นิวยอร์กขึ้นชื่อเรื่องค่าครองชีพสูงมาโดยตลอด แต่สถานการณ์ที่อยู่อาศัยในปัจจุบันกลับเลวร้ายลงยิ่งกว่าเดิม โดยเฉพาะในช่วงปีที่ผ่านมา ค่าเช่าที่อยู่อาศัยพุ่งสูงขึ้นกว่าค่าแรงถึง 7 เท่า!
มากกว่าครึ่งหนึ่งของชาวนิวยอร์กกำลังเผชิญกับภาระค่าเช่าที่สูงเกิน 30% ของรายได้ก่อนหักภาษี หนักกว่านั้นคือ 1 ใน 3 ของผู้เช่าต้องจ่ายค่าเช่ามากกว่าครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมด
แม้แต่ผู้ที่ทำงานในสายงานเทคโนโลยี ซึ่งมีรายได้เฉลี่ยสูงถึง $135,089 ต่อปี ก็ยังไม่สามารถหาที่พักอาศัยที่เหมาะสมได้
รายงานจาก StreetEasy และ Tech:NYC ระบุว่า ในปีที่แล้ว ผู้ที่ทำงานในสายงานเทคโนโลยีสามารถหาที่พักที่ราคาไม่เกิน 30% ของรายได้ได้เพียง 35% ของที่พักทั้งหมดที่มีอยู่ในตลาด
อัตราค่าเช่าที่อยู่อาศัยในนิวยอร์กซิตี้ที่สามารถจ่ายได้ โดยจำแนกตามกลุ่มอาชีพ
สถานการณ์ในแมนฮัตตัน ซึ่งเป็นศูนย์กลางของงานเทคโนโลยีในนิวยอร์ก ยิ่งเลวร้ายลงไปอีก ค่าเช่าเฉลี่ยในแมนฮัตตันอยู่ที่ $4,000 ต่อเดือน ทำให้ผู้ที่เริ่มทำงานในสายงานนี้และมีรายได้เฉลี่ย $75,262 ต่อปี แทบจะไม่สามารถหาที่พักได้เลย
วิกฤตนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบเพียงแค่ผู้ที่มีรายได้สูงเท่านั้น แต่ยังกระทบต่อผู้มีรายได้น้อยอย่างรุนแรงอีกด้วย ผู้ที่ทำงานในสายงานบริการสุขภาพ และผู้ที่ทำงานในร้านอาหาร เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด
ปัญหาที่อยู่อาศัยในนิวยอร์กกำลังส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้คนในวงกว้าง และเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง
สรุป
วิกฤตที่อยู่อาศัยในนิวยอร์กได้ทวีความรุนแรงขึ้น ส่งผลกระทบต่อผู้คนทุกระดับรายได้ แม้แต่ผู้ที่ทำงานในสายงานเทคโนโลยีที่มีรายได้สูงก็ยังไม่สามารถหาที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมได้ ปัญหานี้ต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วนเพื่อให้ชาวนิวยอร์กทุกคนสามารถมีที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดี