หากพูดยานพาหนะบนท้องถนนที่เล็กแต่เร็ว คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก รถมอเตอร์ไซค์ ที่เราพบเห็นได้ทั่วไปในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นแถวชนบทหรือในเมือง เพราะว่ามันสะดวกสบายในการใช้งาน รวดเร็ว และราคาไม่แรงมากหากเทียบกับรถยนต์ มอเตอร์ไซค์จึงเป็นตัวเลือกที่หลาย ๆ คนเลือกในการใช้งาน ยิ่งอยู่ในเมืองจะมีเงินซื้อรถยนต์แพงขนาดไหน เราก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับมอเตอร์ไซค์คันเล็ก ๆ เนื่องจากการจราจรที่ติดขัด กว่ารถจะเคลื่อนที่ก็กินเวลาพอสมควร ต่างจากรถมอเตอร์ไซค์ที่สามารถซิกแซกเข้าซอย เปลี่ยนเลนได้อย่างสะดวกสบาย แต่พูดถึงมอเซอร์ไซค์ธรรมดา ทุกคนคงคุ้นหูคุ้นตากันอยู่แล้ว เราเลยจะมาเปรียบเทียบกันให้ชัดเลยว่ามอเตอร์ไซค์ VS มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า แบบไหนตอบโจทย์ชีวิต แบบไหนที่บ้านควรซื้อติดไว้ใช้สักคัน ไปดูกันเลย!
ความแตกต่างของมอเตอร์ไซค์ VS มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
มอเตอร์ไซค์เป็นยานพาหนะที่ได้รับความนิยมอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากการใช้งานที่ง่าย สะดวก ราคาไม่แพง และมีความคล่องตัวในการขับขี่ค่อนข้างมากกว่ายานพาหนะประเภทอื่น ๆ มอเตอร์ไซค์จึงเป็นพาหนะหลักสำหรับการสัญจรของผู้คนและการขนส่งสิ่งของ แต่หากพูดถึงยุคเก่ามอเตอร์ไซค์เขายังไม่มีลูกเล่นอะไรเยอะมากนัก ซึ่งต่างจากปัจจุบันที่มีวัฒนาการเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว มีการพัฒนามาเรื่อย ๆ จนกลายเป็นการแข่งขันทางธุรกิจ ทำให้ค่ายรถมอเตอร์ไซค์ต่างก็พัฒนาเครื่องยนต์ใหม่ให้มีความสมบูรณ์ในทุกด้าน และตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากที่สุด ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีมอเตอร์ไซค์หลายรูปแบบ หลายประเภทมาก ไม่ว่าจะเป็น มอเตอร์ไซค์ระบบเปลี่ยนเกียร์ มอเตอร์ไซค์แบบ CVT หรือ เป็นระบบไม่ต้องเข้าเกียร์ กำคลัตช์ และเพียงแค่บิดคันเร่งเท่านั้น รถก็จะเคลื่อนตัวตามความเร็วที่เราบิดคันเร่ง นอกจากนี้ ยังมีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ที่ใช้มอเตอร์ขับเคลื่อนแทนเครื่องยนต์ และมีแบตเตอรี่เป็นแหล่งกักเก็บพลังงานโดยการอัดประจุไฟฟ้าจากภายนอก อีกทั้งยังมีสมรรถนะใกล้เคียงกับรถจักรยานยนต์ที่ใช้น้ำมัน แล้วข้อดีข้อเสียของมอเตอร์ไซค์และมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า คืออะไร ? มาดู
ข้อดีของมอเตอร์ไซค์
- ระยะทาง – มอเตอร์ไซค์แบบธรรมดาสามารถที่จะเดินทางได้รวดเร็วกว่า และไกลกว่า เมื่อเทียบกับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
- การบรรทุกคน -รถมอเตอร์ไซค์แบบธรรมดาสามารถที่จะทำการบรรทุกผู้โดยสารได้มากกว่า 1 คน แตกต่างจากซึ่งมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่สามารถขี่ได้เพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าส่วนมากน้ำหนักที่รับได้สูงสุดมักอยู่ที่ 100 – 150 กิโลกรัมเท่านั้น
- ราคาถูกกว่า – เมื่อเทียบกับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแล้ว มอเตอร์ไซค์ธรรมดาจะมีราคาที่ถูกกว่าเท่าตัวเองทีเดียว
ข้อเสียของมอเตอร์ไซค์
- ค่าบำรุงดูแลรักษา – การดูแลรักษามอเตอร์ไซค์แบบธรรมดา จำเป็นต้องมีการเช็คและตรวจสภาพรถอยู่เสมอ เช่น ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง, ค่าน้ำมันเครื่อง, น้ำมันเฟืองท้าย, เช็คเบรค, เช็คแบตเตอรี่ รวมไปถึงอะไหล่สิ้นเปลืองต่าง ๆ ที่ต้องคอยเช็คคอยเปลี่ยนเป็นประจำ ซึ่งหากรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว ก็เรียกได้ว่า ราคาค่อนข้างแพงเลยทีเดียว
- ค่าน้ำมัน – อย่างที่รู้กันว่าเดิมที่มอเตอร์ไซค์แบบธรรมดาต้องเติมน้ำมัน ซึ่งราคาน้ำมันในปัจจุบันก็มีความผันผวนค่อนข้างสูง หากแนวโน้มราคาน้ำมันสูง ก็จะทำให้เรายิ่งเปลืองค่าใช้จ่ายตรงนี้ไปมาก
- สร้างมลพิษ – มลภาวะจากท่อไอเสีย ทั้งคาร์บอนมอนน็อกไซต์ และไฮโดรคาร์บอนออกมาทางท่อไอเสียและลอยขึ้นสู่อากาศ รวมตัวสะสมกันเป็นจำนวนมาก ทำให้การถ่ายเทอากาศไม่สะดวก จนอาจเกิดผลเสียต่อร่างกายของมนุษย์หากสูดดมเข้าไปมาก ๆ
ข้อดีของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
- เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม – มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพราะไม่ได้ปล่อยไอเสียเหมือนมอเตอร์ไซค์ที่ใช้น้ำมัน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้โลกเราร้อน หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ ไม่มีการการปล่อยก๊าซของเสียใด ๆ สู่ชั้นบรรยากาศเลย ทำให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสุด ๆ
- ประหยัดค่าใช้จ่าย – เมื่อเราใช้ไฟฟ้าเป็นเชื้อเพลิงแทนการใช้น้ำมัน แน่นอนว่าจะทำให้เราไม่ต้องเสียค่าน้ำมันแสนโหด แต่ต้องไปจ่ายกับค่าไฟที่ต้องใช้ชาร์จแบตแทน ซึ่งแน่นอนว่าราคาจะถูกกว่าการจ่ายค่าน้ำมัน
- ความปลอดภัยสูง – เนื่องจากความเร็วของการใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามีอยู่อย่างจำกัด แต่ก็ยังถือว่าเป็นความเร็วที่เหมาะกับการวิ่งในเมือง ฉะนั้น ความรุนแรงของอุบัติเหตุบนท้องถนนก็จะลดลงตามไปด้วย
- ค่าบำรุงรักษาต่ำ – เพราะมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องหรือน้ำมันเกียร์ มีแค่แบตเตอรี่เท่านั้นที่จะต้องเปลี่ยนทุก ๆ 3-5 ปี ทำให้เราต้องดูแลเพียงลมยางผ้าเบรคและการชาร์จแบตเตอรี่ หากเปรียบเทียบกับรถมอเตอร์ไซค์ที่ต้องมีการเปลี่ยนนู้นนี่แล้ว ต้องนี้ก็ลดค่าใช้จ่ายและประหยัดเวลาไปได้เยอะ
- เทคโนโลยีล้ำ – ปัจจุบันเทคโนโลยีรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าพัฒนาไปไกลมาก ถึงขั้นที่ว่าสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เพื่อตรวจสภาพรถด้วยตนเอง แบบไม่ต้องพึ่งศูนย์บริการหลังการขายเลย ที่สำคัญคือมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าบางรุ่นที่ราคาแพง มีเทคโนโลยีเทพ ๆ ยังสามารถวิ่งลุยเวลาน้ำท่วมได้อีกด้วย
ข้อเสียของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
- ระยะทางการใช้งาน – สำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้านั้น จะมีการเดินทางที่ค่อนข้างจำกัด เหมาะสำหรับใช้ในการเดินทางระยะสั้น ๆ หรือขับระแวกบ้านเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าระยะทางที่ใช้งานได้น้อยกว่ามอเตอร์ไซค์แบบธรรมดาอย่างมาก
- ราคาที่ค่อนข้างแพง – ด้วยเทคโนโลยีและกลไลต่าง ๆ ของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะทำให้ราคาสูงกว่า มอเตอร์ไซค์แบบทั่วไป ซึ่งราคาจะอยู่ประมาณที่ ห้าหมื่นไปจนถึงหลักแสนเลยทีเดียว
- ค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ – หากเรายังมีประกันค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ก็อาจจะอยู่ในราคาที่พอรับไหว แต่หากต้องเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ลูกใหม่หลังหมดประกัน ราคาจะค่อนข้างสูงเลยทีเดียว โดยจะอยู่ที่ลูกละหลายหมื่นบาท ซึ่งในปัจจุบันผู้จำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าทุกค่าย จะมีประกันให้อย่างน้อย 1-3 ปีเป็นอย่างต่ำ
- การชาร์จแบตเตอรี่ – อย่างที่รู้กันว่า แม้ว่าการชาร์จแบตจะมีต้นทุนที่ต่ำกว่าการเติมน้ำมัน แต่ก็มีข้อเสียเช่นเดียวกัน คือ ต้องหมั่นดูหมั่นชาร์จบ่อย ๆ เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ
- การจำกัดเรื่องน้ำหนัก – เนื่องจากมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าส่วนมาก น้ำหนักที่รับได้สูงสุดมักอยู่ที่ 100 – 150 กิโลกรัม ถ้าหากทำน้ำหนักมากเกินที่กำหนดก็อาจจะทำให้มอเตอร์ใช้งานเกินกำลัง ส่งผลต่ออายุการใช้งานนั้นสั้นลง
คิดว่าหลาย ๆ คนคงมีคำตอบในใจแล้วว่ามอเตอร์ไซค์แบบไหนตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์มากกว่ากัน โดยพยายามพิจารณาถึงความเหมาะสมในการใช้งานของคุณเป็นหลัก แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการเลือกมอเตอร์ไซค์ นั่นก็คือ ความปลอดภัย โดยเฉพาะการปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ทั้งเรื่องใบอนุญาตขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ มีการสวมหมวกกันน็อกอยู่เสมอ ไปจนถึงการหมั่นตรวจสอบสภาพและดูแลรักษารถมอเตอร์ไซค์ของคุณ เพื่อที่จะได้ขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุดนั่นเอง
Shopee 11.11 Big Sale แคมเปญช้อปปิ้งออนไลน์ยิ่งใหญ่สุดแห่งปี! กับโปร 11.11 มากมายให้คุณให้ช้อปสินค้าจากแบรนด์ดังที่ขนมาลดราคาแบบโดนใจ สูงสุดถึง 90%! รับโค้ดลดเพิ่ม 1111.- เอาใจกันต่อด้วยโปรส่งฟรีทั่วไทย ขั้นต่ำ 0.- เริ่มช้อปได้เลยตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค. – 11 พ.ย. นี้เท่านั้น! ช้อปเลยที่ Shopee 11.11 Big Sale!