รวบจับ “ติ๊งค์” ลูก “วรกร จาติกวณิช” ภรรยาอดีต รมว.คลัง พร้อมโคเคน

จับ ติ๊งค์ ลูก วรกร จาติกวณิช พร้อมโคเคน

ตำรวจ สน.ทองหล่อ รวบจับ “ติ๊งค์” ลูก วรกร จาติกวณิช ภรรยาอดีต รมว.คลัง พร้อมของกลางโคเคน 0.920 กรัม

วันที่ 3 พ.ค.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.คมสาร ของพิมาย รอง สวป.สน.ทองหล่อ ได้จับกุมตัว นาย พันธิตร มหาเปารยะ หรือ ติ๊งค์ อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นบุตรชายของ นาง วรกร จาติกวณิช ภรรยาของ นาย กรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยนายพันธิตรเป็นพี่ชายของ นาย พงศกร มหาเปารยะ หรือ แต๊งค์ อดีตดาราหนุ่ม พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 2 หรือ โคเคน 1 ถุง น้ำหนัก 0.920 กรัม

โดยถูกจับกุมได้ที่จุดตรวจค้น อาคารโอเซียนทาวน์ ถนนรัชดาภิเษก ซึ่งได้นั่งแท็กซี่ผ่านมา และ ทำท่าทีมีพิรุธคล้ายคนติดยาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงได้เรียกรถแท็กซี่ให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น

ทั้งนี้ จากการตรวจค้นเบื้องต้นพบถุงพลาสติกใสขนาดเล็กแบบกดปิดเลื่อนเปิด พร้อมด้วยหลอดบัตรพลาสติกสีดำซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋ากางเกงด้านข้างซ้ายมือของนายพันธิตร สอบถามให้การยอมรับว่า หลอดพลาสติกดังกล่าวใช้สำหรับเป็นอุปกรณ์เสพยาเสพติด และถุงพลาสติกใสขนาดเล็กแบบกดปิดเลื่อนเปิดใช้สำหรับบรรจุยาเสพติด

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสอบถามต่อว่า ยังมียาเสพติดอยู่อีกหรือไม่ โดยนายพันธิตร ยอมรับว่ายังมียาเสพติดให้โทษซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสตางค์ ที่ใส่อยู่ในเป้สะพายสีดำ จากนั้นนายพันธิตรจึงได้หยิบกระเป๋าสตางค์ใบดังกล่าวแล้วล้วงยาเสพติดออกมาส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 2 ไว้ในครอบครอง

นาย พันธิตร หรือ ติ๊งค์ นั้นเป็น ลูกของภรรยานายกรณ์ ที่เกิดจากสามีเก่า และต่อมาได้เลิกรากัน จนกระทั่งนางวรกร ได้มาแต่งงานกับนายกรณ์ ในเวลาต่อมา

นาง วรกร จาติกวณิช โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก

ขอขอบคุณทุกคนที่ส่งข้อความมาให้กำลังใจนะคะ ที่รู้ว่าเรื่องอะไรก็เพราะคนบอกให้เข้มแข็งนี่แหละ ได้อ่านข่าวจากมติชนออนไลน์ (ท่าจะรีบเขียนมาก เขียนผิดๆถูกๆ) บอกว่า ลูกถูกจับตั้งแต่ตี 4 กว่าจะเอาข่าวมาลงได้ก็ตอนทุ่มครึ่ง

แม่ได้อ่านตอนสองทุ่มครึ่ง(เพราะมีคนส่งมาให้ดู พร้อมวิจารณ์ว่าเขียนข่าวได้แปลกมาก เหมือนคนเมายาเขียน) ลูกก็ไม่เห็นติดต่อมาว่ายังไงเลย อาจจะกลัวแม่มากกว่าตำรวจก็ไม่รู้ ..

ถ้าลูกทำผิดจริงก็ต้องรับโทษไปตามกฎหมาย

กรณ์ ขอโทษแทนลูกเลี้ยง

ต้องขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ผมและภรรยานะครับ ในฐานะคนในครอบครัวเดียวกัน ในเมื่อติ๊งได้ออกมาขอโทษและให้คำมั่นว่าจะปรับปรุงตัวเอง เราก็ต้องให้โอกาสและความช่วยเหลือ นอกจากนั้นก็คือปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายตามปกติ เมื่อคืนเขาก็นอนในห้องขังอยู่หนึ่งคืน คงจะได้คิดอะไรบ้าง และเท่าที่ทราบเจ้าตัวเขาก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยดี วันนี้หากศาลกรุณาเราก็คงไปประกันตัวเขาออกมาและรอฟังคำสั่งศาลต่อไป

ในฐานะที่ติ๊งเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว ผมอยากจะขอโทษแทนน้องเขา บทเรียนครั้งนี้น่าจะทำให้เขาโตขึ้น และหวังว่าสังคมจะให้โอกาสเขาในอนาคต หลังจากกระบวนการทางกฏหมายต่างๆ สิ้นสุดแล้ว

หากมีข้อเสนอแนะใด ที่ผมในฐานะพ่อเลี้ยงและหัวหน้าครอบครัวคนหนึ่งพึงกระทำอีก ผมพร้อมเปิดใจรับฟังนะครับ ด้วยความขอบคุณ