ทุกคนมีอารมณ์ขัน และอารมร์ตลกที่แตกต่างกัน แต่เรารับรองได้ว่าคุณจะหัวเราะคิกคักในขณะที่ดูอนิเมะน่าดูสนุก ๆ ตลก ๆ ในอนิเมะที่ฮาที่สุดเท่าที่เคยมีมา
อนิเมะน่าดูสนุก ๆ
อนิเมะน่าดูสนุก ๆ นั้น ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล บางคนอาจชอบอนิเมะแนวแอ็คชัน บางคนอาจชอบอนิเมะแนวโรแมนติก บางคนอาจชอบอนิเมะแนวดราม่า บางคนอาจชอบอนิเมะแนวตลก บางคนอาจชอบอนิเมะแนวกีฬา บางคนอาจชอบอนิเมะแนวต่างโลก เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม อนิเมะน่าดูสนุก ๆ โดยทั่วไปนั้น มักจะมีลักษณะดังนี้
- เนื้อเรื่องน่าสนใจ มีการเล่าเรื่องที่เป็นเหตุเป็นผล ชวนติดตาม ลุ้นระทึก ตื่นเต้น หรือซาบซึ้ง
- ตัวละครมีเสน่ห์ มีคาแรคเตอร์ที่โดดเด่น น่าจดจำ มีพัฒนาการที่ดี
- ภาพและเสียงประกอบสวยงาม มีงานภาพและเสียงที่มีคุณภาพ ช่วยให้ผู้ชมเพลิดเพลินกับการรับชม
นอกจากนี้ ยังมีอนิเมะแนวอื่น ๆ อีกมากมายที่น่าสนใจ อนิเมะแต่ละเรื่องก็มีเอกลักษณ์และเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป ผู้ชมสามารถลองค้นหาอนิเมะที่ชอบดูได้ตามความสนใจของตนเอง แนะนำอนิเมะน่าดูสนุก ๆ ทั้งตลกฮาโครต ๆ ให้ติดตาม ทุกคนเตรียมพร้อมที่จะหัวเราะยัง มาดูกันมีเรื่องอะไรบ้าง
1. Sakigake!! Cromartie Koukou (คุโรมาตี้ โรงเรียนคนบวม)
“Sakigake!! Cromartie Koukou” หรือที่รู้จักกันในชื่อไทยว่า “คุโรมาตี้ โรงเรียนคนบวม” เป็นอนิเมะแนวตลกสุดป่วนที่เล่าเรื่องราวของโรงเรียนมัธยมปลายคุโรมาตี้ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความโหดและนักเรียนอันธพาล ตัวเอกของเรื่องคือ ทาคาชิ คามิยามะ เด็กหนุ่มหน้าตาดีที่บังเอิญสอบเข้ามาเรียนในโรงเรียนสุดโหดแห่งนี้ เขาต้องเผชิญหน้ากับเพื่อนร่วมชั้นสุดแปลก ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนที่หน้าตาเหมือนกอริลล่า หุ่นยนต์ หรือแม้กระทั่งเฟรดดี้ เมอร์คิวรี่
แม้ว่าโรงเรียนจะเต็มไปด้วยนักเรียนอันธพาล แต่เรื่องราวในอนิเมะกลับไม่ได้เน้นฉากต่อสู้หรือความรุนแรง แต่จะเน้นไปที่ความตลกขบขันจากสถานการณ์สุดพิลึกพิลั่นที่เกิดขึ้นในโรงเรียน ทั้งมุกตลกหน้าตาย การล้อเลียนวัฒนธรรมต่างๆ และตัวละครที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้ผู้ชมต้องหัวเราะจนท้องแข็ง
“คุโรมาตี้ โรงเรียนคนบวม” เป็นอนิเมะที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความตลกแบบไร้สาระและไม่เหมือนใคร ถ้าคุณกำลังมองหาอนิเมะที่ดูได้เพลินๆ ไม่ต้องคิดอะไรมาก เรื่องนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
- ประเภท: อนิเมะ, คอมเมดี้, ชีวิตประจำวัน, ล้อเลียน
- วันที่ออกฉาย: 2 ตุลาคม 2003
- นักพากย์หลัก: Takahiro Sakurai (Takashi Kamiyama), Norio Wakamoto (Shinichi Mechazawa), Mitsuo Iwata (Hayashida), Takumi Yamazaki (Gorilla), Mitsuaki Madono (Freddie Mercury)
- ผู้กำกับ: Hiroaki Sakurai
- จำนวนตอน: 26
- คะแนน IMDb: 7.8/10
2. Great Teacher Onizuka (จีทีโอ คุณครูพันธุ์หายาก)
“Great Teacher Onizuka” หรือที่รู้จักกันในชื่อย่อว่า “GTO” เป็นเรื่องราวของ เอคิจิ โอนิซึกะ อดีตนักเลงหัวไม้ผู้มีอดีตอันโชกโชน แต่ด้วยความฝันอยากเป็นครูที่เจ๋งที่สุดในญี่ปุ่น เขาจึงตัดสินใจผันตัวมาเป็นคุณครูในโรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่ง
แม้ว่าโอนิซึกะจะไม่มีวุฒิการศึกษาหรือประสบการณ์สอน แต่เขามีวิธีการสอนที่ไม่เหมือนใครและไม่ยึดติดกับกรอบเดิม ๆ เขาใช้ชีวิตจริงและประสบการณ์ของตัวเองเพื่อเข้าถึงนักเรียนที่มีปัญหาและช่วยให้พวกเขาค้นพบศักยภาพที่แท้จริงของตนเอง
แม้ว่าวิธีการสอนของโอนิซึกะจะไม่เป็นที่ยอมรับของครูและผู้บริหารในโรงเรียน แต่เขาก็ได้รับความรักและความเคารพจากนักเรียนอย่างล้นหลาม เรื่องราวของโอนิซึกะสอนให้เรารู้ว่าครูที่ดีไม่จำเป็นต้องมีใบปริญญา แต่ต้องมีหัวใจที่เข้าใจและพร้อมที่จะช่วยเหลือนักเรียนอย่างแท้จริง
- ประเภท: อนิเมะ, คอมเมดี้, ดราม่า, โรงเรียน
- วันที่ออกฉาย: 30 มิถุนายน 1999
- นักพากย์หลัก: Wataru Takagi (Eikichi Onizuka)
- ผู้กำกับ: Noriyuki Abe
- จำนวนตอน: 43
- คะแนน IMDb: 8.5/10
- ดูได้ที่: NETFLIX
3. Detroit Metal City (ดีทรอยต์ เมทัล ซิตี้ ร็อคนรกโยกลืมติ๋ม)
“Detroit Metal City (ดีทรอยต์ เมทัล ซิตี้ ร็อคนรกโยกลืมติ๋ม)” เป็นอนิเมะที่เล่าเรื่องราวสุดป่วนของ Negishi Souichi ชายหนุ่มผู้รักในเสียงเพลงป๊อปหวานแหววและใฝ่ฝันอยากเป็นนักดนตรีแนวนี้ แต่ชีวิตกลับเล่นตลกให้เขากลายมาเป็น Johannes Krauser II นักร้องนำสุดโหดของวงเดธเมทัลสุดฮิต “Detroit Metal City” Souichi ต้องพยายามปรับตัวและรับมือกับความแตกต่างอย่างสุดขั้วระหว่างชีวิตจริงกับชีวิตบนเวที
อนิเมะเรื่องนี้ไม่ได้เน้นเนื้อหาหนัก ๆ แต่จะพาผู้ชมไปพบกับความสนุกสุดฮาผ่านสถานการณ์สุดป่วนของ Souichi ที่ต้องสวมบทบาทเป็น Johannes Krauser II สุดโหด พร้อมกับเพลงเมทัลสุดมันส์ ที่จะทำให้คุณโยกหัวตามได้ไม่ยาก
แม้จะเป็นอนิเมะแนวตลก แต่ “Detroit Metal City” ก็แฝงข้อคิดเกี่ยวกับการค้นหาตัวเอง การยอมรับตัวตน และการทำตามความฝัน ซึ่งอาจทำให้ผู้ชมได้ฉุกคิดและมองชีวิตในมุมมองใหม่ ๆ
- ประเภท: อนิเมะ, คอมเมดี้, ดนตรี
- วันที่ออกฉาย: 2 สิงหาคม 2008
- นักพากย์หลัก: Daisuke Kishio (Souichi Negishi/Johannes Krauser II)
- ผู้กำกับ: Hiroshi Nagahama
- จำนวนตอน: 12
- คะแนน IMDb: 7.6/10
เรื่องที่เกี่ยวข้อง:
- แนะนำ อนิเมะต่างโลก (Isekai) ที่ดีที่สุด!
- แนะนำ อนิเมะจีน ที่ดีที่สุด!
- แนะนำ อนิเมะฮาเร็ม ที่ดีที่สุด!
4. Monthly Girls Nozaki Kun
“Monthly Girls’ Nozaki-kun” เล่าเรื่องราวสุดป่วนของ Chiyo Sakura เด็กสาวมัธยมปลายที่แอบชอบ Umetarou Nozaki เพื่อนร่วมชั้นสุดหล่อ แต่เมื่อเธอ鼓起勇气สารภาพรัก กลับเกิดความเข้าใจผิดครั้งใหญ่ Nozaki ดันคิดว่าเธอเป็นแค่แฟนคลับการ์ตูนของเขา และชวนเธอมาเป็นผู้ช่วยวาดการ์ตูนแทน!
จากจุดเริ่มต้นที่ชวนหัวเราะ เรื่องราวความรักสุดอลวนของ Chiyo จึงเริ่มต้นขึ้น เธอต้องรับมือกับความเฉิ่มเชยของ Nozaki ที่แอบเป็นนักเขียนการ์ตูนผู้หญิงชื่อดัง แถมยังต้องเจอกับเพื่อนร่วมชั้นสุดเพี้ยนอีกมากมายที่คอยสร้างสีสันให้กับชีวิตประจำวัน
แม้จะไม่ได้เน้นฉากโรแมนติกหวานซึ้ง แต่ “Monthly Girls’ Nozaki-kun” ก็เต็มไปด้วยความฮาและความน่ารักของตัวละคร ที่จะทำให้คุณยิ้มได้ตลอดทั้งเรื่อง อีกทั้งยังมีมุกตลกเกี่ยวกับวงการการ์ตูนที่แฟน ๆ น่าจะชอบอีกด้วย
- ประเภท: อนิเมะ, คอมเมดี้, โรแมนติก, ชีวิตในโรงเรียน
- วันที่ออกฉาย: 7 กรกฎาคม 2014
- นักพากย์หลัก: Ari Ozawa (Chiyo Sakura), Yuichi Nakamura (Umetarou Nozaki), Nobuhiko Okamoto (Mikoto Mikoshiba), Yuko Iida (Yuzuki Seo)
- ผู้กำกับ: Mitsue Yamazaki
- จำนวนตอน: 12
- คะแนน IMDb: 8.0/10
- ช่องทางรับชม: iQIYI
5. Ouran High School Host Club (ชมรมรัก คลับมหาสนุก)
“Ouran High School Host Club (ชมรมรัก คลับมหาสนุก)” เป็นเรื่องราวของ Haruhi Fujioka เด็กสาวผู้ได้รับทุนเข้าเรียนในโรงเรียน Ouran Academy อันเลื่องชื่อ ซึ่งเป็นโรงเรียนสำหรับเหล่าลูกคุณหนูผู้ร่ำรวย ในระหว่างที่เธอหาห้องเงียบๆ เพื่ออ่านหนังสือ เธอได้พบกับ Host Club สุดหรู ที่เหล่าหนุ่มหล่อคอยเอาใจและสร้างความสุขให้กับลูกค้าสาวๆ ด้วยความเข้าใจผิด Haruhi ทำแจกันราคาแพงแตก และเพื่อชดใช้หนี้ก้อนโต เธอจึงต้องปลอมตัวเป็นผู้ชายและเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ Host Club
ในชมรมนี้ Haruhi ได้พบกับหนุ่มๆ ที่มีบุคลิกแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น Tamaki Suoh ประธานชมรมผู้หลงตัวเอง Kyoya Ootori รองประธานผู้สุขุมเยือกเย็น Hikaru และ Kaoru Hitachiin ฝาแฝดจอมเจ้าเล่ห์ Mitsukuni Haninozuka หรือ Honey-senpai หนุ่มน้อยน่ารักผู้คลั่งไคล้ขนมหวาน และ Takashi Morinozuka หรือ Mori-senpai หนุ่มเงียบขรึมผู้แข็งแกร่ง การใช้ชีวิตใน Host Club ทำให้ Haruhi ได้เรียนรู้เกี่ยวกับความรัก มิตรภาพ และการยอมรับในความแตกต่างของแต่ละคน
แม้จะเป็นอนิเมะแนวตลกโรแมนติก แต่ “Ouran High School Host Club” ก็ยังสอดแทรกประเด็นทางสังคม เช่น การแบ่งชนชั้น และการยอมรับตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง ทำให้เรื่องราวมีความลึกซึ้งและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น อนิเมะเรื่องนี้จึงไม่เพียงแต่สร้างความบันเทิง แต่ยังมอบข้อคิดและแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมอีกด้วย
- ประเภท: อนิเมะ, ตลก, โรแมนติก, โชโจะ
- วันที่ออกฉาย: 4 เมษายน 2006
- นักพากย์หลัก: Maaya Sakamoto (Haruhi Fujioka), Mamoru Miyano (Tamaki Suoh), Jun Fukuyama (Kyoya Ootori), Kenichi Suzumura (Hikaru Hitachiin), Yoshinori Fujita (Kaoru Hitachiin), Ayaka Saitō (Mitsukuni Haninozuka), Daisuke Kirii (Takashi Morinozuka)
- ผู้กำกับ: Takuya Igarashi
- จำนวนตอน: 26
- คะแนน IMDb: 8.2/10
- ช่องทางรับชม: Netflix, iQIYI
6. My Ordinary Life (นิจิโจ สามัญขยันรั่ว)
“Nichijou: My Ordinary Life” หรือที่รู้จักกันในชื่อไทยว่า “นิจิโจ สามัญขยันรั่ว” เป็นอนิเมะที่เล่าเรื่องราวชีวิตประจำวันของกลุ่มนักเรียนมัธยมปลายและคนรอบข้างที่ดูเหมือนจะธรรมดา แต่กลับเต็มไปด้วยความแปลกประหลาดและเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เรื่องราวเน้นไปที่ตัวละครหลักสามคน ได้แก่ Yuuko Aioi สาวน้อยผู้ร่าเริงสดใสแต่ไม่ค่อยมีสมาธิ Mio Naganohara เด็กสาวขี้อายที่แอบชอบวาดการ์ตูนแนวบอยเลิฟ และ Mai Minakami เด็กสาวเงียบขรึมผู้มีพรสวรรค์ในการเล่นตลกหน้าตาย
นอกจากตัวละครหลักทั้งสามแล้ว อนิเมะยังมีตัวละครสนับสนุนที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Nano Shinonome หุ่นยนต์สาวน้อยที่ถูกสร้างโดยศาสตราจารย์วัย 8 ขวบ Hakase Shinonome, Sakamoto แมวพูดได้ที่สวมผ้าพันคอสีแดง หรือแม้แต่ตัวละครอื่น ๆ ที่จะมาสร้างสีสันและความสนุกสนานให้กับเรื่องราว
“Nichijou: My Ordinary Life” ไม่ได้มีเนื้อเรื่องที่ซับซ้อนหรือต่อเนื่อง แต่ความสนุกอยู่ที่การนำเสนอชีวิตประจำวันของตัวละครในรูปแบบที่ตลกขบขันเกินจริง ผ่านมุกตลกที่หลากหลาย ทั้งมุกเล่นคำ มุกภาพ และมุกสถานการณ์ ที่จะทำให้ผู้ชมหัวเราะได้ตลอดทั้งเรื่อง
- ประเภท: อนิเมะ, คอมเมดี้, ชีวิตประจำวัน, Slice of Life
- วันที่ออกฉาย: 3 เมษายน 2011
- นักพากย์หลัก: Mariko Honda (Yuuko Aioi), Mai Aizawa (Mio Naganohara), Shizuka Furuya (Mai Minakami)
- ผู้กำกับ: Tatsuya Ishihara
- จำนวนตอน: 26
- คะแนน IMDb: 8.4/10
7. Hetalia (พลังอักษะ เฮตาเลีย)
“Hetalia: Axis Powers” (พลังอักษะ เฮตาเลีย) เป็นอนิเมะแนวตลกเบาสมองที่นำเสนอประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศต่างๆ ผ่านตัวละครที่เป็นตัวแทนของประเทศนั้นๆ โดยแต่ละตัวละครจะมีบุคลิกและลักษณะนิสัยที่สะท้อนถึงภาพลักษณ์และวัฒนธรรมของประเทศนั้นๆ ตัวอย่างเช่น อิตาลีเป็นหนุ่มขี้เกียจที่รักพาสต้า เยอรมนีเป็นหนุ่มขยันและมีระเบียบ อเมริกาเป็นหนุ่มร่าเริงและชอบทำอะไรใหญ่โต เป็นต้น
เรื่องราวในอนิเมะจะเล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆ ในประวัติศาสตร์โลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 ผ่านมุมมองของตัวละครแต่ละตัว ทำให้ผู้ชมได้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่างๆ ทั้งในด้านมิตรภาพ ความขัดแย้ง และความร่วมมือกัน
แม้ว่า “Hetalia: Axis Powers” จะเป็นอนิเมะแนวตลก แต่ก็มีการสอดแทรกเกร็ดความรู้ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ทำให้ผู้ชมได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไปพร้อมกับความสนุกสนาน อีกทั้งยังเป็นอนิเมะที่เหมาะสำหรับผู้ชมทุกเพศทุกวัย
- ประเภท: อนิเมะ, คอมเมดี้, ประวัติศาสตร์
- วันที่ออกฉาย: 24 มกราคม 2009
- นักพากย์หลัก: Hiroki Yasumoto (Germany), Daisuke Namikawa (Italy), Katsuyuki Konishi (America), Noriaki Sugiyama (England)
- ผู้กำกับ: Bob Shirohata
- จำนวนตอน: 52 (ภาคแรก)
- คะแนน IMDb: 7.6/10
- ช่องทางรับชม: YouTube
8. Gintama (กินทามะ)
“กินทามะ” (Gintama) พาเราไปพบกับโลกในยุคเอโดะที่ถูกยึดครองโดยมนุษย์ต่างดาวที่เรียกว่า “ชาวสวรรค์” ซามูไร ซากาตะ กินโทกิ ตัวเอกของเรื่อง ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงชีพด้วยการรับจ้างสารพัดรูปแบบร่วมกับลูกจ้างหนุ่ม ชิมูระ ชินปาจิ และเด็กสาวต่างดาว คางุระ พวกเขาต้องเผชิญกับเรื่องราววุ่นวายและปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเมืองเอโดะ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้กับมนุษย์ต่างดาว แก๊งอันธพาล หรือแม้แต่เรื่องราวความรักวุ่นๆ
อนิเมะเรื่องนี้มีความโดดเด่นที่การผสมผสานความตลกขบขันเข้ากับฉากแอ็คชั่นสุดมันส์ และยังมีการเสียดสีสังคมและวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างเจ็บแสบ แต่ในขณะเดียวกันก็แฝงไปด้วยข้อคิดและความซาบซึ้งกินใจ ทำให้ “กินทามะ” กลายเป็นอนิเมะที่ครองใจผู้ชมทั่วโลก
นอกจากเนื้อเรื่องที่สนุกสนานแล้ว “กินทามะ” ยังมีตัวละครที่หลากหลายและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้ผู้ชมสามารถอินและเอาใจช่วยตัวละครได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น กินโทกิ ที่ภายนอกดูเหมือนคนไม่เอาไหน แต่จริงๆ แล้วเป็นคนมีน้ำใจและความสามารถ ชินปาจิ เด็กหนุ่มแว่นที่แม้จะดูธรรมดาแต่ก็มีความมุ่งมั่นและกล้าหาญ หรือ คางุระ เด็กสาวต่างดาวที่มีพละกำลังมหาศาลและนิสัยแก่นแก้ว
- ประเภท: อนิเมะ, แอ็คชั่น, ตลก, ไซไฟ, ดราม่า
- วันที่ออกฉาย: 4 เมษายน 2549
- นักพากย์หลัก: Tomokazu Sugita (ซากาตะ กินโทกิ), Daisuke Sakaguchi (ชิมูระ ชินปาจิ), Rie Kugimiya (คางุระ)
- ผู้กำกับ: Shinji Takamatsu (ภาคแรก), Yoichi Fujita (ภาค 2-4)
- จำนวนตอน: 367 ตอน + ภาพยนตร์ 2 เรื่อง
- คะแนน IMDb: 8.9/10
- ช่องทางรับชม: iQIYI
9. Space Dandy
“Space Dandy” เป็นอนิเมะแนวไซไฟ-คอมเมดี้ ที่จะพาคุณออกเดินทางไปกับ Dandy นักล่าเอเลี่ยนสุดหล่อ ที่มีภารกิจออกตามหาสิ่งมีชีวิตนอกโลกสายพันธุ์ใหม่ๆ ทั่วจักรวาล พร้อมกับลูกทีมสุดเพี้ยนอย่าง QT หุ่นยนต์ผู้ช่วย และ Meow มนุษย์แมว(?) นิสัยขี้เกียจ การผจญภัยของพวกเขาเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ความฮา และความแปลกประหลาด ที่จะทำให้คุณต้องทึ่งและหัวเราะไปพร้อมๆ กัน
แต่ละตอนของ “Space Dandy” จะเป็นเรื่องราวที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นการผจญภัยในดาวเคราะห์ที่ไม่เคยมีใครค้นพบ การต่อสู้กับเอเลี่ยนสุดโหด หรือแม้แต่การเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์วุ่นวายต่างๆ ในจักรวาล แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ คุณจะไม่มีทางเดาได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
“Space Dandy” ไม่ได้เป็นเพียงแค่การ์ตูนตลก แต่ยังแฝงไปด้วยปรัชญาและแนวคิดที่น่าสนใจเกี่ยวกับชีวิตและจักรวาล อีกทั้งยังมีสไตล์การเล่าเรื่องและภาพที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ “Space Dandy” เป็นอนิเมะที่ไม่เหมือนใครและควรค่าแก่การรับชม
- ประเภท: อนิเมะ, ไซไฟ, คอมเมดี้, ผจญภัย
- วันที่ออกฉาย: 4 มกราคม 2014
- นักพากย์หลัก: Junichi Suwabe (Dandy), Uki Satake (QT), Hiroyuki Yoshino (Meow)
- ผู้กำกับ: Shinichiro Watanabe (General Director), Shingo Natsume (Series Director)
- จำนวนตอน: 26
- คะแนน IMDb: 7.7/10
10. Level-E
Level-E เป็นอนิเมะแนวไซไฟ-คอมเมดี้ ที่เล่าเรื่องราวสุดป่วนบนดาวโลกที่มีเจ้าชายต่างดาวจากดาวดวงอื่นชื่อ “บากะ” มาเยือน เขาเป็นเจ้าชายที่แสนจะเพี้ยน หลุดโลก และชอบทำเรื่องแผลง ๆ ไม่เว้นแต่ละวัน เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อบากะยึดร่างของนักเรียนมัธยมปลายคนหนึ่งชื่อ ยูกิทากะ ซึซึอิ และใช้ชีวิตป่วน ๆ ในโรงเรียนและเมืองที่เขาอาศัยอยู่
แต่ความวายป่วงไม่ได้หยุดอยู่แค่ตัวเจ้าชายบากะเท่านั้น เพราะดาวโลกยังเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตนอกโลกอีกมากมาย ที่แต่ละตัวก็ล้วนมีนิสัยแปลกประหลาดไม่แพ้กัน การมาเยือนของพวกเขาทำให้เกิดเรื่องราวชวนหัวและชวนปวดหัวตามมาไม่หยุดหย่อน ทำให้ชีวิตของยูกิทากะและคนรอบข้างไม่สงบสุขอีกต่อไป
Level-E จะพาผู้ชมไปพบกับเรื่องราวสุดฮาที่คาดเดาไม่ได้ พร้อมกับตัวละครที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่จะมาสร้างสีสันและเสียงหัวเราะให้กับคุณ
- ประเภท: อนิเมะ, ไซไฟ, คอมเมดี้, ตลก
- วันที่ออกฉาย: 11 มกราคม 2011
- นักพากย์หลัก: Daisuke Namikawa (Prince Baka Ki El Dogra), Yoshimasa Hosoya (Yukitaka Tsutsui), Satomi Arai (Miho Edogawa)
- ผู้กำกับ: Toshiyuki Katō
- จำนวนตอน: 13
- คะแนน IMDb: 7.8/10
11. I Am Sakamoto (ซากาโมโต้ เทพศาสตร์)
“ซากาโมโต้ เทพศาสตร์” (Haven’t You Heard? I’m Sakamoto) เล่าเรื่องราวสุดแปลกประหลาดของ ซากาโมโต้ นักเรียนมัธยมปลายปี 1 ผู้เพียบพร้อมทั้งรูปร่างหน้าตา ความฉลาด และความสามารถรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเรียน กีฬา หรือแม้กระทั่งกิจกรรมอื่น ๆ เขาก็สามารถทำได้อย่างสมบูรณ์แบบและมีสไตล์เป็นเอกลักษณ์ จนกลายเป็นที่ชื่นชมของสาว ๆ และความอิจฉาของหนุ่ม ๆ
แต่ความสมบูรณ์แบบของซากาโมโต้กลับนำมาซึ่งเรื่องราวชวนปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน เมื่อเหล่านักเรียนชายพยายามกลั่นแกล้งหรือหาทางทำให้เขาเสียหน้า แต่ด้วยความสามารถอันเหนือชั้น ซากาโมโต้ก็สามารถเอาตัวรอดจากสถานการณ์เหล่านั้นได้อย่างน่าทึ่งและสร้างความประทับใจให้กับทุกคนรอบข้าง
อนิเมะเรื่องนี้ไม่ได้มีเนื้อหาที่ซับซ้อน แต่จะเน้นความสนุกสนานและเสียงหัวเราะผ่านการแสดงออกที่แปลกประหลาดแต่มีเสน่ห์ของซากาโมโต้ รวมถึงสถานการณ์สุดฮาที่เกิดขึ้นรอบตัวเขา ซึ่งจะทำให้ผู้ชมได้รับความบันเทิงและรอยยิ้มตลอดทั้งเรื่อง
- ประเภท: อนิเมะ, คอมเมดี้, ชีวิตในโรงเรียน
- วันที่ออกฉาย: 4 เมษายน 2559
- นักพากย์หลัก: Hikaru Midorikawa (Sakamoto)
- ผู้กำกับ: Shinji Takamatsu
- จำนวนตอน: 12
- คะแนน IMDb: 7.8/10
- ช่องทางรับชม: iQIYI
12. Arakawa Under The Bridge (หนุ่มจริงจังกับสาวติ๊งต๊อง)
“Arakawa Under The Bridge” เล่าเรื่องราวของ Kou Ichinomiya ทายาทมหาเศรษฐีหนุ่มผู้ยึดมั่นในหลักการ “ไม่ติดหนี้บุญคุณใคร” แต่แล้ววันหนึ่งเขากลับพลัดตกสะพาน Arakawa และได้รับความช่วยเหลือจาก Nino สาวน้อยประหลาดผู้ใช้ชีวิตอยู่ใต้สะพาน เพื่อชดใช้หนี้บุญคุณ Kou จึงต้องยอมทำตามข้อเสนอของ Nino นั่นคือการมาเป็น “แฟน” ของเธอและใช้ชีวิตอยู่ใต้สะพานด้วยกัน
ชีวิตใหม่ของ Kou ใต้สะพาน Arakawa เต็มไปด้วยผู้คนแปลกประหลาดและเหตุการณ์เหนือความคาดหมาย ไม่ว่าจะเป็นนายกเทศมนตรีที่แต่งตัวเป็น Kappa, ดาราชื่อดังที่อ้างว่าเป็นมนุษย์ต่างดาว, หรือแม่ชีที่เคยเป็นทหารผ่านศึก สิ่งเหล่านี้ทำให้ Kou ต้องปรับตัวและเรียนรู้ที่จะเปิดใจยอมรับความแตกต่างของผู้อื่น
แม้เรื่องราวจะเต็มไปด้วยความฮาและความไร้สาระ แต่ “Arakawa Under The Bridge” ก็ยังสอดแทรกข้อคิดเกี่ยวกับความรัก มิตรภาพ และการยอมรับในความแตกต่างของแต่ละบุคคล ซึ่งจะทำให้ผู้ชมได้รับความสนุกสนานและอบอุ่นหัวใจไปพร้อม ๆ กัน
- ประเภท: อนิเมะ, คอมเมดี้, โรแมนติก, แฟนตาซี
- วันที่ออกฉาย: 4 เมษายน 2010
- นักพากย์หลัก: Hiroshi Kamiya (Kou Ichinomiya), Maaya Sakamoto (Nino), Keiji Fujiwara (Hoshi)
- ผู้กำกับ: Akiyuki Shinbo
- จำนวนตอน: 13 (ภาคแรก) และ 13 (ภาคสอง)
- คะแนน IMDb: 7.8/10
13. The Devil Is A Part-Timer (ผู้กล้าซึนซ่าส์กับจอมมารสู้ชีวิต)
“The Devil is a Part-Timer! (ผู้กล้าซึนซ่าส์กับจอมมารสู้ชีวิต)” เล่าเรื่องราวสุดป่วนของจอมมารซาตานผู้ยิ่งใหญ่ ที่ต้องพ่ายแพ้ต่อผู้กล้า Emilia และหนีมาตั้งหลักที่โลกมนุษย์อย่างโลกเรา แต่ด้วยพลังเวทมนตร์ที่ลดลง เขาจึงต้องใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา ทำงานพาร์ทไทม์ในร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดเพื่อหาเลี้ยงชีพและวางแผนกลับไปยึดครอง Ente Isla อีกครั้ง
แต่ชีวิตในโลกมนุษย์ไม่ง่ายอย่างที่คิด ซาตานต้องเผชิญกับความยากลำบากในการปรับตัว ทั้งเรื่องค่าครองชีพ การทำงาน และการต้องรับมือกับผู้คนที่ไม่คุ้นเคย รวมถึง Emilia ที่ตามมาปราบเขาถึงโลกมนุษย์ เรื่องราวชวนหัวจึงเกิดขึ้นเมื่อจอมมารผู้ยิ่งใหญ่ต้องมาใช้ชีวิตติดดิน ทำงานหาเช้ากินค่ำ และต้องรับมือกับผู้กล้าที่กลายเป็นเพื่อนร่วมงาน
อนิเมะเรื่องนี้ไม่ได้เน้นฉากต่อสู้หรือความแฟนตาซีอลังการ แต่จะเน้นความสนุกสนานและเสียงหัวเราะผ่านสถานการณ์ชวนปวดหัวของซาตานและ Emilia รวมถึงตัวละครอื่น ๆ ที่เข้ามาสร้างสีสันให้กับเรื่องราว ความสัมพันธ์ของตัวละครแต่ละคู่มีความน่าสนใจและมีพัฒนาการที่น่าติดตาม ทำให้ผู้ชมสามารถอินไปกับเรื่องราวได้อย่างเต็มที่
- ประเภท: อนิเมะ, คอมเมดี้, แฟนตาซี, โรแมนติก
- วันที่ออกฉาย: 4 เมษายน 2013
- นักพากย์หลัก: Ryota Osaka (Sadao Maou/Satan), Yoko Hikasa (Emi Yusa/Emilia), Nao Toyama (Chiho Sasaki), Yuki Ono (Shiro Ashiya/Alciel), Hiro Shimono (Hanzou Urushihara/Lucifer)
- ผู้กำกับ: Naoto Hosoda
- จำนวนตอน: 13
- คะแนน IMDb: 7.7/10
- ช่องทางรับชม: Muse Thailand, Bilibili, Disney+, Crunchyroll (ซับไทย)
14. The Disastrous Life Of Saiki K. (ไซคิหนุ่มพลังจิตอลเวง)
The Disastrous Life of Saiki K.” หรือที่รู้จักกันในชื่อไทยว่า “ไซคิหนุ่มพลังจิตอลเวง” เป็นเรื่องราวของไซคิ คุสึโอะ เด็กหนุ่มมัธยมปลายผู้มีพลังจิตเหนือมนุษย์ เขาสามารถทำได้ทุกอย่างตั้งแต่บินไปจนถึงอ่านใจคน แต่แทนที่พลังพิเศษเหล่านี้จะทำให้ชีวิตง่ายขึ้น กลับกลายเป็นว่ามันทำให้ชีวิตของไซคิเต็มไปด้วยความวุ่นวาย เพราะเขาต้องคอยปกปิดพลังของตัวเองจากคนรอบข้างและหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่จะทำให้เขาต้องใช้พลัง
แต่ถึงแม้ไซคิจะพยายามใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาแค่ไหน เขาก็ยังหนีไม่พ้นเรื่องราวอลหม่านที่เกิดขึ้นรอบตัวเขา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นสุดเพี้ยน ครอบครัวสุดแปลก หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยงที่ไม่ธรรมดา ไซคิจึงต้องใช้พลังจิตของเขาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและรับมือกับสถานการณ์สุดป่วนที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน
อนิเมะเรื่องนี้เป็นแนวคอมเมดี้ที่เน้นความฮาแบบสุดขั้ว ตัวละครแต่ละตัวมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและสร้างเสียงหัวเราะได้ตลอดทั้งเรื่อง นอกจากนี้ยังมีการล้อเลียนและเสียดสีสังคมได้อย่างเจ็บแสบ ทำให้ผู้ชมได้ทั้งความสนุกสนานและข้อคิดไปพร้อม ๆ กัน
- ประเภท: อนิเมะ, คอมเมดี้, เหนือธรรมชาติ
- วันที่ออกฉาย: 4 กรกฎาคม 2016
- นักพากย์หลัก: Hiroshi Kamiya (Kusuo Saiki)
- ผู้กำกับ: Hiroaki Sakurai
- จำนวนตอน: 24 (Season 1), 24 (Season 2), 6 (Reawakened)
- คะแนน IMDb: 8.2/10
- ช่องทางรับชม: Netflix
15. Maid-Sama! (สาวเมดผจญหนุ่มสุดป่วน)
“Maid-Sama! (สาวเมดผจญหนุ่มสุดป่วน)” เป็นอนิเมะแนวโรแมนติกคอมเมดี้ที่เล่าเรื่องราวของมิซากิ อายุซาวะ ประธานนักเรียนหญิงสุดเฮี้ยบของโรงเรียนเซย์กะ ซึ่งเดิมเป็นโรงเรียนชายล้วน เธอเป็นที่เกรงขามของเหล่านักเรียนชายด้วยความเข้มงวดและความสามารถรอบด้าน แต่เบื้องหลังภาพลักษณ์ประธานนักเรียนสุดโหด เธอกลับต้องทำงานพิเศษเป็นสาวเมดในร้าน Maid Latte เพื่อหาเงินช่วยเหลือครอบครัว
ชีวิตสองด้านของมิซากิเป็นความลับสุดยอด จนกระทั่งวันหนึ่ง ทาคุมิ อุซุย หนุ่มหล่อสุดฮอตประจำโรงเรียน ดันมาพบเธอขณะทำงานในร้านเมด ความลับของมิซากิจึงตกอยู่ในกำมือของอุซุย แต่แทนที่จะเปิดเผยเรื่องนี้ อุซุยกลับกลายเป็นลูกค้าประจำของร้าน Maid Latte และคอยแกล้งแหย่มิซากิอยู่เสมอ เรื่องราวชวนปวดหัวและน่ารักจึงเริ่มต้นขึ้น
อนิเมะเรื่องนี้เต็มไปด้วยฉากตลกขบขันและโมเมนต์โรแมนติกกุ๊กกิ๊กของมิซากิและอุซุย ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ค่อยๆ พัฒนาขึ้นจากการหยอกล้อและทะเลาะกัน จนกลายเป็นความรู้สึกดีๆ ที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น นอกจากนี้ ยังมีตัวละครสนุกสนานอีกมากมายที่เข้ามาสร้างสีสันและความวุ่นวายให้กับเรื่องราว
- ประเภท: อนิเมะ, โรแมนติก, คอมเมดี้, ชีวิตในโรงเรียน
- วันที่ออกฉาย: 1 เมษายน 2010
- นักพากย์หลัก: Ayumi Fujimura (Misaki Ayuzawa), Nobuhiko Okamoto (Takumi Usui)
- ผู้กำกับ: Hiroaki Sakurai
- จำนวนตอน: 26
- คะแนน IMDb: 8.1/10
- ช่องทางรับชม: iQIYI
16. Cells At Work (เซลล์ขยันพันธุ์เดือด)
“Cells At Work! (เซลล์ขยันพันธุ์เดือด)” พาคุณดำดิ่งสู่โลกภายในร่างกายมนุษย์ ที่ซึ่งเซลล์นับล้านล้านกำลังทำงานอย่างขันแข็งเพื่อให้ระบบต่าง ๆ ดำเนินไปอย่างราบรื่น เรื่องราวเน้นไปที่เซลล์เม็ดเลือดแดง AE3803 สาวน้อยจอมเปิ่นผู้ทำหน้าที่ขนส่งออกซิเจน และเซลล์เม็ดเลือดขาว U-1146 หนุ่มนักรบผู้ทำหน้าที่กำจัดเชื้อโรคที่บุกรุกเข้ามา
การผจญภัยของพวกเขาเต็มไปด้วยอุปสรรคและอันตราย ตั้งแต่การเผชิญหน้ากับเชื้อแบคทีเรียร้าย ไปจนถึงการรับมือกับบาดแผลและโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ แต่ด้วยความร่วมมือร่วมใจและความเสียสละของเซลล์ทุกชนิด ทำให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูและกลับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง
อนิเมะเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การ์ตูนสนุกสนาน แต่ยังสอดแทรกความรู้ทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการทำงานของเซลล์และระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ทำให้ผู้ชมได้เรียนรู้ไปพร้อมกับความเพลิดเพลิน
- ประเภท: อนิเมะ, คอมเมดี้, ชีวิตประจำวัน, วิทยาศาสตร์
- วันที่ออกฉาย: 7 กรกฎาคม 2018
- นักพากย์หลัก: Kana Hanazawa (เซลล์เม็ดเลือดแดง AE3803), Tomoaki Maeno (เซลล์เม็ดเลือดขาว U-1146)
- ผู้กำกับ: Kenichi Suzuki
- จำนวนตอน: 13 (ซีซั่น 1)
- คะแนน IMDb: 7.7/10
- ช่องทางรับชม: WeTV, True ID, Bilibili, iQIYI, Netflix, Bilibili
17. Lupin The Third: The Castle Of Cagliostro
“Lupin The Third: The Castle Of Cagliostro” (ลูแปงที่ 3: ปราสาทแห่งคากลิออสโตร) เป็นภาพยนตร์อนิเมะที่เล่าถึงการผจญภัยครั้งใหม่ของจอมโจรลูแปงที่ 3 หลังจากปล้นคาสิโนมอนติคาร์โลได้สำเร็จ ลูแปงและจิเก็นคู่หูของเขาก็พบว่าเงินที่ได้มานั้นเป็นของปลอม พวกเขาจึงตามล่าหาต้นตอของเงินปลอมนี้ไปยังประเทศเล็กๆในยุโรปที่ชื่อว่าคากลิออสโตร
ที่คากลิออสโตร ลูแปงได้พบกับเจ้าหญิงคลาริสผู้ถูกบังคับให้แต่งงานกับเคานต์คากลิออสโตรผู้ชั่วร้าย ลูแปงจึงตัดสินใจช่วยเหลือเจ้าหญิงและเปิดโปงความลับดำมืดของเคานต์คากลิออสโตร การผจญภัยครั้งนี้เต็มไปด้วยอันตรายและความตื่นเต้น ลูแปงต้องใช้ไหวพริบและทักษะการโจรกรรมของเขาเพื่อเอาชนะอุปสรรคต่างๆ และไขปริศนาของปราสาทแห่งคากลิออสโตร
ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่เป็นการผจญภัยที่สนุกสนานเท่านั้น แต่ยังมีฉากแอ็กชันที่น่าตื่นเต้นและฉากตลกที่ทำให้ผู้ชมหัวเราะได้ นอกจากนี้ยังมีการสำรวจประเด็นทางสังคม เช่น ความโลภและการใช้อำนาจในทางที่ผิด ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความลึกซึ้งและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
- ประเภท: อนิเมะ, แอ็กชัน, ผจญภัย, คอมเมดี้
- วันที่ออกฉาย: 15 ธันวาคม 1979 (ญี่ปุ่น)
- นักพากย์หลัก: Yasuo Yamada (Lupin III), Kiyoshi Kobayashi (Daisuke Jigen), Eiko Masuyama (Fujiko Mine), Makio Inoue (Goemon Ishikawa XIII), Goro Naya (Inspector Zenigata)
- ผู้กำกับ: Hayao Miyazaki
- ความยาว: 1 ชั่วโมง 40 นาที
- คะแนน IMDb: 7.6/10
18. K-On (เค-อง! ก๊วนดนตรีแป๋วแหวว)
“K-On! ก๊วนดนตรีแป๋วแหวว” เป็นอนิเมะที่เล่าเรื่องราวของกลุ่มนักเรียนหญิงสี่คนที่เข้าร่วมชมรมดนตรีเบาๆ โดยไม่ได้มีความรู้หรือประสบการณ์ทางดนตรีมาก่อนเลย Yui Hirasawa สาวน้อยผู้ร่าเริงและมองโลกในแง่ดี ตัดสินใจเข้าร่วมชมรมโดยเข้าใจผิดว่าเป็นชมรมดนตรีง่ายๆ อย่างการตีเครื่องดนตรีคล้ายคาสตาร์เน็ต แต่ที่จริงแล้วชมรมนี้เป็นชมรมดนตรีที่ใช้เครื่องดนตรีจริงจัง
เมื่อ Yui และเพื่อนๆ เริ่มเรียนรู้การเล่นดนตรี พวกเธอได้พบกับความท้าทายและอุปสรรคมากมาย แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ พวกเธอค่อยๆ พัฒนาฝีมือและค้นพบความสุขในการเล่นดนตรีร่วมกัน เรื่องราวของ K-On! ไม่ได้เน้นที่การแข่งขันหรือความสำเร็จทางดนตรี แต่เน้นที่มิตรภาพ ความสนุกสนาน และการเติบโตของตัวละคร
อนิเมะเรื่องนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ความอบอุ่น และความน่ารักของตัวละคร ทำให้ผู้ชมรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขไปกับการติดตามชีวิตประจำวันของพวกเธอ นอกจากนี้ เพลงประกอบอนิเมะยังเป็นที่นิยมอย่างมากและมีส่วนสำคัญในการสร้างบรรยากาศความสนุกสนานให้กับเรื่องราว
- ประเภท: อนิเมะ, ดนตรี, ชีวิตประจำวัน, คอมเมดี้
- วันที่ออกฉาย: 3 เมษายน 2009
- นักพากย์หลัก: Aki Toyosaki (Yui Hirasawa), Yoko Hikasa (Mio Akiyama), Satomi Sato (Ritsu Tainaka), Minako Kotobuki (Tsumugi Kotobuki), Ayana Taketatsu (Azusa Nakano)
- ผู้กำกับ: Naoko Yamada
- จำนวนตอน: 13 (ซีซั่นแรก), 26 (ซีซั่นสอง)
- คะแนน IMDb: 7.8/10
19. KonoSuba – God’s Blessing On This Wonderful World
“KonoSuba – God’s Blessing On This Wonderful World” เล่าเรื่องราวสุดฮาของ คาซึมะ ซาโต้ เด็กหนุ่มผู้คลั่งไคล้เกมจนถึงขั้นเก็บตัว ไม่คาดคิดว่าชีวิตจริงของเขาจะจบลงอย่างรวดเร็วและน่าอับอาย แต่แทนที่จะได้ไปสู่สุคติ เขากลับถูกส่งไปยังโลกแฟนตาซีพร้อมกับเทพธิดาสุดเพี้ยนชื่อ อควอ ที่เสนอให้เขาเลือกสิ่งใดก็ได้ติดตัวไปด้วย คาซึมะ ผู้เบื่อหน่ายเทพธิดาจอมก่อเรื่องวุ่นวาย จึงเลือกพาตัวอควอไปด้วย นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยสุดป่วน ที่ทั้งคู่ต้องร่วมมือกันปราบจอมมาร แม้ว่าจะต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายจากความไร้ความสามารถของตัวเองและสหายร่วมทีมสุดเพี้ยน
อนิเมะเรื่องนี้ไม่ได้เน้นความสมจริงหรือซีเรียส แต่กลับสร้างเสียงหัวเราะผ่านตัวละครที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและสถานการณ์สุดป่วนที่ไม่คาดคิด มุกตลกส่วนใหญ่มาจากความโง่เง่าของตัวละคร การเล่นมุกแป้ก และการเสียดสีแนวคิดของโลกแฟนตาซีทั่วไป ทำให้ผู้ชมได้หัวเราะจนท้องแข็ง
นอกจากความสนุกสนานแล้ว “KonoSuba” ยังสอดแทรกข้อคิดเกี่ยวกับมิตรภาพ การทำงานเป็นทีม และการยอมรับในความแตกต่างของผู้อื่น แม้ว่าตัวละครแต่ละตัวจะมีข้อบกพร่องมากมาย แต่พวกเขาก็สามารถร่วมมือกันผ่านพ้นอุปสรรคต่าง ๆ ได้ด้วยความสามัคคีและการสนับสนุนซึ่งกันและกัน
- ประเภท: อนิเมะ, คอมเมดี้, ผจญภัย, แฟนตาซี
- วันที่ออกฉาย: 4 มกราคม 2016
- นักพากย์หลัก: Jun Fukushima (Kazuma Satou), Sora Amamiya (Aqua), Rie Takahashi (Megumin), Ai Kayano (Darkness)
- ผู้กำกับ: Takaomi Kanasaki
- จำนวนตอน: 2 ฤดูกาล (20 ตอน) + 1 ภาคแยก (10 ตอน) + ภาพยนตร์ 1 เรื่อง
- คะแนน IMDb: 7.8/10
- ช่องทางรับชม: Netflix, Bilibili, Ani-One Thailand (พากย์), Ani-One (Eng), Prime Video (ซับ/พากย์), Crunchyroll
20. Assassination Classroom
“Assassination Classroom” เป็นเรื่องราวสุดแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธยมต้นคุนุกิงาโอกะ เมื่อสิ่งมีชีวิตปริศนาที่มีรูปร่างคล้ายปลาหมึกสีเหลือง ได้ทำลายดวงจันทร์จนเสียหายไปกว่า 70% และประกาศว่าจะทำลายโลกในปีหน้า แต่ก่อนจะถึงวันนั้น มันได้เสนอตัวเป็นครูประจำชั้นของห้อง 3-E ซึ่งเป็นห้องเรียนที่รวบรวมนักเรียนที่มีผลการเรียนย่ำแย่ที่สุดของโรงเรียน โดยมีข้อแม้ว่านักเรียนเหล่านั้นจะต้องหาทางลอบสังหารมันให้ได้ก่อนจบการศึกษา
สิ่งมีชีวิตปริศนาที่เรียกตัวเองว่า “โคโระเซนเซ” นั้น มีความสามารถพิเศษมากมาย ทั้งความเร็วเหนือเสียง ความฉลาดหลักแหลม และพลังทำลายล้างมหาศาล ทำให้การลอบสังหารเป็นไปได้ยากอย่างยิ่ง แต่นักเรียนห้อง 3-E ก็ไม่ยอมแพ้ พวกเขาได้รับการฝึกฝนทักษะการลอบสังหารจากโคโระเซนเซเอง พร้อมกับเรียนรู้วิชาการและทักษะชีวิตอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์
ในขณะที่ภารกิจลอบสังหารดำเนินไป ความสัมพันธ์ระหว่างโคโระเซนเซและนักเรียนก็ค่อย ๆ พัฒนาขึ้น พวกเขาได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน สร้างความผูกพัน และเติบโตขึ้นทั้งในด้านความสามารถและจิตใจ ทำให้ห้องเรียนลอบสังหารกลายเป็นมากกว่าแค่ภารกิจ แต่เป็นประสบการณ์ชีวิตที่มีค่าและน่าจดจำ
- ประเภท: อนิเมะ, แอ็กชัน, คอมเมดี้, วิทยาศาสตร์
- วันที่ออกฉาย: 10 มกราคม 2015 (ซีซั่น 1), 8 มกราคม 2016 (ซีซั่น 2)
- นักพากย์หลัก: Jun Fukuyama (โคโระเซนเซ), Mai Fuchigami (นางิสะ ชิโอตะ), Ryota Ohsaka (ยูมะ อิโซไง), Saori Onishi (ไคริ คายาโนะ)
- ผู้กำกับ: Seiji Kishi
- จำนวนตอน: 22 (ซีซั่น 1), 25 (ซีซั่น 2)
- คะแนน IMDb: 8.0/10
- ช่องทางรับชม: Muse Thailand (ซับ/พากย์), Netflix, Bilibili
ทิ้งท้าย
อนิเมะเป็นสื่อบันเทิงที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยเนื้อเรื่องที่หลากหลาย ตัวละครที่มีเสน่ห์ และภาพที่สวยงาม อนิเมะจึงสามารถดึงดูดผู้ชมได้ทุกเพศทุกวัย
หากกำลังมองหาอนิเมะน่าดูสนุก ๆ สักเรื่อง บทความนี้ก็ได้แนะนำอนิเมะยอดนิยมหลายเรื่องไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นแนวแอ็กชันต่อสู้ แนวแฟนตาซี แนวกีฬา หรือแนวชีวิตประจำวัน รับรองว่าคุณจะเพลิดเพลินไปกับอนิเมะเหล่านี้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ยังมีอนิเมะอีกมากมายที่น่าสนใจรอให้คุณไปค้นหา คุณสามารถค้นหาอนิเมะที่ชอบได้จากเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมายในปัจจุบัน ขอให้สนุกกับการดูอนิเมะนะคะ