อาจารย์รุหกะ เป็นนิทานชาดกที่สอนให้รู้จักระวังคำพูดของผู้อื่น เพราะคำพูดอาจนำมาซึ่งความอับอายได้ เรื่องราวเริ่มต้นเมื่ออาจารย์รุหกะได้รับม้าตัวหนึ่งจากพระราชา ด้วยความที่เป็นคนหลงรูป จึงหลงคิดว่าตัวเองหล่อเหลา จึงเชื่อคำพูดของภรรยาที่ยุยงให้เดินซอยเท้าเหมือนม้า ปรากฏว่าผู้คนที่เห็นต่างพากันหัวเราะเยาะ ทำให้อาจารย์รุหกะรู้สึกอับอายและโกรธภรรยามาก สุดท้ายจึงเลิกรากับภรรยาไป
อาจารย์รุหกะ
ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี ทรงปรารภภิกษุรูปหนึ่งผู้ถูกภรรยาเก่าหัวเราะเยาะเย้ย ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า…
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพระราชา ครองเมืองพาราณสี ทรงตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรม พระองค์มีปุโรหิตคนหนึ่งชื่อว่า รุหกะ เขามีภรรยาชื่อว่าปุรณีพราหมณี พระราชาได้พระราชทานม้าตัวหนึ่งพร้อมเครื่องประดับแก่ท่านรุหกะปุโรหิตนั้นไปใช้เป็นพาหนะว่าราชการ
วันหนึ่งท่านรุหกะปุโรหิตขี่ม้าไปราชการ ชาวบ้านที่พบเห็นได้พากันชมม้าของเขาว่า “แม่เจ้าโว้ย ม้าต้วนี้ช่างงามแท้” พอเขาได้กลับไปถึงบ้านพร้อมกับรอยยิ้มได้เรียกภรรยามาพูดอวดว่า “นี่น้องม้าของพี่งามเหลือเกิน ไครๆ เขาก็ชมกันทั้งนั้นนะ
น้องว่าจริงไหมจ๊ะ” ภรรยาของเขาค่อนข้างจะมีนิสัยเป็นนักเลงอยู่บ้างจึงพูดตอบแบบกวน ๆ ว่า “พี่..ม้าตัวนี้งามเพราะมันมีเครืองประดับหรอกจ๊ะ พี่ก็ลองเดินซอยเท้าเหมือนม้าไปเข้าเฝ้าพระราชาดูบ้างซิ พระองค์จะได้ทรงโปรดปราน ชาวบ้านก็จะพากันชื่นชมพี่ด้วยนะจ๊ะ”
ท่านรุหกะเป็นคนค่อนข้างบ้า ๆ บอๆ อยู่บ้าง พอได้ฟังภรรยาพูดยุเช่นนั้นก็ไม่รู้ว่านางพูดเย้ยหยัน มุ่งแต่จะได้ความงามอย่างเดียวจึงลองทำตามทำพูดภรรยาดู ชาวบ้านที่เห็นเขาก็พากันหัวเราะแล้วพูดเยาะเย้ยว่า “ท่านอาจารย์งามแท้หนอ”
พระราชาเห็นท่านแล้วก็รับสั่งว่า “อาจารย์..ท่านจิตใจไม่ปกติหรือ เป็นบ้าไปแล้ว หรือถึงได้ทำเช่นนี้” ทำให้ท่านรุหกะได้สติและอับอายเป็นอย่างยิ่ง ท่านโกรธภรรยามาก นึกไว้ในใจว่า “คอยดูนะนางตัวแสบ พอกลับถึงบ้านจะทุบตีมันสักป้าบสองป้าบแล้วค่อยไล่มันหนีไป”
ฝ่ายนางปุรณีพราหมณีทราบว่าสามีโกรธนางมากและกำลังกลับมาบ้าน ก็แอบออกทางประตูหลังบ้านเข้าพระราชวัง
พระราชาทรงทราบเรื่องนั้นแล้ว จึงตรัสกับท่านรุหกะในวันหนึ่ง “อาจารย์..ธรรมดาผู้หญิงก็มีความผิดได้เหมือนกัน ควรยกโทษให้นางเสียเถิด ธรรมดาสายธนูที่ขาดแล้วยังต่อกันได้อีก ท่านจงคืนดีกับภรรยาเสียเถิด อย่าได้โกรธไปเลย”
ท่านรุหกะปุโรหิตจึงทูลตอบเป็นคาถาว่า “เมื่อสายป่านยังมีอยู่ นายช่างผู้กระทำสายธนูก็ยังมีอยู่ ข้าพระองค์จักกระทำสายธนูใหม่ พอกันทีสำหรับสายธนูเก่า”
เมื่อกราบทูลแล้วก็กลับไปบ้านไล่นางปุรณีพราหมณีหนีไปแล้วแต่งตั้งภรรยาคนใหม่มาทำหน้าที่แทน
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
เป็นสามีภรรยาต้องรู้จักยอมกันบ้าง ยอมยกโทษให้กันและต้องเข้าใจกัน