เกมส์

[รีวิว] Black Myth: Wukong การผจญภัยมหัศจรรย์ที่คุ้มค่า

สวัสดีเพื่อนๆ วันนี้ขอมาเล่าประสบการณ์สุดตื่นเต้นกับเกมที่เพิ่งได้เล่นไป Black Myth: Wukong บอกเลยว่า ทั้งทึ่ง ทั้งเซ็ง ไปพร้อมๆ กัน เกมนี้เป็นเกมแอคชั่นที่อลังการงานสร้างมากๆ ภาพสวยสุดๆ ระบบต่อสู้ก็มันส์สุดติ่ง ท้าทายแบบสุดขีด แต่พอผ่านไปได้ก็รู้สึกฟินสุดๆ แถมยังมีโลกของเกมที่ไม่เหมือนใคร เต็มไปด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมจีน คือรวมๆ แล้วดีงามพระรามแปด แต่! ก็ยังมีจุดที่ทำให้หงุดหงิดใจอยู่บ้าง

เนื้อเรื่อง Black Myth: Wukong

ในเกมเราจะเล่นเป็น “ผู้ถูกกำหนด” ลิงน้อยที่ตื่นมาวันหนึ่งแล้วตัดสินใจออกเดินทางตามหาของวิเศษ 6 ชิ้นของหงอคง ใช้เวลาเล่นประมาณ 40 ชั่วโมงได้ เนื้อเรื่องหลักอาจจะไม่ได้หวือหวามาก เพราะตัวเอกพูดไม่ได้ แถมตัวละครอื่นๆ ก็ออกมาไม่เยอะ เลยไม่ค่อยผูกพันเท่าไหร่ แต่! แต่ละตอนของเกมจะมีฉากคัทซีนอนิเมชั่นสวยๆ มาสรุปเรื่องราวของตัวร้ายในตอนนั้น ซึ่งแต่ละฉากก็ทำออกมาคนละสไตล์ มีทั้งแบบหนังสือนิทาน อนิเมะ stop-motion คือสวยงามและกินใจมากๆ เล่นไปก็อดคิดไม่ได้ว่า ทำไมเนื้อเรื่องหลักไม่ทำให้อินได้แบบนี้บ้างนะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ระบบการเล่น

ตอนแรกนึกว่าเกมนี้จะเป็นแนว Soulslike เพราะมีระบบ Checkpoint แถบ Stamina และการต่อสู้ที่เน้นหลบหลีก แต่ที่ไหนได้ กลับเหมือนเกมแอคชั่นแบบ Bayonetta ของ PlatinumGames มากกว่า ตายแล้วไม่ต้องวิ่งไปเก็บของ ฟาร์มเงินมาอัพสเตตัสหรือซื้อของ อุปกรณ์ก็แค่เปลี่ยนอันใหม่ ไม่ต้องคิดเยอะ

ซึ่งเอาจริงๆ ก็ดีแล้ว เพราะมันทำให้เกมเล่นง่ายขึ้น ไม่ต้องมานั่งเปิดเมนูหรือวิ่งกลับไปเก็บเงินที่เสียไปตอนตาย ทำให้เราโฟกัสกับแอคชั่นได้เต็มที่ แต่! ถึงจะเล่นง่ายขึ้น ก็ไม่ได้แปลว่าเกมจะง่ายนะ บอสบางตัวยากกว่าใน Elden Ring อีก แต่ความยากมันเป็นความยากแบบแฟร์ๆ รู้สึกว่าถ้าเราฝึกฝน ทำความเข้าใจรูปแบบการโจมตี ปรับอุปกรณ์ให้เหมาะสม เราก็ผ่านไปได้ ซึ่งพอผ่านไปได้ก็รู้สึกภูมิใจมากๆ

Advertisement

ระบบต่อสู้ใน Black Myth: Wukong เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง มีลูกเล่นให้ใช้เยอะมาก กุญแจสำคัญคือการผสมผสานระหว่างการตอบสนองที่รวดเร็วกับการบริหารทรัพยากรอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะ “Focus Meter” ที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อเราโจมตีโดนหรือหลบการโจมตีได้พอดี พอ Focus Meter เต็ม เราจะได้ Focus point มาใช้ ทำคอมโบโจมตีเบาได้หลากหลายขึ้น หรือใช้โจมตีหนักที่รุนแรงขึ้นได้

นอกจากนี้ยังมีเวทมนตร์ให้ใช้ ซึ่งมีประโยชน์มากๆ เช่น “Immobilize” ที่ทำให้ศัตรูหยุดนิ่ง “Cloud Step” ที่ทำให้ล่องหนและสร้างตัวล่อ “Rock Solid” ที่ทำให้กลายเป็นหิน ชนแล้วศัตรูเด้ง “Ring of Fire” ที่สร้างเกราะป้องกันและเพิ่มพลังชีวิต และสุดท้าย “Pluck of Many” ที่สร้างร่างแยกออกมาช่วยสู้

ที่เจ๋งอีกอย่างคือระบบแปลงร่าง ที่ทำให้เราแปลงเป็นสัตว์ประหลาดที่เคยปราบไปแล้วได้ โดยไม่ต้องใช้มานา แต่จะมี cooldown ยาวหน่อย แต่ละร่างก็จะมีท่าโจมตีและท่าไม้ตายต่างกันไป เช่น ร่างหมาป่าก็จะพุ่งโจมตีได้เร็วมาก

สุดท้ายคือ “Spirit Skills” ที่ได้จากการปราบศัตรูบางประเภทแล้วดูดวิญญาณมาใส่ในน้ำเต้า เป็นเหมือนแปลงร่างชั่วคราว ใช้โจมตีได้ครั้งเดียวแล้วก็ cooldown ยาวเหมือนกัน แต่มีประโยชน์มากๆ เช่น ใช้หัวโขกของ Wandering Wight เพื่อทำให้ศัตรูมึนงงต่อเนื่องหลังจากใช้ Immobilize

คือมีอะไรให้เล่นเยอะมาก โดยเฉพาะบอสแต่ละตัวนี่ออกแบบมาได้สุดยอดจริงๆ แถมเกมก็ค่อยๆ ปลดล็อคความสามารถต่างๆ มาให้เราเรื่อยๆ เล่นไปก็รู้สึกเก่งขึ้นเรื่อยๆ ตัวเอกในเกมนี่คือสุดยอดพลัง แค่ฟาดกระบองยักษ์ใส่หัวศัตรูก็สะใจแล้ว แต่ถึงจะเก่งแค่ไหน ก็ต้องบริหารมานาดีๆ เพราะฟื้นฟูยากมาก

ตรงนี้แหละที่การบริหารทรัพยากรเข้ามามีบทบาท ต้องคิดให้ดีว่าจะใช้เวทไหนตอนไหน เก็บไว้สู้ตอนบอสเปลี่ยนร่างดีไหม ใช้แล้วจะคุ้มค่ามานาไหม เช่น เวท Pluck of Many ที่เรียกร่างแยกออกมานี่ใช้มานาเยอะมาก ถ้าใช้ผิดจังหวะ บอสอาจจะกวาดร่างแยกเราหายหมดก่อนจะได้โจมตีเลยก็ได้ บางทีที่เราติดบอสนานๆ อาจจะเป็นเพราะเราใช้ความสามารถไม่ถูกวิธี พอเปลี่ยนกลยุทธ์แล้วผ่านไปได้ก็รู้สึกดีมากๆ

โลกของเกม

นอกจากบอสแล้ว ศัตรูทั่วไปก็มีความหลากหลายสูงมาก ฉากในเกมก็เป็นแบบกึ่งเปิด มีเส้นทางหลักให้เดินจาก checkpoint ไป checkpoint แต่ก็มีทางแยกให้สำรวจเยอะมาก ของรางวัลจากการสำรวจก็ดีงาม มีทั้งวัตถุดิบหายาก ของวิเศษเพิ่มความสามารถ หีบสมบัติเพิ่มพลังชีวิต มานา stamina คือคุ้มค่ากับการเสียเวลาสำรวจแน่นอน

แถมยังมีบอสลับให้สู้ ไอเท็มลึกลับที่ยังไม่รู้ว่าใช้ทำอะไร และอื่นๆ อีกมากมายที่รอให้เราค้นพบ เหตุผลหลักที่อยากให้สำรวจก็คือ เกมนี้ภาพสวยมากกกกก ทุกฉากเต็มไปด้วยรายละเอียด ทั้งเปลือกไม้ที่หลุดร่วงตามต้นไม้ หิมะที่ยุบตัวลงเวลาตัวเอกเดินผ่าน อนิเมชั่นก็ทำออกมาดีสุดๆ ตัวละครมีการเคลื่อนไหวที่เป็นธรรมชาติ เพลงประกอบกับเสียงต่างๆ ก็สุดยอด เพลงตอนต่อสู้ก็เร้าใจ ตอนสำรวจก็มีความลึกลับน่าค้นหา

แต่! เกมน่าจะมีแผนที่ให้หน่อยนะ เพราะฉากแต่ละฉากมันใหญ่มาก แถมยังมีของลับให้เก็บเยอะ ถ้าไม่มีแผนที่ช่วยก็หลงทางง่ายๆ โดยเฉพาะฉากที่ 2 กับ 3 แถมบางทียังดูยากว่าตรงไหนปีนได้ ปีนไม่ได้อีก อุปสรรคเยอะไปหน่อย แต่ก็อย่างที่บอก ของรางวัลมันคุ้มค่าจริงๆ

สรุป

Black Myth: Wukong เป็นเกมที่ทั้งสนุกและน่าหงุดหงิดในเวลาเดียวกัน มีทั้งจุดเด่นและจุดด้อย แต่โดยรวมแล้วเป็นเกมที่คุ้มค่าแก่การเล่นมากๆ ถ้าคุณชอบเกมแอคชั่นที่ท้าทาย ภาพสวย ระบบต่อสู้มันส์ๆ และมีโลกของเกมที่น่าค้นหา Black Myth: Wukong เป็นเกมที่ไม่ควรพลาด

Advertisement

กดเพื่ออ่านเพิ่มเติม
Advertisement

Tanjen S.

ติดตามข่าวสารล่าสุดในวงการไอทีและเกมส์ วิเคราะห์ข้อมูล และนำเสนอเป็นบทความข่าวที่น่าสนใจ อ่านง่าย และเข้าใจง่าย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button