั่วโมง 53 นาที
  • เรตติ้ง IMDb: 6.8/10
  • ช่องทางการดู: Disney+

2. The Last of Us (2023)

[รีวิวซีรีส์] The Last of Us (2023) เข้าสู่โลกหลังหายนะ

“The Last of Us” (2023) เป็นซีรีส์ที่ดัดแปลงจากเกมชื่อดังในชื่อเดียวกัน โดยเล่าเรื่องราวในโลกหลังการระบาดของเชื้อราร้ายแรงที่ทำให้มนุษย์กลายเป็นสิ่งมีชีวิตคล้ายซอมบี้และสังคมล่มสลาย Joel ชายผู้รอดชีวิตที่มีอดีตอันเจ็บปวด ได้รับภารกิจสำคัญในการพา Ellie เด็กสาววัย 14 ปีที่มีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อรา ออกจากพื้นที่ควบคุมเพื่อเดินทางข้ามสหรัฐฯ ในโลกที่เต็มไปด้วยอันตราย

ระหว่างการเดินทาง Joel และ Ellie ต้องเผชิญกับภัยคุกคามทั้งจากผู้ติดเชื้อและมนุษย์คนอื่นๆ พร้อมทั้งสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่สะท้อนถึงความหวังและความเป็นมนุษย์ในโลกที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ขณะที่ Ellie อาจเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยเหลือมนุษยชาติ Joel ต้องต่อสู้กับความรู้สึกในใจและความจริงที่เขาไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

ซีรีส์นี้นำเสนอการผสมผสานระหว่างดราม่าเข้มข้นและฉากแอ็กชันที่น่าตื่นเต้น พร้อมด้วยภาพการถ่ายทำที่งดงามและดนตรีประกอบที่ทรงพลัง ซีรีส์ได้รับเสียงชื่นชมอย่างกว้างขวางในด้านการแสดง การเขียนบท และการดัดแปลงเนื้อหาจากเกมต้นฉบับอย่างซื่อสัตย์

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เดอะ ลาสต์ ออฟ อัส
  • ประเภท: ดราม่า, ผจญภัย, ระทึกขวัญ, ไซไฟ
  • วันที่ออกอากาศ: 15 มกราคม 2023
  • นักแสดงนำ: Pedro Pascal, Bella Ramsey
  • ผู้กำกับ: Craig Mazin, Neil Druckmann
  • จำนวนตอน/ความยาว: 9 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb: 8.7/10
  • ช่องทางการดู: HBO Max

1. Squid Game (2021)

Squid Game

ในซีรีส์เกาหลีใต้ “Squid Game” (2021) ผู้เข้าแข่งขัน 456 คนที่กำลังเผชิญปัญหาทางการเงินอย่างหนัก ถูกเชิญให้เข้าร่วมเกมลึกลับที่มีเงินรางวัลมหาศาลถึง 45.6 พันล้านวอนเป็นเดิมพัน อย่างไรก็ตาม เกมเหล่านี้ไม่ใช่เกมธรรมดา เพราะผู้แพ้จะต้องเสียชีวิต การแข่งขันนี้เต็มไปด้วยความตึงเครียดและการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดในสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด

เรื่องราวเน้นไปที่ตัวละครหลัก ซองกีฮุน ชายผู้ล้มเหลวในชีวิตที่เข้าร่วมเกมเพื่อหวังเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของเขา พร้อมกับผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ ที่แต่ละคนต่างมีเหตุผลและความจำเป็นของตัวเองในการเข้าร่วมเกม ความสัมพันธ์ระหว่างผู้เข้าแข่งขันถูกทดสอบผ่านเกมเด็กที่ดูเหมือนง่าย แต่กลับเต็มไปด้วยความโหดร้ายและความเสี่ยงถึงชีวิต

ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความโลภและการดิ้นรนของมนุษย์ในสังคมที่มีความเหลื่อมล้ำสูง แต่ยังนำเสนอประเด็นเกี่ยวกับจริยธรรม ความไว้วางใจ และการเสียสละในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด “Squid Game” เป็นผลงานที่ทั้งตื่นเต้นและสะเทือนอารมณ์ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างล้นหลามทั่วโลก

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: สควิดเกม เล่นลุ้นตาย
  • ประเภท: ดราม่า, ระทึกขวัญ, เอาชีวิตรอด
  • วันที่ออกอากาศ: 17 กันยายน 2021
  • นักแสดงนำ: อีจองแจ, พัคแฮซู, วีฮาจุน, จองโฮยอน
  • ผู้กำกับ: ฮวังดงฮยอก
  • จำนวนตอน/ความยาว: 9 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb: 8.0/10
  • ช่องทางการดู: Netflix

หนังและซีรีส์เอาชีวิตรอดไม่เพียงให้ความบันเทิง แต่ยังสอนให้เราเห็นคุณค่าของชีวิตและการไม่ยอมแพ้ easily ทุกเรื่องราวคือบทเรียนที่ว่าไม่ว่าวิกฤตจะใหญ่แค่ไหน มนุษย์ก็มีพลังที่จะฝ่าฟันหากมีสติและความหวัง แม้บางครั้งจุดจบอาจไม่สวยงาม แต่กระบวนการต่อสู้ก็ทำให้เราเห็น “ความแข็งแกร่ง” ที่ซ่อนอยู่ในตัวแต่ละคน!

หากคุณพร้อมแล้วที่จะสัมผัสความตื่นเต้นที่ไม่มีที่สิ้นสุด ลองเริ่มจากหนังและซีรีส์ในลิสต์นี้ดูสิ แล้วคุณจะพบว่าบางเรื่องอาจเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการดิ้นรนไปตลอดกาล ไม่ว่าจะเป็นหนังและซีรีส์เก่าหรือใหม่ แต่ละเรื่องต่างมีเสน่ห์และความระทึกที่ไม่ซ้ำใคร!

สุดท้ายนี้ ไม่ว่าโลกจะโหดร้ายแค่ไหน จำไว้เสมอว่าชีวิตคือการเดินทางที่เราต้อง “รอด” และเติบโตไปด้วยกัน ขอให้สนุกกับการชมหนังและซีรีส์และรับแรงบันดาลใจดีๆ ไปใช้ในวันข้างหน้านะ!

Advertisement

กดเพื่ออ่านต่อ
Advertisement

NaniTalk S.

เป็นนักเขียนที่ขยันขันแข็งและมุ่งมั่นที่จะผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพ เรียนรู้และเติบโตอยู่เสมอ เชื่อว่าเนื้อหาที่ดีสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกได้

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button