แนะนำ 20 หนังบน Apple TV+ เรื่องเด่นที่ได้รับการยกย่อง!

Apple TV+ ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่น่าจับตามองในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยการนำเสนอเนื้อหาคุณภาพสูงและการลงทุนในการผลิตหนังและซีรีส์ Apple TV+ ที่น่าประทับใจ บริการนี้ได้สร้างชื่อเสียงในการนำเสนอผลงานที่มีคุณภาพและได้รับการยอมรับจากนักวิจารณ์ทั่วโลก

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปสำรวจหนังที่ได้รับการวิจารณ์ดีที่สุดบน Apple TV+ เรื่องราวเหล่านี้ไม่เพียงแต่ได้รับคะแนนสูงจากนักวิจารณ์เท่านั้น แต่ยังสร้างผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อผู้ชมและวงการหนังด้วย เราจะเจาะลึกถึงเหตุผลที่ทำให้หนังเหล่านี้โดดเด่นและได้รับการยกย่อง

จากหนังดราม่าที่สร้างแรงบันดาลใจไปจนถึงหนังแอนิเมชันที่สร้างสรรค์ Apple TV+ นำเสนอความหลากหลายของเนื้อหาที่น่าสนใจสำหรับผู้ชมทุกวัย เตรียมพร้อมที่จะค้นพบผลงานชิ้นเอกที่คุณอาจยังไม่เคยรู้จักมาก่อน และทำความเข้าใจว่าทำไมหนังเหล่านี้จึงได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์และผู้ชมทั่วโลก

1. Wolfwalkers (2020)

“Wolfwalkers” เป็นหนังอนิเมชันแฟนตาซีที่มีเสน่ห์ซึ่งเล่าเรื่องราวของ Robyn Goodfellowe เด็กสาวที่ต้องเดินทางไปยังไอร์แลนด์กับพ่อของเธอในช่วงศตวรรษที่ 17 โดยมีเป้าหมายเพื่อกำจัดฝูงหมาป่าสุดท้ายที่อาศัยอยู่ในป่า ในขณะที่ Robyn สำรวจพื้นที่ต้องห้ามนอกกำแพงเมือง เธอได้พบกับ Mebh เด็กสาวที่มีความสามารถพิเศษในการเปลี่ยนร่างเป็นหมาป่าในขณะที่เธอนอนหลับ ทั้งสองได้ร่วมมือกันในการค้นหามารดาของ Mebh ที่หายไป

เมื่อ Robyn เริ่มเข้าใจถึงความเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติและการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของหมาป่า เธอต้องเผชิญกับความขัดแย้งภายในระหว่างความรักต่อเพื่อนใหม่และภารกิจของพ่อที่ต้องกำจัดหมาป่า เรื่องราวเต็มไปด้วยการผจญภัยและการค้นหาตนเอง ขณะเดียวกันก็สะท้อนถึงประเด็นทางสังคมเกี่ยวกับอาณานิคมและวัฒนธรรมท้องถิ่น

หนังนี้นำเสนอด้วยสไตล์การวาดมือที่สวยงามและมีสีสันสดใส สร้างบรรยากาศที่ดึงดูดผู้ชมให้เข้าถึงโลกแห่งเวทมนตร์และตำนานของไอร์แลนด์ “Wolfwalkers” จึงเป็นหนังที่ไม่เพียงแต่ให้ความบันเทิง แต่ยังเต็มไปด้วยข้อความลึกซึ้งเกี่ยวกับการรักษาธรรมชาติและความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม

• ประเภท: แอนิเมชัน, แฟนตาซี, ผจญภัย
• วันที่ออกอากาศ: 13 พฤศจิกายน 2020
• นักแสดงนำ: Honor Kneafsey, Eva Whittaker, Sean Bean
• ผู้กำกับ: Tomm Moore, Ross Stewart
• จำนวนตอน/ความยาว: 1 ชั่วโมง 43 นาที
• เรตติ้ง IMDb: 8.0/10
• ช่องทางการดู: Apple TV+

2. Come From Away (2021)

Come From Away เป็นมิวสิคัลที่สร้างจากเหตุการณ์จริงในเมือง Gander รัฐนิวฟันด์แลนด์ ในสัปดาห์หลังจากเหตุการณ์โจมตีเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 เมื่อเครื่องบิน 38 ลำต้องเปลี่ยนเส้นทางไปยังสนามบิน Gander International Airport เนื่องจากการปิดน่านฟ้าของสหรัฐฯ ผู้โดยสารประมาณ 7,000 คนที่อยู่บนเครื่องบินเหล่านี้ทำให้ประชากรของเมืองเล็กๆ นี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก

ชาวเมือง Gander รวมถึงตัวละครต่างๆ เช่น นายกเทศมนตรี Claude, ตำรวจ Oz และครู Beulah ต้องรับมือกับการเข้ามาของผู้โดยสารที่ไม่คุ้นเคย พวกเขาเตรียมที่พัก อาหาร และความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารที่ติดอยู่ในเมือง โดยมีการแสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจและความเอื้อเฟื้อของชาวเมืองในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ ขณะเดียวกัน ผู้โดยสารก็ต้องเผชิญกับความกลัวและความไม่แน่ใจเกี่ยวกับสถานการณ์ในบ้านเกิด

เรื่องราวนี้ไม่เพียงแต่พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น แต่ยังสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนจากหลากหลายพื้นฐานที่ได้มาเชื่อมโยงกันในช่วงเวลาที่ไม่คาดคิด โดยมีการสร้างมิตรภาพและความเข้าใจระหว่างกัน แม้ว่าโลกภายนอกจะเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความวิตกกังวล

• ประเภท: ดราม่า, มิวสิคัล
• วันที่ออกอากาศ: 10 กันยายน 2021
• นักแสดงนำ: อีธาน แพค, เจนนิเฟอร์ คูริลโล, ปีเตอร์ แฮมิลตัน
• ผู้กำกับ: คริสโตเฟอร์ แอชลีย์
• จำนวนตอน/ความยาว: 1 ชั่วโมง 46 นาที
• เรตติ้ง IMDb: 7.8/10
• ช่องทางการดู: Apple TV+

3. Fancy Dance (2024)

“Fancy Dance” เป็นหนังที่เล่าเรื่องราวของ Jax หญิงสาวชาว Seneca-Cayuga ที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากหลังจากที่น้องสาวของเธอหายตัวไปอย่างลึกลับ ในขณะที่เธอต้องดูแล Roki หลานสาววัย 13 ปี หลังจากที่ Roki ถูกย้ายไปอยู่กับปู่ที่เป็นคนผิวขาว Jax ตัดสินใจที่จะพาหลานสาวหนีออกจากบ้านเพื่อร่วมงาน Powwow ประจำปีในรัฐโอคลาโฮมา ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สำคัญสำหรับครอบครัวของพวกเขา

ในระหว่างการเดินทาง Jax และ Roki ต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย รวมถึงการถูกตามล่าจากเจ้าหน้าที่และความท้าทายในการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างกัน เรื่องราวนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความรักและความผูกพันในครอบครัว แต่ยังเน้นถึงปัญหาที่ผู้หญิงพื้นเมืองต้องเผชิญในสังคมที่มีการเลือกปฏิบัติ

หนังนี้นำเสนอความสำคัญของวัฒนธรรมและชุมชนผ่านการเดินทางของ Jax และ Roki ที่พยายามจะรักษาเอกลักษณ์และความสัมพันธ์ในครอบครัวไว้ให้ได้ แม้จะมีอุปสรรคมากมายก็ตาม

• ประเภท: ดราม่า, โรแมนติก
• วันที่ออกอากาศ: 2024
• นักแสดงนำ: Lily Gladstone, Isabel Deroy-Olson
• ผู้กำกับ: Erica Tremblay
• จำนวนตอน/ความยาว: 1 ชั่วโมง 30 นาที
• เรตติ้ง IMDb: 6.6/10
• ช่องทางการดู: Apple TV+

4. CODA (2021)

Ruby Rossi เป็นเด็กสาวที่มีความพิเศษในฐานะที่เธอเป็น CODA (Child of Deaf Adults) ซึ่งหมายความว่าเธอเป็นคนเดียวในครอบครัวที่สามารถได้ยิน ในขณะที่พ่อแม่และพี่ชายของเธอต่างเป็นผู้พิการทางการได้ยิน Ruby ต้องเผชิญกับความท้าทายในการช่วยเหลือครอบครัวในธุรกิจการประมงของพวกเขา ขณะเดียวกันก็ต้องต่อสู้กับความฝันของตัวเองในการเรียนดนตรีที่ Berklee College of Music

เมื่อธุรกิจประมงของครอบครัวเริ่มประสบปัญหา Ruby ต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรเพื่อรักษาครอบครัวและตามหาความฝันของเธอ การเดินทางของ Ruby ไม่เพียงแต่เป็นการค้นหาตนเอง แต่ยังเป็นการเรียนรู้ถึงความสำคัญของการสนับสนุนและการเชื่อมโยงระหว่างสมาชิกในครอบครัวที่มีความแตกต่างกัน

เรื่องราวนี้นำเสนอความรัก ความมุ่งมั่น และการยอมรับในตัวเอง โดยมีการสื่อสารที่ลึกซึ้งระหว่าง Ruby กับครอบครัวของเธอ ซึ่งทำให้ผู้ชมได้สัมผัสถึงความเข้มแข็งและความอบอุ่นของความสัมพันธ์ในครอบครัว

• ประเภท: ดราม่า, คอมเมดี้, เพลง
• วันที่ออกอากาศ: 29 มกราคม 2021 (เทศกาลหนังซันแดนซ์)
• นักแสดงนำ: Emilia Jones, Marlee Matlin, Troy Kotsur
• ผู้กำกับ: Siân Heder
• จำนวนตอน/ความยาว: 1 ชั่วโมง 51 นาที
• เรตติ้ง IMDb: 8.1/10
• ช่องทางการดู: Apple TV+

5. Flora and Son (2023)

Flora and Son เป็นหนังดนตรีคอมเมดี้ดราม่าที่เล่าเรื่องราวของ Flora แม่เลี้ยงเดี่ยวที่อาศัยอยู่ในดับลิน เธอมีความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับลูกชายวัยรุ่น Max ซึ่งเป็นเด็กที่มีปัญหาทางกฎหมาย หลังจากที่ Max ประสบปัญหากับตำรวจ Flora ได้รับคำแนะนำให้หากิจกรรมใหม่ให้กับเขา เพื่อช่วยให้เขาหลีกเลี่ยงความยุ่งยาก เธอพบกีตาร์เก่าที่ถูกทิ้งและนำกลับมาให้ Max แต่เมื่อเขาไม่สนใจ เธอจึงเริ่มเรียนเล่นกีตาร์เอง

ระหว่างการเรียนออนไลน์กับ Jeff นักดนตรีที่ล้มเหลวจากลอสแองเจลิส Flora ค้นพบความสุขในการสร้างสรรค์ดนตรี และเริ่มเข้าใจความฝันของ Max ที่ต้องการเป็นแร็ปเปอร์และดีเจ เรื่องราวพัฒนาขึ้นเมื่อทั้งคู่เริ่มทำเพลงร่วมกัน และ Flora ก็พยายามเชื่อมโยงกับลูกชายผ่านเสียงเพลง ในขณะที่เธอต้องเผชิญกับความท้าทายในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น

หนังนี้ไม่เพียงแต่เป็นการสำรวจความรักระหว่างแม่และลูก แต่ยังพูดถึงการค้นหาตนเองและการสร้างความหวังในชีวิตใหม่ผ่านเสียงเพลง แม้จะมีช่วงเวลาที่ตึงเครียด แต่ก็เต็มไปด้วยอารมณ์ขันและความอบอุ่น

• ประเภท: ดนตรี, คอมเมดี้, ดราม่า
• วันที่ออกอากาศ: 22 กันยายน 2023
• นักแสดงนำ: Eve Hewson, Joseph Gordon-Levitt, Orén Kinlan
• ผู้กำกับ: John Carney
• จำนวนตอน/ความยาว: 97 นาที
• เรตติ้ง IMDb: 7.4/10
• ช่องทางการดู: Apple TV+

6. Killers of the Flower Moon (2023)

“Killers of the Flower Moon” เป็นหนังที่สร้างจากเหตุการณ์จริงในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งเล่าถึงการฆาตกรรมชาว Osage ในโอคลาโฮมา ที่เกิดขึ้นหลังจากที่พวกเขาได้รับเงินจากการค้นพบแหล่งน้ำมันในดินแดนของตน เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ Mollie Kyle (รับบทโดย Lily Gladstone) และครอบครัวของเธอเริ่มถูกโจมตีโดยกลุ่มคนที่ต้องการแย่งชิงความมั่งคั่งของพวกเขา โดยมี William King Hale (รับบทโดย Robert De Niro) เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมเหล่านี้

Mollie ต้องเผชิญกับความสูญเสียและความเจ็บปวดเมื่อสมาชิกในครอบครัวของเธอถูกฆ่าตายอย่างลึกลับ ในขณะที่ Ernest Burkhart (รับบทโดย Leonardo DiCaprio) ซึ่งเป็นหลานชายของ Hale เริ่มมีความรู้สึกที่ซับซ้อนต่อ Mollie และในที่สุดก็ต้องเลือกข้างระหว่างความรักและความภักดีต่อครอบครัว เมื่อการสอบสวนเริ่มขึ้นโดยหน่วยงานรัฐบาล ชีวิตของ Mollie และ Ernest จะต้องเผชิญกับความจริงที่โหดร้าย

หนังนี้ไม่เพียงแต่เล่าเรื่องราวการฆาตกรรมเท่านั้น แต่ยังสำรวจประเด็นทางเชื้อชาติและความอยุติธรรมทางสังคมที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาในช่วงเวลานั้น โดยนำเสนอภาพชีวิตของชาว Osage ที่ถูกละเลยและถูกทำร้ายจากผู้คนที่ต้องการผลประโยชน์จากพวกเขา

• ประเภท: ดราม่า, อาชญากรรม, ประวัติศาสตร์
• วันที่ออกอากาศ: 20 ตุลาคม 2023
• นักแสดงนำ: Leonardo DiCaprio, Robert De Niro, Lily Gladstone
• ผู้กำกับ: Martin Scorsese
• จำนวนตอน/ความยาว: 2 ชั่วโมง 39 นาที
• เรตติ้ง IMDb: 8.0/10
• ช่องทางการดู: Apple TV+

7. The Tragedy of MacBeth (2021)

The Tragedy of Macbeth (2021) เป็นการดัดแปลงจากบทละครคลาสสิคของวิลเลียม เชคสเปียร์ ที่เล่าเรื่องราวของแมคเบธ ขุนนางชาวสกอตแลนด์ที่ได้รับคำทำนายจากแม่มดสามคนว่าเขาจะได้เป็นกษัตริย์แห่งสกอตแลนด์ ความทะเยอทะยานของเขาและการสนับสนุนจากภรรยาทำให้เขาตัดสินใจฆ่ากษัตริย์เพื่อแย่งชิงบัลลังก์ เรื่องราวจึงเต็มไปด้วยความขัดแย้งและความโศกเศร้า

หนังนี้นำเสนอในรูปแบบขาวดำที่มีบรรยากาศมืดมน สร้างความรู้สึกเหมือนฝันที่ชวนให้หลงใหล ในขณะที่ตัวละครต้องเผชิญหน้ากับผลที่ตามมาจากการกระทำของตนเอง การต่อสู้ระหว่างความดีและความชั่วถูกถ่ายทอดออกมาอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแมคเบธเริ่มสูญเสียความเป็นตัวเอง

การแสดงของนักแสดงนำได้รับคำชมอย่างมาก โดยเฉพาะ Denzel Washington ในบทแมคเบธ และ Frances McDormand ในบท Lady Macbeth ซึ่งทั้งคู่สามารถถ่ายทอดอารมณ์และความซับซ้อนของตัวละครได้อย่างยอดเยี่ยม

• ประเภท: ดราม่า, อาชญากรรม, โศกนาฏกรรม
• วันที่ออกอากาศ: 24 กันยายน 2021
• นักแสดงนำ: Denzel Washington, Frances McDormand
• ผู้กำกับ: Joel Coen
• จำนวนตอน/ความยาว: 1 ชั่วโมง 45 นาที
• เรตติ้ง IMDb: 7.4/10
• ช่องทางการดู: Apple TV+

8. On the Rocks (2020)

Laura (Rashida Jones) เป็นนักเขียนที่มีชีวิตครอบครัวที่ดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบ แต่เมื่อเธอเริ่มสงสัยว่าฝ่ายสามี Dean (Marlon Wayans) อาจจะนอกใจ เธอจึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากพ่อของเธอ Felix (Bill Murray) ซึ่งเป็นศิลปินผู้มีเสน่ห์และมีประสบการณ์ในเรื่องความรักและความสัมพันธ์ พ่อและลูกสาวจึงเริ่มต้นการสืบสวนที่เต็มไปด้วยความตลกขบขันและความซับซ้อนในเมืองนิวยอร์ก

ในระหว่างการสืบสวน Laura ต้องเผชิญกับความจริงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับ Dean รวมถึงการทำความเข้าใจกับพ่อของเธอ Felix ที่มีแนวคิดเกี่ยวกับความรักที่แตกต่าง และในที่สุด Laura ก็ต้องตัดสินใจว่าเธอจะเชื่อใจใครและจะทำอย่างไรกับชีวิตของเธอเอง เรื่องราวนี้ไม่เพียงแต่สำรวจความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกสาว แต่ยังสะท้อนถึงการค้นหาความรักและการยอมรับในตัวเอง

“On the Rocks” เป็นหนังที่ผสมผสานระหว่างคอมเมดี้และดราม่า โดยนำเสนอเรื่องราวที่มีเสน่ห์และความซับซ้อนของชีวิตครอบครัว พร้อมทั้งการเดินทางค้นหาความจริงในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน

• ประเภท: คอมเมดี้, ดราม่า
• วันที่ออกอากาศ: 2 ตุลาคม 2020
• นักแสดงนำ: Bill Murray, Rashida Jones, Marlon Wayans
• ผู้กำกับ: Sofia Coppola
• จำนวนตอน/ความยาว: 1 ชั่วโมง 36 นาที
• เรตติ้ง IMDb: 6.7/10
• ช่องทางการดู: Apple TV+

9. Hala (2019)

Hala เป็นหนังที่เล่าเรื่องราวของวัยรุ่นมุสลิมสาวที่ชื่อ Hala ซึ่งต้องเผชิญกับความยุ่งเหยิงในครอบครัวขณะที่เธอกำลังค้นหาตัวตนของตนเอง ในขณะที่พยายามรักษาความสัมพันธ์กับครอบครัวและเพื่อนๆ Hala ต้องต่อสู้กับความคาดหวังและความกดดันจากสังคม รวมถึงการค้นหาความรักและการยอมรับในตัวเอง

เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ Hala พบว่าครอบครัวของเธอกำลังประสบปัญหา และเธอต้องเรียนรู้ที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ในขณะเดียวกัน เธอเริ่มมีความรู้สึกที่ซับซ้อนต่อ Jesse เพื่อนชายที่เธอชอบ ซึ่งทำให้เธอต้องตัดสินใจเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์ในชีวิตของเธอ

หนังนี้นำเสนอการเดินทางของ Hala ในการค้นหาตัวตนและการสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมาย โดยมีการสำรวจประเด็นทางวัฒนธรรมและความท้าทายที่ผู้หญิงมุสลิมต้องเผชิญ

• ประเภท: ดราม่า, โรแมนติก
• วันที่ออกอากาศ: 22 พฤศจิกายน 2019 (โรงหนัง), 8 มกราคม 2020 (สตรีมมิ่ง)
• นักแสดงนำ: Geraldine Viswanathan, Jack Kilmer, Gabriel Luna
• ผู้กำกับ: Minhal Baig
• จำนวนตอน/ความยาว: 1 ชั่วโมง 34 นาที
• เรตติ้ง IMDb: 6.3/10
• ช่องทางการดู: Apple TV+

10. Causeway (2022)

Causeway เป็นหนังดราม่าอเมริกันปี 2022 กำกับโดย Lila Neugebauer และเขียนบทโดย Ottessa Moshfegh, Luke Goebel และ Elizabeth Sanders หนังเรื่องนี้นำแสดงโดย Jennifer Lawrence (ซึ่งยังทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างด้วย), Brian Tyree Henry, Linda Emond, Jayne Houdyshell, Stephen McKinley Henderson และ Russell Harvard

เรื่องราวติดตามการปรับตัวของทหารหญิงคนหนึ่งหลังจากกลับมาถึงบ้านที่นิวออร์ลีนส์ หลังจากประสบเหตุระเบิดในอัฟกานิสถานขณะปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บสมองอย่างรุนแรง Lynsey ต้องกลับมาพักฟื้นที่บ้านกับแม่ของเธอ ในขณะที่รอวันกลับไปปฏิบัติหน้าที่อีกครั้ง แพทย์ของเธอไม่อยากลงนามอนุมัติให้เธอกลับไปเนื่องจากรู้สึกว่าความทรงจำเกี่ยวกับความทรมานเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เธอเป็นโรคซึมเศร้า

ขณะที่เธอฟื้นตัวขึ้นจากการฟื้นฟูสมรรถภาพ เธอกลายเป็นเพื่อนกับ James ช่างซ่อมรถ และเปิดเผยให้เขารู้ว่าเธอเป็นเลสเบี้ยน James มีบาดแผลทั้งทางร่างกายและจิตใจหลังจากเกิดอุบัติเหตุรถชนบนสะพาน Lake Pontchartrain ที่ทำให้หลานชายของเขาเสียชีวิต

หนังเรื่องนี้ได้รับการตอบรับในเชิงบวกจากนักวิจารณ์ ซึ่งชื่นชมการแสดงของ Lawrence และ Henry โดย Henry ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Best Supporting Actor ในงาน 95th Academy Awards

• ประเภท: ดราม่า
• วันที่ออกฉาย: 28 ตุลาคม 2022 (ในโรงหนัง) และ 4 พฤศจิกายน 2022 (ทาง Apple TV+)
• นักแสดงนำ: Jennifer Lawrence
• ผู้กำกับ: Lila Neugebauer
• ความยาว: 92 นาที
• เรตติ้ง IMDb: 6.6/10
• ช่องทางการดู: Apple TV+

11. Cha Cha Real Smooth (2022)

Cha Cha Real Smooth เป็นหนังที่เล่าเรื่องราวของ Andrew หนุ่มวัย 22 ปีที่เพิ่งจบการศึกษา เขากำลังมองหาวิธีที่จะหาเงินเพื่อไปตามแฟนสาวของเขาที่บาร์เซโลนา โดยเริ่มต้นจากการทำงานเป็น “party starter” ในงานบาร์และแบทมิตซวาห์ ซึ่งเขาใช้ความสามารถในการทำให้ผู้คนออกมาเต้นรำและสนุกสนานในงานต่างๆ ในระหว่างนั้น เขาได้พบกับ Domino แม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีลูกสาวชื่อ Lola ซึ่งมีความต้องการพิเศษ

เมื่อ Andrew เริ่มทำความรู้จักกับ Domino และ Lola ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็เริ่มพัฒนาไปในทางที่ซับซ้อน โดยเฉพาะเมื่อ Andrew รู้สึกดึงดูด Domino แต่เธอกลับมีแฟนหนุ่มที่ทำงานอยู่ในชิคาโก้ เรื่องราวจะนำเสนอถึงการค้นหาความหมายในชีวิตและความรักที่ซับซ้อนระหว่างตัวละครหลัก

หนังนี้ไม่เพียงแต่สำรวจความสัมพันธ์ระหว่าง Andrew กับ Domino และ Lola แต่ยังนำเสนอการเติบโตส่วนบุคคลของ Andrew ที่ต้องเผชิญกับคำถามเกี่ยวกับอนาคตของเขาเอง และสิ่งที่เขาต้องการจริงๆ ในชีวิต

• ประเภท: คอมเมดี้, ดราม่า, โรแมนติก
• วันที่ออกอากาศ: 17 มิถุนายน 2022
• นักแสดงนำ: Cooper Raiff, Dakota Johnson
• ผู้กำกับ: Cooper Raiff
• จำนวนตอน/ความยาว: 107 นาที
• เรตติ้ง IMDb: 7.0/10
• ช่องทางการดู: Apple TV+

12. Tetris (2023)

ในปี 1988 Henk Rogers นักขายวิดีโอเกมชาวอเมริกันได้ค้นพบเกม Tetris ที่มีความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น เขาตัดสินใจที่จะนำเกมนี้ไปสู่ตลาดโลก แต่การเดินทางของเขากลับเต็มไปด้วยอุปสรรคและความซับซ้อน เมื่อเขาเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมืองและธุรกิจที่ยุ่งเหยิงหลังม่านเหล็ก ในขณะที่พยายามจะได้สิทธิ์ในการจัดจำหน่ายเกมนี้ Rogers ต้องเผชิญกับการต่อสู้ที่ไม่เพียงแต่เกี่ยวกับเกม แต่ยังเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในช่วงสงครามเย็น

เรื่องราวดำเนินไปอย่างรวดเร็วเมื่อ Rogers ต้องเจอกับผู้มีอำนาจในวงการเกมและการเมือง รวมถึงการต่อรองกับผู้สร้างเกม Alexey Pajitnov ซึ่งเป็นการต่อสู้ที่ไม่ง่ายเลย เมื่อเขาต้องวางเดิมพันชีวิตครอบครัวของเขาในความสำเร็จของเกมนี้ ความตึงเครียดเพิ่มมากขึ้นเมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับ KGB และผู้มีอำนาจในรัสเซียที่ไม่ยอมให้เขาเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็น

“Tetris” ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องราวของเกมที่ทุกคนรู้จัก แต่ยังเป็นการสำรวจความมุ่งมั่นและความกล้าหาญของคนที่ต้องการทำสิ่งที่ถูกต้องในโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทายและอุปสรรค มันนำเสนอภาพรวมของการต่อสู้ทางธุรกิจและการเมืองที่น่าสนใจ พร้อมกับแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของมิตรภาพและความร่วมมือในการสร้างสิ่งใหม่ๆ

• ประเภท: ดราม่า, ชีวิตจริง, อาชญากรรม
• วันที่ออกอากาศ: 15 มีนาคม 2023
• นักแสดงนำ: Taron Egerton, Nikita Yefremov
• ผู้กำกับ: Jon S. Baird
• จำนวนตอน/ความยาว: 1 ชั่วโมง 58 นาที
• เรตติ้ง IMDb: 7.2/10
• ช่องทางการดู: Apple TV+

13. The Banker (2020)

เรื่องราวใน “The Banker” เกิดขึ้นในปี 1954 โดยมีตัวละครหลักคือ Bernard Garrett (รับบทโดย Anthony Mackie) และ Joe Morris (รับบทโดย Samuel L. Jackson) สองนักธุรกิจชาวแอฟริกันอเมริกันที่พยายามต่อสู้กับการเหยียดเชื้อชาติในอุตสาหกรรมการธนาคารและอสังหาริมทรัพย์ พวกเขาได้จ้าง Matt Steiner (รับบทโดย Nicholas Hoult) ชายผิวขาวที่ทำงานในชั้นล่างให้มาเป็นหน้าตาของบริษัท เพื่อที่จะสามารถเข้าถึงโอกาสทางธุรกิจที่พวกเขาถูกปฏิเสธ

Bernard และ Joe ร่วมมือกันสร้างอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ในลอสแอนเจลิส โดยมีเป้าหมายในการช่วยเหลือชุมชนคนผิวดำในการเข้าถึงการกู้ยืมเงินและการเป็นเจ้าของบ้าน แต่เมื่อความสำเร็จของพวกเขาดึงดูดความสนใจจากหน่วยงานรัฐบาล การต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมก็เริ่มมีความซับซ้อนขึ้น พวกเขาต้องเผชิญกับอุปสรรคทั้งจากภายนอกและภายใน ขณะที่พยายามรักษาความฝันของตนไว้

หนังนี้ไม่เพียงแต่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการต่อสู้ทางเศรษฐกิจ แต่ยังสะท้อนถึงปัญหาทางสังคมและการเหยียดเชื้อชาติที่ยังคงมีอยู่ในสังคมอเมริกัน เรื่องราวของ Bernard และ Joe จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจในการต่อสู้เพื่อสิทธิของคนผิวดำในอเมริกา

• ประเภท: ดราม่า, ชีวิตจริง
• วันที่ออกอากาศ: 6 มีนาคม 2020
• นักแสดงนำ: Anthony Mackie, Samuel L. Jackson, Nicholas Hoult, Nia Long
• ผู้กำกับ: George Nolfi
• จำนวนตอน/ความยาว: 120 นาที
• เรตติ้ง IMDb: 6.3/10
• ช่องทางการดู: Apple TV+

14. Swan Song (2021)

“Swan Song” เป็นหนังที่เล่าเรื่องราวของ Cameron (รับบทโดย Mahershala Ali) ชายหนุ่มที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย เขาต้องตัดสินใจว่าจะบอกความจริงกับภรรยาของเขา Poppy (รับบทโดย Naomie Harris) หรือจะปล่อยให้เธอคิดว่าเขายังมีชีวิตอยู่ต่อไป เรื่องราวนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงประเด็นเกี่ยวกับอัตลักษณ์ ความซื่อสัตย์ และความเศร้าโศก ผ่านการแสดงที่ซับซ้อนและมุมมองที่ลึกซึ้งของนักแสดง

ในขณะที่ Cameron กำลังพิจารณาตัดสินใจ เขาได้รับข้อเสนอจาก Dr. Scott (รับบทโดย Glenn Close) ที่จะสร้างตัวตนใหม่ให้เขาเพื่อแทนที่ตัวเขาในชีวิตของ Poppy และครอบครัว ทำให้เธอไม่ต้องเผชิญกับความเศร้าโศกจากการสูญเสีย แต่ Cameron จะต้องอยู่ห่างจากคนที่เขารักในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต

• ประเภท: ดราม่า, ไซไฟ, โรแมนติก
• วันที่เข้าฉาย: 17 ธันวาคม 2021
• นักแสดงนำ: Mahershala Ali, Naomie Harris
• ผู้กำกับ: Benjamin Cleary
• ความยาว: 1 ชั่วโมง 52 นาที
• เรตติ้ง IMDb: 6.8/10
• ช่องทางการดู: Apple TV+

15. Greyhound (2020)

Greyhound เป็นหนังสงครามที่สร้างจากนวนิยายในปี 1955 โดยเล่าเรื่องราวของกัปตัน Ernie Krause ที่นำเรือพิฆาต USS Greyhound ในการปกป้องขบวนเรือขนส่งจากการโจมตีของเรือดำน้ำเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง หนังนี้เน้นไปที่ความตึงเครียดและความท้าทายที่กัปตันต้องเผชิญขณะนำลูกเรือผ่าน “Black Pit” ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่มีการสนับสนุนจากอากาศยาน

Krause ต้องใช้ความสามารถและประสบการณ์ของเขาในการจัดการกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก ขณะที่เขาต้องเผชิญกับการโจมตีจาก U-boats หลายลำ ความกดดันเพิ่มขึ้นเมื่อเขาต้องตัดสินใจว่าจะช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากเรือที่ถูกโจมตีหรือไม่ ในขณะที่ต้องปกป้องเรือขนส่งอื่น ๆ ที่อยู่ในอันตราย เรื่องราวนี้เต็มไปด้วยความตึงเครียดและการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด

หนังนี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและความเสียสละของลูกเรือ แต่ยังสะท้อนถึงความเป็นผู้นำของ Krause ที่ต้องทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้ทุกคนปลอดภัย Greyhound นำเสนอประสบการณ์การต่อสู้ในทะเลที่เข้มข้นและเต็มไปด้วยอารมณ์

• ประเภท: สงคราม, แอ็คชั่น, ดราม่า
• วันที่ออกอากาศ: 10 กรกฎาคม 2020
• นักแสดงนำ: Tom Hanks, Stephen Graham, Rob Morgan
• ผู้กำกับ: Aaron Schneider
• จำนวนตอน/ความยาว: 1 ชั่วโมง 22 นาที
• เรตติ้ง IMDb: 7.0/10
• ช่องทางการดู: Apple TV+

16. Finch (2021)

ในหนัง “Finch” (2021) เรื่องราวเกิดขึ้นในโลกหลังหายนะที่ถูกทำลายจากการระเบิดของดวงอาทิตย์ ทำให้พื้นผิวโลกกลายเป็นทะเลทรายที่ไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ผู้คนจำนวนมากต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่รุนแรงและอุณหภูมิที่สูงเกินไป ในสถานการณ์นี้ Finch Weinberg วิศวกรหุ่นยนต์ที่มีอายุมาก ต้องใช้ชีวิตอยู่ในห้องทดลองใต้ดินในเซนต์หลุยส์ พร้อมกับสุนัขของเขา Goodyear และหุ่นยนต์ช่วยงานชื่อ Dewey

Finch กำลังต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บที่ไม่เปิดเผย และเขาตัดสินใจสร้างหุ่นยนต์ใหม่ที่มีความสามารถในการดูแล Goodyear เมื่อเขาไม่อยู่แล้ว โดยเขาได้ป้อนข้อมูลความรู้มากมายให้กับหุ่นยนต์นี้ ซึ่งสุดท้ายแล้วมันเลือกชื่อว่า Jeff แต่ Goodyear กลับไม่ไว้วางใจในตัวหุ่นยนต์นี้ ในขณะที่พายุใหญ่กำลังจะมาถึง Finch จึงต้องออกเดินทางไปยังซานฟรานซิสโกพร้อมกับ Jeff, Dewey และ Goodyear ด้วยรถบ้านที่ถูกปรับแต่ง

ระหว่างการเดินทาง Finch พยายามสอน Jeff เกี่ยวกับชีวิตและวิธีการดูแล Goodyear แม้ว่าเขาจะมีอาการป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆ ความสัมพันธ์ระหว่าง Finch และ Jeff เติบโตขึ้นอย่างช้าๆ ขณะที่พวกเขาเผชิญกับอุปสรรคต่างๆ และเรียนรู้ถึงความหมายของชีวิต ความรัก และมิตรภาพก่อนที่ Finch จะต้องจากไป

• ประเภท: ดราม่า, วิทยาศาสตร์, ผจญภัย
• วันที่ออกอากาศ: 5 พฤศจิกายน 2021
• นักแสดงนำ: ทอม แฮงค์ส, เคลบ แลนดรี โจนส์
• ผู้กำกับ: มิเกล ซาโปชนิค
• จำนวนตอน/ความยาว: 1 ชั่วโมง 55 นาที
• เรตติ้ง IMDb: 6.8/10
• ช่องทางการดู: Apple TV+

17. Wolfs (2024)

เรื่องราวใน “Wolfs” เป็นการผจญภัยที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขันและความตื่นเต้น เมื่อสอง “fixers” มืออาชีพที่มีสไตล์การทำงานที่แตกต่างกันต้องมารวมตัวกันเพื่อจัดการกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก ในค่ำคืนที่วุ่นวาย พวกเขาต้องเผชิญกับความท้าทายและความไม่ลงรอยกันของตัวเอง ขณะเดียวกันก็ต้องทำงานร่วมกันเพื่อปกปิดอาชญากรรมที่เกิดขึ้นจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงในนิวยอร์ก

ในระหว่างการทำงานร่วมกัน ทั้งสองได้เรียนรู้เกี่ยวกับความสำคัญของการไว้วางใจและการทำงานเป็นทีม ในขณะที่พวกเขาต้องเผชิญกับอุปสรรคต่าง ๆ ที่ทำให้ค่ำคืนของพวกเขาเต็มไปด้วยความวุ่นวายและความไม่แน่นอน เรื่องราวนี้นำเสนอการผจญภัยที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขันและการสะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์

“Wolfs” ไม่เพียงแต่เป็นหนังที่มีความสนุกสนาน แต่ยังมีการสำรวจความซับซ้อนของชีวิตและอาชีพในโลกที่เต็มไปด้วยความกดดันและการแข่งขัน

• ประเภท: แอ็คชั่น, คอมเมดี้
• วันที่ออกอากาศ: 20 กันยายน 2024
• นักแสดงนำ: จอร์จ คลูนีย์, แบรด พิตต์, เอมี่ ไรอัน
• ผู้กำกับ: จอน วัตส์
• จำนวนตอน/ความยาว: 1 ชั่วโมง 48 นาที
• เรตติ้ง IMDb: 6.4/10
• ช่องทางการดู: Apple TV+

18. Palmer (2021)

Palmer (2021) เป็นหนังดราม่าที่ติดตามเรื่องราวของ Eddie Palmer (รับบทโดย Justin Timberlake) อดีตนักฟุตบอลมัธยมที่ต้องโทษจำคุกเป็นเวลา 12 ปี เมื่อได้รับการปล่อยตัว เขากลับมาอยู่กับยายของตัวเองและสร้างความผูกพันกับ Sam (รับบทโดย Ryder Allen) เด็กชายจากครอบครัวที่มีปัญหา แต่อดีตของ Palmer กำลังคุกคามชีวิตใหม่และครอบครัวของเขา

หนังเรื่องนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงความยากลำบากในการปรับตัวกลับสู่สังคมของอดีตนักโทษ และความสัมพันธ์ที่พิเศษระหว่างตัวละครหลัก ทั้งยังหยิบยกประเด็นเกี่ยวกับความเป็นครอบครัวและการยอมรับความแตกต่าง ท่ามกลางฉากหลังของชุมชนเล็กๆ ที่มีทัศนคติต่อต้านอดีตนักโทษ

• ประเภท: ดราม่า, ครอบครัว
• วันที่เข้าฉาย: 29 มกราคม 2021
• นักแสดงนำ: Justin Timberlake, Ryder Allen, Alisha Wainwright
• ผู้กำกับ: Fisher Stevens
• ความยาว: 1 ชั่วโมง 50 นาที
• เรตติ้ง IMDb: 7.3/10
• ช่องทางการรับชม: Apple TV+

19. Spirited (2022)

Spirited (2022) เป็นหนังแฟนตาซีโรแมนติกที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อเดียวกันของ R.S. Dyal เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ Eliza Sparks ผู้หญิงสาวที่ทำงานเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของนักธุรกิจหนุ่มอย่าง Will Atenton ได้พบกับวิญญาณของชายหนุ่มที่ชื่อ Daniel Reid ผู้ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว 100 ปี แต่ยังคงอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดิมของเขา

ความสัมพันธ์ระหว่างเอลิซากับแดเนียลเริ่มต้นขึ้นอย่างช้าๆ ท่ามกลางความสงสัยและความไม่เชื่อใจ แต่ทั้งคู่ค่อยๆ เปิดใจให้กับกันและกัน และพบว่าตัวเองมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อกัน อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ของพวกเขาต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ทั้งความแตกต่างของโลกที่พวกเขาอาศัยอยู่ และความลับบางอย่างที่ซ่อนเร้นอยู่ในอดีตของแดเนียล

ในที่สุด เอลิซาและแดเนียลก็ต้องตัดสินใจว่าจะดำเนินชีวิตร่วมกันได้หรือไม่ ท่ามกลางความท้าทายและอุปสรรคต่างๆ หนังเรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวความรักอันแสนโรแมนติกระหว่างคนกับวิญญาณ พร้อมกับการค้นหาความหมายของชีวิตและความตาย

• ประเภท: แฟนตาซี, โรแมนติก, ดราม่า
• วันที่เข้าฉาย: 11 พฤศจิกายน 2022
• นักแสดงนำ: Zoey Deutch, Lewis Pullman
• ผู้กำกับ: Anna Mastro
• ความยาว: 1 ชั่วโมง 43 นาที
• เรตติ้ง IMDb: 6.4/10
• ช่องทางการดู: Hulu

20. The World’s a Little Blurry (2021)

The World’s a Little Blurry เป็นสารคดีที่นำเสนอชีวิตและการเติบโตของ Billie Eilish ศิลปินหนุ่มที่ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการเพลง โดยสารคดีนี้จะพาผู้ชมไปสัมผัสกับช่วงเวลาที่สำคัญในชีวิตของเธอ ตั้งแต่การสร้างสรรค์เพลง การต่อสู้กับความกดดันจากชื่อเสียง ไปจนถึงความสัมพันธ์กับครอบครัวและผู้คนรอบข้าง

เรื่องราวเริ่มต้นจากการแสดงให้เห็นถึงความหลงใหลในดนตรีของ Billie และการทำงานร่วมกับพี่ชาย Finneas O’Connell ในการผลิตเพลงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สารคดีนี้ยังเปิดเผยถึงความท้าทายที่เธอต้องเผชิญ เช่น ความวิตกกังวลและปัญหาสุขภาพจิต ซึ่งส่งผลต่อชีวิตและการทำงานของเธอ

นอกจากนี้ สารคดียังให้ภาพรวมเกี่ยวกับประสบการณ์ในการทัวร์คอนเสิร์ตและการรับมือกับความสำเร็จอย่างรวดเร็ว รวมถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับครอบครัวที่เป็นแรงสนับสนุนสำคัญในเส้นทางอาชีพของเธอ

• ประเภท: สารคดี, ดนตรี
• วันที่ออกอากาศ: 26 กุมภาพันธ์ 2021
• นักแสดงนำ: Billie Eilish
• ผู้กำกับ: R.J. Cutler
• จำนวนตอน/ความยาว: 2 ชั่วโมง 20 นาที
• เรตติ้ง IMDb: 7.8/10
• ช่องทางการดู: Apple TV+

เมื่อได้สำรวจหนังที่ได้รับการวิจารณ์ดีที่สุดบน Apple TV+ แล้ว เราสามารถเห็นได้ชัดว่าแพลตฟอร์มนี้มีความมุ่งมั่นในการนำเสนอเนื้อหาคุณภาพสูงอย่างต่อเนื่อง หนังเหล่านี้ไม่เพียงแต่ให้ความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังท้าทายความคิด สร้างแรงบันดาลใจ และเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้กับผู้ชม

Apple TV+ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาสามารถแข่งขันกับผู้ให้บริการสตรีมมิ่งรายใหญ่รายอื่นๆ ได้ ด้วยการลงทุนในโครงการที่มีคุณภาพและการร่วมงานกับผู้สร้างหนังที่มีวิสัยทัศน์ ทำให้พวกเขาสามารถสร้างคลังเนื้อหาที่น่าประทับใจและหลากหลาย

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาหนังคุณภาพสูงที่ได้รับการยอมรับจากนักวิจารณ์ Apple TV+ เป็นแพลตฟอร์มที่ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ด้วยการนำเสนอเรื่องราวที่น่าจดจำและการผลิตที่ยอดเยี่ยม หนังเหล่านี้ไม่เพียงแต่ให้ความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังมีคุณค่าทางศิลปะที่จะอยู่ในใจผู้ชมไปอีกนาน