กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ฝูงนกได้ประชุมกันเพื่อคัดเลือกหัวหน้า นกเค้าตัวหนึ่งได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหัวหน้า แต่มีกาตัวหนึ่งไม่เห็นด้วย กาตัวนั้นพูดว่า “หน้าตาของนกเค้าดูดุร้าย ถ้าโกรธขึ้นมาจะน่ากลัวมาก ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วย” คำพูดของกาทำให้นกเค้าโกรธมาก และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กากับนกเค้าก็กลายเป็นศัตรูกัน นิทานชาดกเรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่า การเลือกผู้นำนั้นควรพิจารณาจากคุณสมบัติและบุคลิกภาพ ไม่ใช่แค่หน้าตาภายนอกเท่านั้น
กากับนกเค้า
ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวันเมืองสาวัตถี ทรงปรารภการทะเลาะกันของกากับนกเค้า เรื่องมีอยู่ว่า ในสมัยนั้น กาจะทำร้ายนกเค้าในเวลากลางวัน นกเค้าจะทำร้ายกาในเวลากลางคืน ทำให้บริเวณวัดเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดนก พวกภิกษุได้กวาดซากศพของนกกาไปทิ้งเป็นจำนวนมาก เพื่อคลายความสงสัยของพวกภิกษุ พระองค์ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า…
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในครั้งปฐมกัลป์พวกสัตว์ทั้งหลายได้เลือกผู้นำของตนเองกล่าวคือ พวกมนุษย์เลือกชายผู้มีรูปร่างสวยงาม มีมารยาทเรียบร้อยและมีสติปัญญาเป็นพระราชา พวกสัตว์ 4 เท้าเลือกราชสีห์เป็นหัวหน้า พวกปลาเลือกปลาอานนท์เป็นหัวหน้า
ฝ่ายพวกนกมาประชุมกันที่ป่าแห่งหนึ่งแล้วทำการคัดเลือกหัวหน้า ฝูงนกเสนอให้นกเค้าขึ้นเป็นหัวหน้า แต่มีกาตัวหนึ่งพูดคัดค้านขึ้นว่า
“ท่านทั้งหลาย หน้าตาของนกเค้าขนาดยังไม่โกรธก็ยังเป็นเช่นนี้ ถ้าเขาโกรธขึ้นมาจะดูได้หรือ ผู้ที่จะเป็นหัวหน้าจะต้องหน้าตาดูดีกว่านี้ ข้าพเจ้าไม่เห็นดีด้วย”
Advertisement
แล้วกล่าวเป็นคาถาว่า
“ขอความเจริญรุ่งเรืองจงมีแก่ท่านทั้งหลาย การแต่งตั้งนกเค้าให้เป็นใหญ่ ข้าพเจ้ายังไม่ชอบใจ ท่านจงมองดูหน้านกเค้าที่ยังไม่โกรธดูซิ ถ้านกเค้าโกรธจะทำหน้าอย่างไร”
ว่าแล้วก็บินร้องไปในอากาศว่า “ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วย ๆ” ฝ่ายนกเค้าโกรธมากที่ถูกกาว่าร้ายได้บินไล่กานั้นไป ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมากากับนกเค้าได้จองเวรกันและกันจนถึงปัจจุบัน สุดท้ายพวกนกได้เลือกหงส์ทองให้เป็นหัวหน้านก
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
เป็นผู้นำคนหน้าตาจะต้องยิ้มแย้มเบิกบานเป็นที่สบายใจของลูกน้องและผู้พบเห็น