นิทานอีสป

นิทานอีสป : สุนัขจิ้งจอกกับนกกระสา (The Wolf & the Crane)

สุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์แกล้งนกกระสา สุดท้ายความเจ้าเล่ห์ก็แพ้ความซื่อสัตย์ นิทานสอนใจเรื่องความซื่อสัตย์และมิตรภาพ

สุนัขจิ้งจอกกับนกกระสา

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว… มีสุนัขจิ้งจอกกับนกกระสา เพิ่งเริ่มคบหากับได้ไม่นาน และมันสองตัวมักจะไปหามาสู่กันเป็นประจำ และดูเหมือนว่าพวกมันจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ จนกระทั่งวันหนึ่งสุนัขจิ้งจอกได้เชิญนกกระสามาร่วมรับประทานอาหารเย็นที่บ้าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

แต่สุนัขจิ้งจอกกลับแกล้งนกกระสาด้วยการไม่มีสิ่งใดมาเลี้ยงต้อนรับเลย นอกจากน้ำซุปที่ใส่ในจานแบน ๆ ซึ่งวางไว้อยู่ตรงหน้านกกระสาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น สุนัขจิ้งจอกสามารถใช้ลิ้นตวัดกินซุปได้อย่างง่ายดาย แต่ในทางกลับกันนกกระสาทำได้เพียง ใช้ปลายจงอยปากของมันจุ่มลงไปในน้ำซุป นกกระสายังรู้สึกหิวแต่ก็ต้องปล่อยให้อาหารมื้อนั้นเหลือไว้

แล้วสุนัขจิ้งจอกก็เอ่ยขึ้นว่า “ข้าขอโทษนะ เจ้าคงจะไม่ชอบน้ำซุป” “ไม่ต้องขอโทษข้าหรอก” นกกระสาตอบ “ข้าหวังว่าอีกไม่นานเจ้าจะไปเยี่ยมข้าเป็นการตอบแทน และรับประทานอาหารมื้อเย็นกับข้าบ้าง” ทั้งสองจึงมีการกำหนดวันนัดกันขึ้นเพื่อที่สุนัขจิ้งจอกจะได้ไปเยี่ยมนกกระสาบ้าง

Advertisement

เมื่อวันนัดหมายมาถึงมันทั้งสองนั่งลงที่โต๊ะ อาหารทั้งหมดที่นำมาเลี้ยงนั้นถูกบรรจุอยู่ในเหยือกทรงสูงปากแคบ ซึ่งสุนัขจิ้งจอกไม่สามารถเอาปากใหญ่ ๆ ของมันใส่ลงไปได้ ดังนั้นสิ่งเดียวที่มันจะทำได้คือเลียที่ขอบด้านนอกของหยือก และนกกระสาก็กล่าวว่า “ข้าจะไม่ขอโทษสำหรับอาหารเย็นมื้อนี้หรอกนะ” แล้วสิ่งที่สุนัขได้รับในวันนี้ก็ทำให้มันนึกถึงสิ่งที่เคยทำไว้กับนกกระสา

The Wolf & the Crane

A Wolf had been feasting too greedily, and a bone had stuck crosswise in his throat. He could get it neither up nor down, and of course he could not eat a thing. Naturally that was an awful state of affairs for a greedy Wolf.

So away he hurried to the Crane. He was sure that she, with her long neck and bill, would easily be able to reach the bone and pull it out.

“I will reward you very handsomely,” said the Wolf, “if you pull that bone out for me.”

The Crane, as you can imagine, was very uneasy about putting her head in a Wolf’s throat. But she was grasping in nature, so she did what the Wolf asked her to do.

When the Wolf felt that the bone was gone, he started to walk away.

“But what about my reward!” called the Crane anxiously.

“What!” snarled the Wolf, whirling around. “Haven’t you got it? Isn’t it enough that I let you take your head out of my mouth without snapping it off ?”

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

การกระทำใด ๆ ที่ไม่ดีต่อผู้อื่น สักวันหนึ่งเราอาจได้รับสิ่งนั้นกลับมา

Expect no reward for serving the wicked.

Advertisement

กดเพื่ออ่านเพิ่มเติม
Advertisement

Fern A.

สามารถสร้างสรรค์เรื่องราวที่หลากหลาย ทั้งนิทาน นิทานชาดก และนิทานอีสป โดยฉันจะเน้นไปที่การถ่ายทอดเรื่องราวที่สนุกสนานและเต็มไปด้วยข้อคิดสอนใจ เพื่อให้ผู้อ่านได้รับประโยชน์จากเรื่องราวเหล่านั้น เชื่อว่านิทานเป็นสื่อที่ทรงพลัง สามารถปลูกฝังค่านิยมที่ดีให้กับเด็ก ๆ ได้ นิทานสามารถช่วยให้เด็ก ๆ เรียนรู้เกี่ยวกับโลกรอบตัว รู้จักการคิดวิเคราะห์ รู้จักแยกแยะสิ่งดีสิ่งเลว รู้จักแก้ไขปัญหา และรู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button