ต้นไม้เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความสำคัญต่อโลกของเราเป็นอย่างมาก นอกจากจะเป็นแหล่งผลิตออกซิเจนและดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์แล้ว ต้นไม้ยังให้ร่มเงาและที่อยู่อาศัยแก่สิ่งมีชีวิตอื่นๆอีกด้วย นิทานชาดกเรื่อง “ธรรมสำหรับต้นไม้” สอนให้เราเห็นถึงคุณค่าของต้นไม้และความสัมพันธ์ระหว่างต้นไม้กับสิ่งมีชีวิตอื่นๆในโลกใบนี้
ธรรมสำหรับต้นไม้
ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้า ประทับอยู่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี ทรงปรารภถึงความพินาศใหญ่ที่กำลังจะเกิดแก่พระประยูรญาติของพระองค์ เพราะทะเลาะกันเรื่องน้ำ ขอให้สมานสามัคคีร่วมใจกัน ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธกว่า…
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ท้าวเวสวรรณมหาราชถึงคราวจุติ จึงส่งข่าวไปยังเทพยดาให้จับจองต้นไม้ กอไผ่ พุ่มไม้และเครือไม้ทำเป็นวิมานสถานที่อยู่ รุกขเทวดาตนหนึ่ง จึงประกาศในท่ามกลางหมู่ญาติ ให้จับจองต้นไม้ทำเป็นวิมานสถานที่อยู่ อย่าไปอยู่บนเนิน ให้อยู่รวมกันที่ป่ารัง พวกเทพยดาที่เป็นบัณฑิตต่างก็ทำตามคำสั่งของรุกขเทวดานั้น ส่วนพวกเทพยดาผู้ไม่ใช่บัณฑิตไม่เชื่อคำ จึงพากันไปจับจองวิมานอยู่ตามประตูบ้าน ประตูเมือง ถิ่นที่อยู่ของมนุษย์ด้วยหวังในลาภยศอันเลิศ ได้เลือกต้นไม้ใหญ่บนเนินเป็นวิมานที่อยู่อาศัย
อยู่มาวันหนึ่ง เกิดลมพายุฝนห่าใหญ่ถอนรากโคนต้นไม้ใหญ่ล้มลงหมด เหลือไว้แต่ป่ารังซึ่งอยู่ติดชิดกันหนาแน่น พวกเทพยดาที่อยู่ต้นไม้ใหญ่ต่างจูงลูกไปหาพวกรุกขเทวดาที่ป่ารัง ขออาศัยอยู่ด้วย รุกขเทวดาที่ป่ารังจึงกล่าวว่า
“ชื่อว่า ผู้ไม่เชื่อถือคำของหมู่บัณฑิต แล้วพากันไปสู่สถานที่อันหาปัจจัยมิได้ ย่อมเป็นอย่างนี้ทั้งนั้น”
แล้วกล่าวคาถาว่า
“ญาติยิ่งมีมากยิ่งดี แม้ต้นไม้เกิดในป่า ยิ่งมีมากก็ยิ่งดี (เพราะ) ต้นไม้ที่ยืนต้นอยู่โดดเดี่ยว ถึงจะใหญ่โต ลมย่อมพัดให้หักโค่นได้”
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
ทุกคนควรมีญาติพี่น้องเป็นที่พึ่งพิง